บทที่ 234 : พายุความร้อนทะเลทราย (ตอนที่ 11)
บทที่ 234 : พายุความร้อนทะเลทราย (ตอนที่ 11)
'มาจบเรื่องนี้กันเถอะ'
[ปลุกพลังอาวุธ!]
[ไบฟรอสได้รับพลังพิเศษ]
แสงสีดำอันเจิดจ้าเริ่มหมุนวนไปรอบ ๆ ตัวดาบ
ฉันถือดาบไว้ข้างหน้าเพื่อปกป้องร่างกายของฉัน เมื่อปากของรูปปั้นหินอ้าขึ้นลำแสงสีน้ำเงินเข้มก็พุ่งออกมา ฉันคุกเข่าลงและจับด้ามจับด้วยมือทั้งสองข้างเอาไว้จนแน่น
ลำแสงสีน้ำเงินปะทะเข้ากับคมดาบ
ทุกอย่างเกิดขึ้นตรงหน้าฉัน มันปะทะกันอย่างรุนแรงเหมือนหัวรถไฟหัวชนกัน เสียงมันดังลั่นดังจนหูจะระเบิด ร่างกายของฉันถูกผลักกลับไปอย่างควบคุมไม่ได้
“พลังนี้แหละที่อยากเห็น…”
เคล้ง!
ฉันหันส้นเท้าไปด้านข้าง
ร่างกายของฉันที่ถูกดันให้ถอยกลับก็หยุดลง
เมื่อฉันเหวี่ยงดาบออกไป
ลำแสงสีน้ำเงินไปในทิศทางตรงกันข้ามกระแทกเข้าไปในปากของรูปปั้นหิน
และก็เกิดการระเบิดตามมา
ฉันผ่อนคลายท่าทางและยืดดาบออกไปในท่าทางที่ผ่อนคลายมากขึ้น
มีรูกว้างเจาะทะลุปากของรูปปั้นหิน
ควันหนาทึบลอยออกมาจากรูนั้น
“โห่! หัวหน้าได้ดาบเล่มนั้นมาจากไหน? ผมเองก็อยากได้บ้าง”
“มีอันเดียวในโลก และบอกไม่ได้ว่ามาจากไหน”
[พายุเปลวเพลิง!]
เปลวไฟที่หมุนวนรอบร่างของออลก้าพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศและถูกปล่อยออกมา
เป้าหมายคือคริสตัลที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เปลวไฟที่ออลก้าร่ายออกมากลายเป็นหอก และคริสตัลที่อยู่ตรงข้ามก็ระเบิดขึ้นมาทันที เวทย์มนตร์ของมันเป็นการผสมผสานระหว่างพลังจิตและเวทย์ไฟ
ออลก้าเข้ามาหาฉันแล้วส่ายหน้าไปมา
“นายมันบ้าเกินไปแล้วนะ แบบนี้มีเป็นร้อยชีวิตก็ไม่พอหรอก”
"ไว้บ่นทีหลังเถอะ วิ่งก่อนตอนนี้ วิ่ง!!"
“วิ่งเข้าไปในรูนั่นใช่ไหม?”
"ใช่"
ฉันเตะซากโกเลมที่พังทลายทิ้งแล้วกระโดดออกไปทันที
มือใหญ่ ๆ ที่อยู่ข้างหลังเราเคลื่อนมาหาเราเหมือนไม้กวาดกวาดพื้น
กร๊ากกก!
ครืน
ไหล่หนา ๆ ของมันแกว่งไปมาจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง ดูเหมือนว่าร่างกายของรูปปั้นหินมันกำลังสั่น
“กร๊ากกก! จัดการมนุษย์จอมโอหังพวกนั้นซะ!”
[นักรบมนุษย์กิ้งก่า Lv. 28 X 5]
“กรั๊ก?”
ทันทีที่พวกมันปรากฏตัว หนึ่งในพวกมันก็ร่วงลงไปที่พื้นด้านล่าง
“รีบหนีไปก่อน พวกนั้นฉันจัดการเอง”
“นี่มันไม่สนุกเอาซะเลย”
เนเรสซ่าและเวคิสอมยิ้มก่อนที่จะกระโดดไปข้างหน้า
ออลก้าวิ่งตามหลังไปติด ๆ ชุดของเธอปลิวไปตามแรงลม เธอหยิบยามานาออกมาแล้วดื่มทันที
เจนน่าขึ้นคันธนูขณะวิ่ง ชึ้บ! ลูกธนูลอยเข้าโจมตีมนุษย์กิ้งก่าตัวหนึ่งที่จมูกอย่างแม่นยำ
รูต่าง ๆ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
พื้นผิวของรูที่ตัวรูปปั้นหินที่มีรูปเฟืองติดอยู่ทำงานอย่างรวดร็ว
เหมือนมันถูกเปิดออก
[เมจิกโกเลม Lv. 33]
โกเลมตัวนี้ติดตั้งหน้าไม้ที่แขนทั้งสองข้าง
เป้าหมายของหน้าไม้หันมาทางเราและเริ่มหมุนเหมือนปืนกล
ชึ้ก!
แต่ลูกธนูของเจนน่าเจาะทะลุแขนทั้งสองข้างของมัน เจนน่าที่เร็วประดุจสายฟ้าดึงกริชของเธอออกมาทันที
“ไหล่ ด้านข้างลำตัว และท้อง!”
กัก กัก กัก!
สายไฟและอุปกรณ์กลไกที่ถูกรื้อถอนออกมาจากร่างของโกเลม
โกเลมล้มไปด้านข้าง เจนน่ามองมาที่ฉันแล้วยิ้ม
“ฮิฮิ เป็นไง เหมือนที่นายทำเลยไหม?”
“หยุดเล่นแล้วรีบวิ่งก่อนเถอะ”
มือของรูปปั้นหินกำลังเข้ามาใกล้เรามากขึ้นเรื่อย ๆ และทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า
“กรา กรัค!”
มนุษย์กิ้งก่าตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่โดนเราจัดการทันที
<อันที่หกแล้ว!>
ฟู้ว!
ไอน้ำพุ่งออกมาจากส่วนต่าง ๆ ของร่างรูปปั้นหิน
อัตราการปล่อยควันนั้นเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก อุณหภูมิของมันสูงมากจนถ้าหากสัมผัสเพียงเล็กน้อยก็เปลี่ยนคุณเป็นเนื้อรมควันได้ เราข้ามไอน้ำที่เพิ่มขึ้นในขณะที่เราวิ่ง
“ข้างในเป็นยังไงบ้าง? !”
<ค่อนข้างแข็งแกร่ง! แต่ไม่เท่าข้า ข้าจะฆ่ามันให้หมด!>
“เด็กนั้นปลอดภัยดีใช่ไหม?”
<ไม่เห็นต้องถาม แน่นอนว่าก็ต้องปลอดภัยอยู่เเล้ว!>
“อีกไม่นานพวกเธอกำลังจะถึงทางตัน เตรียมพร้อมสำหรับหลบหนี ฉันทำเครื่องหมายทางออกไว้ให้แล้วในแผนที่”
ฉันตัดการสื่อสารทันที
“ฉันจะเข้าไปล่ะนะ!”
เจนน่ากระโดดเข้าไปและร่างเล็ก ๆ ของเธอถูกดูดเข้าไปในรูของรูปปั้นหิน
ต่อมาคือออลก้า จากนั้นก็เป็นเวคิสและเนเรสซ่า
ฉันมองไปข้างหน้า
และใบหน้าของรูปปั้นหินก็จ้องมองมาที่ฉัน
ฉันหัวเราะและชูนิ้วกลางให้มันจากนั้นฉันก็กระโดดเข้าไป
ด้านในถูกปกคลุมไปด้วยความมืด
ฉันปรับท่าทางและหมุนร่างกาย ความรู้สึกตอนนี้เหมือนฉันกำลังลอยได้เลย
ตุ๊บ!
ลงมาไม่นานเราก็ลงมายืนที่พื้นด้านล่าง
ห้องทรงกลมขนาดเท่าสนามกีฬา
ทั้งผนังและพื้นทำมาจากโลหะสีดำ
ไฟฟลูออเรสเซนต์สีแดงกะพริบบนเพดานกะพริบเรื่อย ๆ
“มันแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้”
เจนน่าเอื้อมมือลงไปแตะพื้น
[คำเตือน!]
[ 'ระบบป้องกันตัวเอง' ของรูปปั้นหินตอนนี้อยู่ในขั้นสูงสุด]
วี้ด! วี้ด! วี้ด!
ไซเรนเริ่มส่งเสียงดัง
เจนน่าดึงมือของเธอกลับด้วยความประหลาดใจ
“กะกะ เกิดอะไรขึ้น? ฉันโดนอะไรบางอย่างหรือเปล่า?”
"อย่าตกใจไป ไม่ใช่ความผิดของเธอ”
ฉันรีบสำรวจพื้นที่
เหนือราวบันไดบนพื้น เรายืนอยู่ มีอุปกรณ์คล้ายเครื่องจักรไอน้ำขยับขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ข้าง ๆ ประตูเหล็กบานใหญ่นั้นก็สังเกตเห็นบางอย่างได้ชัดเจนผ่านประตูที่เปิดแง้มไว้เล็กน้อย
“หึหึหึหึ พวกนักรบโง่เขลา ยินดีต้อนรับสู่ห้องแห่งการทดลอง!”
