บทที่ 53 : ราคาสูงเสียดฟ้า, แกนเวทมนตร์ระดับเจ็ด!
บทที่ 53 : ราคาสูงเสียดฟ้า, แกนเวทมนตร์ระดับเจ็ด!
บุตรชายของบารอนเล็กๆคนหนึ่ง…..สามารถเอาชนะท่านจูกูเลียนเเละจับเขาเป็นเชลยได้งั้นหรือ?
นั่นจะต้องเป็นเรื่องโกหกอย่างไม่ต้องสงสัย!
นี่ยังไม่ได้พูดถึงเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านจูกูเหลียนคนอื่นๆอีก
ดังนั้น…..นี่จะต้องเป็นข้อมูลเท็จอย่างเเน่นอน
"ตามข้อมูล, ชายที่ชื่อบารอนเรย์มอนด์น่าจะอายุไม่เกิน 20 ปี.." เอิร์ลกูตันพูดขึ้นอีกครั้ง และคำพูดนี้ของเขาก็เหมือนระเบิดลงกลางที่ประชุม!
“อายุต่ำกว่ายี่สิบปีเหรอ? เป็นไปได้ยังไง.....นี่มันเป็นไปไม่ได้!”
กริฟฟินพูดด้วยสีหน้าเหมือนเห็นผี….เขาไม่ยอมรับเรื่องนี้เด็ดขาด
ต้องรู้ก่อนว่าเขานั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นนักรบอัจฉริยะมาตั้งแต่เด็กๆ
ยิ่งไปกว่านั้น พ่อของเขา, เอิร์ลกูตัน ยังทุ่มเทความพยายามเเละทรัพยากรทั้งหมดเพื่อฝึกฝนเขา!
แต่ถึงกระนั้น, เขาก็มีอายุเกือบสามสิบห้าปีก่อนที่จะไปถึงระดับหก ได้สำเร็จ
เเต่ตอนนี้มีคนมาบอกว่าอีกฝ่าสามารถไปถึงระดับหกได้ ด้วยอายุน้อยกว่ายี่สิบปีงั้นเหรอ?
สิ่งนี้, มันจะเป็นไปได้อย่างไร?
“ออสซิส, เจ้าอายุเท่าไหร่ตอนที่กลายเป็นอัศวินระดับหก?” เอิร์ลกูตันถามขึ้นอีกครั้ง
“ยี่สิบเจ็ด...ไม่สิ, ข้าทำได้ตอนอายุเกือบยี่สิบแปด!” ออสซิสพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ในขณะนี้…..แม้แต่อัจฉริยะที่แท้จริงอย่างเขาก็ยังถูกข่ม
ผู้เชี่ยวชาญระดับหก, ที่อายุน้อยกว่ายี่สิบปี….นี่เขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?
แม้กระทั่งตอนที่เขาร่ำเรียนอยู่ที่อาณาจักรดิ๊ก….เขาก็ยังไม่เคยได้ยินว่ามีสัตว์ประหลาดเช่นนี้มาก่อน
……
ในเวลานี้ จู่ๆเอิร์ลกูตันก็พูดขึ้นอีกครั้ง
“เอาล่ะ…..ทีนี้มาพูดถึงความคิดเห็นของพวกเรากัน”
“ข้ามีสองคำถาม, หนึ่งพวกเจ้าอยากช่วยจูกูเลียนไหม?.....เเละสอง พวกเจ้าต้องการแก้แค้นเรื่องนี้ไหม”
“ท่านเอิร์ล ถ้าอีกฝ่ายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับหกซึ่งมีอายุน้อยกว่า 20 ปีจริงๆ…..ข้าขอแนะนำว่าเราควรจะระมัดระวังให้มากขึ้น”
“ไม่ต้องพูดถึงนครรัฐเลนของเรา……แม้ว่าจะอยู่ในอาณาจักรดิ๊ก ข้าก็ยังไม่เคยพบเห็นอัจฉริยะระดับสัตว์ประหลาดแบบนี้เลย!”
