บทที่ 42 : เขาถูกทำร้ายด้วย…. จนซูบไปขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย?
บทที่ 42 : เขาถูกทำร้ายด้วย…. จนซูบไปขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย?
“พี่อีกาทมิฬ, อาหารเย็นพร้อมแล้วค่ะ มากินข้าวกันเถอะ”
บนชั้นสองของอาคารสีขาวหลังน้อย
ณ ห้อง 2011
ตอนที่ซูไป๋นอนอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นเพื่อดูทีวี…เสียงอันแผ่วเบาของเย่ซินหยิงก็ดังออกมาจากห้องครัว
เขาอาศัยอยู่ที่อาคารสีขาวหลังน้อยมาหลายวันแล้ว
เเละเมื่อเวลาผ่านไป เสี่ยวหว่านชิงก็เริ่มเชื่อใจเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและหยุดที่จะมาดูเขาในทุกๆวัน
ในขณะเดียวกัน, เย่ซินหยิงก็ค่อยๆ เข้าสู่บทบาทของเธอ
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เย่ซินหยิงไม่ได้ทำอะไรเลย
นอกจากจะติดตามซูไป๋ในทุกๆวันแล้ว เธอยังใช้เวลาศึกษาหลายต่อหลายอย่าง เธอไม่เพียงแต่พัฒนาทักษะการทำอาหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงมอบความเป็นธรรมชาติและความอบอุ่นตามฉบับอาคารสีขาวหลังน้อย
และนั่นทำให้การเป็นพนักงานหญิงประจำห้อง 2011... ของเธอชัดเจนมากขึ้นอีกด้วย
แต่ทว่า
แม้ว่าเย่ซินหยิงจะรู้ว่าซูไป๋มีข้อตกลงกับลูกพี่ลูกน้องของเธอว่าเขาจะไม่แตะต้องเธอ
แต่เมื่อเธอรู้ว่าพนักงานหญิงปกติหมายถึงอะไร เย่ซินหยิงก็ย่อมเกิดระลอกคลื่นในหัวใจของเธออย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
โดยเฉพาะ
ระหว่างการได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน...มันก็มีสองสิ่งที่เกิดขึ้น
……
สิ่งแรกคือความเจ็บป่วยของเย่ซินหยิง
เป็นเวลาห้าวันแล้ว ที่เธอได้ดื่มหนึ่งในสิบของยาฟื้นฟูฉับพลันในทุกๆวัน
ทำให้ ณ ขณะนี้, แกนคริสตัลแห่งชีวิตจำนวนมากได้ถูกรวมเข้ากับร่างกายของเธอ
ซึ่งมันไม่เพียงแต่ชดเชยความบกพร่องแต่กำเนิดของเย่ซินหยิงเท่านั้น…..แต่แม้กระทั่งการสูญเสียพลังชีวิตจากโรคอะบอร์ทิซึม ก็ถูกชะลอลงด้วย!
เเละหากวันสิ้นโลกไม่ได้เกิดขึ้นจริง…..แม้ว่าซูไป๋จะไม่ให้ยาฟื้นฟูฉับพลันเเก่เธออีกต่อไป เย่ซินหยิงก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัยจนถึงอายุหกสิบหรือเจ็ดสิบปี!
ไม่ว่าจะตามมาตรฐานของซูไป๋ หรือตามมาตรฐานของเสี่ยวหว่านชิง อาการป่วยของเย่ซินหยิงก็ถือว่าหายขาดเเล้ว…..เพราะช่วงอายุหกสิบหรือเจ็ดสิบปีไม่ถือว่าเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
เเละมันไม่เพียงแค่นั้น
แกนคริสตัลแห่งชีวิตจากยาฟื้นฟูฉับพลันนั้นทรงพลังมาก
หลังจากชดเชยข้อบกพร่องโดยกำเนิดของเย่ซินหยิงแล้ว แกนคริสตัลแห่งชีวิตส่วนใหญ่ยังคงถูกดูดซับเข้ามาในร่างกายของเธอ ซึ่งนั่นช่วยเสริมสร้างตวามแข็งแกร่งให้ร่างกายของเย่ซินหยิงเป็นอย่างมาก
ตอนนี้
การทำงานของเซลล์และพลังชีวิตของเย่ซินหยิงนั้นเหนือกว่าคนทั่วไปมากและอาจกล่าวได้ว่าดีที่สุดในโลกรองจากซูไป๋!
