ตอนที่ 45 เรามีเงินขนาดนั้นเลยหรอ?

ตามข่าวที่ลั่วฮางได้รับมา ในการประมูลพรุ่งนี้ตอนเที่ยง จะมีไข่มุกพลังงานถูกนำไปประมูล และมันก็เป็นรายการสุดท้ายของงานประมูลนี้

วันต่อมา ซูเฉินเลยพาซูยี่และลั่วฮางไปยังที่ประมูล

ตุผลที่เขาไม่พาเหลิงยูเหว่ยและคนอื่นๆไปนั้นเป็นเพราะเขากลัวว่ามันจะเกิดเรื่อง และซูเอ้อนั้นก็ทำหน้าที่ปกป้องคนที่เหลือด้วย

“พี่เฉิน จากข่าวที่ผมรวบรวมมา โรงประมูลนี่ค่อนข้างจะหรูพอตัว และดูเหมือนคนธรรมดาแทบจะเข้าไปประมูลของไม่ได้ด้วยหล่ะ”ลั่วฮางก็กระซิบพูด

ซูเฉินก็ยังคงใจเย็น “ตามฉันมาก็พอ อย่างอื่นไม่ต้องห่วง”

ซูเฉินนั้นก็เดินนำหน้า ส่วนซูยี่และลั่วฮางนั้นก็เดินตามเขาราวกับบอดี้การ์ด ทั้งสามนั้นก็เดินทางมาถึงทางเข้าโรงประมูลและถูกยามขวางไม่ให้เข้า

“คุณครับ โปรดแสดงบัตร VIP ด้วย”ยามนั้นก็สุภาพมาก เนื่องจากคนที่นี่มาที่นี่ได้นั้นต่างก็เป็นบุคคลสำคัญทั้งสิ้น

“ฉันได้ยินว่าที่นี่ขายของดีๆเยอะเลย แล้วพวกฉันเข้าไปไม่ได้งั้นหรอหากไม่มีบัตร VIP หน่ะ?”ใบหน้าของซูเฉินนั้นก็ดูหยิ่งยโสพร้อมกับแสดงท่าทางใหญ่โตราวกับนายน้อยที่มาจากตระกูลใหญ่

ยามก็ตกตะลึง เขานั้นไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครแต่ที่นี่มีคนอยู่มากที่เขาไม่อาจจะหาเรื่องด้วยได้

“ท่านครับ การประมูลในครั้งนี้แตกต่างจากเมื่อก่อน ดังนั้นพวกเราจึงได้รับคำสั่งใหม่จากเบื้องบนว่ามีเพียงผู้ถือบัตร VIP เท่านั้นจึงจะสามารถเข้าไปได้ นอกจากนั้นแล้วผมต้องขอประทานโทษด้วย”ยามก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้มกระอักกระอ่วน

จากนั้นแล้ว ลั่วฮางก็ก้าวออกมาแล้วตบหน้ายาม “บังอาจนัก!! ถ้าหากแม้กระทั่งนายน้อยของฉันยังเข้าไปไม่ได้ แล้วใครจะมีสิทธิเข้าไปได้อีก?”

ยามก็ตกตะลึงและรู้สึกหวาดกลัวกับคำพูดของลั่วฮาง หรือว่านายน้อยคนนี้จะมาจากตระกูลหวัง? มีเพียงตระกูลหวังเท่านั้นที่กล้าพูดอะไรแบบนี้

ในขณะที่ลั่วฮางกำลังจะฟาดต่อ ซูเฉินก็โบกมือหยุดเขา “หยุด! ก็แค่บัตรVIP  หามาใช้มันจะยากขนาดใหนเชียว?”

พอเห็นสีหน้าไม่พอใจของซูเฉิน ยามก็กังวลว่าเขาจะโดน ‘นายน้อยตระกูลหวัง’หมายหัวเอาได้ พอถึงตอนนั้นชีวิตของเขาคงได้จบสิ้นแน่ ดังนั้นเขาจึงรีบคิดหาวิธีแก้ไข

“ท่านครับ ห้องส่วนตัวเต็มหดแล้ว แต่ผมสามารถจัดเตรียมทีนั่งบางส่วนในพื้นที่ธรรมดาให้ได้นะครับแต่พวกคุณจะต้องทำเองที่เหลือ”

“บังอาจ….”ลั่วฮางนั้นก็โมโหและเตรียมจะง้างมือฟาด

แต่ซูยี่ก็หยุดเขาไว้พร้อมกับแสดงสีหน้าเย็นชาออกมา “ให้นายน้อยเป็นตัดสินใจเองซะ หรือว่าแกอยากจะตายกันหะ?”

