บทที่26 ดันโซ ชายผู้อยู่ในความมืดเบื้องหลังโคโนฮะ
“โอโรจิมารุ อย่ามาสบประมาทฉัน!!” จิไรยะไม่พอใจมาก “คุณซาคุโมะใจดีกับฉัน ฉันจะไปเอาร่างของเขากลับมาเอง!!”
“มันไม่ใช่การเอาคืนเฉย ๆแต่ต้องเจรจากับคิริงาคุเระด้วย” โอโรจิมารุไม่ยอม
ร่างของฮาตาเกะ ซาคุโมะอยู่ในมือของคิริงาคุเระ ในกรณีที่ไม่สามารถเริ่มสงครามได้ วิธีเดียวที่จะเอาร่างกลับมาคือผ่านการเจรจา
“หึ นายนี่ขี้ขลาดจริง ๆ”
ปัง!!!
เสียงทุบโต๊ะดังขึ้นมาระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังเถียงกัน ที่ตำแหน่งข้างโฮคาเงะรุ่นที่สาม ชายหน้าตามืดมน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่สบอารมณ์
“เขี้ยวสีขาว ฮาตาเกะ ซาคุโมะแห่งโคโนฮะ เป็นหัวหน้าตระกูลฮาตาเกะ!”
“เขาคือวีรบุรุษของหมู่บ้าน! ตอนนี้เขาตายด้วยฝีมือคิริงาคุเระ ช่างขี้ขลาดเหลือเกินที่คิดจะแก้ปัญหาอย่างสันติ หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ใครจะเกรงกลัวโคโนฮะของเรา”
เมื่อชายหน้าตามืดมนพูดแบบนี้ ทุกคนก็เงียบเสียงลงอีกครั้ง มีเพียงเหล่าผู้อาวุโสหมู่บ้านคนอื่นที่กล้าพูดต่อ
“แล้วนายต้องการทำอะไรล่ะ ดันโซ” อุทาทาเนะ โคฮารุข้าง ๆดันโซถามอีกฝ่าย
“ต้องให้คิริงาคุเระคืนร่างของฮาตาเกะ ซาคุโมะและให้พวกเขาชดใช้ให้โคโนฮะ!” ดันโซปรายตามองนินจาทุกคนแล้วพูดต่อ “หากไม่มีค่าตอบแทน โคโนฮะไม่ลังเลที่จะเริ่มสงคราม เราจะบอกให้คิริงาคุเระรู้ถึงศักดิ์ศรีของโคโนฮะ และจะไม่ยอมให้ใครมาเหยียบย่ำมันเป็นอันขาด”
หลังจากพูดจบ โจนินทั้งหมดก็ตัวแข็งทื่อ สงครามครั้งที่สองเพิ่งจะจบไปเมื่อสี่หรือห้าปีก่อนเท่านั้น ความเจ็บปวดจากสงครามยังคงอยู่ ทุกคนไม่ต้องการเริ่มสงครามและที่สำคัญกว่านั้น หมู่บ้านนินจาหลัก ๆยังคงอยู่ในช่วงกำลังฟื้นฟู
ถ้าโคโนฮะทำสงครามจริง มันจะเกิดความเจ็บปวดยิ่งกว่านี้ขึ้นอย่างแน่นอนและอาจถึงขั้นทำลายรากเหง้าหมู่บ้านเลยก็ได้ ดังนั้นโจนินในห้องหลายคนจึงต่อต้านความคิดนี้
“ดันโซ!!!”
