ตอนที่ 7 กลับสู่ชีวิตจริง
ตอนที่ 7 กลับสู่ชีวิตจริง
โลกแห่งความจริงเป็นสถานที่ที่น่าตลกสำหรับเขา
ความรู้ในชาติก่อนของเขาเป็นเหมือนสูตรโกงภายในเกม ... แต่มันกลับเหมือนตั๋วย้อนเวลาไปแก้ไขความผิดพลาดที่เขาได้เคยทำไว้ในชีวิตที่แล้ว
ประสบการณ์ชีวิต 20 ปีได้สอนเขาว่าใครมีความสำคัญกับตัวเขามากกว่ากัน
เขาเลิกติดต่อกับเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยไปตอนประมาณ 2 ปีหลังจากเรียนจบ
แต่เขาติดต่อกับเพื่อนสมัยมัธยมนานกว่านั้น โดยเฉพาะเจ้าอ้วนคาลาช แต่เขาไม่เคยใส่ใจในความสัมพันธ์นี้เลย
เขามันแต่ไล่ตามหญิงสาวผู้โง่เขราที่ทิ้งเขาไปตอนที่เธอเจอคนที่ดีกว่าตัวเขา ช่างน่าขันที่ตอนนั้นเขาได้วางแผนที่จะขอเธอแต่งงานด้วยซ้ำ
เขาไม่สามารถติดต่อกับน้องชายได้หลังจากที่เขาเข้าเรียนมัธยมปลาย
เขาติดต่อกับพ่อไม่ได้เช่นกันตอนประมาณหนึ่งปีหลังจากนั้น
ครั้งเดียวที่พวกเขาได้กลับมารวมตัวกันทั้งครอบครัวคือก็ตอนที่แม่ของเขาป่วยหนักภายในอีก 10 ปีข้างหน้า
อดีตของเขาเต็มไปด้วยข้อผิดพลาด แต่เขาจะกระทำผิดซ้ำสอง
เขาอาจจะไม่ใช่บุคคลที่ทรงพลังเหมือนในเกมแต่เขาถือว่าสนามรบที่แท้จริงของเขาอยู่ที่นี่ ภายในโลกจริงเห่งนี้
เขาจะไม่ทำเรื่องผิดพลาดแบบนั้นกับคนที่อยู่เคียงข้างเขาอีกแล้ว
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในวันนี้เป็นวันที่เขาจะได้เจอกับเจ้าอ้วนคาลาซอีกครั้ง
พวกเขานัดกันว่าจะไปเจอกันที่ร้านอาหารใหล็กับโรงเรียนมัธยมปลายที่พวกเขาจบมา
เจ้าอ้วนคาลาซเป็นเพื่อนแท้เพียงคนเดียวของเขา ที่คอยอยู่เคียงข้างเขามาตลอด....มีครั้งหนึ่งที่เขาให้เงิน 100,000 ดอลลาห์ ที่เก็บออมมากว่า 5 ปี ให้กับรูดร้าตอนที่รูดร้าไม่มีเงิน ... เขาเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ที่จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่มอบให้ได้กับเพื่อนของเขา เขาเป็นคนที่ควรรักษาไว้
เขาไม่เคยวนใจเจ้าอัวนคาลาซเลยในชีวิตที่แล้ว ตอนที่เจ้านั่นบอกกับรูดร้าว่าผู้หญิงที่เขาออกเดทด้วยนั้นเป็นางแพศยา รูดร้าถึงกับตบเจ้าอัวนคาลาซและตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับเขา แต่เจ้านั่นพูดถูก!
