ตอนที่ 13 สูตรน้ำยากายวิญญาณ
ตอนที่ 13 สูตรน้ำยากายวิญญาณ
"ใช่ นั่นคือสิ่งที่ข้าต้องการ ผู้บัญชาการจาง ท่านบอกรายละเอียดให้ข้าทราบหน่อยได้หรือไม่?"
ดวงตาของซูหยางเป็นประกาย นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการหรอกเหรอ?
จางจื้อหวู่ประหลาดใจเล็กน้อย ด้วยความแข็งแกร่งของซูหยางยังต้องการสิ่งเหล่านี้ไปทำไม?
แต่อาจทำเพื่อลูกน้องหรือคนอื่นๆ ก็ได้
“มียาสูตรหนึ่งที่เรียกว่า ‘สูตรน้ำยากายวิญญาณ’ ต้องแช่ตัวไว้ครึ่งชั่วโมงทุกวันแล้วสมรรถภาพทางกายจะดีขึ้น แต่จะไม่สูงนัก”
“มันจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ฝึกหัดที่เพิ่งเริ่มบ่มเพาะเท่านั้น”
ซูหยางอุทานด้วยความดีใจ และกล่าวว่า “ข้าสงสัยว่าสูตรยานี้อยู่ที่ไหน?”
“รอเดี๋ยว ข้าจะให้คนทำคัดลอกมันให้เจ้า”
“แต่จำไว้ว่าเจ้าไม่สามารถทำน้ำยานี้ด้วยตัวเองได้ เจ้าต้องขอให้นักปรุงยาเป็นคนทำมัน แม้สูตรยาจะเขียนถึงส่วนผสม และวิธีการเอาไ้วแต่ก็ยังต้องใช้ความชำนาญ”
หลังจากที่จางจื้อหวู่พูดจบ เขาก็สั่งการลงไป และรีบคัดลอกสูตรยาไปให้ซูหยาง
“ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณมาก”
ซูหยางรับมันมา ขอบคุณจางจื้อหวู่ และจากไปพร้อมกับคนของเขา
"เฮ้อ เด็กแปลกหน้าคนนี้สามารถหยุดยั้งการแก้แค้นของตระกูลหลี่ได้หรือไม่?"
แม้ว่าตอนนี้ตระกูลหลี่ดูเหมือนจะไม่สามารถจัดการกับซูหยางได้ในตอนนี้
ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ราวกับว่าพวกเขาได้ลืมมันไปแล้ว
แต่นี่เป็นเพียงเพราะบุตรคนโต และบุตรคนรองของตระกูลหลี่ยังไม่กลับมา
เมื่อสองคนนี้กลับมาก็จะมีพายุใหญ่เกิดขึ้น
ดวงตาของจางจื้อหวู่ค่อยๆ เหม่อลอย และเขาก็นอนสบายๆ บนเก้าอี้โยกในลานบ้าน
“การมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุขโดยไม่มีความทะเยอทะยานนั้นไม่ดีหรอกเหรอ?”
ตราบใดที่เขาไม่สนใจสิ่งต่างๆ เปลวไฟก็จะไม่เผาตัวเขาเป็นเถ้าถ่าน
นั่นคือสิ่งที่เขาคิด
ย้อนกลับไปที่โถงซุนเฟิง
“จางหู่กระจายผงขัดกระดูกให้กับพี่น้องของเขา”
“วันนี้พวกเจ้าทำงานได้ดีมาก รีบไปนอนซะ”
“ขอรับ”
วันรุ่งขึ้น
จางหู่พากลุ่มคนไปที่ถนนชิงสือ และถนนเถาฮวา โดยตรงเพื่อจับกุมผู้กระทำผิด
เมื่อจับได้ก็นำเข้าคุกโดยตรง
คดีทั้งสามนี้เป็นอาชญากรรมร้ายแรง และไม่ใช่คดีที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการพึ่งพาเงิน
ยิ่งมีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังมากเท่าไร การทำผิดกฎหมายก็จะยิ่งง่ายขึ้นเท่านั้น และคนๆ นั้นก็จะยิ่งไร้ศีลธรรมมากขึ้นเมื่อก่ออาชญากรรม
ในไม่ช้า หลี่ซิง หัวหน้าหน่วยตรวจตราถนนชิงสือก็มาเยือนถึงที่
“ซูหยาง คนของเจ้าล้ำเส้นเกินไปแล้ว พวกเขาเข้ามาในถิ่นของข้า และจับกุมคนของข้าไป นี่กำลังหักหน้าข้าชัดๆ”
หลี่ซิงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
แม้ว่าเขากำลังเต็มไปด้วยความโกรธ แต่เขาไม่กล้าแสดงความโกรธต่อหน้าซูหยาง
เขาไม่กล้ายุ่งกับใครก็ตามที่กล้าต่อต้านตระกูลหลี่
ที่เขามาถึงวันนี้ เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะถามหาความรับผิดชอบใดๆ เขาแค่อยากจะได้คนของเขาคืน
“เจ้ารู้ไหมว่าเขาได้ทำอะไรลงไป” ซูหยางเหลือบมองเขาอย่างเฉยเมย
“ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เราก็ยังคงเป็นเพื่อนร่วมงานกัน บางสิ่งควรสามารถปล่อยวาง หรือลืมมันไปได้จริงไหม?”
