ตอนที่ 49 ทหารเร้ดอะเริ้ท ปะทะ คนเหนือมนุษย์
เมื่อสงครามเกิดขึ้น ภายใต้คำสั่งของซูเฉิน ยูนิตทั้งหมดได้ถาโถมเข้าใส่ประตูเมืองอย่างแรงกล้า
ยังไงซะ เดิมทีประตูเมืองถูกสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันสัตว์กลายพันธุ์และแทบจะไม่สนใจเรื่องการป้องกันการปะทะกับมนุษย์เลยสักนิด นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดการจู่โจมแบบนี้เกิดขึ้นกับเมืองฐานทัพ
ปากกระบอกปืนของรถถังกริซซี่ก็ได้เล็งไปที่ปืนใหญ่ป้องกันเมืองบนกำแพงเมือง และเกือบทุกครั้งที่กระสุนออกไปจากปากกระบอกรถถัง ปืนใหญ่ป้องกันเมืองก็ถูกทำลายลงซึ่งมันทำให้เหล่าคนที่ป้องกันเมืองต่างปวดใจกันเป็นแถว
เฮลิคอปเตอร์จู่โจมเองก็ได้ปล่อยมิสไซส์ออกมาซึ่งทำให้บนกำแพงเมืองเกิดระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่มีใครสามารถต้านทานพลังมิสไซส์ของเฮลิคอปเตอร์จู่โจมกันได้เลยสักคนยกเว้นว่าจะเป็นคนเหนือมนุษย์ระดับ 4 ดาว
มีเพียงยานรบทหารราบอเนกประสงค์เท่านั้นที่ไม่เคลื่อนไหวและจอดอยู่เฉยๆหลังกองทัพรถถังในขณะเตรยมพร้อมป้องกันยูติทางอากาศของศัตรู
ในตอนนี้ ประตูเมืองถูกจู่โจมอย่างหนักหน่วง
ผู้คนที่ทำหน้าที่ป้องกันเมืองต่างรู้ว่าถ้าหากประตูเมืองแตกพ่ายหล่ะก็ แม้พวกเขาจะฆ่ากองทัพพวกน้ได้ แต่ชะตากรรมของพวกเขาก็คงจะหนีไม่พ้นความตายอยู่ดี
โชคดีที่คนพวกนี้ไม่รู้ว่าเป้าหมายของกองทัพนั้นก็คือการมาต้อนรับซูเฉิน ไม่งั้นแล้ว พวกเขาคงได้ส่งกำลังทั้งหมดมาจับซูเฉินแน่
ประตูเมืองนั้นก็ใกล้จะพังทลายลง และดูเหมือนว่าหัวหน้าหน่วยป้องกันเมืองนั้นจะได้รับคำสั่งบางอย่าง ทันใดนั้นเขาก็กัดฟันและสั่งการบางอย่างที่ดูราวกับส่งลูกน้องของตัวเองไปตาย “สั่งให้คนเหนือมนุษย์ทั้งหมดออกไปจัดการศัตรูข้างนอก พวกเราจะต้องไม่ปล่อยให้มันเข้ามาในเมือง!!”
ในฐานะหัวหน้าหน่วยป้องกันเมืองที่โดนคนอื่นกดดันมาตลอด เขานั้นจะถูกบันทึกชื่ออยู่ในหน้าประวัติศาสตร์แน่นอน แต่ว่าในทางลบอะนะ
มเพียงคนเหนือมนุษย์เท่านั้นที่จะสามารถหยุดกองทหารและกองทัพรถถังของศัตรูได้ ส่วนกองทัพเฮลิคอปเตอร์ หน่วยต่อต้านอากาศยานของเมืองฐานทัพจะเป็นคนจัดการเอง
ในตอนที่สัญญาณเตือนทั่วฐานดังขึ้น ไม่ว่าคนเหนือมนุษย์คนใหนในฐานก็จะต้องรับคำสั่งอย่างไม่มีเงื่อนไขแม้ว่าจะเป็นการถูกส่งไปตายก็ตาม
ในทันที เหล่าคนเหนือมนุษย์ที่อยู่รอบๆข้างก็ได้เข้ามารวมตัวกันและรวมไปถึงซูเฉินและคนอื่นๆ
ในสายตาของคนของโรงประมูลเทียนหยู พวกเขาก็แค่ขโมยที่ไปขโมยสินค้าประมูลแต่ในสายตาของหัวหน้าหน่วยป้องกันเมือง พวกเขาทั้งหมดนั้นคือคนเหนือมนุษย์ของเมืองฐานทัพและจะต้องปฏิบัติตามคำสั่ง
ปากของซูเฉินก็ยกยิ้มขึ้นมา ในที่สุด เมืองฐานทัพก็สั่งการสั่งที เขานั้นรอโอกาสนี้มาตลอด
ความจริงแล้ว ก่อนจะเป็นแบบนี้ เขานั้นรู้ดีว่าเมืองฐานทัพได้สั่งการมาแล้ว ตราบใดที่กองทัพของเขานั้นกดดันประตูเมืองได้ หัวหน้าหน่วยป้องกันเมืองก็จะให้คนเหนือมนุษย์ท่อยู่ใกล้เคียงออกไปสู้และนี่ก็คือโอกาสของพวกเขาด้วย
ในท่ามกลางความโกลาหล เขาก็จะใช้โอกาสนี้หลบหนีซึ่งมันเป็นสิ่งที่ซูเฉินต้องการมากที่สุด
เพราะซูเฉินนั้นเข้ามาในฐานทัพด้วยความแข็งแกร่งระดับ 2 ดาว เขาจึงอยู่ตำแหน่งรั้งท้าย แนวหน้าประกอบไปด้วยคนเหนือมนุษย์ระดับ 5 ดาวซึ่งรวมไปถึงหัวหน้าหน่วยป้องกันเมืองและในหมู่นั้นก็คือชายอ้วนคนนั้นด้วย
ชายอ้วนนั้นก็เศร้าใจมาก ในแถบนี้ เขานั้นคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งหมายความว่าเขาจะต้องไปยืนอยู่แนวหน้า
“เวรเอ้ย ไอ้พวกฐานทัพทหารเวรนั้นกล้าแส่หาเรื่องจริงๆ รอฉันทำธุระก่อนแล้วค่อยมาได้ใหมเนี่ย?”ชายอ้วนก็บ่นขึ้นมาในใจ
เขานั้นอยากจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่นี่ แม้เขาจะไม่อยากสู้แต่ตอนนี้เขาโดนบังคับ
หัวหน้าหน่วยป้องกันเมืองนั้นก็ได้ลงมาสู้ด้วย และคนที่รับหน้าที่สั่งการนั้นก็คือรองหัวหน้าหน่วย ด้วยการสั่งการ เหล่าคนเหนือมนุษย์สามร้อยคนก็พุ่งตัวออกไปนอกประตู
บู้ม!!
กระสุนปืนของรถถังกริซวี่ก็ยังคงสาดไปมาไม่หยุดหย่อนและทันใดนั้นมันก็ยิงเข้าใส่เหล่าคนเหนือมนุษย์
นี่ก็คือคำสั่งของซูเฉิน มิฉะนั้นแล้ว ไม่ว่าทหารเร้ดอะเริ้ทจะกล้าขนาดใหน พวกมันก็ไม่กล้าจะยิงมายังตำแหน่งที่ผู้การของพวกมันอยู่หรอก
ซูเฉินนั้นมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับ 5 ดาวสูงสุด และเขานั้นแทบจะไม่ต้องสนใจกระสุนปืนใหญ่ธรรมดาเลยก็ได้ แม้ว่ารถถังกริซวี่นั้นจะได้รับการอัพเกรดเป็นระดับ 1 หลังจากผ่านการต่อสู้มา ซูเฉินก็ยังไม่กลัวอยู่
มีเพียงเหลิงหยูเหว่ยและอีกสองคนเท่านั้นที่ต้องการความคุ้มครองจากเขา มิฉะนั้นพวกเขาคงไม่มีโอกาสรอดไปได้แน่หากโดนกระสุนปืนใหญ่เข้า
“ไปไกลๆตีนเลย!!”พอเห็นกระสุนปืนใหญ่พุ่งเข้ามา ชายอ้วนก็ตะโกนแล้วยกมือฟาดกระสุนไปซึ่งทำให้มันพุ่งขึ้นไปบนฟ้าแล้วระเบิดออก
นี่แหละคือพลังของคนเหนือมนุษย์ระดับ 5 ดาว ร่างกายของพวกเขานั้นแทบจะทนทานต่อกระสุนปืนใหญ่ธรรมดาและแทบจะไม่มีอะไรที่ทำให้พวกเขากระเด็นออกไปได้เลย
กล่าวได้ว่าด้วยพลังของคนเหนือมนุษย์ระดับ 5 ดาว พวกเขาจึงสามารถจัดการกับกองพันทหารได้อย่างแน่นอนซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามทั้งหมดนั้นก็แค่คนธรรมดา
พอเห็นคนเหนือมนุษย์ระดับ 5 ดาวฝั่งของพวกเขานั้นทรงพลังมากจนเมินกระสุนปืนใหญ่ได้ คนเหนือมนุษย์คนอื่นที่อยู่ด้านหลังก็คึกคะนองราวกับม้าแล้วกำอาวุธแน่นก่อนจะวิ่งออกไปด้านหน้า
เป้าหมายของพวกเขาก็คือกองพันทหาร พวกเขานั้นเชื่อว่าตราบใดที่มีคนเหนือมนุษย์ระดับ 5 ดาวนำทางพวกเขา แล้วกองพันทหารจะทำอะไรพวกเขาได้กัน?
ไม่มีใครคิดเลยว่ากองพันทหารทั้งหมดนั้นเป็นคนเหนือมนุษย์!!
คนเหนือมนุษย์นับร้อยคนนั้นก็แสดงความสามารถของพวกเขาออกมา บางคนนั้นก็ตัวใหญ่ขึ้นอย่างฉับพลัน บางก็รวดเร็วขึ้น และมีบางคนที่สามารถเสริมความแข็งแกร่งของกระสุนปืนของพวกเขาให้มันทรงพลังมากกว่าเดิม
นี่ก็คือพลังของคนเหนือมนุษย์ นอกจากคนเหนือมนุษย์บางส่าวนที่ไม่มีความสามารถพิเศษแล้ว เหล่าพวกที่มีความสามารถพิเศษนั้นต่างก็โดดเด่นซึ่งพวกเขานั้นก็ได้วิ่งไปแนวหน้าในทันที
ในยุคนี้ แม้พลังของอาวุธปืนนั้นจะถือว่าร้ายกาจแต่พลังของคนเหนือมนุษย์เองก็ไม่อาจจะเมินเฉยได้
ซูเฉินนั้นรู้ดีว่าเพื่อจะสร้างความโกลาหล เขานั้นจำเป็นต้องเข้าต่อสู้ระยะประชิต ทั้งสองฝ่ายนั้นยิงกันอย่างต่อเนื่องแต่ไม่เคยจะเข้าประชิตกันเลย
ดังนั้นซูเฉินจึงถอนการตั้งป้อมของทหารแล้วสั่งให้ทหารเร้ดอะเริ้ทเข้าประจันหน้า
ในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็ได้เข้าปะทะกัน ทันทีที่พวกเขาเข้าปะทะกัน คนเหนือมนุษย์ของทางฝั่งเมืองฐานทัพนั้นก็ตกตะลึง
พวกเขานั้นคิดว่าพวกเขาสามารถจัดการทหารพวกนี้ได้ง่ายๆแต่เมื่อได้เจอเข้าจริง พวกเขากลับสูญเสียคนฝั่งเขาไปหลายสิบคนในขณะที่อีกฝ่ายเสียไปแค่สองสามคน!
ความเสียเปรียบนี้ทำให้หัวหน้าหน่วยป้องกันเมืองหน้าซีดกันเลย
เมื่อครู่ เขานั้นกำลังจะฆ่าทหารศัตรูแต่ทหารนั่นกลับหลบออกไปก่อนที่ทหารอีกสองคนจะเข้ามาสู้กับเขาพร้อมกัน
ทหารพวกนั้นทั้งหมดมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับ 3 ดาวสูงสุด และความสามารถของพวกนั้นก็สมส่วนมาก นั่นหมายความเมื่อทั้งสามร่วมมือกันสู้ พวกนั้นจะสามารสู้กับสมาชิกหน่วยป้องกันเมืองที่อยู่ในระดับ 5 ดาวต้นได้
มีเพียงชายอ้วนระดับ 5 ดาวสูงสุดนั้นที่ดูจะเป็นตัวปัญหาสุด เขานั้นทรงพลังมากถึงขั้นที่ทหารระดับ 3 ดาวสูงสุดนั้นแทบจะหยุดเขาไม่ได้เลย แต่เพื่อคำสั่งของผู้บัญชาการ พวกเขาก็เต็มใจจะใช้ชีวิตของตัวเองขัดขวางหมอนี่!!
ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่าทหารเร้ดอะเริ้ทนั้นดูจะไม่สนใจซูเฉินและพรรคพวก ทุกคนต่างก็หันไปมองคนเหนือมนุษย์คนอื่นๆที่เป็นทีมตัวเองแล้วพุ่งเข้าสู้ศัตรูด้วยกันราวกับต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด ส่วนซูเฉินกับพรรคพวกนั้นกลับเดินทางชิวๆกลับไปที่ด้านหลังของกองพันทหารเร้ดอะเริ้ท
พวกคนข้างล่างนั้นไม่มีใครสังเกตเห็นเลยแต่พวกบุคคลากรที่อยู่บนกำแพงกลับมองเห็นฉากนี้