ตอนที่แล้วตอนที่ 45 เรามีเงินขนาดนั้นเลยหรอ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 47 ฉันไม่ได้มาเพื่อสู้

ตอนที่ 46 สัญญาณภัยเตือนภัยทั่วเมือง


ลั่วฮางนั้นไม่เคยเห็นซูเฉินมเงินมากขนาดนั้นมาก่อน แม้ว่าซูเฉินจะมีคริสตัลพลังงานเยอะ แต่เขานั้นก็จำเป็นต้องมีถึงขนาดเต็มรถบรรทุกเพื่อจะให้ครบหนึ่งพันล้านโฮปคอยน์

แน่นอนว่าหนึ่งพันล้านโฮปคอยน์ที่ซูเฉินเสนอไปนั้นทำให้ทุกคนตกตะลึงมาก สำหรับตระกูลหลักของเมืองฐานทัพ หนึ่งพันล้านโฮปคอยน์นั้นสามารถหามาได้แต่มันก็ถือได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่มหาศาลอยู่

แม้ว่าไข่มุกพลังงานจะสามารถทำให้คนเหนือมนุษย์ระดับ 6 ดาวเลื่อนขั้นเป็นระดับ 7 ดาวได้ แต่มันก็แค่โอกาส และโอกาสในการสำเร็จนั้นไม่ได้มากกว่าสามสิบเปอร์เซ็นเตอร์เลยด้วย

แม้ว่าพวกเขาจะซื้อไปได้ แต่ถ้าหากพวกเขาไม่สามารถเลื่อนขั้นได้ มันก็เท่ากับว่าเสียเงินเปล่า

ทันใดนั้นซูเฉินก็กลายเป็นที่สนใจของคนในห้อง เมื่อพวกเขาพบว่าซูเฉินนั้นหนุ่มมากๆ พวกเขาจึงหันไปถามกันว่าซูเฉินเป็นคนตระกูลใหน

หลังจากถามกันไปสักพัก พวกเขาก็พบว่าไม่มีใครรู้จักซูเฉินซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มคนน้ไม่ใช่ส่วนหนึ่งในแวดวงของพวกเขา

ถ้าหากเขาไม่ใช่ส่วนหนึ่งในแวดวงของพวกเขาแล้วหล่ะก็ แล้วเขาจะหาหนึ่งพันล้านโฮปคอยน์มาได้ไง?

ทันใดนั้น หญิงสาวที่อยู่บนเวทีนั้นก็ได้ยินคำพูดบางส่วน จึงได้ตะโกนใส่ซูเฉิน “ท่านค่ะ เนื่องจากหนึ่งพันล้านโฮปคอยน์เป็นจำนวนที่เยอะมาก ทางโรงประมูลของเราหวังว่าท่านจะสามารถนำของที่มีมูลค่าหนึ่งพันล้านโฮปคอยน์ออกมาแสดงหรือนำเงินจำนวนหนึ่งพันล้านโฮปคอยน์ออกมาเพื่อเป็นหลักฐาน ดินฉันหวังว่าท่านจะยอมทำตามนะคะ”

ความกังวลนี้เป็นเรื่องปกติ ถ้าหากวูเฉินไม่ได้มีเงินหนึ่งพันล้านโฮปคอยน์แล้วยังเลือกที่จะเสนอราคานี้และสินค้าไม่อาจจะขายออกไปได้ขึ้นมาหล่ะก็ มันก็จะกลายเป็นความรับผิดชอบของโรงประมูลทันที

“ฉันมีของที่มีค่าหนึ่งพันล้านโฮปคอยน์อยู่”ซูเฉินก็เดินขึ้นไปบนเวทีแล้วไปยืนข้างสาวสวย

ทางหญิงสาวนั้นก็สงสัยว่าอะไรกันที่มีค่าหนึ่งพันล้านโฮปคอยน์ เพราะตั้งแต่เกิดวันโลกาวินาศ สิ่งของที่มีมูลค่าหนึ่งพันล้านโฮปคอยน์นั้นมีน้อยมากๆ

“ดิฉันของถามได้ใหมว่า อะไรกันที่มีค่าหนึ่งพันล้านโฮปคอยน์?”

“มันก็คือ….”ซูเฉินก็เอื้อมไปคว้าไข่มุกพลังงานที่อยู่ข้างเขาแล้วยิ้มออกมาอย่างสดใสก่อนจะวิ่งหนีไป

ตั้งแต่แรก ซูเฉินนั้นไม่ได้ตั้งจะจใช้เงินซื้อไข่มุกพลังงานอยู่แล้ว เพราะเขานั้นไม่มีเงินขนาดนั้น เขาจึงทำได้เพียงขโมย!!