จนมันเกือบจะถึงระดับของการวิวัฒนาไปสู่ระดับหนึ่งแล้ว!
การทำงานของเซลล์และพลังชีวิตของเย่ซินหยิงซึ่งหยุดเติบโตเนื่องจากความอ่อนแอของร่างกายเมื่อไม่กี่ปีก่อน…..ได้เริ่มต้นการเติบโตเป็นครั้งที่สอง!
ความสูงของเย่ซินหยิงนั้นไม่ได้เตี้ยเธอสูงเกือบ 1.7 เมตร
เป็นเพราะความทรมานของโรคอะบอร์ทิซึมทำให้พลังชีวิตและสารอาหารในร่างกายของเธอสูญเสียไปอย่างต่อเนื่อง…..มันจึงทำให้เธอผอมเพรียวและอ่อนเเอ
เเต่ตอนนี้
ร่างกายของเธอได้รับการฟื้นฟูแล้ว
ในเวลาเพียงห้าวัน ใบหน้าของเย่ซินหยิงก็เริ่มเปล่งปลั่งราวกับว่าเธอเปลี่ยนเป็นคนละคน!
ใบหน้าของเธอไม่ซีดเซียวอีกต่อไป การเคลื่อนไหวของเธอไม่อ่อนแออีกต่อไป ลมหายใจของเธอไม่ว่างเปล่า และใบหน้าที่งดงามมากอยู่แล้วก็ยิ่งงดงามมากยิ่งขึ้นจนน่าตื่นตะลึง!
เเละสิ่งสำคัญที่สุดหลังจากที่ร่างกายของเธอฟื้นตัว…..คือความคิดและอารมณ์ที่เยือกเย็นแต่ละเอียดอ่อนของเย่ซินหยิงก็ยังคงอยู่
การรวมกันของทั้งสองอย่างนี้ ก็เพียงพอเเล้วที่จะบดขยี้เสี่ยวหว่านชิงและหญิงสาวคนใดก็ตามในอาคารสีขาวหลังน้อยเเห่งนี้!
เเละนี่เป็นเพียงช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาขั้นที่สอง
คาดการณ์ได้เลยว่าในอนาคต, เย่ซินหยิงจะกลายเป็นหนึ่งในหญิงสาวผู้งดงามมากที่สุดในโลกได้อย่างเเน่นอน!
สิ่งที่สองที่เกิดขึ้นก็คือตัวตนของซูไป๋
หลังจากอยู่ด้วยกันทั้งกลางวันและกลางคืน……มันจึงทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝัน จนทำให้เย่ซินหยิงบังเอิญเห็นใบหน้าที่แท้จริงของ ซูไป๋ผ่านกระจกในห้องนั่งเล่นในขณะที่เขากำลังอาบน้ำ
ความร้ายแรงของเรื่องนี้อาจมีมากหรือน้อยก็ได้
แต่มันก็ใหญ่พอที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของซูไป๋ และยังส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุในแผนการเพิ่มคะแนนของเขาเพียงเล็กพอ แต่กระนั้นมันจะไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อเขา เว้นแต่จะมีสมาชิกเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
หลังจากการสังเกตรวมทั้งการทดสอบอย่างต่อเนื่อง และแม้แต่การใช้พลังจิตกับเธอ…..ในที่สุดซูไป๋ก็รู้สึกโล่งใจหลังจากยืนยันว่าไม่มีความเป็นไปได้ที่เย่ซินหยิงจะทรยศเขา
และแน่นอนว่า, เหตุการณ์นี้ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อ เย่ซินหยิง
เดิมที, ในใจของเย่ซินหยิง….ซูไป๋เป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างหน้าตาดุร้ายและมีอารมณ์เย็นชา
แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้
ภาพลักษณ์ของซูไป๋ในหัวใจของเย่ซินหยิง...จู่ๆก็แปรเปลี่ยนป็นภาพลักษณ์ของเจ้าชายผู้มีเสน่ห์ ผู้ช่วยตนเองจากความเจ็บป่วยอันไม่รู้จบ!
