บทที่30 ความแข็งแกร่งของริวอุน
“เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า!” ริวอุนปรบมือแล้วมองดูลูกศิษย์ทั้งสามด้วยสายตาคมกริบ
ส่วนคิซาเมะ เมย์และคุโมะทั้งสามได้รวมจักระไว้ที่เท้า จากนั้นก็เริ่มเดินไปเหยียบน้ำช้า ๆ
แล้วริวอุนก็ได้เห็นสิ่งที่อยากเห็น สิ่งที่เขาเห็นคือคุโมะเหยียบน้ำได้แต่ต้องเดินเอื่อย ส่วนคิซาเมะและเมย์ เพียงแค่เหยียบก้าวแรกก็ตกน้ำป๋อมแป๋ม
“เอ๋ คุโมะเดินได้เหรอเนี่ย ไม่ใช่ว่าแอบใช้ขีดจำกัดสายเลือดช่วยหรอกนะ?” เขาอยากเห็นลูกหมาสามตัวตกน้ำแต่ที่เห็นมีแค่สอง ดังนั้นความประหลาดใจเลยฉายผ่านแววตาของเขา
เขาเองก็สอนขีดจำกัดสายเลือดไม่ได้มาก หากเป็นเรื่องคาถาน้ำแข็ง คงต้องให้ลูกศิษย์ของเขาได้รับคำแนะนำจากตระกูลเอง เป็นเพราะขีดจำกัดสายเลือดนี้ ต่อให้รวมจักระไว้ที่เท้าไม่ได้มาตรฐาน เขาก็ยังใช้ขีดจำกัดสายเลือดน้ำแข็งของเขาเพื่อเดินบนน้ำได้สบาย
“ให้ตายเถอะ หมอนี่ทำได้ทุกอย่างได้ยังไงนะ!!” เทรูมิ เมย์รู้สึกไม่พอใจ ศีกดิ์ศรีความเป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์เหมือนถูกทำลาย
“ฮึ... เธอยังตามหลังฉันอีกเยอะ” คุโมะส่ายหน้า สีหน้าดูยิ้มเยาะ
“….” เมย์และคิซาเมะกัดฟัน พวกเขาราวกับได้รับยากระตุ้นและมุ่งมั่นกับการฝึกฝนอีกครั้ง
เมื่อเห็นทั้งสามคนฝึกอย่างหนักหน่วง ริวอุนก็หันไปมองทางอื่นและกระโดดหายเข้าไปในป่า
“เวลาที่ผ่านมา ฉันทำภารกิจไปหลายอย่าง ได้เวลาดูความแข็งแกร่งของตัวเองแล้ว” ริวอุนพึมพำแล้วสูดหายใจลึก
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เขาทำไปหลายตัวเลือกแล้ว แม้จะไม่ใช่รางวัลที่ดีนัก แต่รวม ๆกันก็ได้มามาก รวมไปถึงคุณสมบัติจักระธาตุลมและดินด้วย
ปัจจุบันเขามาจักระครบห้าธาตุ
นอกจากรางวัลที่เขาได้รับก่อนหน้านี้ ความแข็งแกร่งของเขายังเพิ่มเร็วมากอีกด้วย
เช่น ร่างกายเซียน
ผลจากกายเซียน ทำให้ความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายและจักระฟื้นฟูได้เร็วมาก แม้ว่าบาดแผลร้ายแรงจะไม่สามารถฟื้นฟูได้ทันตาเห็น
ถึงอย่างนั้น อาการบาดเจ็บที่ผิวหนังธรรมดาก็สามารถหายได้ในทันที แถมมันยังเพิ่มการรับรู้รอบตัวเข้าไป จนตอนนี้เขาแทบจะเป็นเหมือนนินจาตรวจจับเข้าไปทุกทีแล้ว
ส่วนในเรื่องปริมาณจักระ เขาก็มีจักระไม่แพ้มิซึคาเงะรุ่นที่สี่ กล่าวอีกอย่างหนึ่ง ปริมาณจักระเขาได้ก้าวเข้าสู่ระดับคาเงะแล้ว
“อย่างแรกก็... คาถาสายฟ้า” ริวอุนผนึกอินอย่างรวดเร็ว จากนั้นนิ้วทั้งห้าของเขาก็กลายเป็นกรงเล็บ
เสียงเสียดสีของสายฟ้าราวกับนกร้อง แต่ในไม่ช้า สายฟ้าในมือก็แพร่ไปทั่วร่างกาย
นี่คือพันปักษาหลั่งไหล!
