บทที่ 41 : ย้ายมาอยู่อาคารหลังน้อยสีขาว
บทที่ 41 : ย้ายมาอยู่อาคารหลังน้อยสีขาว
เซียวหวงเหมาและพวกพ้องทั้งสามคนไม่ค่อยสบายใจนักในช่วงสองวันที่ผ่านมา
ประการแรก พวกเขากำลังจะได้ข้อมูลของสาวสวยคนหนึ่งแต่กลับถูกชายหนุ่มที่มีร่างกายเหมือนยอดมนุษย์ทุบตี
จากนั้นเงินที่เหลืออยู่ก็ถูกเปลี่ยนเป็นค่าเยียวยาทางด้านจิตใจของหญิงสาว
หลังจากไม่ได้กินอะไรมาหนึ่งวัน ในที่สุดเขาก็รวบรวมความกล้ามาร่วมกับพี่จีและเตรียมเริ่มต้นงานใหม่….แต่พวกเขาดันดวงซวยได้พบกับเจ้าฆาตรกรหลบหนีที่หน้าประตูเย่หยวนบาร์ และถูกทุบตีอีกครั้ง
ครั้งนั้นพวกเขาจำเป็นต้องกลับบ้านและนอนซมต่ออีกวัน
วันนี้
ในที่สุดเซียวหวงเหมาก็พาเออร์เหมาและเซียวซีมาแถวๆเย่หยวนบาร์อีกครั้งเพื่อเตรียมตัวหาพี่จีกันต่อไป
แต่…..
เมื่อเดินไปใกล้เย่หยวนบาร์ เซียวหวงเหมาก็เริ่มลังเล
ต่อหน้าเออร์เหมาและเซียวซี เขาโอ้อวดเสียงดังอย่างเป็นธรรมชาติ….แต่ตัวเขาเองรู้ดีว่าความสัมพันธ์ของเขากับพี่จีไม่เพียงแต่ไม่ดีเท่าที่เขาพูดเท่านั้น แต่มันยังไม่เคยมีแม้แต่การปฏิสัมพันธ์ขั้นพื้นฐานด้วยซ้ำ!
สิ่งที่เรียกว่าชวนพี่จีไปเลี้ยงข้าวตอนที่พี่จีไม่มีเงิน...นั่นก็เพราะเขาถูกพี่จีข่มขู่มาอีกทีต่างหาก!
เเล้วถ้าไปหาพี่จีตอนนี้…..พี่จีจะยังจำเขาได้ไหมนะ?
ถ้าจำได้ แล้วถ้าพวกเขาทั้งสามคนจะขอลี้ภัย….พี่จีจะรับใหม?
เพราะความกังวลเหล่านี้อย่างแน่นอน….ทำให้เซียวหวงเหมาเดินวนหน้าร้านเย่หยวนบาร์ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่ยอมเข้าไปในเย่หยวนบาร์สักที
“พี่หวง พวกเราจะเข้าไปไหม?”
บางทีอาจจะเพราะใจร้อนที่ต้องรออยู่ข้างนอกบาร์มานานเเล้ว… หรืออาจจะเพราะเขาหิวเกินกว่าจะยืนไหว เออร์เหมาจึงเร่งเร้าลูกพี่ของเขา
“ทำไมต้องเร่ง?” เซียวหวงเหมาพูดอย่างหมดความอดทน
"ไม่เห็นรึไงฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะพูดอะไรกับพี่จีดี?"
“ตอนนี้พี่จีรุ่งเรืองแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะรับใครเข้ามาร่วมด้วยง่ายๆ”
“ด้วยมิตรภาพของฉันกับพี่จีมันก็ไม่มีปัญหาหรอก…..แต่ฉันคิดไม่ออกว่าจะพูดยังไง ให้พี่จียินดีรับพวกแกทั้งสองคนเข้าไปด้วย”
“เเล้วถามเเบบนี้…นี่พวกแกไม่เชื่อใจฉันรึไง”
เออร์เหมารีบตอบทันทีว่าเขาเชื่อคำพูดของเซียวหวงเหมา
แต่กลับไม่มีเสียงตอบกลับจากเซียวซี
เมื่อเขากำลังจะตำหนิเซียวซี ทันใดนั้นเสียงของเซียวซีก็ดังเเทรกขึ้นมา
"ลูกพี่….เจ้านั่น ฆาตกรคนนั้น เขามาอีกแล้ว!"
เมื่อทุกคนหันไปทางที่เซียวซีบอก……พวกเขาพบกับร่างที่ดูดุร้ายกำลังเดินมาทางพวกเขา
“ก้มหัวลงเร็วเข้า!” เซียวหวงเหมารู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก
เเต่มันไม่มีเวลาสำหรับพวกเขาที่จะหลบหรือหนี….ดังนั้นเขาจึงรีบเตือนเออร์เหมาและเซียวซีให้ก้มหัวลงและอย่ามองไปที่ชายหนุ่มผู้แสนเย็นชาคนนั้น
……
ดังนั้น…. เมื่อซูไป๋เดินเข้ามา
สิ่งที่เขาเห็นคือเหล่าพวกพ้องของเซียวหวงเหมาต่างยืนเรียงกัน ก้มศีรษะลงลึก ยืนอยู่เหมือนนกกระจอกเทศสามตัว
อืม….เจ้าพวกนี้, เหมือนจะฉลาดขึ้นมาหน่อย?
รอยยิ้มเย็นชาได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
เเละเมื่อเขาเดินผ่านเซียวหวงเหมาและคนอื่นๆ เขาก็มองไปที่เซียวหวงเหมา จากนั้นเขาก็ตบพวกเขาทีละคนให้นอนราบไปกับพื้นอีกครั้ง: "ฉันบอกแล้วว่าอย่าสวมหมวก!"
[โฮสต์แสดงพลังอันยิ่งใหญ่และปราบปรามซอมบี้ชั้นสูงระดับสาม….ได้รับคะแนนการเอาชีวิตรอดคือ +90 】
[โฮสต์มีพลังที่เหนือกว่า ปราบปรามซอมบี้ธรรมดาระดับแรก…. ได้รับคะแนนการรอดชีวิต +15 คะแนน 】
[โฮสต์นั้นฉลาดและกล้าหาญ ปราบซอมบี้ธรรมดาระดับแรก….ได้รับคะแนนการรอดชีวิต +15 คะแนน 】
ระบบจะส่งเสียงบี๊บสามครั้งติดต่อกัน
เขาได้รับคะแนนการเอาชีวิตรอด 120 คะแนนในครั้งนี้
หลังจากได้รับคะเเนนเเล้ว, ซูไป๋ก็ไม่สนใจเซียวหวงเหมาและคนอื่นๆอีก
เขาเอามือวางไพล่หลัง ฮัมเพลง แล้วมุ่งหน้าไปยังโรงอาบน้ำ
เมื่อร่างของซูไป๋หายไปอย่างสมบูรณ์…..เซียวหวงเหมาและอีกสองคนก็ลุกขึ้นจากพื้น
พวกเขาทั้งสามมองหน้ากัน
รู้สึกหดหู่ใจอย่างถึงขีดสุด
เออร์เหมาลูบคอที่แดงอยู่เเล้วพูดว่า: "พี่หวง เรายังจะตามหาพี่จีอยู่หรือเปล่า?"
“ตามบ้าอะไรของแก!”
เขาเหลือบมองไปยังทิศทางที่ซูไป๋หายตัวไปด้วยความกลัว และเซียวหวงเหมาก็พูดด้วยความโกรธ
"กลับ!"