เขาดีใจมากอตนเห็นเจ้าอ้วนคาลาซเดินเข้ามาในร้าน อารมณ์ต่างๆ มากมายก็หลั่งไหลเข้ามาในตัวเขา แต่สีหน้าของเขาที่แสดงออกมาได้ก็มีแค่รอยยิ้มเท่านั้น
รอยยิ้มที่เหล่าชายหนุ่มมักจะมอบให้กับเพื่อนสนิทของพวกเขา
รอยยิ้มแบบกึ่งยิ้มกึ่งเยาะเย้ย
เป็นที่รอยยิ้มที่ต้องการจะบอกว่า
"โย่ ไอ้ตูดหมึก"
เจ้าอ้วนคาลาซยิ้มตอบกลับ
" ยินดีด้วยตัวนายชักจะเหมือนลิงเข้าไปทุกทีแล้วนะ" เขาพูดขณะนั่งลง
รูดร้าลูบผมของเขา .... เพราะเขาขี่จักรยานมา ลมจึงพัดผมของเขาปลิวว่อนไปหมด
“ฉันก็ทำตัวให้สมกับเป็นเพื่อนของกอลิล่าตัวอ้วนไง” เขาโต้กลับ
พวกเขาจ้องตากันเหมือนจะให้ตายกันไปข้าง
แล้วพวกเขาก็หัวเราะออกมา
ความตึงเครียดหายไปและถูกแทนที่ด้วยบทสนทนาที่ไหลลื่น
พวกเขาคุยกันทุกเรื่องและแถบไม่ได้กินอาหารที่สั่งมาเลย
เจ้าอ้วนตกใจมากตอนที่ได้ยินว่ารูดร้าย้ายออกจากบ้านมาอยู่ที่ห้องเช่าเพื่อที่จะหางลู่ทางของตัวเอง รูดร้าที่มักจะเป็นคนง่ายๆ สบายๆ กลับเริ่มจริงจังกับการหาเงิน ..... สิ่งนี้ทำให้ความกังจลใจของเขาสลายหายไป
เขามักเป็นกังวลเกี่ยวกับเพื่อนที่ไม่รู้จักโตของเขาคนนี้เสมอ.... เขาเป็นที่มีความสามารถแต่เป็นคนที่มีนิสัยงี่เง่ามาก แต่ในวันนี้ดูเหมือนว่าเขาจะเปลี่ยนไปแล้ว
แม้ว่าเขารูดร้าคนเดิมที่ทำตัวเอื่อยเฉื่อยอยู่เสมอแต่เขาก็ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น..... ตอนนี้เขากลับดูเหมือนคนที่อายุ 40 กว่า .... ไม่ใช่คนที่อายุ 21 ปี
เจ้าอ้วนก็เล่นโอเมก้าเหมือนกัน ดังนั้นหัวข้อการพูกคุยต่อไปจึงเป็นเรื่องของเกมโอเมก้า
“นายเล่นโอเมก้างั้นเหรอ”
“แน่นอน!! ฉันไม่ได้มุดหัวอยู่ในถ้ำนะเพื่อน” รูดร้าโต้กลับ
“คุณเล่นคลาสอะไร?? อาณาจักรไหน?” เจ้าอ้วนถามอย่างตื่นเต้น
“อัศวิน อาณาจักรเฮเซลโกรฟ” เขากล่าว
" โอ้โห... ฉันเลือกคลาสช่างตีเหล็กและเลือกอาณาจักรเฮเซลโกรฟ.... ฉันอยู่เลเวล 3 แล้วนะ "
“คิดไว้แล้ว นายเป็นคนมราชอบทำงานฝีมือมาตลอด แถมตอนนี้ยังเป็นวิศวกรเครื่องกลด้วย” เขากล่าว
" นายเคยได้ยินเรื่องผู้เล่น 'ศกุนิ'ไหม เขาโคตรสุดยอดเลย .... เขาเลเวล 10 แล้ว เหลือเชื่อไหมล่ะ ..... ฉันพนันได้เลยว่าเขาต้องเป็นลูกของผู้พัฒนาเกมหรืออะไรที่คล้ายกันแน่นอน "
รุดร้าแทบกลั้นขำไม่อยู่