หญิงสาวก็ตกตะลึงแล้วกรีดร้องออกมา “ขโมย!!”

ทั้งโรงประมูลก็เกิดความวุ่นวายขึ้นทันที มีคนกล้าขโมยของในเมืองฐานทัพ คนที่ขโมยคงไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้วแน่!!

ซูยี่ที่ได้รับกาแจ้งเตือนของซูเฉินนั้นก็คว้าแขนลั่วฮางแล้ววิ่งออกไปด้วยควาเร็วสูง ทางโรงประมูลจึงได้เริ่มออกไล่ตามจับ

ด้วยความแข็งแกร่งของซูเฉินและซูยี่ที่อยู่ในระดับ 5 ดาว พวกเขาจึงรวดเร็วราวกับสายฟ้า คนเหนือมนุษย์ธรรมดานั้นจึงไม่อาจจะตามไล่ล่าพวกเขาทัน แม้กระทั่งกระสุนปืนยังไม่โดนพวกเขาเลย นี่แหละคือพลังของคนเหนือมนุษย์ระดับ 5 ดาว

“แล้วพี่สาวกับคนอื่นหล่ะ?”ทันใดนั้นลั่วฮางก็คิดขึ้นได้

“ฉันบอกให้พวกนั้นรออยู่ที่ทางเข้าก่อนแล้ว”

ซูเฉินนั้นก็ไม่ได้บอกให้พวกนั้นไปเลย ยังไงซะการตรวจตราที่ทางเข้าเมืองนั้นก็แน่นหนามาก และเหลิงหยูเหว่ยเองก็โดดเด่นซะด้วย

พวกเหลิงหยูเหว่ยนั้นจะไปรอพวกเขาที่ทางเข้าก่อนจะออกไปพร้อมกัน นี่แหละคือแผนการของซูเฉิน

“ได้แกนกลางสองอันในปฏิบัติการนี้ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ ที่นี่ฉันจะได้ตั้งฐานรองเพิ่มได้อีกสอง”ซูเฉินก็คิดขึ้น

เขานั้นก็มองเห็นว่าพลังงานของเขานั้นค่อยๆเพิ่มขึ้นด้วยความเร็ว ในตอนนี้ฐานของจู่หลิงคงเริ่มขุดเหมืองไปแล้วและดูจากความเร็ว เจ้ารถขุดเหมืองประเภทมิติเวลานี่คงจะไม่น้อยกว่าสิบคันแน่

เมืองฐานทัพนั้นได้เกิดความวุ่นวายขึ้นอย่างหนักหน่วง ตั้งแต่เหตุการณ์แหกคุกเมื่อวาน ไม่กี่วันต่อมากลับเกิดการขโมยขึ้นและนี่เกิดขึ้นในโรงประมูลเทียนหยูด้วย

ทุกคนนั้นรู้ดีว่าโรงประมูลเทียนหยูนั้นเป็นโรงประมูลขนาดใหญ่ที่มีสาขาอยู่ในเมืองฐานทัพและมีมากกว่าสิบด้วย การหาเรื่องโรงประมูลนั้นมันน่ากลัวว่าการหาเรื่องผู้ควบคุมเมืองฐานทัพซะอีก

กล่าวได้ว่าคนที่หนุนโรงประมูลเทียนหยูนั้นอย่างน้อยจะต้องเป็นคนเหนือมนุษย์ระดับ 7 ดาวแน่นอน

บางคนที่ได้ยินเรื่องนี้กลับตะลึง มีคนแส่หาที่ตายด้วย?

ซูเฉินนั้นก็ไม่มีเวลาไปสนใจความคิดของคนอื่น ในตอนนี้เขานั้นกำลังรีบมุ่งหน้าไปยังทางเข้าเมืองฐานทัพ

ทันใดนั้นเหลิงหยูเหว่ยก็สังเกตเห็นว่าประตูเมืองกำลังปิดลง แล้วพวกเธอจะทำยังไงดี?

เมื่อประตูปิดลง หากไม่มีคำสั่งของข้าราชาการระดับสูงของเมืองฐานทัพ ก็ไม่มีใครสามารถเปิดประตูได้ ประตูเมืองนั้นค่อนข้างหนาและแข็งแกร่งซึ่งมันสามารถรับการโจมตีจากคนเหนือมนุษย์ได้อีกด้วย

“เกิดอะไรขึ้นกับพี่เฉินและคนอื่นๆงั้นหรอ?”จางเถาก็สงสัย

เมื่อจางเถาเรียกซูเฉินว่า ‘พี่เฉิน’เป็นครั้งแรก เขาก็ตกใจกับตัวเอง นี่ให้เขาชายวัยกลางคนไปเรียกซุเฉินว่า ‘พี่เฉิน’ได้ไงกัน? เขานั้นแทบจะทนไม่ได้เลย

