ตอนที่ 26 : บริษัทหงเหมิง
“ถ้าฉันดูไม่ผิด เด็กน้อยนั่นกําลังใช้สกิลระดับสูง ‘เกราะหนามอสนี’ ใช่รึเปล่า?”
ตรงกลางโต๊ะของเหล่ากรรมการ มีชายชราคนหนึ่งที่มีดวงตาสีเทาดูแปลกตา ผมสีเงินบนหัวของเขาถูกจัดแต่งทรงอย่างพิถีพิถัน ชายคนนี้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
เขาเป็นรองประธานของ Shenghai City Spirit Master Association (SCSMA) ที่มาดูการแข่งขันวันนี้ในฐานะกรรมการรับเชิญ
“ถูกต้อง! เมื่อพิจารณาจากเกมก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าสัตว์วิญญาณตัวนี้จะสามารใช้ทั้ง กรงเล็บสายฟ้าและเงาอสนีได้ในระดับผู้เชี่ยวชาญเลยหล่ะ”
ที่ข้างๆของชายชรา เป็นหญิงผมสั้นสวมเสื้อกั๊กหนังสีดําเธอควงปากกาสีดําในมือไปมาพลางพูดว่า
“แต่สิ่งที่ฉันสนใจมากกว่าคือร่างกายที่พิเศษของเจ้าจิ้งจอกเพลิงตัวนี้ ทั้งความแข็งแกร่ง ความเร็ว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังป้องกันของมันนั้น ล้ำหน้าระดับของจิ้งจอกเพลิงตัวอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันไปไกลแล้ว มันไม่น่าจะใช่สัตว์วิญญาณที่ปลุกพลังธรรมดา แต่น่าจะเป็นสัตว์วิญญาณกลายพันธุ์เสียมากกว่า”
"มันเป็นต้นกล้าที่ดี!!" ชายชรามีอารมณ์ร่วมเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าคนหนุ่มสาวเหล่านี้กำลังแข่งขันกันอยู่บนเวที เขาก็อดที่จะนึกถึงวัยเยาว์ของตัวเองไม่ได้
"เดี๋ยวเราก็จะรู้กันว่ามันใช่ต้นกล้าที่ดีรึเปล่า?"
ผู้หญิงผมสั้นยิ้มออกมา ทันทีที่เธอพูดจบ ในมือของเธอก็ปรากฎแผ่นทองแดงที่มีสนิมขึ้น รูปลักษณ์ของมันดูโบราณเป็นอย่างมาก ซ้ำยังปล่อยบรรยากาศที่ดูลึกลับออกมาจางๆ
เหรียญถงเถียนโบราณนี้คือสัตว์วิญญาณชนิดหนึ่งที่ทรงพลังมาก มันมีพลังศักดิ์สิทธิและความสามารถในการทํานายอนาคต ซึ่งเป็น1 ในสัตว์วิญญาณที่หายากมาก
แม้แต่ในโลกวิญญาณเอง พวกมันก็ใกล้ที่จะสูญพันธุ์และสามารถพบเจอได้ในซากปรักหักพังของโบราณสถานบางแห่งเท่านั้น
“ถงเถียน ช่วยฉันดูอนาคตของเขาหน่อย”
เหรียญถงเถียนโบราณส่งเสียงออกมาเหมือนว่ามันกําลังหิวมาก
“ฉันหมดคำจะพูดกับนายจริงๆ เอ้า!! กินซะ!” ผู้หญิงคนนั้นทําอะไรไม่ถูกเล็กน้อย แต่เธอก็หยิบเหรียญทองแดงโบราณจํานวนหนึ่งออกมาจากสร้อยข้อมือปรมาจารย์
ในพริบตา เหรียญทองแดงทั้งหมดก็ถูกเหรียญถงเถียนโบราณนี่กินเข้าไปจนหมด จากนั้นมันก็หมุนตัวกลางอากาศ สักพักนึงก็ตกลงมาในมือของผู้หญิงคนนั้นอย่างมั่นคง จากนั้นรูตรงกลางของเหรียญก็ฉายแสงสีทองที่มีแต่ผู้หญิงคนนั้นเท่านั้นที่มองเห็น