ด้วยเหตุนี้เย่ซินหยิงจึงสนใจสิ่งเล็กๆน้อยๆของซูไป๋ในทุกแง่มุม…..ระดับความสนใจของเธอที่มีต่อซูไป๋ในตอนนี้ไม่น้อยไปกว่าจินหมั่นฝูในปัจจุบันเลย
นี่เป็นเรื่องดีใช่รึเปล่า?
นี่ควรจะเป็นเรื่องดีใช่ไหมนะ?
ยกเว้นเรื่องที่เย่ซินหยิงมองดูเขาเกือบจะตลอดเวลา….อย่างน้อยนี่ก็พอเป็นหลักประกันว่าเธอจะช่วยเก็บงำความลับที่เขามี!
แต่อย่างไรก็ตาม…..มันมีสิ่งที่ซู่ไป๋ยังไม่รู้
นั่นคือ, หลังจากรู้ความหมายของพนักงานสาวของห้องหมายเลข 2011 แล้ว……หัวใจของเย่ซินหยิงก็เต็มไปด้วยระลอกคลื่น เเละตอนนี้เธอเป็นเพียงคนเดียวที่ได้เห็นรูปร่างที่แท้จริงของซูไป๋ เธอเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้น
ระลอกคลื่นในหัวใจของเย่ซินหยิงเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ณ ตอนนี้….แม้ว่าเธอจะถูกซูไป๋ขอให้กลายเป็นพนักงานหญิงประจำห้อง 2011 อย่างเเท้จริง…..เธอก็จะไม่ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
ไม่ใช่ว่าเธอไม่รักตัวเอง
แต่หลังจากประสบกับความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานมามากมาย ….เธอจึงมองเห็นสิ่งต่างๆได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนและตัดสินใจได้อย่างชัดเจนมากกว่าคนทั่วไป
เย่ซินหยิงอยู่ในอาคารสีขาวหลังน้อยมาเป็นเวลานาน
แม้ว่าเธอจะไม่เคยไปย่านสถานบันเทิงมาก่อน แต่เธอก็ค่อนข้างคุ้นเคยกับธรรมชาติของอาคารสีขาวหลังน้อย และความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาว
เย่ซินหยิงรู้ว่าเธอสวย
เเละหลังจากกินยาฟื้นฟูไปครึ่งหนึ่งแล้ว มันก็ดูเหมือนว่าเธอจะสวยขึ้นไปอีก
เพราะอย่างนั้น…..หัวใจของเธอจึงผูกพันกับซูไป๋อย่างสมบูรณ์
หากพูดในแง่อารมณ์ความรู้สึกแล้ว, ซูไป๋คือผู้ช่วยชีวิตของเธอ ไม่เพียงแต่ช่วยเธอจากความเจ็บป่วยไม่รู้จบเท่านั้น แต่ยังช่วยพ่อแม่ ลูกพี่ลูกน้อง และทั้งครอบครัวของเธออีกด้วย
เธอไม่รู้จริงๆว่าจะตอบแทนความเมตตาแบบนี้ได้อย่างไร นอกจากการถวายชีวิตของเธอ
ในแง่ของด้านการเงิน, ตอนนี้เธอได้ใช้ยาล้ำค่าไปครึ่งหนึ่งหรือก็คือราคา 460 ล้าน
พี่อีกาทมิฬให้เธอใช้ยาที่เธอไม่มีวันมีปัญญาซื้อได้….เเล้วเเบบนี้เธอจะยังไม่พอใจอะไรได้อีกล่ะ?
