ตอนที่ 604 ทำไมถึงบวมแบบนั้นล่ะ?
ตอนที่ 604 ทำไมถึงบวมแบบนั้นล่ะ?
“นี่ศิษย์น้อง นกน้อยตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของผู้อื่น ดังนั้นอย่าไปทำร้ายมันเด็ดขาดเชียวนะ”
“หลังจากกลับไปที่ยอดเขาเสียดฟ้า ข้าจะพาเจ้าไปที่ไหนสักแห่งเพื่อจับยูนิคอร์นมาเล่นด้วย ตกลงไหม?”
ชู่เก๋อเย่หยูพยายามพูดด้วยความอดทน เธอนึกถึงยูนิคอร์นที่อ่อนโยนที่อยู่บริเวณด้านหลังของยอดเขาเสียดฟ้าและพยายามทำให้เธอสงบ
“ยูนิคอร์นเหรอ? มันคืออะไรกันน่ะ?”
ขณะที่เธอพึมพํากับตัวเอง เซียงหยุนจึงใช้จินตนาการของเธอเพื่อนึกถึงยูนิคอร์ยู่ในใจของเธอ ซึ่งยูนิคอร์นนั้นเป็นเพียงม้าที่มีเขาอยู่บนหัว
แต่หลังจากที่จินตนาการถึงรูปร่างของมันแล้ว เธอรู้สึกว่าภาพในหัวของเธอนั้นน่าเกลียดมาก ซึ่งทำให้เธอส่ายหัวทันที
เมื่อเห็นแบบนี้ ชู่เก๋อเย่หยูจึงพยายามอธิบายให้เธอฟัง
“ยูนิคอร์นน่ะมีลวดลายเฉพาะตัวอยู่บนร่างกายและพวกมันก็สวยงามมากๆ”
“พวกมันแต่ละตัวจะมีปีกอยู่ด้วย ดังนั้นเจ้าสามารถขี่พวกมันและบินขึ้นไปบนท้องฟ้าได้”
“งั้นเหรอ! แล้วเราจะกลับไปจับยูนิคอร์นนั่นที่ไหนล่ะ ข้าอยากขี่มันมากๆเลย!”
ขณะที่พวกเธอกับกำลังพูดคุยกัน พวกเธอก็ลอยไปเรื่อยด้วยและในที่สุดทั้งสี่คนก็มาถึงนิกายภูผาศักดิ์สิทธิ์
ระหว่างทางไปยังยอดเขาเสียดฟ้า พวกเธอยังได้พบกับผู้คนที่กลับมาจากนิกายเทพอมตะ
หลังจากเห็นว่ายื่อซวนและคนอื่นๆได้กลับมาแล้ว เย่หลุนก็เข้ามาหายื่อซวนด้วยรอยยิ้ม
“ผุ้อาวุโสยื่อ เจ้าบอกว่าเจ้าจะพาลูกศิษย์ของเจ้าออกไปดูโลกภายนอกไม่ใช่รึ? ทําไมเจ้าถึงได้กลับมาเร็วขนาดนี้ล่ะ?”
เย่หลุนถามด้วยความสงสัย และเมื่อเธอสังเกตเห็นเซียงหยุน เธอก็ยิ่งตกตะลึงเข้าไปอีก
ทําไมเขาถึงได้พาเด็กหญิงตัวเล็กๆคนนี้กลับมาด้วย?
หรือว่ายื่อซวนนั้นเคยแต่งงานมาแล้วและมีลูกก่อนที่เขาจะได้กลายเป็นผู้ฝึกฝน?
เมื่อคิดแบบนี้ เธอจึงถามด้วยความลังเลว่า "เด็กน้อยคนนี้เป็นใครกันน่ะ?"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ยื่อซวนจึงหันกลับมาและมองไปที่ ซียงหยุน ซึ่งกําลังเล่นกับผู้ฝึกตนหญิงบางคนจากยอดเขาวารี
เซียงหยุนนั้นสามารถทำให้ผู้ฝึกตนหญิงรู้สึกชอบใจและตลกจนทุกคนต่างก็หัวเราะออกมา
เมื่อเห็นแบบนี้ ยื่อซวนจึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เพราะจริงๆแล้วเซียงหยุนนั้นเป็นลูกศิษย์ที่เขาพากลับมาด้วยจากการออกไปโลกภายน้องกับลูกศิษย์ทั้งสงอคนของเขา...
จากนั้นยื่อซวนจึงยิ้มและพูดว่า “ข้าได้พบกับเธอระหว่างทาง เธออยู่คนเดียวและไม่มีครอบครัว ดังนั้นข้าจึงพาเธอกลับมาและยอมรับเธอเป็นลูกศิษย์ของข้า”
หลังจากที่ได้ยินแบบนี้ เย่หลุนจึงรู้สึกทันทีว่าความรู้สึกกดดันของเธอนั้นถูกทำให้ผ่อนคลายลงอย่างรวดเร็ว
ที่แท้ก็แค่ลูกศิษย์นี่เอง...
เธอนั้นคิดมากเกินไปจริงๆ เพราะจริงๆแล้วเมื่อตอนที่ยื่อซวนได้เข้าสู่นิกายภูผาศักดิ์สิทธิ์เป็นครั้งแรกเขาก็ดูมีอายุประมาณหนึ่งแล้ว ถ้าหากก่อนหน้านี้เขาจะมีภรรยาอยู่ในโลกภายนอกและมีลูกสาวจริงๆ มันก็ไม่ได้ผิดปกติอะไรเลย
“งั้นรึ? เธอเป็นลูกศิษย์คนใหม่ของผู้อาวุโสยื่อนี่เอง สาวน้อยคนนั้นดูฉลาดและน่ารักมากมากจริงๆ ผู้อาวุโสยื่อ ทําไมเจ้าถึงไม่ให้ข้าเป็นอาจารย์ของเธอล่ะ?”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ยื่อซวนก็หัวเราะออกมาดังๆและตอบว่า "มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นะ แต่เจ้าจะต้องแลกเด็กคนนั้นกับศิษย์หลักของเจ้า"
เย่หลุนจ้องหน้ายื่อซวนด้วยความโกรธทันทีที่เธอได้ยินแบบนี้
นี่เขายังคิดจะชิงตัวศิษย์หลักของเธออยู่อีกงั้นรึ?!
'ข้าทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด ข้าคงต้องบอกลูกศิษย์ของข้าเอาไว้บ้างแล้วว่าอย่าเข้าใกล้ยื่อซวนมากนักหลังจากนี้'
“อะแฮ่มๆ ผู้อาวุโสยื่อ ถ้าหากไม่มีอะไรอีกแล้วข้าจะตัวกลับไปก่อนแล้วกันนะ”
เย่หลุนหันกลับไปพร้อมกับเหล่าลูกศิษย์ของเธอทันทีหลังจากที่พูดจบเพราะกลัวว่ายื่อซวนจะพาพวกเธอกลับไปด้วย
ในขณะเดียวกัน สาวๆจากยอดเขาวารีได้เข้ามาล้อมเซียงหยุนและลูบบนใบหน้าที่เรียบเนียนและอ่อนโยนของเธออย่างต่อเนื่อง
เซียงหยุนไม่ค่อยพอใจนักที่ถูกลูบหน้าแบบนี้ เธอเท้าสะเอวของเธอและพูดว่า “พอได้แล้ว! เลิกจับข้าแบบนี้สักที ถ้าหากเจ้ายังทําแบบนี้อีก ข้าจะไม่ทนอีกต่อไป!”
"งุ้ยยย น่ารักจังงเลยยยย"
หลังจากได้ยินคําพูดของเซียงหยุน สาวๆทั้งหลายกลับตื่นเต้นและลูบใบหน้าของเธอหนักขึ้นกว่าเดิม
เซียงหยุนรู้สึกอึดอัดทันที แต่ในขณะเดียวกันเธอก็เห็นเย่หลุนเดินเข้ามาและสมองของเธอก็คิดอะไรบางอย่างได้
จากนั้นเธอจึงหันไปมองสาวๆที่อยู่รอบตัวเธอ และเธอก็ดึงแขนของชู่เก๋อเย่หยูเข้ามาใกล้ๆแล้วถาม
“ศิษย์พี่ ทําไมผู้หญิงเหล่านี้ถึงได้บวมมากขนาดนี้ล่ะ? พวกเธอถูกทำร้ายรึเปล่าน่ะ? ทําไมหน้าอกของพวกเธอถึงได้บวมมากขนาดนี้ได้ล่ะ?”
"ไม่เชื่อก็ดูที่หน้าอกของพวกเธอสิ!"
เมื่อได้ยินแบบนี้ ใบหน้าของชู่เก๋อเย่หยูจึงมืดมนลงและเธอก็ลูบหัวของเซียงหยุนทันที
เนื่องจากเธอนั้นยังเป็นเด็ก ทำให้เธอพูดทุกอย่างที่เธอคิดออกมาโดยที่ไม่สนใจอะไร
สาวๆจํานวนมากในนิกายภูผาศักดิ์สิทธิ์นั้นต่างก็ต้องการที่มีร่างกายเหมือนกับเย่หลุน ซึ่งเซียงหยุนเองก็รู้สึกถึงความผิดปกติกับร่างกายของเย่หลุนได้เช่นกัน
หัวของเซียงหยุนนั้นเริ่มเจ็บจากถูกขยี้ผมอย่างช้าๆ ซึ่งมันทำให้เธอส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทันที น้ำตาของเธอค่อยๆไหลออกมาจากดวงตาของเธอแล้ว และเธอก็ไม่เข้าใจว่าทําไมศิษย์พี่ถึงได้ทําร้ายเธอแบบนี้
แต่ก่อนที่น้ำตาของเธอจะไหลลงมา เธอก็มองไปที่ชู่เก๋อเย่หยูอีกครั้งด้วยแววตาของเธอที่เปล่งประกายขณะที่เธอพูดว่า “ไม่จริงน่า! ศิษย์พี่เองก็ค่อนข้างบวมด้วยงั้นรึ!”
“ศิษย์พี่บอกข้ามาเถอะ ว่าใครที่กล้าทำอะไรศิษย์พี่แบบนี้? เมื่อข้าแข็งแกร่งขึ้น ข้าจะกลับไปแค้นให้กับศิษย์พี่แน่นอน!”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ชู่เก๋อเย่หยูเองก็ถึงกับพูดไม่ออกและเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องอธิบายให้เธอฟังอย่างไรเช่นกัน
เมื่อเห็นแบบนี้ เฟิงซี่หยุนจึงขยับเข้าไปใกล้ๆเซียงหยุนอย่างรวดเร็วและพูดอย่างใจเย็นว่า “ศิษย์น้อง คนที่เจ้าได้เห็นเมื่อกี้คือผู้อาวุโสแห่งนิกายนะ เจ้าไม่สามารถพูดกับเธอแบบนั้นได้”
“พวกเราจะเรียกเธอว่าผู้อาวุโสเย่หลุน หรือท่านเย่หลุน ซึ่งเจ้าเองก็สามารถเรียกเธอแบบนั้นได้เช่นกัน”
“นอกจากนี้ หน้าอกของพวกเราก็ไม่ได้บวมหรือถูกทุบตี แต่มันจะค่อยๆใหญ่ขึ้นมาต่างหาก”
“เจ้าน่ะยังเด็กและอาจจะยังไม่รู้เรื่องแบบนี้ แต่เมื่อเจ้าโตขึ้น หน้าอกของเจ้าเองก็จะกลายเป็นแบบนี้เช่นกัน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้เซียงหยุนจึงเริ่มร้องไห้
หน้าอกของเธอก็จะบวมขึ้นด้วยเหมือนกันงั้นเหรอ?
“ข้าไม่อยากเป็นแบบนั้นเลย เพราะมันจะทำให้ข้าต่อสู้ลำบาก!”