บทที่ 333 : ของขวัญจากมาสเตอร์เเห่งดวงดาว!
บทที่ 333 : ของขวัญจากมาสเตอร์เเห่งดวงดาว!
ณ วิลล่าแพนดรากอน
ชูโจวศึกษาเนื้อหาทั้งสามอย่างจริงจัง "ความลับในการเลื่อนขั้นของปรมาจารย์อาณาเขต" "บันทึกของหลินฟาน" และ "ความลับของศาสตร์ลึกลับเเห่งกฎเกณฑ์"
"ความลับของการเลื่อนขั้นเป็นระดับปรมาจารย์อาณาเขต" จะบอกวิธีการเลื่อนระดับจากระดับดวงดาวไปจนถึงระดับระดับปรมาจารย์อาณาเขต ผู้เขียนโครนยังได้อธิบายกระบวนการและขั้นตอนเฉพาะวิธีการการเลื่อนระดับดวงดาวไปสู่ระดับปรมาจารย์อาณาเขตของเขาในขณะนั้นได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
โดยพื้นฐานแล้วโครน ได้อธิบายวิธีการทั้งหมดในการเลื่อนระดับในแต่ละดาว
แต่ถึงอย่างนั้น
โครนยังอธิบายในตอนท้ายของเอกสารว่าสถานการณ์ของทุกคนล้วนแตกต่างกันออกไป และปัญหาที่พบของปรมาจารย์อาณาเขตพบเจอก็แตกต่างกันเช่นเดียวกัน
วิธีการของเขาสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้เท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้ได้โดยตรง
นอกจากนี้โครนยังแนะนำอีกว่าเมื่อได้รับการเลื่อนระดับ ควรมีอาจารย์ที่มีระดับเหนือกว่าปรมาจารย์อาณาเขตมาคอยชี้แนะแนวทางและคอยป้องกันข้อผิดพลาดต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุและช่วยเหลือพวกเขาได้ทันท่วงที
“เยี่ยมไปเลย! ไม่น่าแปลกใจเลยที่จะมีเหล่าผู้แข็งแกร่งมากกว่าสิบล้านล้านคนชอบและต่างออกความเห็นว่าข้อมูลชุดนี้มันละเอียดเกินไป…”
"พออ่านข้อมูลนี้แล้ว ฉันก็พอรู้วิธีเลื่อนระดับเป็นระดับปรมาจารย์อาณาเขตแล้ว"
ดวงตาของชูโจวเป็นประกายระยิบระยับ ขณะที่เขาพูดด้วยความตื่นเต้น
ในส่วนคำแนะนำของโครนนั้น ชูโจวก็ทำได้แค่เพิกเฉยมัน….ตอนนี้เขาไม่มีอาจารย์ที่มีระดับเหนือกว่าปรมาจารย์อาณาเขต
ยิ่งไปกว่านั้น เขาเชื่อว่าด้วยประสบการณ์ที่เขาสังสมมา…ต่อให้ไม่มีอาจารย์คอยชี้แนะอัตราความสำเร็จของการเลื่อนขั้นเป็นปรมาจารย์อาณาเขตนั้นก็ยังสูงอยุ่ดี
ท้ายที่สุดแล้ว ความเข้าใจในด้านกฎแห่งอวกาศของเขาสูงถึง 12.8% ซึ่งนั่นมากกว่าความเข้าใจขั้นต่ำที่จำเป็นแค่ 10% ถึง 2.8% ที่จำเป็นต่อการเลื่อนขั้นเป็นปรมาจารย์อาณาเขต!
เอาล่ะคราวนนี้มาอ่าน "บันทึกของหลินฟาน" และ "ความลับของศาสตร์ลึกลับเเห่งกฎเกณฑ์" ต่อดีกว่า!
