ตอนที่ 17 : การต่อสู้ครั้งแรก
“ถ้าเธอสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ตรงหน้านี้ได้ ฉันจะให้อาหารเธอเพิ่ม ตกลงไหม!”
"หงิง!"
หูของเสี่ยวจูตั้งขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเกี่ยวกับอาหารมื้อพิเศษ ม่านตาสีแดงของเธอก็เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้
มันกำลังลุกโชติช่วง!
อันที่จริง ไม่ว่าเธอจะชนะหรือไม่ก็ตาม เฉินโม่ก็พร้อมที่จะจัดมื้อพิเศษให้แก่เสี่ยวจูอยู่แล้ว
เพราะภารกิจ [คนรักบิ๊กแม็ค] นั้นคือการต้องกินเบอร์เกอร์ให้ได้ 20 ชิ้นภายในหนึ่งวัน ดังนั้นเบอร์เกอร์ 10 ชิ้นจะเป็นอาหารเที่ยงของวันนี้
แต่ถ้าเกิดเสี่ยวจูแพ้ขึ้นมา เขาก็จะบอกให้มันกินมากขึ้นและเอาชนะให้ได้ในครั้งต่อๆไป
“สัตว์วิญญาณของนายอยู่ในระดับปลุกพลังขั้น 6 ใช่รึเปล่า? บวบอสนีของฉันเล็งเป้ายังไม่ค่อยแม่นนัก ถ้าเผลอยิงพลาดไปจะทำยังไงล่ะ ลืมการแข่งขันรอบนี้ไปซะจะดีกว่าไหม?” หวังผิงมองไปที่เจ้าจิ้งจอกเพลิงพลางขมวดคิ้ว
มันคงจะแย่แน่ๆ ถ้าบวบอสนีของเขาพลาดโจมตีแรงเกินไปจนทำให้เจ้าจิ้งจอกเพลิงได้รับบาดเจ็บสาหัส
สิ่งที่เขาต้องการคือการแข่งขันที่สูสี
“ความสามารถของจิ้งจอกเพลิงของฉันในการป้องกันนั้นค่อนข้างดี มาเริ่มกันเถอะ!”
หวังผิงเหลือบมองหลินหลาน และเมื่อเห็นว่าหลินหลานพยักหน้าเขาก็ไม่ห้ามอะไรอีก
หลินหลานรู้ว่าจิ้งจอกเพลิงตัวนี้สามารถต้านทานการโจมตีของสายฟ้าระดับพิเศษได้ก่อนที่มันจะปลุกพลังเสียอีก ในเมื่อตอนนี้มันปลุกพลังได้แล้ว ก็หมายความว่าพลังป้องกันของมันจะต้องสูงยิ่งกว่าตอนนั้นอีก
“โอเค! งั้นฉันให้นายโจมตีก่อน!” หวังผิงหลีกทางให้
"เสี่ยวจูใช้เงาอสนีและต่อด้วยกรงเล็บสายฟ้า!"
เฉินโม่ไม่รีรอและสั่งให้เจ้าจิ้งจอกเพลิงโจมตีในทันที
ปรมาจารย์วิญญาณและสัตว์วิญญาณนั้นเชื่อมต่อกันด้วยจิตวิญญาณ เสี่ยวจูจึงเข้าใจได้ทันทีว่าเฉินโม่ต้องการให้ทำอะไร ไม่นานหลังจากนั้น ก็เกิดเป็นเส้นแสงสีม่วงไหลผ่านอยู่ระหว่างกรงเล็บของเสี่ยวจู จากนั้นความเร็วในการเคลื่อนที่ของเสี่ยวจูก็เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน
เมื่อเห็นเจ้าจิ้งจอกเพลิงพุ่งเข้ามา บวบอสนีก็ใช้สนามแม่เหล็กโดยไม่มีความตื่นตระหนกเลย
สายฟ้าสีเงินพุ่งออกมาจากตัวของบวบอสนี จากนั้นสนามแม่เหล็กก็ปกคลุมไปทั่วพื้นที่รอบๆตัวของมัน
สกิลนี้เป็นสกิลที่ใช้ตอบโต้กับสัตว์วิญญาณที่ถนัดในการต่อสู้ระยะประชิด แม้ว่ามันจะไม่ได้ทรงพลังมากนัก แต่ก็มากเกินพอที่จะจัดการกับจิ้งจอกเพลิงที่มีระดับปลุกพลังขั้น 6
หวังผิงมองไปที่เจ้าจิ้งจอกเพลิงด้วยความภาคภูมิใจ
คราวนี้ นายยังจะ ‘ยึดติด’ หรือจะยอม ‘ล่าถอย’ ไปแต่โดยดี?