“เเละเบื้องหลังของสัตว์ประหลาดชนิดนี้….คงจะทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ, ไม่อย่างนั้น เขาจะสามารถเเสดงพลังที่น่าทึ่งเช่นนี้ได้อย่างไร” ออสซิสเอ่ยอย่างจริงจัง
“ท่านพ่อ, ข้าคิดว่าเราต้องระมัดระวังเรื่องนี้ให้มากเช่นกัน….อย่าพึ่งพูดถึงเรื่องอื่นเลย แค่ความแข็งแกร่งของเขาและสัตว์เวทย์ที่บินได้”
“นั่นก็ไม่รู้ว่าเราต้องจ่ายราคาเท่าไหร่เพื่อที่จะฆ่าเขา…..หรือแม้กระทั่งว่าเราจะฆ่าเขาได้หรือไม่ ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องหมายคำถามว่าถ้าการลงมือของเราล้มเหลว…..มันจะเป็นหายนะครั้งใหญ่สำหรับเราอย่างเเน่นอน!” เลเลียก็เอ่ยอย่างเคร่งขรึมเช่นกัน
เอิร์ลกูตันพยักหน้ารับความเห็นของทั้งสอง
จากนั้น, เขาก็มองไปทางกริฟฟินลูกชายของเขา
“กริฟฟิน….เจ้าคิดว่าไง”
“ข้าเเล้วเเต่ท่านพ่อเลย”
“เอาล่ะ….งั้นคำถามสุดท้าย” เอิร์ลกูตันถอนหายใจและกล่าวต่อ
“อีกฝ่ายต้องการเเกนเวทย์มนตร์ระดับเจ็ดสองชิ้นเพื่อเป็นการไถ่ตัวจูกูเลียน…..ไม่ต้องพูดถึงว่าข้าไม่มีสิ่งเหล่านี้, เเต่แม้ว่าข้าจะมี, พวกเจ้าคิดว่ามันคุ้มหรือไม่!”
เมื่อได้ยินคำถามนี้ ทุกคนก็เงียบทันที
แกนเวทย์มนตร์ระดับเจ็ด!
แล้วยังต้องการถึงสองชิ้น?
พูดตรงๆ…..ราคาที่อีกฝ่ายขอมานั้นมันแพงมากเกินไป
แต่อย่างไรก็ตาม, จะให้พวกเขาเพิกเฉยต่อจูกูเลียน…..มันก็เป็นไปไม่ได้!
ท้ายที่สุดแล้ว เขาอยู่ในระดับหก และเขาภักดีต่อเอิร์ลกูตันเป็นอย่างมาก!
กล่าวอีกนัยหนึ่ง
ปัญหาของพวกเขาตอนนี้กลายเป็น
ต่อสู้?.....เเต่ก็ไม่กล้าสู้!
ไถ่ถอน?......เเต่ก็ไม่สามารถแลกได้
ยอมแพ้?.....แต่ก็ไม่เต็มใจที่จะทำเช่นนั้น!
เป็นสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกโดยสมบูรณ์!
เมื่อเห็นฉากนี้, เอิร์ลกูตันก็ถอนหายใจและหันไปถามพ่อบ้านโอฮาร์ต!
“ผู้เฒ่า ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า เจ้าคิดว่าข้าควรทำอย่างไรดี…..ตอนนี้ข้าเริ่มสับสนนิดหน่อยแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้, โอฮาร์ตก็นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
จากนั้นเขาก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้น, เเละพูดออกมาอย่างช้าๆ
“ท่านลอร์ดของข้า, ข้าคิดว่าท่านจูกูเลียนต้องได้รับการไถ่ถอน”
"ทำไม?" เอิร์ลกูตันถามทันที
“ก่อนอื่น ท่านจูกูเหลียนเป็นคนที่ภักดีต่อท่านอย่างแท้จริง มันคุ้มค่าที่จะช่วยเหลือเขา…..เเละในอนาคตเขาจะมอบรางวัลที่ยิ่งใหญ่กว่าให้กับท่าน!”
“ประการที่สอง, ท่านจูกูเลียนเป็นอัจฉริยะเช่นเดียวกับท่านออสซิส……เขามีความหวังที่จะไปถึงระดับเจ็ด”
“ท่านลอร์ดของข้า, ท่านควรเข้าใจว่าโอกาสไปถึงระดับเจ็ดนี้หายากมากเเค่ใหน….หากท่านสูญเสียไปหนึ่ง, ข้าเกรงว่าท่านคงจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะได้คืนมา”
"ซึ่งมันไม่คุ้มค่าต่อท่านเลย!"
เมื่อได้ยินคำเเนะนำนี้….ทุกคนก็พยักหน้ารับเงียบๆ
แท้จริงแล้ว, ในหมู่พวกเขา คนที่มีความหวังมากที่สุดในการขึ้นสู่ระดับเจ็ดนั้น
คนแรกคือออสซิสเเละคนที่สองก็คือจูกูเลียน!
และถึงแม้มันจะเป็นเพียงโอกาส…..แต่มันก็มีค่ามากอยู่แล้ว
“และถ้าเราคิดจากอีกมุมหนึ่ง เงินนี้ไม่ใช่แค่เงินค่าไถ่ตัวเชลย…..แต่ยังเป็นเงินลงทุนด้วย”
ดวงตาที่ขุ่นมัวของโอฮาร์ตส่องประกายด้วยแสงแห่งปัญญาเเละกล่าวต่อเบาๆ
“เราไม่ต้องสนว่าเขาจะมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งหรือไม่….เพียงเเค่เขามีพรสวรรค์ระดับสัตว์ประหลาดเช่นนี้, มันก็คุ้มค่าที่จะลงทุนในตัวเขาเเล้ว”
“อัจฉริยะระดับหกที่มีอายุน้อยกว่ายี่สิบปี…..ข้าไม่รู้ว่าขีดจำกัดของเขาจะอยู่ที่ระดับไหน, แต่เขาจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเจ็ดได้อย่างแน่นอน”
“เเละถ้าให้เวลาเค้าสักหน่อย….การเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับแปด, ก็มีความเป็นไปได้สูงมาก”
“ยิ่งกว่านั้น ถ้าเขาไปถึงตำนานระดับเก้าล่ะ”
“ท่านเอิร์ล….ข้าคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีจริงๆ, ท่านคิดว่าไง”
ทันทีที่ข้อความนี้ออกมา ทุกคนก็ตกตะลึงเเละอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
ใช่…..เขาคืออัจฉริยะระดับหก ที่อายุน้อยกว่ายี่สิบปี
เเล้วเเบบนี้ขีดจำกัดในอนาคตของเขาจะอยู่ที่ไหน?
ระดับเจ็ด?…..นั่นเป็นเรื่องง่ายอย่างแน่นอน, เเละเเค่ ณ จุดๆนี้การลงทุนของพวกเขาก็น่าจะได้รับการชำระคืนแล้ว!
จากนั้น, มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาไปถึงระดับแปด? หรือแม้กระทั่งระดับเก้า?
เเบบนั้น….พวกเขาจะได้รับประโยชน์มากมายเลยไม่ใช่เหรอ
แล้วทำไมพวกเขาถึงไม่คิดได้เเบบนี้บ้างนะ (พ่อบ้าน MVP 5555)
"ฮ่าๆๆๆ!"
หลังจากกวาดล้างหมอกควันเเห่งความสับสนก่อนหน้านี้ออกไปได้เเล้ว
ในที่สุดเอิร์ลกูตันก็หัวเราะออกมา
ถูกต้อง….ค่าไถ่นี้ต้องชำระ!
เพราะนี่คือข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับพวกเขาที่จะมีโอกาสในการผูกมิตรกับผู้ยิ่งใหญ่ในอนาคต!
เเละมันจะคุ้มค่าอย่างมาก!
……….
“แต่เราจะทำอย่างไรกับแกนเวทย์มนตร์ระดับเจ็ด?”
“เราจะหาจากใหนตั้งสองชิ้น!” ทันใดนั้นเลเลียก็พูดอย่างเป็นกังวล
ราคาตลาดของแกนเวทมนตร์ระดับเจ็ดมีราคา, หนึ่งแสนเหรียญทองขึ้นไป
แล้วสำหรับสองชิ้นล่ะ….นั่นมากกว่าสองแสนเหรียญทอง!
และปัญหาอีกอย่างคือ นี่เป็นเพียงราคาตลาดเท่านั้น ไม่มีทางที่ราคาขายจริงจะต่ำขนาดนี้!