ชูโจวยังคงนั่งอ่านเอกสารอีกสองฉบับที่เหลืออยู่
เพียงครู่เดียว
เขาอ่านเอกสารอีกสองฉบับที่เหลืออยู่อย่างละเอียด
หลังจากอ่านเอกสารทั้งสองนี้ ใบหน้าของเขาก็ดูจริงจังเล็กน้อย
ข้อพูดพวกนี้มันแตกต่างไปจาก "ความลับในการเลื่อนขั้นของปรมาจารย์อาณาเขต"
"บันทึกของหลินฟาน" และ "ความลับของศาสตร์ลึกลับเเห่งกฎเกณฑ์" ซึ่งไม่ได้มีรายละเอียดมากนักถึงกระบวนการได้รับการเลื่อนขั้นเป็นปรมาจารย์อาณาเขต
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองต่างมุ่งเน้นไปในสิ่งที่ไม่มีการกล่าวถึงใน "ความลับในการเลื่อนขั้นของปรมาจารย์อาณาเขต"........เเละนั่นคือการผสมผสานระหว่างกฏ
"บันทึกของหลินฟาน" และ "ความลับของศาสตร์ลึกลับเเห่งกฎเกณฑ์"ทั้งสองข้อมูลยังบอกด้วยว่าบอกว่ายิ่งกฏหลอมรวมกันมากเท่าไรก็ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น
นอกจากนี้ยังเน้นย้ำเป็นพิเศษว่าตั้งแต่วินาทีที่นักรบรู้สึกได้ถึงกฎเเห่งจักรวาล……นั่นคือช่วงเวลาที่เขาได้รับการเลื่อนขั้นสู่ระดับความว่างเปล่า
ทุกครั้งที่เลื่อนระดับ พลังของกฎเห่งจักรวาลจะเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายและจิตวิญญาณของนักรบ
ยิ่งภูมิหลังของบุคคลนั้นล้ำลึก ความแข็งแกร่งของการเสริมสร้างพละกำลังก็จะยิ่งมากขึ้น เมื่อพวกเขาได้รับการเลื่อนก็จะยิ่งได้รับประโยชน์มากเตาม
ยกตัวอย่างเช่น หากของใครบางคนมีค่าสถานะคือ 1……เมื่อเขาได้รับการเลื่อนระดับค่าสัมประสิทธิ์ของการเพิ่มระดับคือ 2
ดังนั้นจากค่าสถานะหลังจากเพิ่มระดับจะกลายเป็น 2 (2*1)
แต่ถ้าค่าสถานะดั้งเดิมเป็น 3 ก่อนการเลื่อนระดับ….แม้ว่าค่าสัมประสิทธิ์การเลื่อนระดับยังคงเป็น 2
เเต่ค่าสถานะหลังการเลื่อนระดับของนักรบจะกลายเป็น 6 ทันที (3*2)
ซึ่งนั่นส่งผลให้คนหลังจะมีความแข็งแกร่งมากกว่าคนแรกหลายเท่าตัว
ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนที่จะได้รับการเลื่อนระดับยิ่งมีรากฐานที่แข็งแกร่งมากเท่าใด ประสิทธิภาพการเลื่อนระดับก็จะยิ่งมากขึ้นด้วย….เพราะอย่างนั้นผลกระทบที่เกิดขึ้นก็จะทวีความรุนแรงมากขึ้นตามไปด้วย
ก่อนที่จะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นปรมาจารย์อาณาเขต ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการหลอมรวมศาสตร์ลึกลับตั้งแต่สองข้อขึ้นไปจะมีความแข็งแกร่งมากกว่าผู้ที่ไม่ได้หลอมรวมศาสตร์ลึกลับโดยสิ้นเชิง
เอกสารทั้งสองฉบับนี้ยังเน้นย้ำเป็นพิเศษว่า ยิ่งระดับของกฎที่ต้องการหลอมรวมสูงมากเท่าใด…….การหลอมรวมก็จะยิ่งยากขึ้นมากเท่านั้น
ดังนั้น หากเป็นไปได้ ขอแนะนำให้นักรบขั้นดวงดาวควรพยายามการหลอมรวมศาสตร์ลึกลับก่อนส่วนหนึ่ง จากนั้นจึงค่อยพิจารณาเลื่อนระดับไปสู่ระดับปรมาจารย์
ในกรณีนี้ หลังจากได้รับการเลื่อนระดับ…..ความแข็งแกร่งของคนคนนั้นก็จะเหนือกว่านักรบในระดับเดียวกันอย่างมหาศาล, เเละหนทางข้างหน้าก็จะราบรื่นอย่างเเน่นอน
สุดท้าย, ผู้เขียนเนื้อหาทั้งสองนี้ 'หลินฟาน' และ 'เป่ยชาง' ไม่ได้ขอให้ทุกคนทำเช่นเดียวกันกับพวกเขา
คนที่พวกเขาแนะนำให้ทำตามคือเหล่า 'อัจฉริยะ' ที่ปรารถนาจะปีนขึ้นไปสู่จุดสูงสุด
สำหรับนักรบธรรมดา…อย่าเสียเวลาเลย!