……
หลังจากกลับมาที่โรงอาบน้ำ ซูไป๋ขอให้จินหมั่นฝูตามหาพี่จี
ซึ่งพี่จีคนนี้เป็นการ์ดรักษาความปลอดภัยผมสีแดงที่ถูกซูไป๋ทุบตีไปแล้วสองครั้ง
จากนั้นซูไป๋ก็ขอให้พี่จีไปติดต่อกับเซียวหวงเหมาและอีกสองคนแล้วให้ พวกเขามาที่นี่ทุกวัน
หลังจากถูกทุบตีสามครั้งและต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจนับไม่ถ้วน ในที่สุดเซียวหวงเหมาและอีกสองคนก็สามารถประสบความสำเร็จได้ในที่สุด
จากนี้ไป…..พวกเขาจะต้องถูกทุบตีวันละครั้งเพื่อที่จะได้รับเงินอุดหนุน 1,000 เหรียญ
แม้ว่าเนื้อหาของงานอาจจะแตกต่างไปจากที่เซียวหวงเหมาและคนที่เหลือคิดไว้…..แต่ในที่สุดพวกเขาก็พอมีรายได้ทัดเทียมกับพี่จี นี่ก็ถือว่าดีขึ้นมากเเล้ว
เเละด้วยวิธีนี้
ซูไป๋ก็ได้ยุติความสัมพันธ์อันเลวร้ายระหว่างเขากับทั้งสามคนลง
……
ไม่กี่วันต่อมา
ซู่ไป๋ต้องวิ่งวุ้นไปมาระหว่างอาคารสีขาวหลังน้อยและโรงอาบน้ำเพื่อจัดการเรื่องราวต่างๆ
เเละหลังจากที่โรงอาบน้ำมั่นคงสมบูรณ์แล้ว….เขาก็ย้ายไปอยู่ที่อาคารสีขาวหลังน้อยเหมือนที่เขาเคยคิดไว้
แม้ว่าอาหารและเสื้อผ้าในอาคารสีขาวหลังน้อยจะไม่หรูหราเท่าในโรงอาบน้ำ แต่ที่นี่มีบรรยากาศอบอุ่นซึ่งทำให้ซูไป๋รู้สึกคุ้นเคยและสบายใจ
ในเวลาเดียวกัน
หญิงสาวในอาคารสีขาวหลังน้อยนั้นยอดเยี่ยมกับเด็กผู้หญิงใน เย่หยวนบาร์, KTV และ โรงอาบน้ำมาก
เเน่นอนว่าเขาจะไม่แตะต้องเย่ซินหยิง
รวมทั้งพนักงานต้อนรับในห้องชั้นสามและชั้นสอง….ที่มีไว้เพื่อโต้ตอบเเละรับคะแนนการเอาชีวิตรอดเท่านั้น
แต่สำหรับชั้นหนึ่ง...
เขาจะไม่รีรอ!
นอกจากนี้ ที่ชั้นหนึ่งของอาคารสีขาวหลังน้อย…..ซูไป๋ยังได้สัมผัสอย่างแท้จริงว่าการแสดงที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างไร
ที่ชั้นหนึ่งของอาคารสีขาวหลังน้อย
มีครูสาวสวยในห้องเรียนที่สามารถสอนได้จริง!
มีพยาบาลสาวผู้อ่อนโยนและเซ็กซี่ที่อยู่วอร์ดและรู้วิธีในการฉีดยา!
หรือแม้แต่เลขาสาวร่างสูพราวเสน่ห์ในออฟฟิศ...ก็สามารถช่วยแบ่งเบาภาระเจ้านายได้เป็นอย่างดี!
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเสมือนจริงและสามารถดื่มด่ำไปกับมัน!
เเละหลังจากได้สัมผัสประสบการณ์เหล่านี้เป็นการส่วนตัวแล้ว แม้แต่ซูไป๋ก็รู้สึกเหมือนกับว่าเขาจมดิ่งไปกับที่นี่จนไม่อาจถอนตัวได้
…………….