ในขณะที่พูด ซูยี่ก็ปลดปล่อยกลิ่นอายคนเหนือมนุษย์ระดับ 4 ดาวซึ่งมันทำให้ยามหวาดกลัวเลย

ตอนนี้ยามก็มั่นใจแล้วว่าซูเฉินจะต้องเป็นนายน้อยตระกูลหวังแน่ นอกจากนายน้อยตระกูลหวังแล้ว ใครกันจะมีคนเหนือมนุษย์ระดับ  4  ดาวเป็นบอดี้การ์ดได้?

ลั่วฮางจึงรีบก้าวถอยและทำท่าดูเหมือนจะหวาดกลัวซูยี่

“ที่นั่งธรรมดาก็ได้ ฉันแค่ไม่อยากจะเห็นหน้าของคนบางคนเท่านั้น ไปเตรียมให้พวกเราซะ”ซูเฉินก็แสดงสีหน้าดูถูกออกมา

ยามนั้นก็เลิกคิดแล้วรีบไปเตรียมที่นั่งให้พวกเขา ตราบใดที่เขาสามารถปล่อยพวกซูเฉินเข้าไปได้ ที่เหลือนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาของเขาแล้ว ยังไงซะยามนั้นก็ยังมีอำนาจในการจัดการเรื่องนี้

และในตอนนี้ เนื่องจากการประมูลระดับสูง คนมากมายที่ไม่มีบัตรVIP จึงไม่สามารถเข้าไปได้ ดังนั้นในพื้นที่ธรรมดาจึงไม่ค่อยมีคนนัก ทั้งสามจึงเลือกที่นั่งได้ตามสบายใจ

แม้ว่ามันจะถูกเรียกว่าที่นั่งธรรมดา แต่ทุกอย่างที่เตรียมไว้นั้นอยู่ในระดับหรูทั้งนั้น แทบเรียกว่าไม่ได้ธรรมดาเลยด้วยซ้ำ

ทั้งสามคนนั้นก็นั่งรออยู่สิบนาที และทันใดนั้นการประมูลก็เริ่มขึ้น

แสงไฟรอบๆตัวของพวกเขาก็ดับลมพร้อมกับมีไฟฉายขึ้นที่เวที ทันใดนั้นหญิงสาวที่ดูเซ็กซี่ก็ได้ปรากฏขึ้นบนเวทีพร้อมกับถือค้นไม้ขนาดเล็กอยู่ในมือ นอกจากนี้ที่ข้างๆเธอนั้นก็มีโต๊ะที่มีผ้าสีแดงคลุมอยู่ด้านบน

“ยินดีต้อนรับ แขกผู้มีเกียรติสู่โรงประมูลเทียนหยู ครังนี้ พวกเราได้เตรียมรายการประมูลไว้มากมาย และแน่นอนว่าจะต้องมีสิ่งที่ทุกท่านสนใจแน่ งั้นเรามาบิดราคากันที่ของชิ้นแรกกัน…”

ผู้หญิงคนนี้ก็พูดอย่างไม่รีรอ เธอนั้นรู้ดีว่าคนพวกนี้ที่มาเพื่อประมูลของ ไม่ใช่มาเพื่อดูเธอสักหน่อย

ในขณะที่พวกเขาเฝ้ามองดูสิ่งของขึ้นประมูลชิ้นแล้วชิ้นเล่า ซูเฉินกับซูยี่ก็ยังคงใจเย็นอยู่ ในขณะที่ลั่วฮางนั้นตื่นเต้นมาก  นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้าร่วมการประมูลระดับสูงแบบนี้ และของพวกนี้มันก็เปิดหูเปิดตาของเขามาก

สิ่งของส่วนใหญ่นั้นเป็นอาวุธ ในโลกนี้ อาวุธทีค่ทรงพลังนั้นมีค่ามากกว่าความสามารถที่แข็งแกร่งอีก

ตัวอย่างเช่น สินค้าประมูลที่ 9 คือกับระเบิดเพลิงน้ำแข็ง หากสิ่งมีชีวิตเหยียบมันหล่ะก็ มันจะก่อให้เกิดระเบิดที่เต็มไปด้วยพลังของน้ำแข็งและเพลิงซึ่งจะทำให้สิ่งมีชีวิตที่เหยียบนั้นตายอย่างโหดร้ายภายใต้น้ำแข็งและไฟ เจ้าสิ่งนี้สามารถฆ่าคนเหนือมนุษย์ระดับ 4 ดาวได้ และแม้กระทั้งคนเหนือมนุษย์ระดับ 5 ดาวก็ยังได้รับบาดเจ็บเลย คนหลายๆคนจึงบิดประมูลมันกันอย่างร้อนแรง ถ้าหากลั่วฮางนั้นไม่รู้ว่าเขาไม่มีโอกาสจะได้มัน เขาก็คงจะประมูลมันไปแล้ว

ซูเฉินนั้นก็ไม่ได้สนใจอาวุธพวกนี้เลย เขานั้นสนใจแค่สิ่งนั้น รายการประมูลสุดท้าย ไข่มุกพลังงาน

“รายการประมูลสุดท้ายนั้นคือสิ่งที่ฉันเชื่อว่าแขกผู้มีเกียรติต่างเฝ้ารอ ใช่แล้ว มันคือไข่มุกพลังงาน และในครั้งนี้ไม่ใช่แค่อันเดียว แต่มาถึงสอง!!”

ผู้ชมทั้งห้องต่างก็ตื่นเต้นกันมาก ไม่มีใครคาดคิดว่าไข่มุกพลังงานจะมาถึงสองอัน ถ้าหากคนเหนือมนุษย์ระดับ 6 ดาวใช้หล่ะก็ มันก็อาจจะมีโอกาสที่พวกเขาจะพัฒนากลายเป็นระดับ 7 ดาว!!

เมื่อกลายเป็นคนเหนือมนุษย์ระดับ 7 ดาวแล้ว ไม่เพียงความแข็งแกร่งของพวกเขาเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง แต่สถานะของพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์ด้วย

แม้ว่าพวกเขานั้นจะไม่สามารถเป็นคนควบคุมเมืองฐานทัพได้ แต่สถานะรองผู้ควบคุมเมืองฐานทัพนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะดูถูกได้

สถานการณ์แบบนี้มักจะเกิดขึ้นกับเมืองฐานทัพระดับหนึ่งและระดับสอง เมืองฐานทัพระดับสามนั้นไม่เคยมีรองผู้ควบคุมเมืองมาก่อน

โชคร้ายที่ การกำเนิดคนเหนือมนุษย์ระดับ 7 ดาวนั้นนับได้ว่ายากมากก ทุกๆครั้งที่คนเหนือมนุษย์ระดับ 7 ดาวปรากฏขึ้น มันก็ถือได้ว่าเป็นการเฉลิมฉลองของมนุษยชาติ

ไข่มุกพลังงานแค่ชิ้นเดียวอาจจะไม่สามารถรับประกันได้แต่สถ้าสองอันนั้นคนละเรื่อง

และในตอนนี้บรรยากาศในห้องโถงนั้นก็ตึงเครียดมาก ทุกคนล้วนอยากจะประมูลไข่มุกพลังงานสองชิ้นนี้โดยหวังว่าจะกลายเป็นตระกูลที่มีคนเหนือมนุษย์ระดับ 7 ดาว

ซูเฉินนั้นก็บรรยากาศรอบตัวแล้วจับจ้องไปที่ไข่มุกพลังงานสองชิ้นบนเวที

“ระบบ สองชิ้นนั้นคือแกนกลางงั้นหรอ?”เขาถาม

“ใช่แล้ว”ระบบก็พูด

ด้วยการยืนยันของระบบะ ซูเฉินก็ผ่อนคลายลง และมาถึงตอนนี้ การประมูลก็ได้เริ่มขึ้น

“10 ล้านโฮปคอยน์!!”คนแรกก็ได้ตะโกนขึ้น

“แกอยากจะได้ไข่มุกพลังงานด้วย 10 ล้านโฮปคอยน์งั้นหรอ? งั้นฉัน 30ล้านโฮปคอยน์!!”

“50 ล้านโฮปคอยน์!!”

“1 พันล้านโฮปคอยน์!!”

เสียงสุดท้ายนั้นมาจากซูเฉิน ประโยคนี้ทำให้ลั่วฮางหวาดแตกตื่นขึ้นมา เขาจึงถามออกมาว่า “พี่เฉิน เรามีเงินขนาดนั้นเลยหรอ?”

1 พันล้านโฮปคอยน์นี่ไม่ใช่ หนึ่งโฮปคอยน์สักหน่อย

แม้ว่าซูเฉินจะมอบคริสตัลพลังงานให้พวกเขาเยอะแยะแต่พวกนั้นไม่รวมกับ 1 พันล้านโฮปคอยน์สักหน่อย