Chapter 18 : เก็บกู้มณีแห่งโนอา
[แผนที่ปัจจุบัน : ถ้ำแห่งความตาย]
ทันทีที่ลู่หยวนก้าวเข้ามาด้านในถ้ำ เสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้นข้างหูของเขา
หลังจากเห็นแจ้งเตือนจากระบบ ลู่หยวนก็อดเบิกบานใจขึ้นมาไม่ได้
ดูเหมือนความทรงจำของเขายังดีอยู่
ถ้ำนี้แหละ!
สมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของหมู่บ้านมือใหม่ - มณีแห่งโนอาอยู่ในส่วนลึกที่สุดของถ้ำแห่งนี้นี่แหละ
จากความทรงจำในชาติก่อนของเขา มณีนี้ถูกเผ่าอสูรโลหิตขโมยมาซ่อนเอาไว้ภายในถ้ำแห่งนี้
ภายในถ้ำจึงมีอสูรโลหิตคอยเดินลาดตระเวรอยู่ทุกจุด
เลเวลของพวกมันสูงมากและสามารถสังหารผู้เล่นในช่วงนี้ของเกมได้ในพริบตาอย่างง่ายดาย
ส่วนที่สำคัญและยากที่สุดของภารกิจนี้ก็คือการที่ถ้ำแห่งนี้จำกัดเพียงผู้เล่นเลเวลต่ำกว่า10
ดังนั้นผู้เล่นจึงทำได้เพียงพึ่งพาปัญญาของตัวเองหรือใช้สกิลอันทรงพลัง
อีกวิธีหนึ่งก็คือลอบเร้นของจอมโจร
ในชีวิตที่แล้วผู้เล่นจอมโจรเคยทำเช่นนี้มาก่อน เขาบังเอิญเดินเข้ามาในถ้ำแห่งนี้และใช้สกิลลอบเร้นเข้าไปจนถึงสถานที่ที่ดูเหมือนจะเป็นโถงบูชาที่ส่วนลึกสุดของถ้ำได้สำเร็จ
จากนั้นเขาก็ได้มณีแห่งโนอามาอย่างง่ายดาย
ผลลัพธ์นั้นทำให้จอมโจรผู้นั้นได้ครอบครองมีดสั้นอันทรงพลัง นี่ยังเป็นอีกหนึ่งเหตุผลว่าทำไมจอมโจรผู้นี้ถึงได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานในท้ายที่สุด
ส่วนสำคัญในความสำเร็จของเขาก็เกี่ยวข้องกับมีดสั้นที่ได้จากการทำภารกิจนี้นี่เอง
เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับแต่อย่างใดเนื่องจากภารกิจนี้คือภารกิลลับหนึ่งเดียว หลังจากมันถูกทำสำเร็จแล้วก็จะไม่มีใครสามารทำได้อีก
พวกคุณคงไม่ได้หวังให้อสูรโลหิตไปนำมณีกลับมาอีกครั้งและวางไว้ในถ้ำของพวกมันเหมือนเดิมหรอกใช่ไหม?
ดังนั้นเส้นทางที่ถูกต้องที่ลู่หยวนควรจะมุ่งไปเพื่อนำมณีแห่งโนอามานั้นจะขึ้นอยู่กับความทรงจำที่เขามีในชีวิตที่แล้วล้วนๆ
ลู่หยวนเดินตรงไปด้านหน้าและพลันสังเกตเห็นว่ามีอสูรโลหิตสามตัวกำลังเดินลาดตระเวนอยู่
พวกมันดูคล้ายกับค้างคาวแต่มีรูปลักษณ์เหมือนมนุษย์ ร่างทั้งร่างนั้นเป็นสีแดงเข้มพร้อมด้วยเส้นผมสีดำรกรุงรัง ในมือเองก็ถือสามง่ามยาวเฟื้อยเอาไว้
เห็นได้ชัดเลยว่าพวกมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ควรเข้าไปยุ่งแวะด้วยเลยซักนิด
—
[อสูรโลหิต (???)]
[เลเวล : ???]
[พลังชีวิต : ???]
[สกิล : ???]