ไว้รอจนกว่าการเจริญเติบโตครั้งที่ สองของเธอเสร็จสมบูรณ์
ถึงตอนนั้น, ร่างกายของเธอก็จะไม่ผอมแห้งอีกต่อไป
เเล้วพี่อีกาทมิฬ, เขา…..จะชอบฉันรึเปล่านะ?
……
ในเวลานี้
ซูไป๋ยังไม่รู้ว่าเย่ซินหยิงกำลังคิดอะไรอยู่
และแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเย่ซินหยิงคิดอะไร, เขาก็ไม่คิดจะจู่โจมเย่ซินหยิง ในช่วงเวลานี้ แม้ว่าเธอจะริเริ่มที่จะโยนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของเขาก็ตาม!
เพราะในตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ชั้นหนึ่งของอาคารสีขาวหลังน้อยนี่…..ซูไป๋ได้ค้นพบข้อเท็จจริงอันเลวร้าย
นั่นคือ……
หากบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเขากับหญิงสาว…..มันจะเป็น [การปราบปราม] โดยสมบูรณ์!
หญิงสาวในอาคารสีขาวหลังน้อยไม่ใช่บอดี้การ์ดและอันธพาลเหมือนในโรงอาบน้ำที่สามารถกระตุ้นการแจ้งเตือนของระบบได้ตลอดเวลา และได้รับคะแนนการเอาชีวิตรอดซ้ำ ๆ โดยการทุบตีพวกเขาอย่างรุนแรงในทุกๆวัน
แต่เมื่อหญิงสาวที่นี่ถูกปราบปราม, มันจะถูกปราบปรามไปจริงๆ และไม่มีความเป็นไปได้ที่จะได้รับคะแนนการเอาชีวิตรอดในวันต่อๆไป
เพราะอย่างนั้นเอง
ไม่เพียงแต่เย่ซินหยิง ลอร์ดซอมบี้ระดับ 5 ที่ซูไป๋ไม่กล้าแตะต้องเท่านั้น……เเต่เขายังไม่กล้าแตะต้องสาวซอมบี้ชั้นสูงระดับ 3 เหล่านั้นด้วย!
เขากลัวว่าถ้าเขาเล่นมากเกินไป มันจะเป็นการทำลายอาคารสีขาวหลังน้อย ซึ่งเป็นฐานที่มั่นในการทำคะแนนได้โดยตรง!
นั่นไม่คุ้มกับกำไรเลยจริงๆ!
…….
เวลาอาหารเย็น
ในขณะที่กำลังจัดโต๊ะอาหาร เย่ซินหยิงก็ถามขึ้นมา
"พี่อีกาทมิฬ คืนนี้พี่จะนอนที่บ้านหรือที่ชั้นหนึ่ง?"
ขณะที่เย่ซินหยิงถามคำถามนี้ ซูไป๋นั้นกำลังแปรงฟันอยู่ในห้องน้ำ
เเละเมื่อได้ยินคำถาม เขาก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองตัวเองในกระจก
สมรรถภาพทางกายของเขานั้นเกินกว่าคนธรรมดาทั่วไปมาก….ดังนั้นมันจึงทำให้เขาสามารถทำบางสิ่งที่ชายชาตรีทั่วๆไปทำไม่ได้
แต่พอค้างอยู่หลายวัน...ในที่สุดก็ทำให้เขารู้สึกซีดเซียว…เล็กน้อย
“ช่วงนี้ฉันหมกมุ่นเกินไปหรือเปล่า?”
ซูไป๋อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำพูดที่แพร่หลายบนอินเทอร์เน็ต - เขาถูกทำร้ายด้วยเหล้าและเซ็กส์ จนซูบไปขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย?
มือที่แปรงฟันอยู่ชะงักเบาๆ จากนั้นซูไป๋ก็จิบน้ำบ้วนโฟมออกมาและพูดอย่างเศร้าๆว่า
"ฉันคงไปที่นั่นต่อไม่ได้แล้ว คืนนี้... นอนที่บ้านเถอะ"
……………