นี่เป็นทรัพยากรเชิงกลยุทธ์จึงไม่มีใครกล้าขายมัน
ดังนั้น, หากเจ้าต้องการซื้อแกนเวทมนตร์ระดับเจ็ด 2 ชิ้น…..เจ้าจะต้องเริ่มต้นด้วยเงินอย่างน้อย 300,000 เหรียญทอง!
เเละแม้ว่าจะเข้าใกล้ราคา 400,000 เหรียญทอง, มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ดังนั้น, การซื้อเเกนเวทย์มนต์ระดับเจ็ดนี้จะทำให้ความมั่งคั่งของพวกเขาลดลงอย่างแน่นอน
ที่สำคัญกว่านั้น…..พวกเขาอาจจะไม่สามารถหาซื้อได้เลย, เเละนี่คือปัญหาที่ใหญ่ที่สุด!
ในที่สุด, เอิร์ลกูตันก็หลับตาและเอ่ยออกมา
“ตอนนี้ข้าไม่มีแกนเวทย์มนตร์ระดับเจ็ด….เเละถ้าข้าต้องการซื้อ มันก็มีเพียงสองวิธีเท่านั้น”
“หนึ่งคือหอการค้าฟีนิกซ์, และสองคือราชวงศ์”
“เเต่สำหรับราชวงศ์, เราไม่ต้องคิดถึงเรื่องนี้ด้วยซ้ำ”
“มันเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะขายสิ่งสำคัญเช่นนี้ให้กับเรา…..ดังนั้น, มีเพียงหอการค้าฟีนิกซ์เท่านั้นที่มีความหวังมากที่สุด”
“เเต่อย่างไรก็ตาม, ตามราคาของแกนเวทมนตร์ระดับเจ็ด 2 แกน…..เราไม่น่าจะมีเงินพอที่จะซื้อพวกมันได้!”
ในฐานะเอิร์ล, เขารู้จักหอการค้าฟีนิกซ์เป็นอย่างดี
ของถูกย่อมถูกมาก….และของแพงก็จะแพงมากเช่นกัน, ซึ่งพวกเขาถนัดการหาเงินจากทรัพยากรเชิงกลยุทธ์เช่นนี้!
เจ้าต้องการมันอย่างเร่งด่วนใช่หรือไม่?......ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ต้องกัดฟันแล้วซื้อในราคาที่แพงกว่าปกติ!
“ท่านเอิร์ล…..อันที่จริงเเล้ว, เราไม่จำเป็นต้องซื้อแกนเวทย์มนตร์ระดับเจ็ดถึงสองชิ้นก็ได้” โอฮาร์ตพูดขึ้นอีกครั้ง
“ข้าได้อ่านจดหมายของลอร์ดจูกูเลียนแล้ว เเละอีกฝ่ายเพิ่งจะเอ่ยถึงข้อเเลกเปลี่ยน…..ดังนั้นเราสามารถยื่นข้อเสนอตอบโต้”
“นอกจากนี้ ข้าคิดว่านี่เป็นโอกาสพิเศษด้วย”
"โอกาส….โอกาสอะไร?" เอิร์ลกูตันถามอย่างสงสัย
“เขาต้องการแกนเวทย์มนตร์ระดับเจ็ด 2 ชิ้นใช่ใหม?”
“เราก็ส่งหนึ่งชิ้นไปก่อน, แล้วเราก็เป็นหนี้เขาอีกหนึ่งชิ้น”
“จากนั้น, เราก็อ้างว่าไม่สามารถจ่ายชิ้นที่ค้างอยู่ได้ในขณะนี้ ดังนั้นเราจะใช้กำลังคนของเราเพื่อชำระเงินส่วนนี้ไปก่อน……ข้าคิดว่าเราสามารถให้หน้าที่นี้เป็นของเลเลียไปได้”
“ท่านเอิร์ล ถ้าเราได้ใกล้ชิดกับเขามากขึ้น….นี่ไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดของเราหรือ?”