[คำอธิบาย : อสูรชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในถ้ำแห่งความตาย วิธีการลงมือของมันนั้นโหดเหี้ยมมากและด้วยลักษณะนิสัยอันโหดร้ายของมันทำให้มันจะเข้าโจมตีสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่ล่วงล้ำเข้ามาในถ้ำแห่งความตาย]
—
พระเจ้าช่วย! ขนาดด้วยเลเวลปัจจุบันของลู่หยวนเขาก็ยังไม่เห็นค่าสถานะของอสูรโลหิตเลยด้วยซ้ำ
ถ้าเขาถูกมันโจมตีเข้าซักครั้งคงถูกฆ่าในพริบตาเป็นแน่
โชคดีที่ลู่หยวนมีสกิลอย่าง [เงาติดตาม] ซึ่งทำให้ร่างกายของเขาล่องหนได้
[สกิลระดับตำนาน : เงาติดตาม+2]
[คำอธิบาย : สกิลเรียกใช้งาน – สกิลระดับเทวะอันหาได้ยากยิ่งในหมู่จอมโจรในตำนาน เผาผลาญมานา150หน่วยเพื่อเข้าสู่สถานะเงาซึ่งสามารถโจมตีได้โดยไม่เผยตัว ภายใต้สถานะเงานั้นผู้เล่นจะได้รับความสามารถในการต้านทานความเสียหาย30% คงอยู่เป็นระยะเวลา2นาที ระยะเวลาคูลดาวน์ 25 นาที (หมายเหตุ : ไม่สามารถอัพเกรดได้)]
ด้วยระดับของสกิลในปัจจุบันทำให้ระยะเวลาแสดงผลอยู่ที่2นาที
อย่างไรก็ตามลู่หยวนสามารถใช้ ‘คำอำนวยพรของครูช’ เพื่อทำให้ผลของสกิลเป็นสองเท่าได้
เช่นนี้แล้วเขาก็จะได้รับค่าต้านทานความเสียหาย60%และระยะเวลาของสกิลเองก็จะเพิ่มขึ้นเป็น4นาที!
ลู่หยวนเปลี่ยนกลายเป็นเงาและหายตัวไปในความว่างเปล่า
ด้วยระยะเวลา4นาที ลู่หยวนสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ
เวลาเท่านี้เพียงพอสำหรับลู่หยวนที่รู้เส้นทางเป็นอย่างดีอยู่แล้ว!
ลู่หยวนเดินตรงไปข้างหน้า
เมื่อผ่านอสูรโลหิตที่กำลังลาดตระเวนทั้งสามตัวไป พวกมันกลับไม่รู้ตัวดังคาด
ราวกับตัวเขาเป็นอากาศและไม่อาจสัมผัสถึงตัวตนของเขาได้เลย
สำเร็จ!
ลู่หยวนฉีกยิ้มกว้าง
สมแล้วที่เป็นสกิลระดับตำนาน
เช่นนี้ลู่หยวนก็สามารถไปต่อได้โดยไม่ต้องพะวงสิ่งใด
ในถ้ำแห่งความตายนั้น อากาศค่อนข้างจะอบอวลไปด้วยกลิ่นไม่พึงประสงค์
นอกจากนี้ยังมีกลิ่นอายมืดหม่นแฝงมาอีกด้วย
ดูแล้วน่าจะเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของพวกอสูรโลหิตเป็นแน่
ตามผนังถ้ำนั้นจะมีคบเพลิงและอื่นๆแขวนเอาไว้
ขบเพลิงเหล่านี้มากพอแล้วที่จะให้แสงสว่าง
ท่ามกลางแสงสลัวๆ ลู่หยวนสามารถจำเส้นทางได้แบบคร่าวๆ
“ถ้าฉันจำไม่ผิดน่าจะต้องเดินไปข้างหน้าก่อนซักพักถึงจะเจอทางแยก”
ขณะที่เดินอยู่นั้นลู่หยวนก็ลอบวางแผนเส้นทางในใจ
เนื่องจากตัวเขามีเวลาเพียงสี่นาทีดังนั้นจึงไม่อาจเสียเวลาได้แม้แต่วินาทีเดียว!
ไม่อย่างนั้นแล้วเมื่อใดที่สกิลของเขาหมดระยะเวลาแสดงผล เขาอาจจะถูกอสูรโลหิตสังหารได้ทุกเมื่อ
ไม่นานนักลู่หยวนก็มาถึงทางแยก
ทางแยกนี้มีอสูรโลหิตจำนวนมากเฝ้าระวังอยู่
พวกมันดูดุร้ายยิ่งนัก
“หลังจากเจอทางแยกให้ไปทางซ้าย เดินผ่านไปอีกสองแยกและจากนั้นเลี้ยวขวา”
ลู่หยวนคิดกับตัวเองและเริ่มออกวิ่ง
เขาใช้ความเร็วในการเคลื่อนที่ที่เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้!