น้ำเสียงของหลี่ซิงวิงวอน และยอมอ่อนข้อ
“ลืมงั้นรึ ถ้าทุกคนลืม จะมีกฎหมายไว้ทำไม แล้วการมีอยู่ของเราจะมีประโยชน์อะไร?”
“เจ้าไม่รู้รึไงว่าควรจะทำหน้าที่ของตน?”
“ถ้าไม่ เจ้าคิดว่าตนสมควรที่จะเป็นเจ้าหน้าที่ของทางการอยู่อีกงั้นรึ?”
ซูหยางนั่งอยู่บนที่นั่งหลัก ดวงตาของเขาราวกับเปลวไฟที่สว่างเจิดจ้า และเขาพูดทีละคำอย่างหนักแน่น
เขาเกลียดเจ้าหน้าที่ๆ ปกป้องอาชญากร
ถ้าไม่ใช่เพราะตัวตนของเขา เขาคงจะฆ่าคนๆ นี้ด้วยดาบไปแล้ว
หลี่ซิงรู้สึกโกรธมากยิ่งขึ้น ข้าต้องการคำแนะนำจากเจ้าว่าควรทำตัวอย่างไรงั้นรึ?
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาต้องการบางสิ่งบางอย่างจากซูหยาง และไม่กล้าที่จะแสดงความรู้สึกที่ท้จริงออกมา
เขาทำได้เพียงระงับความโกรธในใจ
“นี่คือเงินสามพันตำลึง มันน่าจะพอชดเชยความผิดที่คนของข้าได้ทำไป เจ้าคิดว่าไง?”
หลี่ซิงหยิบตั๋วเงินจำนวนหนึ่งออกมาแล้ววางลงบนโต๊ะ
ความรังเกียจของซูหยางไม่ได้ถูกปกปิดไว้อีก และเขาก็พูดว่า "เก็บเงินของเจ้าแล้วไสหัวออกไปก่อนที่ข้าจะเปลี่ยนใจ"
"ฮึ่ม อย่ารังแกกันมากเกินไป ซูหยาง!"
หลี่ซิงเดือดขึ้นมาในทันที ขณะที่เขากำลังจะพูดโต้ตอบด้วยคำพูดที่รุนแรง เขาได้สบตากับซูหยางโดยตรง
ดวงตาที่สงบราวกับดาบนั้นแทงทะลุหัวใจของเขาอย่างรุนแรง
จิตสังหารภายใต้ความสงบทำให้เขาตื่นขึ้นในทันที
นี่คือ คนที่โหดเหี้ยมที่กล้าเผชิญหน้ากับตระกูลหลี่!
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว หลี่ชิงก็รู้สึกหนาวสั่น และหลั่งเหงื่อเย็น
เกิดอะไรขึ้นกับข้า ข้ากำลังถามหาความตายเหรอ?
เขาเงียบ และทุกคนก็เงียบ
เขาคว้าตั๋วเงินบนโต๊ะแล้วหันหลังกลับเพื่อจากไป
ในขณะนี้หลิวซีหยง หัวหน้าหน่วยตรวจตราถนนเถาฮวาได้ก้าวเข้าสู่ประตูหลัก
บรรยากาศในห้องโถงซึ่งลดลงถึงจุดเยือกแข็ง จู่ๆ ก็กดทับลงมาที่ตัวเขา
“ข้ากำลังทำอะไรอยู่กันเนี่ย?”
หลิวซีหยงจะไม่รับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่ผิดเช่นนี้ได้ยังไง เขาก็รู้สึกเสียใจที่มาที่นี่จริงๆ
เมื่อพิจารณาจากการแสดงออกของหลี่ซิงในเวลานี้ เขาอาจจะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ
“เจ้ามาที่นี่เพื่อขอร้องด้วยเหรอ?”
จู่ๆ เสียงสงบของซูหยางก็ดังขึ้น ทำให้หลิวซีหยงตกตะลึง
หลี่ซิงจากไปอย่างรวดเร็วในเวลานี้ และไม่ได้ทำให้ตัวเองอับอายโดยการอยู่ที่นี่อีกต่อไป
“นี่”
หลิวซีหยงรู้สึกเขินอายเล็กน้อยอยู่ครู่หนึ่ง เขาควรจะพูดหรือไม่?
ก่อนที่เขาจะคิดอะไรได้ เสียงของซูหยางก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“จะออกไปด้วยตัวเองหรือให้ข้าช่วย?”
สีหน้าของหลิวซีหยงแข็งค้าง ซูหยาง เจ้าไม่ไร้มารยาทเกินไปหน่อยเหรอ?
ซูหยู่ไม่ใช่คนแบบนี้
เมื่อเห็นการแสดงออกของซูหยาง หลิวซีหยงก็ระงับสิ่งที่เขาต้องการจะพูด
ไม่ควรพูดอะไรเลยดีกว่า หลี่ซิงยอมถอยไปแล้ว เขาจะทำอะไรได้อีก?