เมื่อเห็นฉากนี้ เฉินโม่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก อีกฝ่ายประมาทพวกเขาจริงๆ
บนสนาม เจ้าจิ้งจอกเพลิงไม่ได้ชะลอความเร็วลงเลย ในไม่ช้ามันก็พุ่งชนสนามแม่เหล็กของบวบอสนีโดยตรง
เส้นแสงสีเงินซึ่งเป็นกระแสไฟที่บวบอสนีปล่อยออกมา มันพุ่งเข้าใส่เจ้าจิ้งจอกเพลิงอย่างจัง แต่สิ่งที่แปลกคือดูเหมือนว่ากระแสไฟเหล่านี้จะไม่สามารถทำอันตรายใดๆเจ้าจิ้งจอกเพลิงได้เลย ราวกับมันโดดเจ้าตัวน้อยนี่ดูดซับเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น?
"หลบเร็ว!" หวังผิงตะโกนออกมาอย่างรวดเร็ว แต่มันก็สายไปแล้ว!
เดิมที จุดเด่นที่ใหญ่ที่สุดของกรงเล็บสายฟ้าคือความเร็ว นอกจากนี้ เมื่อเจ้าบวบอสนีไม่ได้เลือกที่จะหลบตั้งแต่ทีแรก จะมาหลบเอาตอนนี้ มันก็ไม่ทันแล้ว!
สายฟ้าสีม่วงพุ่งออกมาจากกรงเล็บของจิ้งจอกเพลิงและหวดเข้าใส่เจ้าบวบอสนีเข้าอย่างจัง
ตูมมม!
ทันทีที่กรงเล็บสายฟ้ากระทบเข้ากับเจ้าบวบอสนี ก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น
ร่างของเจ้าบวบอสนีก็ตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรง
ด้วยระดับความสามารถของเสี่ยวจูบวกกับโบนัสของเอฟเฟกต์ [ราชาแห่งสายฟ้า] ทําให้ท่านี้ทรงพลังพอๆ กับการระเบิดพลังของสัตว์วิญญาณระดับปลุกพลังขั้นที่ 9 แม้ว่ามันจะยังไม่ถึงระดับพิเศษ แต่เจ้าบวบอสนีก็เป็นสัตว์วิญญาณที่มีพลังโจมตีสูงแต่พลังป้องกันต่ำอย่างแท้จริง
ต่อให้เจ้าบวบอสนีจะไม่ได้สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปในทันทีหลังจากตกลงมากระแทกพื้น แต่ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของมันก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน
เมื่อเห็นว่าเสี่ยวจูกําลังใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้โดยใช้ ‘กรงเล็บสายฟ้า‘ โจมตีศัตรูอีกครั้งหนึ่งเพื่อปิดฉากการต่อสู้ หวังผิงก็รีบยอมแพ้อย่างรวดเร็ว
"นายทําผิดพลาดสองเรื่อง หนึ่งคือนายประเมินศัตรูต่ำเกินไปและปล่อยให้จิ้งจอกเพลิงเข้ามาประชิดตัวได้ หากนายเลือกที่จะใช้ฟ้าผ่าหรือแส้อสนีตั้งแต่แรก มันจะไม่มีโอกาสให้จิ้งจอกเพลิงเข้าใกล้นายได้เลย อย่างที่สองคือ เมื่อรู้ว่าตัวเองพลาดแล้ว หากนายใช้สกิลที่รุนแรงพอๆกันในการโต้กลับ ระยะทางเท่านี้อาจจะเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบและนายอาจจะทำให้ผลลัพธ์เปลี่ยนเป็นเสมอ โดยต่างฝ่ายต่างหมดสภาพในการต่อสู้ได้" หลินหลานวิเคราะห์การต่อสู้ครั้งนี้ให้หวังผิงได้เห็นภาพรวม
หวังผิงยังคงรู้สึกหดหู่ไม่หาย
ให้ตายเถอะ เขาจะไปรู้ได้ยังไงว่าเจ้าจิ้งจอกเพลิงนี่จะมีลูกเล่นมากมายขนาดนี้!
สนามแม่เหล็กระดับพิเศษของพวกเขายังทำอะไรมันไม่ได้เลย!
นี่เป็นสกิลโกงของเจ้าจิ้งจอกน้อยนี่หรือเปล่า?
"นายทําได้ยังไงกัน?" หวังผิงถามเฉินโม่ด้วยความงงงวย
“สัตว์วิญญาณของผมมีร่างกายที่พิเศษและมีพลังป้องกันต่อธาตุสายฟ้าที่สูงระดับหนึ่งเลยครับ” เฉินโม่ตอบ
ด้วยเอฟเฟกต์ "ราชาแห่งสายฟ้า" มันจึงช่วยให้เสี่ยวจูมีภูมิคุ้มกันต่อดาเมจที่เป็นธาตุสายฟ้าสูงถึง 50% ควบคู่ไปกับเอฟเฟกต์ [ผิวหยาบและหนังหนา] ทำให้ร่างกายของมันแข็งแรงกว่าสัตว์วิญญาณทั่วๆไปที่อยู่ในระดับเดียวกัน ดังนั้นสนามแม่เหล็กที่กระจายพลังงานไปรอบๆบริเวณจึงไม่สามารถคุกคามเสี่ยวจูได้อย่างแน่นอน
"เสี่ยวจู ทําได้ดีมาก!" เฉินโม่ยื่นฝ่ามือของเขาออกมาและตีกับเจ้าเด็กตัวน้อยของเขาเพื่อเฉลิมฉลอง
มันเป็นความสุขอย่างแท้จริงที่ในการต่อสู้ครั้งแรก พวกเขาก็สามารถเอาชนะสัตว์วิญญาณระดับพิเศษได้แล้ว
แม้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะมีการใช้กลอุบายและการประเมินศัตรูที่ต่ำเกินไปของฝ่ายตรงข้ามมาช่วย แต่ชนะก็คือชนะ!
ดวงตาของเสี่ยวจูเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและความสุข
ใครจะคิดว่าเมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว มันยังเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอซึ่งไม่แม้แต่จะปล่อยประกายไฟง่อยๆได้เลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้มันกลับสามารถเอาชนะสัตว์วิญญาณที่มีระดับแข็งแกร่งกว่าตัวมันเองได้!
ในขณะนี้ ความท้าทายประจําสัปดาห์ [อ่อนสู้แข็ง] ก็โชว์ว่าภารกิจเสร็จสมบูรณ์แล้ว เอฟเฟกต์นี้มีประโยชน์มาก เมื่อพวกเขาต้องเจอคู่ต่อสู้ที่มีระดับที่สูงกว่าเสี่ยวจูในอนาคต
ปัจจุบัน เสี่ยวจูยังสามารถติดตั้งได้เพียง 3 เอฟเฟกต์เท่านั้น โดยมี [ราชาแห่งสายฟ้า] ที่ต้องติดตั้งเอาไว้ตลอดเวลา และในระหว่างการต่อสู้ เขาสามารถติดตั้งเพิ่มได้อีกเพียง 2 เอฟเฟกต์เท่านั้น
"ดูเหมือนว่าเอฟเฟกต์ที่ไม่จําเป็นบางอย่างจําเป็นต้องแบ่งออกแล้วรวมให้เป็นเอฟเฟกต์เดียวกันเพื่อให้มันมีประสิทธิภาพมากขึ้น"
ในขณะที่เฉินโม่กำลังครุ่นคิดอยู่กับตัวเอง เจ้าจิ้งจอกน้อยก็ใช้อุ้งเท้าหน้าของมันสะกิดเขาเบา ๆ
"หงิง!" (อย่าลืมเรื่องอาหารที่สัญญาไว้นะ!)
“แน่นอน ฉันจะพาเธอไปกินเบอร์เกอร์จนกว่าเธอจะท้องแตกเลย!”
"หงิง!"
หลังจากที่เฉินโม่ลงจากเวทีมา ก็ได้มีนักเรียนคนอื่นๆ ในคลาส มองมาที่เขาและเสี่ยวจูเป็นระยะๆ
สัตว์วิญญาณที่มีระดับปลุกพลังขั้น 6 แต่กลับสามารถเอาชนะระดับพิเศษขั้น 1 ได้ นี่มันน่าทึ่งจริงๆ!
หลังจากชั้นเรียนภาคปฏิบัติจบลง นักเรียนก็ทยอยๆจากไปทีละคน เหลือเพียงแค่เฉินโม่และฉีพินเท่านั้น
เขาดูเหมือนจะยังหลับสนิทต่อไป ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในคลาส ไม่ว่าจะเป็นเสียงฟ้าร้องหรือฟ้าแลบ ก็ดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อการนอนของเขาได้เลย