เขาเลี้ยวซ้าย วิ่งผ่านไปอีกสองแยกและจากนั้นจึงเลี้ยวขวา
“หลังจากนั้นก็น่าจะเจอกับรูปปั้นของอสูรโลหิตแต่เป้าหมายก็ยังไม่ใช่ในห้องนี้ ต้องไปอีกชั้นหนึ่งก่อน”
เป็นไปตามคาด ลู่หยวนมาถึงห้องที่มีรูปปั้นของอสูรโลหิตตั้งอยู่
อสูรโลหิตขนาดยักษ์ตนนั้นถูกสลักและวางเอาไว้ใจกลางของห้อง
อย่างไรก็ตามเขายังไม่รู้ว่าทำไมอสูรโลหิตถึงต้องการรูปปั้นนี้หนักหนา
ปากทางเข้าห้องเองก็มีอสูรโลหิตเฝ้าระวังอยู่ถึงสองตัว ดังนั้นรูปปั้นนี่ก็น่าจะมีความสำคัญในระดับหนึ่ง
หลังจากเขาเข้ามาในห้องแล้วกลับพบว่าไม่มีอสูรโลหิตอยู่เลย
ลู่หยวนรีบวิ่งตรงไปยังด้านหลังของรูปปั้นขนาดยักษ์ภายในห้อง
“ด้านหลังของรูปปั้นสามารถเปิดออกได้ หลังจากเปิดออกแล้วจะมีเส้นทางนำไปสู่ชั้นถัดไป!”
จากนั้นลู่หยวนก็พบกับกลไกด้านหลังรูปปั้นเข้าจริงๆเขาจึงทำการกดลงไป
“แกร๊กๆๆๆ!”
พื้นดินด้านหลังรูปปั้นเริ่มสั่นสะท้านเบาๆ พื้นหินพลันเปิดออกและเผยให้เห็นบันไดที่นำไปสู่ชั้นถัดไปทอดยาวลงไปด้านล่าง
โชคดีที่เสียงกลไกไม่ได้ดังมากนักและไม่ได้ทำให้อสูรโลหิตสองตัวหน้าห้องแตกตื่น
ไม่อย่างนั้นพวกมันคงรีบแจ้นเข้ามาดูแน่ว่าเกิดอะไรขึ้น
หากเป็นแบบนั้นจริงแผนการของลู่หยวนคงพังพินาศ
ลู่หยวนเดินตามบันไดที่ปรากฏขึ้นมาลงไปด้านล่าง
เมื่อเขาเดินลงมาเรื่อยๆก็พบว่าด้านล่างนั้นมีบางอย่างที่ส่องแสงเจิดจ้ารออยู่
คลื่นแสงเจิดจ้านั้นส่องสว่างมาจากด้านล่าง
“น่าจะเกี่ยวกับมณีแห่งโนอาแน่ๆ” ลู่หยวนคาดเดาในใจ
เมื่อเขามาถึงด้านล่างก็พบกับแท่นบูชาดังคาด
แท่นบูชานี้มีลักษณะเป็นอสูรโลหิตซึ่งดูพิเศษเป็นอย่างยิ่ง
แตกต่างจากตัวที่เขาเห็นเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง เจ้าตัวนี้เพียงแค่มองดูก็บอกได้เลยว่ามันต้องเป็นเทพของเหล่าอสูรโลหิต
อย่างไรก็ตามลู่หยวนไม่ได้สนใจเรื่องแบบนี้เท่าไหร่นัก
กลับกันเขากลับมุ่งเป้าไปที่มณีแห่งโนอาซึ่งอยู่บนแท่นบูชาเสียมากกว่า
แสงสว่างส่วนใหญ่รอบๆนี้มาจากมณีแห่งโนอาดังคาด
แสงสว่างจากคบเพลิงรอบๆยังไม่อาจเทียบได้เลยกับแสงที่ส่องออกมาจากมณีแห่งโนอา
ราวกับมณีจรัสแสง มันส่องแสงสีเหลืองอ่อนละมุน สว่างเจิดจ้าออกมาซึ่งไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บปวดดวงตาแต่อย่างใด
“ใช่แล้ว! เจ้านี่แหละ!”