บทที่ 40 : การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ!
บทที่ 40 : การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ!
ณ ตอนนี้
กระเพาะของซูไป๋เต็มไปด้วยไวน์และอาหาร
พอตกดึก
ซูไป๋ก็ออกจากชั้นใต้ดินของโรงอาบน้ำ และมาที่ถนนสายบันเทิงนอกโรงอาบน้ำ
เขาเริ่มเดินเล่นและผ่อนคลายอย่างไร้จุดหมายปลายทาง
ณ เวลากลางคืน….ถนนเป่ยหยวนจะเป็นถนนที่คนพลุกพล่านที่สุด
ดังนั้น, นี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุดเพื่อหาความบันเทิง
แน่นอนว่าผู้คนต่างไหลเวียนมาที่แห่งนี้อย่างไม่หยุดหย่อน
ยามเดินไปที่แม่น้ำที่อยู่ใกล้ๆ ยืนพิงรั้วสะพานที่ประดับด้วยแสงไฟหลากสีสัน…..และเมื่อมองไปที่ถนนเป่ยหยวนที่ปกคลุมไปด้วยแสงไฟนีออน, ซูไป๋ก็รู้สึกเหม่อลอยเล็กน้อย
ด้วยการยอมศิโรราบอย่างสมบูรณ์ของจินหมั่นฝู ทรัพย์สินในชื่อของเขาจึงกลายมาเป็นทรัพย์สินในชื่อของซูไป๋ด้วยเช่นกัน
กล่าวอีกอย่างคือ
ในถนนสายบันเทิงที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ทำกำไรได้มากที่สุดได้มาอยู่ในกระเป๋าของเขาเป็นที่เรียบร้อยร้อย….แน่นอนว่าแม้แต่ร้านค้าอื่นๆก็มีส่วนที่เป็นของเขาเช่นเดียวกัน
หากเป็นยุคที่สงบสุขในยามนี้ ซูไป๋คงกล่าวได้ว่าเขาได้มาถึงจุดสูงสุดของชีวิต และสามารถก้าวต่อไปได้อย่างสำราญ
แต่น่าเสียดาย
ความเจริญรุ่งเรืองที่อยู่ตรงหน้า…..จะคงอยู่ได้ไม่เกินหนึ่งปี
เมื่อหมอกดำปกคลุมทั่วท้องฟ้าและวันสิ้นโลกก็มาถึง
ไม่ว่าถนนจะเจริญรุ่งเรืองเพียงใด พวกมันก็จะกลายเป็นเพียงซากปรักหักพัง และไม่ว่าเมืองจะรุ่งโรจน์แค่ไหน พวกมันก็จะกลายเป็นเพียงนรกบนดิน
นับตั้งแต่ระบบถูกเปิดใช้งาน….ซูไป๋ก็เริ่มมีปัญหาทางด้านจิตใจ
เขาทำงานหนักเพื่อเพิ่มคะแนน…..ทำงานหนักเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น
ไม่เพียงแต่เพื่อการเอาชีวิตรอดในวันโลกาวินาศเท่านั้น แต่ยังเพื่อมีชีวิตที่ดีอีกด้วย
หากนี่คือเป้าหมายสูงสุดของเขา เขาคงจะสามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจ
เกือบหนึ่งปีก่อนที่จะถึงวันสิ้นโลก เขาได้มาถึงระดับหนึ่ง, และปลดล็อคผลิตภัณฑ์มากมายในห้างสรรพสินค้าเรียบร้อยแล้ว
และเมื่อวันสิ้นโลกมาถึงในหนึ่งปีข้างหน้า... เขาจะต้องไปอยู่ในระดับที่สามหรือแม้แต่ระดับที่สี่ให้ได้!
อีกอย่าง….ไอเทมมากมายที่ปลดล็อคในห้างสรรพสินค้าก็ต้องมากเพียงพอ
เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะมีชีวิตที่ดีในยุคโลกาวินาศ….ดียิ่งกว่าในยุคเจริญรุ่งเรือง!
แต่ทว่า……ท้ายที่สุดเขายังคงมีสิ่งที่ต้องแสวงหา
เขาไม่เพียงต้องการมีชีวิตที่ดีในวันสิ้นโลกเพื่อตัวเขาเองเท่านั้น……แต่ยังต้องการให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีในวันสิ้นโลกมากขึ้นเช่นเดียวกัน!
มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต้องอยู่รวมเป็นกลุ่มก้อน
หากคุณเพียงแค่มีชีวิตอยู่ด้วยตัวเอง แม้ว่าตัวตนในอนาคตของคุณจะเติบโตไปสู่ระดับที่สูงมากจนกลายเป็นตัวตนคล้ายกลับพระเจ้าในโลกแห่งความจริง……เเต่เขาก็เกรงว่าเขาคงจะไม่มีความสุขอยู่ดี
สิ่งที่รอคุณอยู่คงเป็นช่วงเวลาแห่งความเงียบเหงาที่แสนยาวนาน
ตรงกันข้าม, หากมีผู้รอดชีวิตมากขึ้น…..เมื่อนั้นเขาจึงจะสามารถอยู่อย่างมีความสุขและและรับรู้ถึงความหมายของชีวิตที่แท้จริง
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ การพึ่งพาความแข็งแกร่งของเขาเองเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ
เขาต้องพึ่งอำนาจจากรัฐ..
