ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2 : ข้าอยากเรียนวรยุทธ์  

บทที่ 1 : คะแนนพลังงาน


บทที่ 1 : คะแนนพลังงาน

เปรี้ยง! ปร้าง!!

ฟ้าแลบวาบและฟ้าร้องคำราม น้ำฝนหยดลงมาจากชายหลังคาอย่างต่อเนื่อง

หยดน้ำหล่นกระทบลงบนพื้นหิน มันแตกกระจายและกระเด็นราวกับไข่มุกที่ตกลงบนแผ่นหยก สะท้อนด้วยเสียงที่คมชัดและน่าฟัง

ภายในห้องใต้หลังคา เด็กชายอายุไม่ถึงสิบขวบกำลังนอนอยู่บนเตียงไม้ที่เรียบง่าย ใบหน้าของเขาซีดเซียวและห่อด้วยผ้าห่มสีขาวซีด

ที่มุมห้องข้างเตาไฟ มีเด็กสาวร่างอ่อนแอคนหนึ่งกำลังยืนอยู่

เมื่อแสงแลบจากฟ้าผ่าส่องเข้ามาจากหน้าต่างที่แตก แสงสว่างวาบก็ได้ส่องลงมาที่เธอ เธอตัวสูงไม่เกินห้าฟุต มีผิวขาว หน้าตาไร้เดียงสา ปิวละเอียดอ่อนเล็กน้อย และสวมชุดผ้าลินินสีเทา

โดยไม่สนใจหยาดเหงื่อบนหน้าผาก เธอเทยาจากเตาลงในชามดินเหนียวที่เตรียมเอาไว้อย่างระมัดระวังก่อนที่จะรีบเดินไปข้างเตียง

“เสี่ยวหยุน ยาพร้อมแล้ว เมื่อดื่มแล้วเจ้าก็จะอาการดีขึ้นนะ”

เด็กสาวค่อยๆ เป่ายาหนึ่งช้อนเต็มแล้วนำไปวางไว้ที่ริมฝีปากของเด็กชายขณะที่เธอกระซิบเบาๆ

ทันใดนั้น แสงก็ส่องทะลุท้องฟ้า มันเจิดจ้า พร่างพรายและทำให้ทุกอย่างสว่างจ้าราวกับเวลากลางวัน

“ดื่มยานะ ดื่มยา!”

เพราะเธอกำลังพยายามป้อนยาน้องชายของเธอด้วยความกังวล ดังนั้นเด็กสาวจึงไม่ได้สังเกตเห็นแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องเข้ามาในห้องและผสานเข้าตรงระหว่างคิ้วของเด็กชายเลย

“อึก…”

“อึก…”

ลำคอของเด็กชายขยับเล็กน้อยในขณะที่เขากลืนยาลงคอ จากนั้นตามมาด้วยเสียงประหลาดใจและตื่นเต้นของหญิงสาว

“น้องพี่…”

ลู่หยุนได้ยินเสียงเรียกเล็กแหลม เขารู้สึกชาไปทั่วร่างกายราวกับว่ากระดูกและกล้ามเนื้อทุกส่วนได้แยกออกจากกัน พร้อมกับความเจ็บปวดที่อธิบายไม่ได้นี้ เขาค่อยๆ สัมผัสได้ถึงกระแสข้อมูลที่วุ่นวายที่ผสานเข้ากับจิตสำนึกของเขา

หมู่บ้านธารวิญญาณ

ภูเขาเมฆานิมิต

ลู่หยุนตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ ในห้องที่ทรุดโทรม

ในขณะเดียวกัน ความทรงจำประปรายก็ไหลท่วมท้นอยู่ในจิตใจของเขา มันทั้งแปลกใหม่และคุ้นเคย

ความทรงจำต่างๆ แล่นผ่านจิตใจของเขาอยู่เป็นเวลานาน หัวใจของลู่หยุนก็เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

ความตื่นเต้น ความสุข ความกังวล ความกลัว...

“การข้ามมิติเป็นเรื่องลึกลับในตำนานมาโดยตลอด ฉันไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นกับฉันในวันนี้”

ในเมื่อเขาได้อยู่ในจุดนี้แล้ว ลู่หยุนจึงยอมรับอย่างรวดเร็วถึงความจริงที่ว่าจิตวิญญาณของเขาได้ข้ามภพมาแล้ว

และโดยบังเอิญ บุคคลที่วิญญาณของเขาได้ย้ายเข้ามาก็มีอีกชื่อหนึ่งว่าลู่หยุน เหมือนกัน

ตามความทรงจำในใจของเขา นี่คือโลกแห่งศิลปะการต่อสู้ ที่ซึ่งสำนักยุทธ์ต่างแข่งขันกัน ครอบครัวขุนนางแย่งชิงอำนาจ ผู้ว่าการต่อสู้กัน และโจรก็สัญจรไปมาโดยไม่มีการควบคุม

นอกจากนี้ สัตว์อสูรก็ยังบุกมาโจมตีเมืองเป็นครั้งคราว พวกมันสร้างความหายนะให้กับโลกมนุษย์อย่างหนัก

เจ้าของร่างเดิมนี้เป็นเด็กชายชาวนาธรรมดาๆ ที่มีร่างกายอ่อนแอ หลังจากล้มป่วยอย่างหนัก สติสัมปชัญญะของเขาก็จางหายไปและถูกแทนที่ด้วยลู่หยุน!

“มันเป็นโลกที่มหัศจรรย์จริงๆ…”

ขณะที่ลู่หยุนค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งและเตรียมจะลุกออกจากเตียง จู่ๆ ประตูก็เปิดออก และร่างที่อ่อนแอในฝันของเขาก็ปรากฏตัวขึ้น

“เสี่ยวหยุน…” ด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม เด็กหญิงรีบวิ่งเข้ามากอดลู่หยุนโดยทันที ดวงตาของเธอชุ่มชื้นไปด้วยหยาดน้ำใส

“เสี่ยวหยุน ในที่สุดเจ้าก็ฟื้นขึ้นมาสักที”

“พี่สาว…” ลู่หยุนกระซิบเบาๆ เขารู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นและความสุขของหญิงสาว

เขารู้ดีว่าจากนี้ไปเขาจะต้องรับบทเป็นเจ้าของร่างนี้แล้ว

“พี่สาวระวังหน่อย ข้าหายใจไม่ออก” ในไม่ช้า ลู่หยุนก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ลู่หยู พี่สาวของเสี่ยวหยุนรู้สึกตื่นเต้นมากเกินไปจนเผลอกอดเขาจนหายใจไม่ออก

ร่างกายนี้อ่อนแอและอ่อนล้าจากอาการป่วยร้ายแรง ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงทำให้ลู่หยุนเพ่งสมาธิกับความคิดของเขาได้ยาก

“อ่า มันเป็นความผิดของข้าเอง ข้าตื่นเต้นเกินไป เจ้าดีขึ้นแล้วใช่ไหม?”

หลังจากปล่อยลู่หยุนและสังเกตใบหน้าที่ซีดเซียวของเขา ลู่หยูก็ถามด้วยความกังวล

“ไม่เป็นไร ข้าแค่ต้องการพักผ่อนเล็กน้อย ไม่ต้องห่วงข้านะพี่สาว” ลู่หยุนปลอบเธอให้มั่นใจ

“มันเป็นความผิดของเรา ทั้งของข้าและพี่ใหญ่ของเจ้า เราไม่ได้ดูแลเจ้าอย่างดี”

ลู่หยูลุกขึ้นยืน เธอเปิดหน้าต่าง และแสงแดดก็ส่องเข้ามา มันทำให้ทั้งห้องสว่างขึ้นมาในทันที

เมื่ออาบแสงแดดอันอ่อนโยน ร่างกายของลู่หยุนก็รู้สึกอบอุ่นและสบายขึ้น

“ร่างกายของข้าเป็นแบบนี้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้าต้องขอบคุณการทำงานหนักของพี่ใหญ่ และความเอาใจใส่ของพี่สาว ไม่เช่นนั้นข้าก็คงจะเอาตัวไม่รอดแน่” ลู่หยุนกล่าวด้วยรอยยิ้มและปลอบใจลู่หยู

ฝูงสัตว์อสูรขนาดเล็กได้บุกโจมตีโลกมนุษย์เมื่อสิบปีที่แล้ว พวกมันส่งผลกระทบต่อมณฑลเมฆาวารีและมณฑลอื่นๆ โดยรอบ และก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อหมู่บ้านธารวิญญาณ

พ่อของลู่หยุนซึ่งเป็นสมาชิกของทีมล่าสัตว์ในหมู่บ้านเองก็ได้เสียชีวิตลงอย่างน่าอนาถภายใต้กีบเท้าของสัตว์อสูร

แม่ของลู่หยุนเองก็ได้รับผลกระทบจากความโกลาหลวุ่นวาย มันได้ทำลายรากฐานของเธอและทำให้เธอให้กำเนิดลู่หยุนออกมาก่อนกำหนดและเสียชีวิตลงในที่สุด

เนื่องจากความทุกข์ทรมานจากการคลอด ลู่หยุนจึงเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ไม่เพรียบพร้อม สุขภาพของเขาอ่อนแอและมักจะป่วยหนัก

ในเวลานั้น ลู่หยูพี่สาวของเขาก็อายุได้เพียงสี่ถึงห้าขวบเท่านั้น

และลู่เหอ พี่ใหญ่ของเขาซึ่งอายุยังไม่ถึงแปดขวบก็ต้องกลายเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว

แม้ว่าทั้งพี่ชายและพี่สาวของเขาจะรักลู่หยุนมาก โดยพยายามหาสิ่งที่ดีที่สุดมาให้สำหรับเขา แต่กระนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรกับความบกพร่องแต่กำเนิดของเขาได้

อาจกล่าวได้ว่าลู่หยุนโชคดีมากที่มีชีวิตรอดอยู่มาได้จนถึงสิบปี

“พี่สาว แล้วพี่ใหญ่อยู่ที่ไหน? ทำไมข้าไม่เห็นเขาเลย?” ใบหน้าของลู่หยุนเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“เขาไปทดสอบทีมล่าสัตว์ ตราบใดที่เขาผ่านการทดสอบ เขาก็จะกลายเป็นสมาชิกของทีมล่าสัตว์ และสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวเราก็จะดีขึ้น” ขณะที่เธอพูดสิ่งนี้ ใบหน้าของลู่หยูก็ผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด และเธอก็ตั้งตารอที่จะมีอนาคตที่สดใสขึ้นกว่านี้

“ทีมล่าสัตว์?” ใบหน้าของลู่หยุนเองก็แสดงถึงความคาดหวัง

ทีมล่าสัตว์เป็นกองกำลังป้องกันของหมู่บ้านธารวิญญาณ และสมาชิกทุกคนก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ทรงพลัง

พวกเขามีพละกำลังมหาศาลและได้เพลิดเพลินกับการดูแลรักษาที่ดีที่สุด

น่าเสียดายที่ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวข้องกับลู่หยุน

ข้อบกพร่องแต่กำเนิดของเขาและรูปร่างที่อ่อนแอทำให้เขากลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ได้ยากกว่าคนธรรมดาถึงสิบเท่า

“แม้หลังจากก้าวเข้าสู่โลกแห่งศิลปะการต่อสู้แล้ว ฉันก็ยังคงถูกกำหนดให้เป็นคนธรรมดาและอ่อนแองั้นหรอ?”

ความรู้สึกอ้างว้างเพิ่มขึ้นในใจของลู่หยุน

“เสี่ยวหยุน นี่คือซุปที่ทำมาจากโสมโลหิต มันจะช่วยให้ร่างกายของเจ้าฟื้นตัวเร็วขึ้น”

ลู่หยูยื่นชามยาสมุนไพรที่ทำมาจากโสมโลหิตขึ้นมามอบให้เขา

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดลู่หยุนก็รับชามมาด้วยมือทั้งสองข้าง

เขาเคยดื่มซุปโสมโลหิตนี้อยู่บ่อยครั้งในอดีต แต่ผลของมันก็มีจำกัด มันแทบจะรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับรักษาโรคของเขา?

และเพื่อลดภาระของครอบครัว เขาจึงปฏิเสธที่จะกินซุปในตลอดปีที่ผ่านมา

แต่ตอนนี้ ลู่หยุนคนใหม่ก็ได้แตกต่างออกไป และแน่นอนว่าเขาจะไม่ปฏิเสธมัน

เมื่อได้รับโอกาสมีชีวิตครั้งที่สอง เขาก็ไม่ต้องการที่จะละทิ้งความหวังแม้เพียงเล็กน้อย

เมื่อซุปโสมโลหิตไหลลงสู่ท้องของเขา แสงวาบก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาของลู่หยุน และหน้าจอแสงก็ปรากฏขึ้นในขอบเขตการมองเห็นของเขา

[ คะแนนพลังงาน: +1.1 ]

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด