ตอนที่ 18 : การแข่งขัน Young Eagle Cup
รุ่นพี่หลินหลานหลังจากที่สอนเสร็จ เขาก็ขอตัวออกไปในทันที เพราะเขาต้องรายงานเรื่องของเจ้าจิ้งจอกเพลิงในคลาสให้ปรมาจารย์ฉีทราบโดยเร็วที่สุด
พรสวรรค์ด้านสายฟ้าของจิ้งจอกเพลิงนั่น ดูเหมือนจะน่ากลัวกว่าที่ปรมาจารย์ได้จินตนาการไว้เสียอีก นักเรียนที่มีความสามารถเช่นนี้ควรให้ท่านปรมาจารย์รับเขาเป็นศิษย์สายตรงโดยเร็วที่สุด พวกเขาจะได้มีน้องชายที่มีความสามารถเพิ่มขึ้นอีกคน!
เมื่อน้องชายคนนี้เติบโตขึ้น เขาก็อาจจะได้มาทำหน้าที่นี้แทน และเขาก็จะได้ไปพักผ่อนบางเสียที~
“มาถึงแล้วหรอครับ? โอเคครับ คุณวางมันไว้ที่หน้าประตูเลยก็ได้ครับ!”
ในขณะที่เฉินโม่กําลังปลุกรุ่นพี่ฉี โทรศัพท์ของเขาก็สั่นขึ้นเสียก่อน มันเป็นเบอร์ของพนักงานที่เอาเบอร์เกอร์ที่เขาสั่งไว้ก่อนหน้านี้มาส่ง
"เบอร์เกอร์มาถึงแล้ว"
"หงิง หงิงง!" ใบหน้าของเจ้าจิ้งจอกน้อยเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เสี่ยวจูไม่ใช่คนที่จู้จี้จุกจิกเรื่องอาหารนักเพราะเธอกำพร้ามาตั้งแต่เด็ก
ต่อให้เธอจะชอบกินสักแค่ไหน แต่เธอก็ไม่เคยเลือกกินเลย
มันคาบเบอร์เกอร์เอาไว้และเริ่มอวดไปทั่วอย่างมีความสุข
เฉินโม่ไม่ได้กังวลว่าเสี่ยวจูจะกินมากเกินไป เพราะการฝึกสัตว์วิญญาณในแต่ละวันจำเป็นต้องใช้พลังงานมหาศาล มันจึงต้องชดเชยพลังงานที่สูญเสียไปด้วยอาหารจำนวนมากเช่นกัน
“น่าเสียดายที่เพื่อนยากของฉันคงจะหมดลงในอีกไม่ช้า” แฮมเบอร์เกอร์สิบชิ้นสนนราคามากกว่า 200 หยวน เมื่อเฉินโม่มองยอดเงินในบัญชีของเขา—- คงเหลือ 11,520 หยวน
แม้ว่าพรสวรรค์นี้จะเป็นความสามารถที่ยอดเยี่ยมมาก แต่มันก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่สูงมากเช่นกัน
เขาต้องหาวิธีทำเงินให้ได้เร็วๆ!
เขายังมีคุณยายให้ต้องดูแลอีก!
แน่นอนว่าสิ่งที่สําคัญกว่าในตอนนี้คือการพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเอง แทนที่จะประหยัดเงิน
แต่ยาคุณภาพแย่ที่สุดที่สามารถรักษาโรคมะเร็งได้ ก็ยังมีราคามากกว่า 2 ล้านหยวน
นี่เป็นตัวเลขที่แม้แต่จินตนาการเขาก็ยังคิดไม่ออก มีเพียงแค่ปรมาจารย์วิญญาณอาวุโสเท่านั้นที่จะหาเงินได้มากมายขนาดนั้นในเวลาอันสั้น
"หงิง"
ราวกับรู้สึกถึงความกังวลของเฉินโม่ เสี่ยวจูที่กําลังอวดเบอร์เกอร์ของมันอยู่ก็ชะงัก
มังลังเลอยู่ชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นก็ปล่อยเบอร์เกอร์ในปากของมันลง แล้วคาบเบอร์เกอร์ที่เหลือใส่ถุงเหมือนเดิม โดยมันต้องการจะสื่อว่านี่สามารถใช้เป็นอาหารเย็นของวันนี้ได้ หรือถ้ามีเหลืออีก ก็เก็บไว้กินในวันพรุ่งนี้
"หงิง!" (เสี่ยวจูไม่ใช่คนฟุ่มเฟือย!)
เจ้าจิ้งจอกน้อยเอียงศีรษะ และแกว่งหางยาวสีขาวของมันไปมา
เมื่อเห็นท่าทางที่น่ารักน่าชังของเสี่ยวจูแล้ว เฉินโม่ก็ขำออกมาและลูบหัวน้อยๆของมันเบาๆ "โอเค! ฉันจะไม่ปิดปังเธอ อันที่จริง พรสวรรค์ของฉันในการควบคุมวิญญาณคือ ฉันจะได้รับเอฟเฟกต์พิเศษจากการทําภารกิจบางอย่างให้สําเร็จในแต่ละครั้ง ยกตัวอย่างเช่น แฮมเบอร์เกอร์ที่เธอกำลังจะกินนี่และการปลุกพลังธาตุสายฟ้าก่อนหน้านี้ หรือจะเป็นตอนที่เรากินของกินเยอะๆตอนนั้นก็ใช่ อ้อ ตอนที่กินเต้าหู้เหม็นนั่นก็ใช่เหมือนกัน ดังนั้น เป่าจูไม่ต้องกังวลไปนะ กินมันเร็วๆเข้าเถอะ! แล้วปล่อยให้การหาเงินเป็นหน้าที่ของฉันเอง"
"หงิง!" (เสี่ยวจูก็จะช่วยหาเงินด้วย!)
เฉินโม่รู้สึกอบอุ่นในใจ
ตอนนี้เขาไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว ในฐานะที่เจ้าตัวน้อยนี่เป็นสัตว์วิญญาณที่เขาทำสัญญาด้วย เสี่ยวจูเป็นพาร์ทเนอร์ที่เชื่อถือได้
ราวกับว่าเขาได้กลิ่นของเบอร์เกอร์ ฉีพินที่นอนหลับอยู่ข้างๆ ก็ส่ายจมูกไปมาและลืมตาขึ้น เมื่อเขาเห็นว่าเฉินโม่และเจ้าจิ้งจอกเพลิงกําลังถือเบอร์เกอร์อยู่ในมือ…
“ว้าว! น้องชาย นายซื้อเบอร์เกอร์ให้ฉันด้วยหรอ?” เมื่อเห็นว่ามีเบอร์เกอร์มากมายอยู่ในถุง เขาจึงถามออกไปด้วยความประหลาดใจ
"ครับ ผมสั่งมาเผื่อรุ่นพี่ด้วย"
เมื่อเห็นสายตาที่คาดหวังของฉีพิน เฉินโม่ก็รู้สึกอายเกินกว่าที่จะบอกว่าเบอร์เกอร์ที่เหลืออีกหกชิ้นเป็นอาหารกลางวันของพวกเขา
"ขอบคุณนะน้องชาย" ฉีพินไม่รีรอและคว้าแฮมเบอร์เกอร์เข้ามากัดในทันที
"พี่ชาย คุณรู้มีวิธีหาเงินให้ได้เร็วๆไหมครับ?" เฉินโม่ถือโอกาสถามในขณะที่เขากำลังกินอยู่
“มีหลายวิธีสําหรับปรมาจารย์วิญญาณที่ต้องการสร้างรายได้อย่างรวดเร็ว แต่วิธีที่เห็นบ่อยที่สุดมีอยู่สองวิธี หนึ่งคือการสํารวจโลกวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็นการรับค่าคอมมิชชั่นจากสํานักควบคุมวิญญาณหรือการรวบรวมวัสดุทางจิตวิญญาณ นายก็จะสามารถทําเงินได้มากมาย แต่ตอนนี้นายยังไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ถ้านายไม่ใช่ปรมาจารย์วิญญาณรุ่นเยาว์ นายก็ยังไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าไปในโลกวิญญาณ ส่วนอีกทางเลือกหนึ่งก็คือเข้าร่วมการแข่งขัน” ฉีพินพูดในขณะที่เคี้ยวเบอร์เกอร์ในปากไม่หยุด
“การแข่งขัน? ช่วงนี้มีการแข่งขันที่ผมพอจะเข้าร่วมได้ไหมครับ?”
ดวงตาของเฉินโม่สว่างขึ้นในทันทีเมื่อเขาได้ยินว่ามีการแข่งขัน พลังการต่อสู้ของเสี่ยวจูถือว่าเป็นที่สุดในบรรดาสัตว์วิญญาณระดับปลุกพลังอย่างแน่นอน
"ขอฉันคิดก่อน ใช่ มีการแข่งขันนึงที่เรียกว่า "Eagle Cup" จัดขึ้นที่เมืองเฉิงไห่นี่ และวันนี้เป็นวันสุดท้ายในการลงทะเบียน โอเค ฉันส่งลิงก์การสมัครไปให้นายแล้ว"
เฉินโม่คลิกลิงค์ที่ฉีพินส่งมาและพบว่าผู้จัดงานที่เรียกว่า "Young Eagle Cup" คือเฉิงไห่ City Spirit Control Master Association ซึ่งจะถูกจัดขึ้นในทุกๆปี
แน่นอนว่ามันเป็นงานที่ดูเป็นทางการมาก!
การแข่งขันนี้จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคมยาวไปจนถึงวันที่ 29 สิงหาคม ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของวันหยุดฤดูร้อน
ข้อกําหนดสําหรับผู้เข้าแข่งขันคือนักจิตวิญญาณที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีและอาศัยอยู่ในเมืองเฉิงไห่
เงินรางวัลสําหรับอันดับหนึ่งคือ 300,000 หยวน
อันดับที่สองคือ 100,000 หยวน
และอันดับที่สามคือ 50,000 หยวน
“อายุต่ำกว่า 20 ปี ไม่จํากัดระดับของสัตว์วิญญาณที่เข้าร่วมการแข่งขัน ดังนั้นนักจิตวิญญาณที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีก็จะไม่ถูกฆ่าตามอําเภอใจใช่ไหม!?”
เฉินโม่อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
ดาวสีน้ำเงินนี้สิ่งที่ไม่เคยขาดแคลนเลยคือผู้ที่มีพรสวรรค์ แม้ว่าจะไม่มีปรมาจารย์วิญญาณที่อายุแค่ 20 ปีเลย แต่ก็ยังมีนักจิตวิญญาณระดับสูงจํานวนมากที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี
บางคนเปิดหยูหลิงได้ตั้งแต่อายุ 10 ขวบเลยด้วยซ้ำ อาจกล่าวได้ว่าพวกเขาล้ำหน้าเฉินโม่ไปไกล
"ไม่ต้องกังวล! ฉันว่ารางวัลเพียงเท่านี้ไม่สามารถดึงดูดนักจิตวิญญาณที่มีพรสวรรค์สูงขนาดนั้นมาได้หรอก ในการแข่งขันระดับนี้ อย่างมากก็น่าจะเป็นสัตว์วิญญาณระดับพิเศษขั้นที่ 4 หรือ 5 ช่องว่างระหว่างพวกนายไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น"
เฉินโม่ "…"
“แต่ถ้านายได้อันดับดีๆ ก็อย่าลืมโปรโมตยิมอัสนีบาตของเราด้วยล่ะ!”
ฉีพินไม่คิดว่าเฉินโม่จะได้อันดับใด ๆ จากความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงพูดออกไปแบบไม่ได้จริงจังนัก
วันรุ่งขึ้น หลังจากที่เฉินโม่ทำภารกิจประจำวัน [ผู้คลั่งไคล้มาราธอน] เสร็จสิ้นแล้ว เขาก็มุ่งหน้าไปที่ยิมอัสนีบาตเพื่อทำการฝึกซ้อมตามปกติ
วันนี้ยังคงเป็นชั้นเรียนทฤษฎีและชั้นเรียนภาคปฏิบัติ
ครูผู้สอนก็ยังคงเป็นรุ่นพี่หลินหลานเหมือนเดิม
ระหว่างชั้นเรียนภาคปฏิบัติ ฉีพินก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เช่นเดียวกับเมื่อวาน เขาหามุมที่ห่างไกลและหลับตาลง
ตอนแรก เฉินโม่คิดว่าพี่ชายคนนี้เอ้อระเหยลอยชายเกินไป แต่มันเป็นแบบนี้ติดต่อกันมาหลายวันแล้ว และคนอื่น ๆ ก็ดูไม่ได้แปลกใจอะไร
เขาจึงคิดว่า บางทีอาจจะมีความลับบางอย่างอยู่เบื้องหลังการที่พี่ชายคนนี้ดูง่วงอยู่ตลอดเวลาก็ได้
ในท้ายคาบของชั้นเรียนภาคปฏิบัติ ในที่สุดฉีพินก็ตื่นขึ้นมา