มีเสียงดังออกมาจากลำโพงที่ติดอยู่บนเพดาน
“ฮ่าฮ่าฮ่า ลิ้มรสผลงานชิ้นเอกของฉันที่ฉันใช้เวลาทั้งชีวิตสร้างสรรค์!”
เคล้ง
กำแพงทั้งสามหันกลับมา
[ โกเลมเวทย์มนตร์ X Lv. 35]
[ โกเลมเวทย์มนตร์ Y Lv. 33]
[ โกเลมเวทย์มนตร์ Z Lv. 34]
ตั้งแต่โกเลมถือดาบไปจนถึงโกเลมที่มีหน้าไม้และแม้แต่โกเลมที่ถือขวาน
มีโกเลมปรากฏขึ้นสามตัว
พวกมันยืนหันหน้าเข้าหากัน มองตากันอย่างระมัดระวัง
“นั่นคือ…”
[รวมร่าง!]
<ปัง! สิ่งประดิษฐ์ของฉันไม่มีจุดอ่อน! พวกแกมาเป็นหนูทดลองให้กับพวกมันดีกว่า>
[XYZ สุดยอดโกเลมเวทย์มนตร์ Lv. 46]
ปัง!
ขนาดของมันประมาณ 5 เมตร
ขาสี่ข้างกางออกเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส และมีสองแขน
อาวุธถูกติดไว้ทั่วร่างกาย ตะเข็บที่ถูกเปิดออกทั้งหมดเต็มไปด้วยแผ่นโลหะ
“จุดอ่อนของมันคืออะไร?”
"ฉันไม่แน่ใจ"
ขาของมันเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ
ในเวลาเดียวกัน ทางออกก็ค่อย ๆ เริ่มปิดลง
<ฮ่าฮ่าฮ่า! พวกสวะ จงคุกเข่าต่อหน้าความยิ่งใหญ่ของงานประดิษฐ์ฉันซะ!>
ฉันดึงดาบออกมาและโยนฝักไปขวางประตูที่กำลังจะปิดลง
ฝักดาบเข้าไปขวางช่องว่างที่ประตู
<คิดจะทำอะไร? หึ ตลกสิ้นดี วัตถุที่น่าสมเพชแบบนั้นฉันบดขยี้ได้ง่าย ๆ นั้นแหละ…หืม? >
กั้ก!
ประตูขยับหลายครั้งเพื่อพยายามจะหักฝักดาบของฉัน
แต่ฝักของดาบกลับไม่มีรอยขีดข่วนเลยแม้แต่น้อย
ฉันวิ่งไปที่ทางออก
ฉันสอดมือเข้าไปในช่องว่างแล้วผลักไปด้านข้าง
ไม่นาน ประตูก็เปิดออกกว้างอย่างง่ายดาย
"รีบออกไปเร็ว!"
“ขอบคุณสำหรับการแสดงครั้งนี้นะไอ้ตัวประหลาด!”
<เฮ้ย เดี๋ยวก่อน! เฮ้! หยุดนะ>
เจนน่า ออลก้า เวคิส และ เนเรสซ่า ออกจากทางเดิน
ฉันมองย้อนกลับไป โกเลมกำลังเดินมาหาฉัน
“เราจะได้พบกันเร็ว ๆ นี้แหละ คอยมาเดินสี่ขาให้ดูทีหลังนะ”
ฉันดึงฝักดาบกลับคืนมา
ปัง!
และประตูก็ปิดลงทันที ฉันทิ้งโกเลมไว้ข้างในนั้นโดยไม่แยแส
ฉันเดินต่อไปตามทางเดิน ไฟสีแดงกระพริบตามเสียงไซเรน...จุดสิ้นสุดของภารกิจกำลังมาถึงแล้ว
[เปิดร้านค้าการต่อสู้]
[คุณได้เลือกแท่งเชียร์เรืองแสง (แบบใช้ครั้งเดียวราคา 50 อัญมณี) คุณต้องการซื้อหรือไม่? ]
[ใช่ (เลือกแล้ว) / ไม่ใช่]
[การซื้อเสร็จสมบูรณ์!]
[เลื่อนหน้าจอไปทางซ้ายและขวา!]
[เขย่าหน้าจอเพื่อส่งใจให้ฮีโร่ของนายท่าน!]
กระพริบ กระพริบ!
“ไฟพวกนั้นคืออะไร”
“…ไม่ต้องไปสนใจ”