นี่คือระดับที่พัฒนาขึ้นของพันปักษา หลังจากที่เขาได้รับรางวัลเป็นการแปลงจักระสายฟ้าแล้ว เขาก็เรียนรู้มันได้ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย
“หลังจากเปลี่ยนรูปร่างได้แล้ว กระสุนพันปักษาก็สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นมาก” ริวอุนพยายามลองหลายอย่าง เขาแกว่งแขนอีกครั้งก็กลายเป็นหอกสายฟ้า
ฟิ้ววววว!
ปึก!
หอกสายฟ้าพุ่งทะลุผ่านต้นไม้ไปหลายต้นก่อนจะไปปักลงที่ห่างไกลหลายสิบเมตรด้านหน้า
“ต่อไปก็กระสุนวงจักร!” ชายหนุ่มกางฝ่ามือออก จักระควบแน่นกลายเป็นลูกบอล ลูกบอลในมือเขาเริ่มขยายใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นก้อนจักระขนาดใหญ่
“เฮ้ เอาจริงเหรอเนี่ย? ตราบใดที่จักระมากพอก็สามารถเปลี่ยนกระสุนวงจักระให้กลายเป็นกระสุนวงจักรยักษ์ได้ง่ายขนาดนี้?” หลังจากเห็นกระสุนวงจักรขนาดใหญ่บนมือ ความดีใจก็เกิดขึ้น
กระสุนวงจักระยักษ์ไม่ใช่รางวัลที่เขาได้มาจากระบบตัวเลือก แต่เขาพัฒนาต่อยอดขึ้นมาเอง
สำหรับนินจาแล้ว กระสุนวงจักรหรือพันปักษานั้น ตราบใดที่เชี่ยวชาญมากพอ มันก็จะสามารถขยายหรือต่อยอดไปได้ ยิ่งเขามีกายเซียน มีจักระธรรมชาติจำนวนมากแถมยังควบคุมได้ดีด้วย มันเลยไม่ยากที่จะสร้างกระสุนวงจักรยักษ์
“ตอนนี้เราเน้นไปที่กายเซียนเป็นหลัก จักระห้าธาตุ ความเร็วประสานอินของอุจิวะ อิทาจิ พันปักษา วิชานินจาของหมู่บ้านดั้งเดิม รวมไปถึงยังมีกระสุนวงจักรและกระสุนวงจักรยักษ์ด้วย โดยรวมก็แข็งแกร่งระดับโจนินขั้นสูงแล้ว ดีจัง” ริวอุนภาคภูมิใจกับตัวเองที่ฝ่าตัวเลือกมาได้ขนาดนี้
เดิมทีเขาก็เป็นโจนินอยู่แล้ว ตอนนี้เขาได้รับการเสริมความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีก มันเลยทำให้เขาเก่งกว่าโจนินทั่วไปมาก
“ข้อบกพร่องอย่างเดียวตอนนี้คือขาดวิชาที่สามารถควบคุมการต่อสู้ได้ ฉันไม่มีวิชาที่ใช้จัดการคนหมู่มากได้เลย” ริวอุนตบหน้าผาก
ในแง่พื้นฐานโดยรวม เขาไม่ด้อยไปกว่าระดับคาเงะ แต่เหล่าคาเงะก็มักจะมีวิชานินจาที่เป็นเหมือนการโจมตีวงกว้างและรุนแรง ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อสงครามและการต่อสู้ได้
ยกตัวอย่างเช่น กระสุนวงจักระดาวกระจาย กิเลนสยฟ้า ซูซาโนะโอ คาถาถุลี: แยกพิภพบรรพกาลและดาราสวรรค์ระเบิดพิภพ เป็นต้น
คาถาเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนทิศทางของสงครามได้ ยิ่งไปกว่านั้น ในโคโนฮะ วิชานินจาเกี่ยวกับคาถาน้ำหรือสายฟ้า มันดูธรรมดาไปเลยในอนาคต
“ถ้าฉันเรียนรู้วิชานินจาระดับ S หรือสูงกว่าได้ ฉันจะเก่งกว่านี้อย่างแน่นอน”
เขารอคอยตัวเลือกครั้งต่อไปที่ระบบจะให้ เขาจะต้องได้คาถาระดับ S มา หากได้มันมา เวลาเจอกับคนแข็งแกร่งจริง ๆก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอีกฝ่ายมากนัก
**************************