“นอกจากนี้ คุณหนูเลเลียก็ไม่ต้องการที่จะแต่งงานกับเจ้าชายคนที่หกด้วย…ดังนั้นนี่ก็ถือเป็นโอกาสเช่นกัน”
“และเรายังสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับภูมิหลังและความแข็งแกร่งที่แท้จริงของบารอนเรย์มอนด์ได้ด้วย!”
“เรียกได้เลยว่านี้คือ การบรรลุเป้าหมายได้หลายอย่างด้วยหินก้อนเดียว!”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทุกคนก็ตกตะลึงอีกครั้ง
จากนั้น, เลเลียก็ยืนขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ลุงโอฮาร์ต…..ลุงเป็นอัจฉริยะจริงๆ”
“ใช่แล้ว…..ข้าไม่ต้องการแต่งงานกับเจ้าเเคเกิลไร้ค่านั่น”
“ท่านพ่อ ให้ข้าไปเถอะ….ข้าเต็มใจที่จะไปอยู่กับบารอนเรย์มอนด์”
[แคเกิล-เลน]…..เจ้าชายคนที่หกแห่งนครรัฐเลน, ขยะบริสุทธิ์ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ!
เขามีสติปัญญาต่ำและไร้ประโยชน์มาก…..แต่เขาได้รับการหมั้นหมายกับเลเลียแล้ว, และนั่นพึ่งจะเกิดขึ้นไม่นานนี้เอง
พูดตรงๆ…..นี่เป็นภัยคุกคามและการควบคุมจากราชวงศ์
เเต่พวกเขาก็ทำได้เพียงเชื่อฟังเท่านั้น
แต่ถ้าหากมีโอกาสแก้ไขเรื่องนี้ได้
หากสามารถทำให้การแต่งงานครั้งนี้พังทลายลงได้, เธอก็เต็มใจที่จะทุ่มเทความพยายามทุกอย่าง
…….
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง, เอิร์ลกูตันก็ถอนหายใจและพูดขึ้นมา
“เลเลีย ไปที่หอการค้าฟีนิกซ์แล้วถามเกี่ยวกับแกนเวทมนตร์ระดับเจ็ด”
เมื่อได้ยินเช่นนี้, ใบหน้าที่สวยงามของเลเลียก็เเสดงความประหลาดใจในทันที
จากนั้นดวงตาของเธอก็เริ่มมีสีแดง
“ขอบคุณท่านพ่อ….ขอบคุณ!”
"ไปได้เเล้ว" เอิร์ลกูตันโบกมือและพูดอย่างช่วยไม่ได้!
“ข้ารู้ว่าเเคเกลไม่ใช่คนดี….แต่เจ้าก็ต้องรู้ด้วยว่าข้าทำอะไรไม่ได้”
“แต่ถ้ามีโอกาสที่จะกอบกู้สถานการณ์เเบบนี้, เลเลีย ลูกสาวของข้า….โปรดอย่าลังเลที่จะทำ ส่วนข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสนับสนุนเจ้าทุกทาง!
"ขอบคุณค่ะ, ท่านพ่อ!"
……
ในไม่ช้า ใบเสนอราคาจากหอการค้าฟีนิกซ์ก็ส่งมาถึง
และแน่นอนว่าราคาของมันสูงเสียดฟ้า!
ราคาของเเกนเวทย์มนต์ระดับเจ็ดหนึ่งชิ้น….คือเหรียญทอง 230000 เหรียญ
และมีในสต็อก!
เเค่ถ้าอยากลดราคาก็ทำได้
หากเจ้าซื้อสินค้านี้จากประเทศอื่นก็ต้องรอถึงสามเดือน….เเละราคาจะลดลง 30,000 เหรียญ, แต่ก็ยังต้องใช้เหรียญทองเต็ม 200,000 เหรียญ
เเละในที่สุด
เอิร์ลกูตันและคนอื่นๆก็เลือกที่จะจ่ายเงินอย่างเชื่อฟัง
สามหมื่นเหรียญทองเเต่ต้องรอสามเดือนงั้นหรือ?
พวกเขารอนานขนาดนั้นไม่ได้หรอก (เดี๋ยวเรย์มอนด์มันเชือดเชลยทิ้ง)
ด้วยวิธีนี้, สามวันต่อมา….ด้วยการสูญเสียเลือด 230,000 เหรียญทอง
เอิร์ลกูตันและคนอื่นๆก็ประสบความสำเร็จในการซื้อแกนเวทมนตร์ระดับเจ็ดจากหอการค้าฟีนิกซ์!