ครู่ต่อมา ซูเฉินก็เข้าใจว่าไอ้หมอนี่มันก็แค่พลั้งปากพูดเพราะใจร้อนก็แค่นั้น

“ฉันก็คิดงั้นแหละ  ฉันไม่แน่ใจว่าครั้งนี้พวกนั้นไปก่อเรื่องใหญ่โตอะไรอีก ถึงขั้นที่ประตูเมืองเริ่มปิดลง”เหลิงหยูเหว่ยนั้นรู้ดีว่าถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไป แม้ซูเฉินกับคนอื่นจะมา พวกเขาก็ไม่มีทางออกไปได้

“แบบนี้ไม่ได้การแล้ว ซูเอ้อ ฉันรู้ว่าฉันไม่มีสิทธิสั่งกนายแต่ฉันหวังว่านายจะคิดหน่อยนะ ถ้าหากเป็ฯแบบนี้ ซูเฉินอาจจะหนีไปไม่ได้แน่ ฉันคิดว่าเราควรจะสร้างความวุ่นวายเพื่อถ่วงเวลาไปสักหน่อย”

เหลิงหยูเหว่ยนั้นก็คิดแผนการดีๆได้แต่เธอนั้นมองข้ามบางอย่างไป ซูเอ้อนั้นสามารถติดต่อซูเฉินได้ตลอดเวลาซึ่งหมายความว่าซูเฉินนั้นเตรียมการไว้แล้ว

“ไม่ต้องห่วงไปคุณเหลิง นายน้อยได้เตรียมการไว้แล้ว เราแค่รออยู่ที่นี่เฉยๆ”ซูเอ้อนั้นก็ยังใจเย็น

หลังจากได้ฟังคำพูดของซูเอ้อ เหลิงหยูเหว่ยจึงใจเย็นลง เพราะซูเฉินเตรียมการแล้ว เธอจึงทำได้แค่รอ ยังไงซะ ซูเฉินนั้นก็เป็นคนช่วยเหลือเธอจากการอาละวาดของพวกสัตว์กลายพันธ์ในตอนที่เธออยู่ในสถานที่รวมตัว

ในไม่ช้าประตูเมืองก็ถูกปิดลง และเหลิงหยูเหว่ยนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาใกล้เรื่อยๆ

ในที่สุด เธอก็มองเห็นคนสามคนวิ่งมาทางพวกเธอ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากซูเฉินและพรรคพวก?

“ประตูเมืองปิดซะแล้ว”ซูเฉินก็มาหยุดยืนข้างเหลิงหยูเหว่ยและมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของประตูเมือง อย่างไรก็ตาม น้ำเสียงของเขากลับฟังดูสบายๆมาก

“แล้วตอนนี้ทำไงต่อ?”เหลิงยูเหว่ยถาม

“ตอนนี้…”

ก่อนที่ซูเฉินจะได้พูด ก็มีเสยงตะโกนดังขึ้น “ไม่มีใครกล้าขโมยของจากโรงประมูลเทียนหยูมาก่อน แกนี่กล้ามากเลยนะ!!”

ในวินาทีต่อมา ไม่ไกลนั้นก็ได้มีชายร่างอ้วนท้วมปรากฏขึ้น เขาก็มองซูเฉินด้วยใบหน้าเหนื่อยหอบราวกับจะกลืนกินซูเฉิน

ชายอ้วนนี้เป็นคนเหนือมนุษย์ที่นั่งอยู่ในโรงประมูลเทียนหยูและยังเป็นถึงระดับ 5 ดาวสูงสุดด้วย

ยังไงซะ แม้โรงประมูลเทียนหยูนั้นจะไม่มีคนเหนือมนุษย์ระดับ 6 ดาวคอยอารักขาในทุกๆแห่ง แต่คนเหนือมนุษย์ระดับ 5 ดาวก็ถือได้ว่าแข็งแกร่งพอตัว

โชคร้ายที่ชายอ้วนนี่ไม่รู้ว่าหวังยี่ คนเหนือมนุษย์ระดับ 5 ดาวสูงสุดนั้นได้ตกตายในกำมือของซูยี่ แล้วหมอนี่จะทำอะไรซูเฉินได้กัน?

ซูเฉินก็เมินชายอ้วนแล้วเงยหน้ามองขึ้นฟ้า ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะออกมา “ถึงเวลาแล้ว”

ทันทีที่เขาพูด ก็ได้มีเสียงแจ้งเตือนอันแสบแก้วหูดังก้องขึ้น นี่ก็คือการส่งสัญญาณภัยเตือนภัยทั่วเมือง!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด