ตอนที่ 11 ค้นหาวิธีแก้ปัญหา
ตอนที่ 11 ค้นหาวิธีแก้ปัญหา
"ยานี้ทรงพลังมาก!"
ผงฮุ่ยซุนมีผลทันทีหลังจากทาบนข้อต่อต่างๆ ซูหยางรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงฤทธิ์ทางยาอันทรงพลัง
ข้อต่อที่ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวาของเขากำลังได้รับการซ่อมแซม และอาการปวดกล้ามเนื้อก็ลดลง
“ยอดเยี่ยมมาก เดิมทีข้าต้องพักอีกสักวันหนึ่ง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องพักแล้ว”
ในช่วงห้านาทีที่ผ่านมา ซูหยางไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดจากการออกกำลังมากเกินไปเมื่อเขาขยับแขนอีกต่อไป
ผลที่ได้คือ ดีอย่างน่าประหลาดใจ
หลังซูหยางคิดอย่างรอบคอบ และรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติ
ผงฮุ่ยซุนเป็นยาฟื้นฟูระดับ 9
มันเพียงพอแล้วสำหรับนักสู้ระดับ 9 ที่จะใช้
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นคนธรรมดาอีกด้วย
ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนธรรมดาที่จะใช้ยาฟื้นฟูคุณภาพสูงเหล่านี้ในการรักษาอาการบาดเจ็บจากากรออกกำลังมากเกินไปได้
หลังจากฟื้นตัวแล้ว
สิ่งที่ซูหยางกำลังคิดอยู่ตอนนี้คือ วิธีรับยา และสิ่งที่คล้ายกันที่สามารถเพิ่มสมรรถภาพทางกายได้โดยตรง
แม้ว่าทักษะขัดเกลาร่างกาย และเม็ดยาเช่นนั้นในโลกนี้จำเป็นต้องใช้ร่วมกัน แต่ก็ไม่ควรที่หกทางอื่นจะถูกปิดตาย
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว ซูหยางก็วางแผนที่จะรวบรวมข้อมูลในเมืองนี้ ท้ายที่สุด เขาอยู่ในโลกนี้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ และเขาไม่เข้าใจมันมากนัก
สำหรับตอนนี้ เขาต้องหาหนทางทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นให้ได้ ร่างกายของเขาอ่อนแอเกินไป และเทียบได้กับคนธรรมดาเท่านั้น ในอนาคต เจตจำยงดาบของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และศัตรูที่เขาต้องเผชิญหน้าอาจจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เช่นนี้
ไม่ควรให้ร่างกายของเขาคอยเหนี่ยวรั้งเอาไว้
แน่นอนว่า มันจะดีกว่าถ้าเขาสามารถฆ่าศัตรูด้วยดาบเดียวในอนาคต
“ข้าไม่รู้ว่าโถงฮุ่ยซุนมียาสำหรับขัดเกลาร่างกายหรือไม่ ไว้ค่อยไปลองถามในคราวหน้า”
หลังจากรออีกประมาณสิบนาที ซูหยางก็รู้สึกว่าแขนขวาของเขาหายดีแล้ว
เขาจึงมาที่ลานบ้าน และเริ่มแกว่งดาบอีกครั้ง
ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ยงคงกระพันในเมืองผิงซาน แต่ในต้าเซี่ย เขายังคงอ่อนแอเกินไป
อย่างน้อยต้าเชี่ยก็อยู่ยงคงกระพันในดินแดนแถบนี้ ย่อมมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่เหนือว่าเขา
ยิ่งไปกว่านั้น ว่ากันว่ามีอมตะในโลกนี้
หลังจากที่จางหู่หารือ และจัดระเบียบสมาชิกหน่วย เขาก็เริ่มทำตามคำสั่งของซูหยางด้วย
สิ่งแรกที่พวกเขาต้องทำคือจัดการกับคดีที่ค้างคาอยู่
ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่กล้ารุกรานใคร ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าจัดการกับผู้กระทำผิด
เมื่อมีหลายสิ่งอย่างหลายเกิดขึ้น แม้ว่าจะมีบางสิ่งที่สามารถแก้ไขได้ แต่พวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะทำมัน
ยังไงก็ได้เงินเดือนเพียงแค่เที่ยวเล่น แล้วทำไมต้องทำงานอีกล่ะ?
ผู้นำจะมีอิทธิพลต่อผู้ใต้บังคับบัญชาโดยไม่รู้ตัว ท่าที ความคิด และการกระทำของเขาจะส่งผลต่อลูกน้อง
ก่อนหน้านี้ ซูหยู่ พ่อของซูหยางเป็นที่รู้จักในนาม ‘คนโง่’ ในโถงซุนเฟิง และลูกน้องของเขาก็เลยถูกดูถูกไม่ต่างกัน
แต่ตอนนี้ซูหยางแสดงความแข็งแกร่งให้เห็น และต้องการจัดการคดีต่างๆ อย่างจริงจัง มันจึงแตกต่างออกไปโดยธรรมชาติ
เป็นผลให้สมาชิกหน่วยทั้ง 112 คนออกไปร่วมกันเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาในถนนซูนเฟิง
จางหู่นำคนกลุ่มหนึ่งออกไป และเคลื่อนตัวไปตามถนนอย่างเด็ดเดี่ยว
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงร้านค้าแห่งหนึ่ง
“เถ้าแก่หลิว เมื่อสามเดือนก่อน ลูกชายของเจ้าทำให้คนผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บ เขาต้องถูกจำคุกหนึ่งเดือนตามระดับความรุนแรงของอาการบาดเจ็บ และชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้บาดเจ็บ 20 ตำลึง”
เมื่อได้ยิน การแสดงออกของเถ้าแก่หลิวเปลี่ยนไป เขาโกรธอย่างมาก
แต่เมื่อเขามองไปที่สมาชิกหน่วยตรวจตรา ในพริบตาเขานึกถึงชายผู้โหดเหี้ยมที่กล้าฆ่าหลี่หมิง
ความโกรธบนใบหน้าของเขาก็หายไปทันที และถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม
“ใต้เท้า ตามกฎของต้าเซี่ย หากถูกจำคุกน้อยกว่าสามเดือนจะสามารถจ่ายค่าประกันตัวได้ ซึ่งก็คือวันละสิบสองตำลึง ข้ายินดีจ่ายสามร้อยตำลึง”
เมื่อได้ยิน จางหู่ขมวดคิ้ว
แม้ว่าเขาจะไม่อยากให้เรื่องจบลงเช่นนี้ แต่เขาทำอะไรไม่ได้ นี่เป็นเรื่องจริงที่มีกฏข้อนี้ระบุเอาไว้
“ย่อมได้ แต่จำไว้ว่า หากลูกชายของเจ้าทำผิดอีกครั้งภายในหนึ่งปี เขาจะถูกลงโทษอย่างรุนแรง”
“ข้าเข้าใจ ข้าเข้าใจ”
เถ้าแก่หลิวหยิบเงินสามร้อยยี่สิบตำลึงออกมาแล้วมอบให้จางหู่ แม้ว่าเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างหนักจากการสูญเสีย เขาทำได้เพียงพยักหน้า และโค้งคำนับให้จางหู่แล้วส่งอีกฝ่ายออกไปด้วยรอยยิ้ม
หลังจากที่จางหู่จากไป สีหน้าของเถ้าแก่หลิวก็มืดลงในทันที
“สามร้อยยี่สิบตำลึง สามร้อยยี่สิบตำลึง เฮ้อ กำไรประจำปีของข้ามีเพียงพันตำลึงเท่านั้น”
ไม่ว่าเขาจะเจ็บปวดแค่ไหน เขาก็ไม่กล้าที่จะยั่วยุซูหยางในเวลานี้ แม้แต่ลูกน้องของซูหยาง เขาก็ไม่กล้า
แต่กับต้นตอของปัญหาน้นต่างออกไป
“เจ้าลูกทรพี!”
“ตอนนี้ลูกของข้าอยู่ที่ไหน?”
คนรับใช้ในบ้านหดคอ “ตอนนี้นายน้อยน่าจะอยู่ที่หอจูเซียงขอรับ”
เถ้าแก่หลิวกัดฟันเมื่อได้ยินสิ่งนี้ "หอจูเซียง ดี วันนี้ข้าจะบอกให้เขารู้ว่าทำไมดอกไม้ถึงมีสีแดง"
"ปิดประตูร้านแล้วเจ้ามากับข้าเพื่อตามหาเขา"
…
หลังจากที่จางหู่ออกจากร้านของเถ้าแก่หลิว เขาก็ยังคงบังคับใช้กฎหมายในลักษณะนี้ต่อไป
แต่ไม่นานเขาก็ต้องหยุด
เนื่องจากคดีต่างๆ ได้รับการจัดการทีละรายการ ตอนนี้เขามีเงินหลายพันตำลึงจากการจัดการเพียงหกคดี
หลังจากเห็นเงินจำนวนนี้ จางหู่ก็รู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อย
“เงินมากมายจริงๆ”
เงินเดือนเขาแค่ห้าตำลึงเท่านั้น แล้วเมื่อไหร่จะได้ครบพันตำลึงล่ะ?
หัวใจของจางหู่เต้นแรง และเขามีแรงกระตุ้นที่ไม่สามารถควบคุมได้
แต่หลังหายใจเข้าลึกๆ มันก็ทำให้จิตใจของเขามั่นคง
“ไปเถอะ ส่งค่าชดเชยไปให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเหล่านั้นก่อน”
จางหู่นำกลุ่มคนออกไป และเดินหน้าต่อไปโดยส่งเงินตามบ้าน
เมื่อครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บได้รับค่าชดเชยนี้อย่างที่พวกเขาไม่เคยได้รับมาก่อน
ชายชราคนหนึ่งน้ำตาไหล และคุกเข่าลงต่อหน้าจางหู่เพื่อขอบคุณเขาอย่างต่อเนื่อง
“ขอบคุณใต้เท้า ขอบคุณ”
จางหู่รู้สึกอึดอัดมากเมื่อเห็นสิ่งนี้ การไม่ทำอะไรเลยก่อนหน้านี้ทำให้ผู้คนต้องทนทุกข์ทรมานขนาดไหนกัน?
คนอื่นๆ ที่ตามมาก็มีอารมณ์หลากหลายเช่นกัน
“ท่านผู้เฒ่า โปรดลุกขึ้นเถือ”
“เราคือสมาชิกหน่วยตรวจตราถนนซุนเฟิง เราควรจะทำสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว แต่เรากลับละทิ้งหน้าที่ หากจะขอบคุณควรไปขอบคุณหัวหน้าซู หากไม่มีเขา เราก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป”
จางหู่ส่งค่าชดเชยที่เขาได้รับไปให่แต่ละบ้าน บรรยากาศครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บเหล่านี้ ยากจนมาก บางทีโดยพื้นฐานแล้วมาจากครอบครัวที่ยากจนอยู่แล้ว หรืออาจเป็นเพราะเกิดจากค่ารักษาที่เป็นภาระหนักสำหรับคนธรรมดา
การมาถึงของค่าชดเชยเหล่านี้สามารถบรรเทาความยากจน และทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นได้ในที่สุด
เพียงได้พบกับหกครัวเรือน แต่ก็ได้ทำให้จางหู่ และคนอื่นๆ เข้าใจความลำบากของผู้คนในเมืองนี้แล้ว
“พี่น้อง พวกเราคือ ผู้เดียวที่สนับสนุนคนเหล่านี้ได้”
จางหู่พูดด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน ทำให้ทุกคนตกอยู่ในห้วงความคิดที่ลึกซึ้ง
เมื่อเดินบนถนนซุนเฟิง ร่างของพวกเขาก็ค่อยๆ ยืดตรงขึ้นเรื่อยๆ และพวกเขาก็เข้าใจว่าควรทำอะไรในอนาคต