"เสี่ยวเหมิง อนาคตของเด็กคนนั้นคืออะไร?" ชายชราเห็นการเคลื่อนไหวของผู้หญิงคนนั้นก็ถามออกมาด้วยรอยยิ้ม
“สีม่วง ว่าไง? เหล่าจง สมาคมของคุณสนใจบุคคลากรคนนี้ไหม?” ผู้หญิงคนนั้นถามด้วยรอยยิ้ม
"มาดูการแข่งขันต่อไปของเขากันเถอะ" เหล่าจงพูดอย่างใจเย็น
แม้ว่าฝีมือของเฉินโม่จะดี แต่มันก็ไม่ดีพอที่จะให้รองประธานอย่างเขาไปเชิญเป็นการส่วนตัว
"ถ้าคุณไม่สนใจ งั้นฉันขอละนะ"
มุมปากของผู้หญิงคนนั้นยกขึ้นขณะที่เธอมองไปที่เฉินโม่และจิ้งจอกเพลิงบนสนาม ราวกับว่าเธอได้ค้นพบสมบัติบางอย่างเข้าแล้ว
————————
เฉินโม่ไม่รู้ว่าเขาถูกผู้ทรงอำนาจสองคนที่อยู่ที่โต๊ะกรรมการจับตามองเข้าซะแล้ว หลังจากชนะการแข่งขัน เขาและจิ้งจอกเพลิงก็แปะมือกันท่ามกลางกลุ่มผู้ชมที่กำลังเฉลิมฉลอง
ไม่ว่าจากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้น พวกเขาก็จะได้รางวัลจากการแข่งขันครั้งนี้กลับไปอย่างแน่นอน เนื่องจากผู้เข้าแข่งขันที่สามารถผ่านเข้ามาถึงรอบ 8 คนสุดท้ายใน Young Eagle Cup ได้ จะการันตีเงินรางวัลที่ 10,000 หยวน
ขณะที่เขากําลังจะจากไป เขาก็เห็นหญิงสาวผมสั้นท่วงท่าสง่างามคนหนึ่ง เธอสวมเสื้อกั๊กหนังสีดําเดินจากโต๊ะกรรมการเข้ามาหาเขา
บางทีออร่าของผู้หญิงคนนี้อาจจะแข็งแกร่งเกินไป ตลอดทางที่เธอเดินมา คนอื่นๆที่อยู่รอบๆจึงแหวกทางให้เธออย่างพร้อมเพรียงกัน
"คุณมีอะไรกับผมรึเปล่าครับ?" เมื่อเห็นเธอเหมือนจะเดินมาหา เฉินโม่จึงถามออกไปด้วยความสงสัย
“สวัสดี ผู้เข้าแข่งขันเฉินโม่ ฉันชื่อเฉินเหมิง มาจากบริษัทหงเหมิง ฉันอยากจะเลี้ยงอาหารคุณสักมื้อแล้วระหว่างนั้นเราก็มาพูดคุยธุระกันสักหน่อย ไม่ทราบว่าคุณจะสะดวกไหมคะ”
"ไม่มีปัญหาครับ"
ห้างสรรพสินค้าเฉิงไห่นั้นมีขนาดใหญ่มากและที่นี่ก็มีร้านฟาสต์ฟู้ดหลายแห่ง เช่น M Kee และ K Kee
ท้ายที่สุด เฉินโม่เลือกร้าน M Kee จากนั้นทั้งสองคนก็เลือกมุมที่ค่อนข้างห่างไกลผู้คน
"ฉันอยากจะถามว่าคุณสนใจที่จะร่วมงานกับบริษัทของเราไหมคะ?" เฉินเหมิงถามออกมาด้วยรอยยิ้ม เสียงที่เธอใช้นั้นดูเป็นมิตรมาก ไม่ต่างอะไรกับพี่สาวข้างบ้านคนหนึ่ง
‘อย่างที่คิด เธอมาที่นี่เพื่อทาบทามฉันจริงๆด้วย’ เฉินโม่คิดในใจ
เขาไม่แปลกใจเลยที่มีคนมาทาบทามเขาแบบนี้
ด้วยผลงานที่โดดเด่นของจิ้งจอกเพลิงในสนามแข่งย่อมต้องดึงดูดความสนใจของผู้คนจํานวนมากเป็นธรรมดา
คําถามคือ - ทําไมคุณถึงมาทาบทามคนที่ยังไม่ใช่ปรมาจารย์วิญญาณเต็มตัวแบบเขากัน?
แม้ว่าหงเหมิงจะเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในตงเซี่ย แต่เฉินโม่ก็รู้สึกว่าการเข้าร่วมองค์กรที่ถูกจัดตั้งอย่างเป็นทางการจะทําให้เขารู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
“คุณช่วยอธิบายให้ผมฟังละเอียดกว่านี้ได้ไหมครับ? ตัวอย่างเช่น...เรื่องของสวัสดิการ”
"ผู้ที่เป็นปรมาจารย์วิญญาณรุ่นเยาว์จะสามารถเพลิดเพลินไปกับเงินเดือนพื้นฐานที่มากกว่า 100,000 หยวนต่อเดือนของเราได้ นอกจากนี้ สัตว์วิญญาณของคุณยังสามารถเรียนรู้สกิลระดับกลางและต่ำได้ฟรี รวมถึงคุณยังสามารถซื้อสินค้าภายในบริษัทและเพลิดเพลินกับสิทธพิเศษของพนักงาน นั่นคือ ส่วนลด 10% จากราคาตลาด” เสียงของเฉินเหมิงเต็มไปด้วยการล่อลวงและโน้มน้าว
"ขอโทษครับ แม้ว่าสิ่งที่คุณพูดมาจะฟังดูดีมาก แต่ผมยังไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ครับ?" เฉินโม่ปฏิเสธอย่างไม่ลังเล
แม้ว่าทรัพยากรจะมีความสําคัญในกระบวนการเจริญเติบโตของสัตว์วิญญาณ แต่สําหรับเฉินโม่มันไม่ได้จำเป็นอะไรขนาดนั้น สัตว์วิญญาณของเขาสามารถพึ่งพาเอฟเฟกต์จากภารกิจเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้นได้
ในเมื่อคุณสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองได้อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ทำไมจะต้องไปทนทํางานเป็นกรรมกรด้วยล่ะ?
"แล้วคุณจะว่ายังไง ถ้าเราจะช่วยรักษาโรคมะเร็งให้คุณยายของคุณด้วยล่ะคะ?" เฉินเหมิงพูดด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง
เธอเพิ่งได้ข้อมูลนี้ของเฉินโม่มาผ่านเครือข่ายข่าวกรองของบริษัท
เฉินโม่ไม่ตอบ…
พูดตามตรง เขาก็รู้สึกหวั่นไหวบ้างเล็กน้อย
ตามวิถีชีวิตปกติ เขาคงจะต่อมหาวิทยาลัยหยูหลิงสักแห่งหนึ่งหลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม
และหากทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี หลังจากเรียนจบหมาวิทยาลัย เขาคงจะได้กลายเป็นนักจิตวิญญาณระดับสูง
และหากเข้าได้เอฟเฟกต์ที่ยอดเยี่ยมมาสักอย่างในระหว่างนั้น การจะเป็นปรมาจารย์วิญญาณคงจะไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป!
แต่ถ้าคุณยายจากไปก่อนที่เขาจะทำทุกอย่างได้สำเร็จ ต่อให้เขาจะกลายเป็นปรมาจารย์วิญญาณอันดับหนึ่ง เขาก็คงจะเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ๆ