หลังจากอ่านเนื้อหาทั้งสองเล่มทั้ง "บันทึกของหลินฟาน" และ "ความลับของศาสตร์ลึกลับเเห่งกฎเกณฑ์" จบแล้ว ชูโจวก็แอบคิดว่าตนเองค่องข้างโชคดี
"โชคดีที่ฉันศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วยซะก่อน ไม่อย่างนั้นบางทีฉันคงจะเลือกที่จะเลื่อนขั้นเป็นปรมาจารย์อาณาเขตทันทีที่รู้วิธีก็ได้"
“เกือบพลาดแล้วไหมละ!” ชูโจวพูดพึมพำกับตัวเอง
แน่นอนว่าความทะเยอทะยานของเขาไม่เพียงแต่จะเลื่อนขั้นเป็นปรมาจารย์อาณาเขต หรือเพียงระดับปรมาจารย์โลกเท่านั้น
ความทะเยอทะยานของเขาคือการปีนขึ้นไปถึงระดับปราชญ์แห่งจักรวาลและยืนอยู่บนยอดปิรามิดของสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนในจักรวาลนี้อีกด้วย
ด้วยความทะเยอทะยานดังกล่าว เขาจึงไม่เต็มใจที่จะให้ภูมิหลังและความแข็งแกร่งของเขาด้อยกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นในระดับเดียวกัน
"ดูเหมือนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดถัดไปไม่ใช่การเป็นปรมาจารย์อาณาเขต……แต่เป็นการรวมกฎที่เข้าใจแล้วเข้าด้วยกัน"
“และหากมีโอกาส ทางที่ดีควรหาอาจารย์ที่แข็งแกร่งด้วย!”
“เพราะฉันไม่รู้ข้อกำหนดมากมายในทางปฏิบัติ”
“แม้ว่าฉันจะสามารถสืบหาผ่านเครือข่ายจักรวาลเสมือนได้ แต่ในทางปฏิบัติมันก็ยังมีความซับซ้อนและข้อห้ามอยู่บ้าง, บางสิ่งที่อาจจะไม่มีอยู่บนเครือข่ายจักรวาลเสมือนด้วยซ้ำ”
เมื่อคิดเช่นนี้ ชูโจวก็ขจัดความคิดที่จะเลื่อนระดับเป็นปรมาจารย์อาณาเขตนออกไปชั่วคราว
“มีเป้าหมายอีกสี่ข้อ!”
“หนึ่ง พยายามหลอมรวมกฎที่มีอยู่ให้ได้มากที่สุด”
“ประการที่สอง พัฒนากฎต่างๆที่ยังไม่สมบูรณ์”
“ประการที่สาม หาวิธีที่จะได้รับคะแนนคุณสมบัติจำนวนมาก ต้องบรรลุเป้าหมายนี้เท่านั้นถึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่หนึ่งและสองได้”
"ประการที่สี่ หาเงิน ตราบใดที่มีเงินเพียงพอ ก็จะสามารถซื้อส่วนผสมโลหะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเถาวัลย์พันดาราที่จะต้องดูดกลืน"
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ยืนยันเป้าหมายใหม่ 4 ข้อของเขาได้
แต่ตอนนี้..
สิ่งที่เขาทำได้ต่อไปก็คือการ อัพเกรดสายเลือดจันทร์เดือนดับ
“สายเลือดจันทร์เดือนดับได้เวลาอัพเกรดต่อแล้ว!”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ชูโจวก็ลุกขึ้นจากเตียง เตรียมที่จะออกจากดวงดาวเบต้า อยู่ห่างจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว และอัพเกรดสายเลือดจันทร์เดือนดับ
ถึงอย่างไรชูตงไหลผู้เป็นพ่อก็ได้บอกเขาไปแล้ว
สายเลือดจันทร์เดือนดับเกี่ยวข้องกับสายเลือดของผู้ยิ่งใหญ่แห่งจักรวาล….มันมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่
เเละเมื่อสายเลือดจันทร์เดือนดับได้รับการอัพเกรด มันจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยดวงดาว
ดังนั้น…. มันจึงไม่สามารถอัพเกรดบนดวงดาวเบต้าได้
เเละในขณะที่, ชูโจวเพิ่งเดินออกจากวิลล่า
ดิโก้ก็เดินมาหาเขาอย่างรวดเร็ว
“มาสเตอร์……พรอส, ผู้ช่วยของมาสเตอร์เเห่งดวงดาวเบเต้มาหาเรา!” ดิโก้พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง
“คุณหมายถึงผู้ช่วยมาสเตอร์เเเห่งดวงดาวเบต้า, อุลเมอร์สอยู่ที่นี่เหรอ?” ชูโจวชะงัก
“ใช่แล้ว เขานั่นแหละ!” ดิโก้พยักหน้าอย่างแรง
"เขายังบอกอีกว่าในนามของมาสเตอร์เเห่งดวงดาว, เขาได้ส่งของขวัญเพื่อแสดงความยินดีกับคุณในการขึ้นบ้านใหม่ของคุณด้วย!"
ณ ขณะนี้
ดราก้อน ธอร์ และอาปาซาก็อยู่ด้วย และทุกคนก็แสดงสีหน้าตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของดิโก้
“ชูโจว ทำไมมาสเตอร์เเห่งดวงดาวเบต้าถึงให้ของขวัญนายด้วยล่ะ?” ดราก้อนถามอย่างสงสัย
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน!”
ชูโจวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง, จากนั้นเขาก็พอเดาออก
"บางที หลังจากที่ฉันซื้อวิลล่าเเพนดราก้อน มาสเตอร์เเห่งดวงดาวก็น่าจะได้ข้อมูลของฉันไปด้วย…..และพอเห็นว่าฉันได้รับการจัดอันดับให้เป็น 'พรสวรรค์ระดับสูงสุด' เขาเลยส่งคนมามอบของขวัญให้ก็ได้ ”
ดิโก้พูดด้วยรอยยิ้ม: "ฉันเดาว่ามาสเตอร์เเห่งดวงดาวคงต้องการที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณเอาไว้ ก็เลยส่งคนมามอบของขวัญให้คุณ”
“ถึงยังไงนักรบขั้นดวงดาวระดับเก้าดวงดาวอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้าเพิ่ม 'พรสวรรค์ขั้นสูงสุด' เข้าไป…มันก็จะแตกต่างโดยสิ้นเชิง”
"ยังไงก็ตามมาสเตอร์เเห่งดวงดาวเบต้า ได้เริ่มที่จะผูกมิตรกัมมาสเตอร์ เเล้ว……ซึ่งนี่จะเป็นประโยชน์กับมาสเตอร์อย่างมาก"
"นั่นก็จริง!" ชูโจวยกยิ้ม
“ไปกันเถอะ ไปพบกับผู้ช่วยมาสเตอร์เเห่งดวงดาวเบต้ากันดีกว่า”
ชูโจวเดินนำหน้า ใช้เวลาเพียงไม่นานก็มาถึงประตูคฤหาสน์ และพบพลอสผู้ช่วยมาสเตอร์เเห่งดวงดาวเบต้า
“ท่านคือท่านชูโจว!”
พลอสเคยเห็นรูปถ่ายของชูโจวก่อนที่เขาจะมาถึง ดังนั้นเขาจึงสามารถจำชูโจวได้ทันที
เขาเดินไปหาชูโจวด้วยรอยยิ้ม พลางยื่นกล่องของขวัญให้อย่างสุภาพ พลางพูดว่า
“มาสเตอร์ชูโจว หลังจากที่มาสเตอร์เเห่งดวงดาวเบต้าทราบว่าคุณย้ายมาที่วิลล่าเเพนดรากอน เขาก็ขอให้ให้กระผมส่งสิ่งนี้ให้แก่คุณเป็นพิเศษ……โปรดรับไว้ด้วยครับ!”
