Chapter 169: Condensing the First Mind's Eye, All-Knowing Identification Technique
ช่วยรีวิวตอนนี้หน่อยว่ามันต่างกับตอนที่ผ่านมาหรือไม่ ผมกำลังหาวิธีแปลยังไงให้เร็วขึ้นตอนนี้ผมอบรม ที่ กทม เลยไม่ค่อยมีเวลาแปล ครับ
—-----------------------------------------------------------------------------------------------
"หืม?!"
โจวสุ่ยปล่อยให้กู่หนังสือกินคัมภีร์สืบทอดผลึกหยกเข้าไป ปรากฏว่าสติปัญญาและความเข้าใจของเขาแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า
ในตอนนี้ เขารู้สึกราวกับว่าเขาสามารถคิดวิเคราะห์ปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย
ไม่ว่าเขาจะพยายามเข้าใจความรู้อะไรมันก็ง่ายเหมือนพลิกมือ
ปัญหาและปริศนามากมายที่เขาไม่เข้าใจก่อนหน้านี้ ก็ได้รับการแก้ไขในตอนนี้
"ใช่แล้ว นี่เป็นเวลาที่ดีที่จะฝึกวิขาเจ็ดรูประณีตให้สำเร็จ"
ดวงตาของโจวสุ่ยเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น
เขาได้รับวิชาเจ็ดรูประณีตมาเกือบหนึ่งปีแล้ว แต่เขาก็ยังไม่สามารถฝึกฝนดวงตาแรกให้สำเร็จได้
แน่นอนว่า นี่ก็เกี่ยวข้องกับการที่เขาไม่ฝึกฝนวิชานี้อย่างจริงจัง
ท้ายที่สุดแล้ว เขายังมีสิ่งอื่น ๆ อีกมากมายที่ต้องเรียนรู้และบ่มเพาะ เช่น การปรุงยา วิชากู่ศักดิ์สิทธิ์ พระสูตรหัวใจอัญเชิญปีศาจและอื่น ๆ
สิ่งใดก็ตาม ล้วนต้องใช้ความพยายามและเวลาเป็นอย่างมาก
แต่ตอนนี้ที่สติปัญญาของเขาเพิ่มขึ้น เขาต้องการเข้าใจดวงตาแรกอย่างถ่องแท้
ตูม!
ในชั่วพริบตา โจวสุยก็นั่งไขว่ห้างบนพื้น รวบรวมสัมผัสอันศักดิ์สิทธิ์ในร่างกายของเขาเพื่อสร้างดวงตาของจิตใจนี้
เดิมทีหลังจากฝึกฝนมานานกว่าหนึ่งปีดวงตาของจิตใจก็ถึงระดับ 65% แล้ว
เหลืออีกไม่ไกลที่จะสำเร็จ
ตอนนี้การบ่มเพาะของเขาได้ก้าวไปสู่ระดับการสร้างรากฐานแล้ว สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
ประกอบกับความช่วยเหลือของพลังของ กู่หนังสือ
การสร้างดวงตาแรกก็ง่ายขึ้นมาก
เส้นสายต่าง ๆ เริ่มถูกร่างด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ ชัดเจนและละเอียดอ่อน
66%, 70%, 75%, 80%... 66%, 70%, 75%, 80%...
ความเร็วในการสร้างดวงตาของจิตใจเร็วขึ้นเรื่อยๆ อาจเป็นเพราะการบ่มเพาะทําให้สมบูรณ์แบบ
ในพริบตาสามวันและคืนผ่านไป
ตูม!
โจวสุ่ยทั้งกายและใจสั่นสะเทือนรุนแรง ราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังสั่นไหว เส้นลายสุดท้ายถูกวาดขึ้น และตาของเขาก็ปิดสนิทลง
ดวงตาของจิตใจที่สมบูรณ์แบบได้ก่อตัวขึ้นแล้ว จะไม่สลายอีกต่อไป และเริ่มทำงานด้วยตัวเอง
"นี่คือดวงตาแห่งจิตใจ?"
