ตอนที่ 48 ทะลายประตู
ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อรองนั้นเข้าใจเป็นอย่างดี การประมูลของโรงประมูลเทียนหยูจบแล้วแต่สินค้าประมูลอันสุดท้ายถูกคนอื่นขโมยไป และดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเขากำลังไล่ตามคนๆนั้นอยู่
ดังนั้นเขาจงอธิบายสถานการณ์อย่างคร่าวๆ ซูซานจึงโมโหขึ้นมาทันที “ว่าไงนะ? ของของฉันถูกคนขโมยงั้นรอ? มันอยู่ใหน? ฉันจะตัดขาตัดแขนมันให้ได้เลยคอยดู!!”
ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อรองนั้นไม่รู้หรอกว่าซูเฉินหน่ะคือผู้บัญชาการของพวกซูซาน ยังไงซะ คงไม่มีใครคิดหรอกว่าผู้บัญชาการฐานทัพทหารจะแอบลอบเข้ามาในเมืองฐานทัพของพวกเขา
“ท่านผู้บัญชาการครับ กรุณราใจเย็นลงด้วย อีกไม่นานพวกเราก็จะจับกุมไอ้โจรนั่นได้แล้ว หลังจากนั้นพวกเราจะเปิดการประมูลอีกครั้ง และถ้าหากคุณสนใจ คุณสามารถเข้าร่วมการประมูลได้เลย แต่ว่าทหารพวกนี้…”เป้าหมาหลกของนักต่อรองคนนี้ก็คือการทำให้กองทัพพวกนี้ออกไป มิฉะนั้นแล้วมันจะกลายเป็นภัยต่อเมืองฐานทัพของพวกเขา
ซูซานนั้นก็ไม่อาจจะปล่อยให้พวกนี้จับผู้บัญชาการของเขาได้ เพราะเขามาที่นี่ก็เพื่อจะช่วยผู้บัญชาการของเขา
“ถ้าหากพวกนายจับมันไม่ได้ พวกเราช่วยเอง”ก่อนที่นักต่อรองคนนี้จะได้ทันพูดอะไร ซูซานก็ตะโกนออกมา “เห้ย พวกทหาร อยู่ใหนกัน?”
“อยู่นี่ครับ!!”ทหารนับพันที่อยู่ข้างหลังเขาก็ตะโกนออกมาพร้อมกัน เสียงของพวกเขานั้นกึกก้องมากจนทำให้ท้องฟ้าสั่นไหว แม้กระทั่งเมืองฐานทัพเองก็ยังได้ยินเสียงกึกก้องนี้
“ไปช่วยเมืองฐานทัพจับโจสิ ถ้าหากพวกแกจับมันไม่ได้ พวกแกทั้งหมดถูกลงโทษแน่!!”
“ได้ขอรับ!!”
หลังจากนั้น ทหารนับพันก็เมินนักต่อรองที่เหงื่อแตกพลั่กแล้วเดินมุ่งหน้าไปยังเมืองฐานทัพ
ในตอนนี้นักต่อรองนั้นก็ไม่อาจจะรับมือสถานการณ์ตรงหน้าได้ เขาจึงรีบยกโทรศัพท์โทรหาพวกคนระดับสูง เขานั้นไม่อาจจะปล่อยให้อาวุธของเมืองฐานทัพทำร้ายทหารพวกนั้นได้ มิฉะนั้นแล้วมันจะต้องเกิดการต่อสู้อันไร้จุดจบแน่
แต่นักต่อรองลืมไปอย่างหนึ่ง หลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น ทั้งสองฝ่ายนั้นได้อยู่ในการต่อสู้อันไร้จุดจบแล้วเรียบร้อย
ทหารนับพันก็รวมกลุ่มกันเป็นกองพันแล้วเดินหน้าไปอย่างพร้อมเพรียง การเดินกันเป็นกองพันนี้ทำให้ทหารที่อยู่บนกำแพงเมืองต่างหวั่นไหวขึ้นมา ตั้งแต่วันโลกาวินาศมา พวกเขานั้นไม่เคยเห็นทหารพวกนี้มาก่อนเลย นี่เป็นสิ่งที่จะมีอยู่แค่ในช่วงก่อนโลกาวินาศเท่านั้น
แต่ละประตูเมืองนั้นจะมีผู้ควบคุมการป้องกันเมืองของตัวเองอยู่ซึ่งก็คือ คนเหนือมนุษย์ระดับ 5 ดาวต้น ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นไม่อาจจะดูถูกได้เลย
แต่เมื่อเขาเห็นกองทหารนับพันกำลังมุ่งหน้ามา เขากลับรู้สึกกดดันขึ้นมา
ตราบใดที่เขาสั่งการ ทหารนับพันพวกนี้ก็จะสิ้นชีวิตในไม่ช้า แต่หลังจากนั้นหล่ะ? เมืองฐานทัพและอีกฝ่ายก็จะต้องฆ่าฟันกันแน่ แม้ว่าเมืองฐานทัพจะชนะ พวกเขาก็ได้รับความเสียหายมากอยู่ดี