เขาสงสัยว่าเจ้าอ้วนจะเป็นอย่างไรตอนที่เขาบอกเขานี่แหละเขาคือ 'ศกุนิ' .....แต่เขายังไม่สามารถบอกได้ ... จนกว่าเขาจะเตรียมการบางอย่างให้เสร๊จก่อน ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ยิ้มตอบ
เขาจำเป็นต้องปิดบังตัวตนที่แท้จริงของเขา
การโอ้อวดมีแต่จะสร้างปัญหาให้เขา
จนกว่าจะไม่มีใครรู้ว่าเขาคือ 'ศกุนิ' เขาคงจะสามารถดูแลตัวเองได้
“ฉันคิดว่าไอ้เวรนั่นก็แค่โชคดีเท่านั้นแหละ” เขากล่าว
พวกเขามีบทสนทนากันมากมายและในที่สุดก็ตัดสินใจว่าถ้ามีใครในกลุ่มนี้ก่อตั้งกิลด์ขึ้นมา คนที่เหลือจะเข้าร่วมแน่นอน
พวกเขาจ่ายเงินและลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะออกไป
ไม่มีคำกล่าวลาในหมู่ชายฉกรรจ์
แต่รูดร้าได้พูดบางสิ่งในใจเขาออกมา
“เฮ้ เจ้าอ้วน ขอบคุณที่นายยอมเป็นเพื่อนของฉันนะ”
เขาพูดขณะเดินออกไป เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมการแสดงอารมณ์จึงเป็นเรื่องยากสำหรับเขา มันเป็นประโยคขอบคุณง่ายๆ แต่กลับทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ
บางทีการด่ากันอาจเป็นวิธีสื่อสารกับเพื่อนวิธีเดียวล่ะมั้ง
เขาแวะซื้อของกินเบาๆ ก่อนกลับห้องพีก
โทรกลับไปบ้านบอกและพ่อกับแม่ว่าเขาสบายดี...
เขากินเยอะมากจนน่าจะอิ่มไปอีก 1 วันเต็มๆ และตอนนี้เขาก็จะเริ่มวางแผนหาเงินแล้ว
ขณะที่เขาสวมชุดหูฟัง หน้าจอเกมที่คุ้นเคยของโอเมก้าก็ปรากฏขึ้น จากนั้นเขาก็กลับมาที่หมู่บ้านแบล็ควอเตอร์พร้อมกับเสาแสงสีขาว
นักผจญภัยส่วนใหญ่ยังไม่รู้เรื่องนี้ แต่ถึงแม้จะถึงเลเวล 10 แล้ว คุณก็ยังไม่สามารถเดินไปเมืองหลวงได้ เพราะอันดับแรกคุณต้องได้รับจดหมายอนุญาติจากสำนักงานบริหารของหมู่บ้านก่อน
เขาเดินเข้าไปในสำนักงานบริหาร
มีชายร่างกำยำมีหนวดเหมือนฮิตเลอร์เดินทักทายเขา
“ท่านได้ไวเคาต์ มีอะไรให้ข้ารับใช้หรือไม่?” NPC ถามด้วยความเคารพอย่างยิ่ง
"ข้าต้องการลงทะเบียนนักผจญภัย ข้ามาถึงเลเวล 10 แล้วและต้องการเดินทางเข้าเมืองหลวง"
NPC ยิ้มตอบ
“แน่นอนครับท่าน แต่เนื่องจากท่านเป็นอัศวินที่มีชื่อเสียงและเป็นไวเคานต์แห่งอาณาจักร ข้าคิดว่าท่านน่าจะไม่จำเป็นต้องใช้มันในการเข้าสู่เมืองหลวง”
รูดร้าตบหน้าผากของเขา ใช่แล้วตอนนี้เขาเป็นขุนนางแล้วนี่นา .... เขาไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนเหมือนคนทั่วไป
เขาไม่คุ้นชินกับเรื่องแบบนี้เลย ใครจะว่าเขาได้?
เมื่อเขาได้รับรหัสนักผจญภัยแล้วจึงตัดสินใจออกเดินทาง.....มุ่งสู่เมืองหลวง