ทันใดนั้น โจวสุ่ยก็สัมผัสได้ว่าในใจของเขาลึกลงไป มีดวงตาเสมือนจริงลอยขึ้นมาทันที ดวงตาเป็นสีทองเข้ม และรูม่านตาลึกลงไปมีลวดลายลึกลับปรากฏขึ้น
ราวกับเครื่องจักรที่ละเอียดอ่อนที่สุด หากมีชิ้นส่วนเพิ่มเติมหรือชิ้นส่วนที่หายไป เครื่องจักรก็จะพังทลาย
จากศูนย์กลางร่างกายของเขา พลังแห่งใจที่ไม่มีรูปร่างได้แผ่ขยายออกไป
พลังของมันสูงกว่า สัมผัสอันศักดิ์สิทธิ์
ราวกับเป็นพลังจากมิติที่สูงกว่า แทรกซึมเข้าไปในอวกาศอย่างเงียบๆ และหยั่งรู้ถึงแก่นแท้
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาจึงโบกมือใหญ่และนำสิ่งของจำนวนหนึ่งออกมาจากภายในพื้นที่ของ ชามกู่ศักดิ์สิทธิ์ ทันที
ทั้งหมดนี้เป็นของขวัญที่ได้รับจากพิธีสร้างรากฐาน
เขาตั้งใจที่จะใช้สิ่งเหล่านี้ทดสอบพลังของดวงตาดู
[เม็ดยาแก่นไม้ เม็ดยาระดับสองขั้นสูง บรรจุพลังแก่นไม้บริสุทธิ์ เมื่อกินเม็ดยาแก่นไม้หนึ่งเม็ด จะสามารถพลังการบ่มเพาะสำหรับผู้บ่มเพาะสร้างรากฐานได้อย่างมาก สรรพคุณของยามีฤทธิ์อ่อน ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บ่มเพาะมากนัก]
[เป็นเม็ดยาระดับสองขั้นสูง บรรจุพลังของไฟบริสุทธิ์ พลังยารุนแรงมาก กินยาหนึ่งเม็ดสามารถเพิ่มระดับการบ่มเพาะของผู้บ่มเพาะสร้างรากฐานได้อย่างมาก แต่อาจส่งผลเสียต่อเส้นลมปราณและร่างกาย จึงควรใช้กับผู้บ่มเพาะสร้างรากฐานที่มีร่างกายแข็งแรงเท่านั้น]
[ดาบงูน้ําแข็ง อาวุธวิญญาณขั้นต่ํา บรรจุพลังของน้ําแข็ง เมื่อปล่อยออกมาแล้ว มันจะมีผลต่างๆ เช่น การแช่แข็งและการชะลอตัว และความเร็วของมันเร็วมาก เช่น งูพิษกัด]
[หญ้าวิญญาณเข้มข้น สมุนไพรทางจิตวิญญาณระดับสอง ที่มีผลในการจดจ่อวิญญาณและทําให้จิตใจสงบ สามารถช่วยให้ผู้บ่มเพาะเข้าสู่สภาวะสมาธิได้เร็วขึ้นและยังเพิ่มความรู้สึกอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาเล็กน้อย]
ทันใดนั้น ข้อมูลชุดหนึ่งก็ไหลเข้ามาในทะเลสติของเขาเหมือนคลื่น
ข้อมูลของสมบัติแต่ละชิ้นบนพื้นปรากฏขึ้นทันที ไม่มีสิ่งใดปิดบัง
"นี่แหละคือพลังของ 'ตาเห็นสิ่งของ' ใช่ไหม?"
"นี่มันเหมือนวิชาตรวจสอบ"
โจวสุ่ยรู้สึกดีใจอย่างยิ่ง เบิกตากว้าง
ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าอดีตผู้นำตระกูลลู่ ลู่หงหราน ได้ร่ำรวยขึ้นมาได้อย่างไร
เดิมทีอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้บ่มเพาะอิสระ แต่ด้วยพลังดวงตาแห่งการสังเกตุเขาจึงเริ่มขายสมบัติและวัสดุต่างๆ และเข้าไปหาของถูกในตลาด
(มันจะบอกว่าซื้อถูกขายแพงราวๆนี้ครับ)
เพียงแค่เก็บของครั้งเดียว ก็รวยชั่วข้ามคืน
ความจริงแล้ว พลังของ "ดวงตาแห่งการสังเกต" นั้นช่างทรงพลังยิ่งนัก
เพราะในโลกแห่งการบ่มเพาะนั้น มีสมบัติมากมายนับไม่ถ้วน
แต่เนื่องจากขาดการสืบทอด จึงไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้ว่าสมบัติเหล่านี้มีมูลค่าเท่าใด
ยิ่งไปกว่านั้นสมบัติยังสามารถปกปิดตัวเองปลอมตัวเป็นสิ่งของไร้ค่า
แม้แต่ผู้บ่มเพาะที่มีสายตาเฉียบคมมาก ก็ไม่สามารถสังเกตเห็นได้
แต่ด้วยดวงตาแห่งการสังเกตเป็นการตรวจสอบที่แตกต่างกัน เพราะสามารถตรวจสอบได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่รู้จัก
แม้กระทั่งสิ่งที่ไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อน ก็ยังสามารถดูออกได้
เมื่อได้พลังนี้มาครอบครอง เขาก็ไม่ต้องกลัวที่จะพลาดสมบัติใดๆ อีก
เปรียบเสมือนว่าเขาคือเซียนแห่งการสังเกต
"หลักการสังเกตุวัตถุด้วยใจ คือการเปิดใจฟังเสียงของวัตถุนั้น"
"วัตถุทุกชิ้น แม้จะเป็นสิ่งตาย แต่มันก็ยังคงเหลือร่องรอยมากมาย"
“ร่องรอยเหล่านี้ไม่สามารถถูกผู้บ่มเพาะทั่วไปสังเกตเห็น”
“แต่ดวงตาแห่งการสังเกตุนั้นไม่เหมือนกัน มันสามารถฟังข้อมูลของวัตถุเหล่านั้นได้”
(ผมกะ งง น่ะ ดวงตาแต่ฟังเสียงแทนจะที่จะใช้หู ใครเก่งแนะนำได้ )
“ดังนั้น แม้ว่าจะไม่เคยเห็นวัตถุชิ้นนี้มาก่อน ก็ยังสามารถระบุข้อมูลของวัตถุเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย”
“นี่คือจุดที่ทรงพลังของดวงตาแห่งการสังเกตุ”
. ดวงตาของโจวสุ่ยเป็นประกาย
เขารับรู้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของสุดยอดวิชานี้ วิชาเจ็ดรูประณีต เมื่อฝึกฝนจนสำเร็จ ก็จะเปรียบเสมือนการสร้างร่างวิญญาณอันทรงพลัง หรือมีพรสวรรค์ติดตัวมาแต่กำเนิด
สำหรับเหล่าผู้บ่มเพาะแล้ว ประโยชน์ของมันเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง
เพียงแต่ต้องการที่จะฝึกฝนวิชานี้ให้สำเร็จ ช่างเป็นเรื่องยากเหลือเกิน
คาดว่านอกเหนือจากผู้วิชาคัมภีร์ลับเล่มนี้แล้ว คนที่สามารถฝึกฝนสำเร็จได้จะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
เขาเองก็อาศัยพลังของกู่หนังสือ จึงสามารถฝึกฝนวิชานี้ให้สำเร็จ
หากปราศจากความช่วยเหลือจากกู่หนังสือแล้ว คาดว่าเขาเองก็ไม่สามารถเริ่มฝึกวิชานี้ได้
"ดวงตาที่สองคือดวงตาแห่งการหยั่งรู้"
“ดวงตาดวงนี้ เปรียบเสมือนเครื่องมือค้นหาที่ทรงพลังที่สุด”
"หากฝึกฝนสําเร็จ ดวงตาแห่งการหยั่งรู้จะแข็งแกร่งกว่าสัมผัสอันศักดิ์สิทธิ์มากกว่าสิบเท่า"
"ที่สําคัญกว่านั้น พลังของดวงตาไม่สามารถตรวจจับได้โดยผู้บ่มเพาะสร้างรากฐานหรือผู้บ่มเพาะแกนทอง"
"ต่างจากสัมผัสอันศักดิ์สิทธิ์ ถ้ามันแผ่ออกไป มันจะถูกตรวจจับอย่างแน่นอน"
“อย่างนี้ก็จะเสียเปรียบ”
โจวสุยกําหมัดแน่น
เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
เพียงดวงตาดวงแรกก็ทรงพลังเช่นนี้ หากฝึกฝนดวงตาที่สองสำเร็จได้ พลังสนับสนุนของเขาก็จะเหนือกว่าใคร
ก็เหมือนกับการเพิ่มเรดาร์เข้าไป ที่สามารถสแกนพื้นที่ต่างๆ ได้ตลอดเวลา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หากเป็นเช่นนี้ ความปลอดภัยของเขาก็จะได้รับการยกระดับอย่างมาก
ต่อให้ศัตรูต้องการลอบทำร้ายเขา ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้
(จบบทนี้)