หลังจากยืนที่ประตูสักพัก หลิวซีหยงที่ถูกกดดันก็หันหลังกลับ และจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“ฮึ่ม”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ซูหยางก็แค่นส่งเสียงไม่พอใจออกมา
เขาถือว่าตนยับยั้งชั่งใจมากแล้วที่ไม่ชักดาบออกมาใส่คนเหล่านี้ที่ละทิ้งหน้าที่ และต้องการปกป้องผู้กระทำผิด
ซูหยางยอมรับว่าสิ่งนี้ได้รับอิทธิพลมาจากชาติที่แล้วของเขา
แต่ความคิดเช่นนี้ก็ไม่ได้ผิด
เขาต้องการเป็นที่พึงของผู้คน และจัดการกับคนเหล่านี้ที่ใช้สถานะของตนเพื่อรับสิทธิพิเศษ และทำทุกอย่างที่ต้องการตามใจชอบ
ถ้าดูจากอัตราการเติบโตของเขาในตอนนี้
นี่ไม่ได้หมายความว่าไม่จำเป็นต้องผูกมิตรกับคนอื่น แต่เขาสามารถเลือกผูกมิตรกับคนที่เป็นประโยชน์ และไว้ใจได้
ถ้าเขาให้ความคุ้มครองผู้ที่ก่ออาชญากรรมด้วย อะไรคือความแตกต่างระหว่างตัวเขากับคนเหล่านี้?
หลังจากส่งคนสองคนออกไปอย่างไม่ใส่ใจ ก็ไม่มีปัญหาอีกต่อไปที่เขาต้องแก้ไขในวันนี้
ขั้นต่อไปคือ เรื่องส่วนตัวของเขาเอง
ซูหยางลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินไปที่ถนน
หากเขาต้องการทำน้ำยากายวิญญาณ เขาจำเป็นต้องมีนักปรุงยามาทำให้
ไม่เช่นนั้นหากทำเองอาจเกิดปัญหาได้โดยง่าย
อย่างไรก็ตาม ซูหยางได้ยังถามมาก่อนหน้านี้แล้วว่าถ้าเกิดกลั่นน้ำยาผิดพลาดจะเป็นเช่นไร ผลที่ได้คือ ผิวหนังจะมีอาการคันเป็นเวลาสองสามวันเท่านั้น ซึ่งไม่ได้หนักหนามาก
ด้วยเหตุนี้จะไม่มีปัญหาหากปล่อยให้คนนอกมาช่วย
สาเหตุที่ยาตัวนี้ทำให้ร่างกายแข็งแรงได้
เพราะมันจะทำลายผิวหนัง ทำร้ายร่างกาย แล้วทำให้เกิดการซ่อมแซมอย่างรวดเร็ว
ทำลายแล้วซ่อมแซมจึงทำให้สมรรถภาพทางกายดีขึ้น
ดังนั้นเขาจึงต้องไปที่โถงฮุ่ยซุน เพื่อหาคนทำยาให้
ชื่อเสียงของนักปรุงยาที่โถงฮุ่ยซุนค่อนข้างดี
ไม่เพียงแต่ยาที่อีกฝ่ายทำออกมาจะมีคุณภาพเท่านั้น ยังเป็นคนดี มีจรรยาบรรณทางการแพทย์อีกด้วย
เขามาที่โถงฮุ่ยซุนอย่างรวดเร็ว
เมื่อเขาเข้าไปในร้านขายยา ผู้หญิงที่คอยต้อนรับเขายังคงเป็นผู้หญิงคนเดิมเหมือนครั้งที่แล้ว
ใบหน้าของเธอกลมมน มีไขมันเล็กน้อย ผิวขาว ดวงตาสดใส ริมฝีปากสีแดง และฟันขาว
เมื่อยืนอยู่ตรงนั้นเสมือนทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตาอย่างแท้จริง
โดยเฉพาะเธอที่กำลังหัวเราะ และรอยยิ้มของเธอก็ยิ่งงดงามยิ่งขึ้นไปอีก
ในเวลานี้ หลิวหยู่โหรวทักทายซูหยางด้วยรอยยิ้ม "ใต้เท้าซู ทำไมท่านถึงมาอีกครั้งเร็วนัก? ผงฮุ่ยซุนไม่มีประโยชน์เหรอ?"
หลิวหยู่โหรวดูกังวลเล็กน้อยว่ายาจะมีอะไรผิดปกติ
ซูหยางรีบอธิบาย "ไม่ ผงฮุ่ยซุนมีประโยชน์มาก แต่ข้ามีคำขออื่น ข้าสงสัยว่าหมอหลิวอยู่ที่นี่หรือเปล่า?"
หลิวหยู่โหรวพูดด้วยความแปลกใจ "ปู่ของข้างั้นรึ เขาอยู่ที่นี่ ข้าจะไปเรียกเขาให้”
ก่อนที่ซูหยางจะตอบ หลิวหยูโหรวก็รีบเข้าไปที่หลังร้านแล้ว
เมื่อเห็นเช่นั้น ซูหยางแตะจมูกของตน และรออย่างเงียบๆ