จากนั้น, นำโดยเลเลียและทีมเล็กๆที่ประกอบด้วยสมาชิกไม่ถึงห้าคน…..พวกเขาออกจากเมืองเเฮนเซน เพื่อเดินทางไปหมู่บ้านเกรย์สโตนอย่างเงียบๆ
……..
อีกด้านหนึ่ง
หลังจากเดินทางมาหลายวัน…..ในที่สุดเรย์มอนด์และคนอื่นๆ ก็มาถึงจุดหมายปลายทาง——หุบเขาโฟโด้!
นี่เป็นที่ราบที่ดูกว้างใหญ่ไพศาลราวกับไม่มีที่สิ้นสุด
ทิวทัศน์โดยรอบสวยงามเเละเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี
สายลมพัดอยู่ตลอดเวลา ทำให้รู้สึกสบายตัวมาก!
"เรย์มอนด์, นี่คือผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างเมืองที่ข้าซื้อมาจากเมืองดยุค…..โอนีล!"
“เขาเป็นสถาปนิกระดับปรมาจารย์ที่มีเชื้อสายคนแคระ”
“และภายใต้ฝีมือเขา มีเมืองอย่างน้อยสามเมืองที่มีประชากรเกิน 100,000 คนถือกำเนิดขึ้น”
“แต่ตอนนี้ประเทศของเขาได้รับความเดือดร้อน….จนนำไปสู่ความพินาศแห่งสงคราม”
“และเขาก็เป็นหนึ่งในเหยื่อของสงครามและกลายเป็นทาสเช่นนี้”
แมตต์-เยอร์มัน, พาผู้ชายคนหนึ่งมาเเนะนำให้เรย์มอนด์รู้จัก
“เรียนท่านลอร์ด…..ข้าเป็นทาสของท่าน, ชื่อโอนีล” ชายชราผมขาวพูดกับเรย์มอนด์ด้วยท่าทีระมัดระวัง
"ทาส….งั้นหรอ"
เรย์มอนด์รู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย
สำหรับเขา….นี่เป็นคำที่น่าสะเทือนใจมาก, แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าในโลกนี้ การดำรงอยู่ของทาสนั้นอยู่ใกล้ตัวเขามากจริงๆ!
“โอนีล ข้าต้องการความช่วยเหลือบางอย่างจากเจ้า”
“อย่างที่เจ้าเห็น ข้าต้องการสร้างเมืองใหม่ที่นี่…..ถ้าเจ้าช่วยข้า, ข้าจะถอดเจ้าออกจากสถานะทาสทันที”
เมื่อได้ยินเช่นนี้, โอนีลก็สับสนอยู่ครู่หนึ่ง
เเต่หลังจากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้น เเละจ้องมองที่เรย์มอนด์อย่างไม่อยากจะเชื่อ!
“ท่านบารอน ท่านพูดจริงหรือ?”
เมื่อได้เห็นฉากนี้….แมตต์-เยอร์มันก็ได้เเต่ถอนหายใจ
เขาเดาไว้แล้วว่าด้วยพฤติกรรมในปัจจุบันของเรย์มอนด์…..บารอนของเขาคงจะทำแบบนี้เช่นนี้จริงๆ
"ที่อื่นจะเป็นอย่างไรข้าไม่สนใจ"
“เเต่ในดินเเดนของข้า….ทุกคนจะต้องมีอิสระในชีวิตของตน, เเละจะไม่อนุญาติให้มีการค้าทาสในดินแดนนี้เด็กขาด”
เรย์มอนด์กล่าวอย่างเคร่งขรึม
จากนั้นเขาก็ยิ้มอีกครั้งแล้วพูดว่า!
“โอนีล, เจ้าสามารถพึ่งพาความสามารถของเจ้าในการรับเงินนับจากนี้ไป……ยินดีด้วย, เจ้าเป็นอิสระแล้ว!”
(ถ้าเป็นทาสจะโดนใช้งานฟรีไปตลอดชีวิต)
………………