ความคิดนี้ของซู่ไป๋นั้นชัดเจนมาก
ทำงานอย่างหนักในช่วงแรกเพื่อเพิ่มคะแนน, เพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของตนเอง
เมื่อมาถึงจุดที่ความแข็งแกร่งของเขาเพียงพอ….อย่างน้อยก็เพียงพอที่จะกำจัดข้อจำกัดของกองทัพ(ไม่โดนจับ)
เขาก็จะแจ้งให้ประเทศทราบในทางใดทางหนึ่ง…..เพื่อที่ประเทศจะได้เตรียมพร้อมสำหรับวันสิ้นโลกโดยเร็วที่สุด
เพราะเมื่อวันสิ้นโลกมาถึง……70% ของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตจะถูกเปลี่ยนร่างเป็นซอมบี้ในช่วงเวลาอันสั้น
ในส่วนนี้ทั้งมนุษย์และสิ่งมีชีวิต…มันเป็นโชคชะตาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
แต่มันยังมีที่ว่างสำหรับอีก 30% ที่เหลือรอด
เพื่อช่วยคนเหล่านี้ สิ่งที่จำเป็นคืออำนาจของรัฐบาล!
เหตุผลที่เขาต้องรอจนกว่าเขาจะแข็งแกร่งพอ ถึงจะทำเช่นนี้...ก็เพราะมันยังเร็วเกินไปและเขายังต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งปีในการเตรียมตัว
ที่สำคัญ….ใครจะรับประกันได้ว่าประเทศจะเชื่อเขา?
เขาเชื่อว่าประเทศอาจจะดีแต่ผู้คนไม่ได้ดีไปด้วย
ใครสามารถรับประกันได้ว่าเมื่อเขาก้าวออกมา….เขาจะไม่พบอุปสรรคที่เกิดจากคนบางคนใช้อำนาจของรัฐในทางมิชอบ?
ดังนั้น…..ความแข็งเเกร่งของตัวเองคือรากฐาน
ตราบใดที่เขาแข็งแกร่งพอ แม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับใครบางคนที่ไม่ลืมตาตื่น….เขาก็จะสามารถทำลายพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
วิธีการของเขาก็คือรับคะแนนการเอาชีวิตรอดและการเติบโตโดยไม่ถูกขัดจังหวะ
และเมื่อเขามีพลังมากพอ...แม้แต่ประเทศก็ยังต้องพิจารณาคำพูดของเขาอย่างรอบคอบและเตรียมพร้อมล่วงหน้าเพื่อช่วยผู้รอดชีวิตจากวันสิ้นโลก!
นี่คือความคิดของซูไป๋
ก่อนหน้านี้…..ซูไป๋ทำคะแนนด้วยตัวคนเดียวมาโดยตลอด
แม้ว่าเขาจะได้รับคะแนนการเอาชีวิตรอดมากมายในทุกวัน, จนความแข็งแกร่งของเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วในระดับที่คนธรรมดาไม่สามารถจินตนาการได้
แต่เขาก็ยังรู้สึกถึงแรงกดดันที่อยู่บนบ่าอยู่ดี!
……
เเต่ตอนนี้…..มันแตกต่างออกไปเเล้ว
ไกด์ไลน์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับรังซอมบี้ทั้งสองแห่ง
อาคารสีขาวหลังน้อยและถนนสายบันเทิง
ทั้งสองเเห่งไม่เพียงแต่ทำกำไรมหาศาลจากคะแนนการเอาชีวิตรอด……แต่ยังทำให้เขามองเห็นวิธีการอื่นๆในการเพิ่มคะแนนและแข็งแกร่งขึ้น
อาคารสีขาวหลังน้อยและถนนสายบันเทิง จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
เมื่อเวลาผ่านไป เเละเขามีรังซอมบี้ไว้ฟาร์มมากขึ้นเรื่อยๆ
เขาก็จะได้รับคะแนนการเอาชีวิตรอดมากขึ้นเรื่อยๆ….และมีความหวังในอนาคตมากขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกัน
ซูไป๋ยังเชื่อเช่นนั้น
ตราบใดที่เขายังคงแข็งแกร่งขึ้นเช่นนี้
แม้ว่าวันสิ้นโลกจะมาถึงและอารยธรรมจะสูญสิ้น…...เขาก็จะยังคงรักษาเปลวไฟของอารยธรรมจวบจนถึงวันสิ้นโลกผ่านพ้น
จากนั้น, เขาก็ฟื้นฟูอารยธรรมขึ้นมาใหม่ท่ามกลางซากปรักหักพังนี้เอง!
….…
เมื่อมองไปที่มุมมองถนนเเละมีลมหนาวพัดมา
ซูไป๋รู้สึกว่าจิตใจของเขาดีขึ้นมากในทันใด
อย่างน้อยมันก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนซึ่งเขามักจะรักษาความรู้สึกเร่งรีบ ราวกับว่ามีอันตรายบางอย่างไล่ตามข้างหลังเขาอยู่ตลอดเวลา!
ตอนนี้
เขาจะยังคงเก็บคะเเนนและเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวเองต่อไป
แต่อย่างน้อยก็เริ่มสงบสติอารมณ์ได้บ้าง (มีคนช่วยเเล้ว)
หลังจากเปลี่ยนความคิดเสร็จแล้ว ซูไป๋ก็เดินไปที่โรงอาบน้ำอย่างสบายใจ
เเต่ยังไม่ทันได้เข้าใกล้โรงอาบน้ำ
ซูไป๋ก็สังเกตเห็นร่างสามร่างที่คุ้นเคยอีกครั้ง
ณ ตอนนี้…..อารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นอีกครั้ง
คะเเนนการเอาชีวิตรอดที่มาหาถึงหน้าบ้านเเบบนี้…..เขาจะปล่อยไปได้อย่างไร
ด้วยรอยยิ้ม ซูไป๋เอามือล้วงกระเป๋าและเดินช้าๆ ไปยังสามคนที่เดินเตร่อยู่นอกเย่หยวนบาร์มาเป็นเวลานาน
……………