"อะไรอยู่ข้างใน?" ชูโจวหยิบกล่องแล้วเอ่ยถาม
“มาสเตอร์ชูโจว คุณจะรู้เองเมื่อเปิดมัน และคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน”
“ภารกิจที่ฉันได้รับมาเสร็จสิ้นแล้ว ดังนั้นขอตัวก่อน!”
พรอสพูดด้วยรอยยิ้ม ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าและหายไปราวกับภาพติดตา
ชูโจวเปิดกล่องต่อหน้าทุกคน และพบสัญญาการโอนเงินที่เขียนด้วยภาษากลางของจักรวาล
“ฟู่……นี่คือสัญญาโอนร้านอาหารเรดแมนนี่นา”
ดิโก้ตกใจเมื่อเห็นสัญญา: "ร้านอาหารเรดแมนนี้เป็นหนึ่งในสิบร้านอาหารชั้นนำในดวงดาวเบต้า โดยมีกำไรต่อปีเหนาะๆก็ 100 ล้านเหรียญกาแลคซี มาสเตอร์ดวงดาวโอนให้คุณเป็นเจ้าของโดยตรงเลยนี่นา "
“ยิ่งกว่านั้น ร้านนี้ยังที่สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง…..มันเป็นสิ่งที่มีค่ามากในจักรวาลนี้ทั้งหมด”
“มีอยู่หลายครั้งแม้ว่าจะให้ราคาสูงกว่าราคาตลาดถึงสิบเท่า เเต่ก็ยังมีคนไม่สามารถซื้อของประเภทนี้ได้อยู่ดี, เพราะน้อยคนนักที่จะยอมขายมัน”
"แต่คราวนี้มาสเตอร์ดวงดาวมอบร้านอาหารเรดแมนให้กัมาสเตอร์โดยตรง นี่เป็นเรื่องใหญ่จริงแท้แน่นอน!"
ดราก้อน ธอร์ และอาปาซาก็ตกใจเช่นกัน
กำไรปีละ 100 ล้านเหรียญกาแล็กซี
นี่มันสุดยอดมาก
คุณต้องรู้ว่าสำหรับนักรบขั้นดวงดาวที่อยู่เหนือระดับความว่างเปล่า หนึ่งปีเป็นเพียงช่วงเวลาที่สั้นมาก เพราะงั้นการที่ใช้เวลาหลายสิบปีในการถอนทุนคืนเป็นเรื่องสบายๆ
ดังนั้นก็เลยมักใช้คำนวณในหลายร้อยหรือหลายพันปี
หนึ่งร้อยปีคือ 10 พันล้านเหรียญกาแล็กซี
หนึ่งสหัสวรรษคือ 100 พันล้านหรียญกาแล็กซี
ยิ่งกว่านั้นกำไรนี้ยังไม่มีที่สิ้นสุด
สิ่งที่อุลเมอร์สมอบให้…..คงเปรียบเหมือนเขามอบความอุดมสมบูรณ์ให้กับชูโจวโดยตรง
ของขวัญชิ้นนี้มีค่ามาก
“ของขวัญชิ้นนี้ดูจะมีค่าเกินไปสักหน่อย…” ชูโจวพึมพำกับตัวเอง
เเต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจยอมรับมัน
ช่วยไม่ได้….ช่วงนี้เขาขาดแคลนเงินจริงๆ ขาดแคลนเงินหนักมาก
ดังนั้น แม้ว่าเขาจะรู้ว่าหลังจากรับของขวัญนี้แล้ว เขาจะต้องติดหนี้อุลเมอร์สเป็นจำนวนมาก แต่เขาก็ยังจะยอมรับมัน
เรื่องแบบนี้หากมีโอกาสในอนาคตฉันจะตอบแทนบุญคุณนี้เอง
แน่นอนว่านั่นอยู่ภายในขอบเขตความสามารถของเขาด้วย
หากเป็นอันตรายถึงชีวิตก็คงไม่เอา
……………