“โคโนฮะในปัจจุบันไม่สามารถรับสงครามได้อีกแล้ว” ซารุโทบิ ฮิรุเซ็นตะคอกใส่เพื่อนของเขา
ในสงครามโลกนินจาครั้งที่สองเพิ่งผ่านไปไม่กี่ปี โคโนฮะไม่มีพลังและทรัพยากรในการทำสงครามใหญ่อีก
“แต่สิ่งที่ดันโซพูดก็ถูกนะ”
“ไม่ว่าซาคุโมะจะเป็นวีรบุรุษของโคโนฮะหรือไม่ หากเราไม่แสดงท่าทีเอาจริง ใครล่ะจะเห็นโคโนฮะในสายตา” มิโตคาโดะ โฮมุระที่อยู่ถัดจากอุทาทาเนะ โคฮารุพูดขึ้นบ้าง
“เฮ้อ!” โฮคาเงะรุ่นที่สามกดหมวกลงพร้อมสีหน้าอ่อนใจ เขาจมกับความคิดของตัวเอง
ไม่ว่ายังไง ตอนนี้เขาก็ไม่ใช่โฮคาเงะรุ่นที่สามที่แก่ชรา แต่เป็นโฮคาเงะรุ่นที่สามซึ่งกำลังหนุ่ม แถมยังมีความทะเยอทะยานด้วย เขาจึงตัดสินใจออกมาได้ในเวลาไม่นาน
“โอโรจิมารุ จิไรยะ ไปคิริงาคุเระด้วยกัน อย่าลืมเอาร่างของซาคุโมะกลับมาด้วย แล้วก็...” โฮคาเงะรุ่นที่สามกล่าวจริงจัง “พวกเธอจะต้องไม่ตกอยู่ในการปิดล้อมของพวกเขาให้เสียชื่อโคโนฮะ”
ทั้งโอโรจิมารุและจิไรยะต่างก็มีความแข็งแกร่งระดับคาเงะ ในโลกนินจา พวกเขาถูกขนานนามว่าสามนินจาในตำนาน
การส่งสองคนนี้ออกไปที่หมู่บ้านคิริงาคุเระก็เพียงพอที่จะแสดงความแข็งแกร่งของโคโนฮะแล้ว
“เหอะ! ฮิรุเซ็น นายไม่มีความกล้ากับแค่การทำสงครามอีกครั้งงั้นเหรอ?” ดันโซไม่พอใจมากกับการตัดสินใจนี้
“พอแล้ว ฉันเป็นโฮคาเงะนะดันโซ สิ่งที่โคโนฮะต้องการตอนนี้ก็คือการพักรบ ไม่ใช่สงคราม” ซารุโทบิ ฮิรุเซ็นตบโต๊ะพลางพูดตอกกลับด้วยเสียงจริงจังและหนักแน่น
ดันโซยังต้องผงะไปหลังจากได้ยินเสียงนั้น อำนาจของฮิรุเซ็นยังคงมากยิ่งกว่าตอนแก่ชรามากมายนัก ทำให้ดันโซทำได้เพียงส่งเสียงฮึดฮัดแบบไม่ชอบใจออกมาเท่านั้น
ฮิรุเซ็นถอนหายใจโล่งอก ในสงครามโลกนินจาครั้งที่สอง โคโนฮะได้ต่อสู้กับนินจาซึนะและนินจาอิวะงาคุเระ รวมไปถึงนินจาอาเมะงาคุเระด้วยความแข็งแกร่งของหมู่บ้านเดียว
นอกจากแคว้นทั้งสามแล้ว ยังมีคิริงาคุเระอีกหมู่บ้านหนึ่งที่อยู่ด้านหลังด้วย
ไม่ว่าใครจะชนะ พวกเขาก็ต้องจ่ายด้วยราคาอันหนักหน่วงไม่แพ้กันเลย
“จริงด้วยสิ ซาคุโมะยังมีลูกชายอีกคนไม่ใช่เหรอ?” ซารุโทบิ ฮิรุเซ็นเอ่ยขึ้นกลางงานประชุม
“ใช่ครับ รู้สึก่วาจะชื่อฮาตาเกะ คาคาชิ อายุ 5 ขวบ เป็นนักเรียนโรงเรียนนินจาของเรา” จิไรยะรายงาน
“ถ้างั้นก็ฝากเรื่องซาคุโมะไปบอกคาคาชิด้วยล่ะ” ฮิรุเซ็นถอนหายใจอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วของวัน
เดิมทีตระกูลฮาตาเกะก็มีคนไม่มากอยู่แล้ว ฮาตาเกะ ซาคุโมะเป็นเสาหลักของตระกูล ตอนนี้เขาจบชีวิตแล้ว หน้าที่ที่เหลือก็จะตกเป็นของคาคาชิ
“ครับ” จิไรยะรับปากเบา ๆ ในใจยังคงหาวิธีคิดว่าจะพูดยังไงให้คาคาชิรับความจริงได้ว่าพ่อของเขาตายไปในสนามรบแล้ว
**************************