ส่วนอีกด้านนั้นก็มีความแข็งแกร่งที่ไม่ได้ด้อยกว่าเลย
ในตอนนี้ พวกเบื้องบนก็โต้งแย้งกันไม่หยุด เหตุผลที่พวกเขาโต้แย้งกันก็คือจะจัดการกับพวกทหารพวกนี้ยังไงดี
บางคนนั้นก็เสนอให้สู้กับอีกฝ่ายเลย ใครก็ตามที่กล้าหาเรื่องเมืองฐานทัพนั้นก็เท่ากับหาที่ตาย
แต่บางคนนั้นก็คือว่าแนวหน้าของอีกฝ่ายนั้นจะต้องแข็งแกร่งมากแน่ และความแข็งแกร่งพวกนั้นก็คงจะไม่แย่ไปกว่าเมืองฐานทัพด้วย ถ้าหากสู้กันจริงๆ ทั้งสองฝ่ายก็คงจะเสียหายไปตามๆกันอยู่ดี
ทั้งสองฝ่ายนั้นก็ไม่อาจจะตกลงกันได้เลย แต่สุดท้ายแล้ว หัวหน้าตระกูลหวังก็พูดขึ้น “นี่พวกนายลืมแล้วว่าสองสามวันก่อนพวกเราพึ่งจะส่งกองทัพไปจัดการกับพวกนี้มาหน่ะ? พวกนายคิดว่าพวกนั้นจะตอบแทนเราด้วยความหวังดีงั้นหรอ?”
คำพูดของตระกูลหวังนั้นก็ดูจะเป็นจริงมากกว่า ก่อนหน้านี้พวกเขานั้นก็สู้กันไปแล้ว แม้ว่าท่าทางของอีกฝ่ายนั้นจะไม่แย่นัก แต่อีกฝ่ายก็คงจะไม่ลืมการต่อสู้ครั้งที่แล้วแน่
ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ งั้นมาสู้กันเลย!!
ทันใดนั้นสงครามก็ได้เริ่มขึ้น และฝ่ายที่โจมตีก่อนนั้นก็คือเมืองฐานทัพที่ใช้ปืนใหญ่ป้องกันเมืองโจมตี ในฐานะขุมกำลังหลักของเมืองฐานทัพที่มีจำนวนมากที่สุด ปืนใหญ่ป้องกันเมืองนั้นก็ได้สร้างชื่อเสียงไว้มากมายและครั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ปืนใหญ่ป้องกันเมืองนับร้อยก็ได้ยิงกระสุนปืนใหญ่ไปยังตำแหน่งที่เหล่ากองพันทหารอยู่ และไม่มีใครสักคนคิดเลยว่าทหารพวกนี้จะเอาชีวิตรอดไปได้
โชคร้ายที่พวกเขานั้นไม่รู้ว่าทหารพวกนี้ทรงพลังขนาดใหน
ในขณะที่พวกเขามองดูกระสุนปืนใหญ่กำลังจะระเบิดออกในตรงที่กองพันทหารอยู่ ทันใดนั้นด้านหน้าของกองพันทหารก็ได้มีแสงสว่างวาบขึ้น ทหารแต่ละนายนั้นก็ได้ถูกปกคลุมไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่คล้ายป้อมปรากการขนาดเล็กพร้อมกับที่กระบอกปืนของพวกเขานั้นหนาขึ้นและยังส่งกลิ่นอายของสัตว์ดุร้ายออกมาด้วย
นี่ก็คือความสามารถพิเศษของทหารพวกนี้ ตั้งป้อม(Deployment)!!
มีเพียงทหารบางประเทศเท่านั้นที่มีความสามารถนี้อยู่และความสามารถตั้งป้อม(Deployment)ของทหารแต่ละประเภทนั้นก็มีความแตกต่างกันไป อย่างเช่น ความสามารถตั้งป้อมของทหารกองพันนี้นั้นสามารก่อป้อมขนาดเล็กเพื่อปกป้องตัวเองแถมยังช่วยเพิ่มพลังของอาวุธปืนของพวกเขาด้วย
อย่างไรก็ตามทหารที่ตั้งป้อมนั้นมีจุดอ่อนอยู่ซึ่งก็คือพวกเขานั้นไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ มีเพียงปลดการตั้งป้อมเท่านั้นจึงจะทำให้พวกเขาสามารถเคลื่อนที่ได้
หลังจากตั้งป้อมแล้ว การโจมตีและการป้องกันของกองพันทหารนี้ก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้พวกเขาก็ยังมีความสามารถซ่อนอยู่ นี่เป็นสิ่งที่ระบบได้บอกกับซูเฉิน มิฉะนั้นเขาคงไม่รู้หรอก
นั่นก็คือ เมื่อจำนวนทหารที่ตั้งป้อมเพิ่มขึ้นภายในระยะใกล้เคียงกัน ความสามารถในการตั้งป้อมของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นยูนิตละ 5 เปอร์เซ็นต์!!
หรือก็คือ ทหารเร้ดอะเริ้ทพันนายจะสามารถเพิ่มความสามารถของพวกเขาขึ้น 200 เปอร์เซ็นต์ นี่แหละคือการเสริมแกร่งหลังจากตั้งป้อม
กล่าวได้ว่าทหารเร้ดอะเริ้ทนั้นคือก้อนเหล็กที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
บู้ม บู้ม บู้ม!!
กระสุนปืนใหญ่มากมายก็ได้หล่นลงในระยะของกองพันนี้ ไม่มีใครคิดเลยซักคนว่าทหารพวกนี้จะสามารถเอาชีวิตรอดได้ แม้ว่าปืนใหญ่ป้องกันเมืองจะเป็นปืนใหญ่ที่อ่อนแอ แต่พลังของมันนั้นก็ยังเยอะมากกว่าอาวุธปืนอีก
ถ้าหากว่าคนเหนือมนุษย์ระดับ 3 ดาวถูกกระสุนปืนใหญ่ของปืนใหญ่ป่องกันเมืองเข้าใส่โดยไม่มีอะไรป้องกันหล่ะก็ พวกเขาคงได้บาดเจ็บร้ายแรงแน่ ถ้าหากพวกเขาโชคร้าย พวกเขาก็จะตายในทันที และสำหรับพวกที่ต่ำกว่าระดับ 3 นั้นก็เลวร้ายมากจนไม่ต้องกล่าวถึงเลย
ส่วนทหารกองพันนี้เป็นระดับ 3 ดาวสูงสุด และการต้านทานปืนใหญ่ป้องกันเมืองนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงอะไรสำหรับพวกเขา ด้วยการเสริมแกร่งจากการตั้งป้อม พวกเขานั้นไม่ได้รับบาดเจ็บเลยด้วยซ้ำ!!
“นี่ฉันมองเห็นอยู่จริงๆหรือเปล่า? นั่นมันปืนใหญ่ป้องกันเมืองเลยนะ แล้วจะไม่มีใครตายได้ไงกัน? นี่พวกนั้นเป็นระดับ 4 ดาวขึ้นไปหรือไง?”คนบางส่วนก็พึมพำขึ้นมา
ไม้มีใครเชื่อว่าทหารกองพันนั่นเป็นคนเหนือมนุษย์ระดับ 4 ดาวขึ้นไป แม้กระทั่งเมืองฐานทัพก็ไม่สามารถมีกองพันแบบนี้ได้
คนในเมืองฐานทัพนั้นก็งงไปเลยแต่ไม่ใช่กับทหารเร้ดอะเริ้ท หลังจากพวกเขาตั้งป้อมแล้ว ระยะการยิงของพวกเขาก็เพิ่มขึ้น และมันพอจะถึงประตูเมือง ดังนั้นทหารเร้ดอะเริ้ทหนึ่งพันนายจึงยิงปืนออกมาพร้อมกันทำให้เกิดฉากอันแปลกตาขึ้น
ปัง ปัง ปัง!!
ประตูเมืองก็สั่นสะท้านอย่างแรงภายใต้การโจมตีของทหารนับพันนาย แม้ว่าประตูเมืองจะแข็งแรงจนสามารถต้านทานคนเหนือมนุษย์ระดับ 5 ดาวได้ แต่การจะต้านทานการโจมตีอันหนักหน่วงอย่างต่อเนื่องก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับมันอยู่ดี
“โจมตีสวน!! รีบฆ่าพวกมันเร็ว!!” หัวหน้าทีมป้องกันเมืองก็ไม่อาจจะอดกลั้นได้อีกต่อไป เขาจึงสั่งการไปในทันที
ด้วยการสั่งการจากหัวหน้าทีมป้องกันเมือง ก็ได้เกิดเสียงต่างๆดังขึ้นมาจากกำแพงเมืองและรวมไปถึงปืนใหญ่ป้องกันเมือง เครื่องยิงจรวดและอาวุธปืนต่างๆ สำหรับอาวุธปืนใหญ่ที่มันล้ำหน้ากว่านี้หน่ะหรอ ไม่มีใครใช้เลย การเอาอาวุธปืนใหญ่ระดับสูงมาใช้กับทหารพวกนี้มันเป็นการเสียของเปล่าๆ