ตอนที่แล้ว1348 - โลงศพผู้อมตะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1350 - ซากศพที่ฟื้นคืนชีพ

1349 - เจิ้นหยวนจื่อ


1349 - เจิ้นหยวนจื่อ

เย่ฟ่านมั่นใจอย่างมากว่าซากศพของเต๋อเซียน(บรรพชนเซียน)ได้กลายเป็นเทพหยินไปตั้งแต่เมื่อหลายแสนปีก่อนแล้ว

สาเหตุที่เขาไม่นำยาเซียนชิ้นนี้ไปด้วยก็เพราะพลังแห่งความตายอันน่าสะพรึงกลัวอาจส่งผลกระทบต่อผู้คนที่อยู่ใกล้ตัวเขา

เย่ฟ่านเคลื่อนไหวอีกครั้งโดยใช้ทักษะต้นกำเนิดเพื่อตัดปราณมังกรในบริเวณใกล้เคียงออก จากนั้นจึงค่อยๆ เปิดโลงศพพร้อมกับหยิบตะเกียงที่มีวิญญาณของจักรพรรดิภูตผีออกมา

ว่างเปล่า!

เป็นไปตามความคาดหมาย หากเต๋อเซียนไม่ฟื้นคืนชีพและหลบหนีออกไปด้วยตัวเอง ก็อาจจะมีใครบางคนพาตัวเขาออกไปแล้ว?

หลังจากดูอย่างระมัดระวัง พวกเขาก็ยิ่งตกใจมากขึ้นเรื่อยๆ มีร่องรอยของการเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดมาก

บนพื้นของโลงศพมีร่องรอยของมนุษย์นอนอยู่บนนั้นเป็นเวลาหลายปีและมันมีลักษณะคล้ายกับรูปร่างของเขาอย่างชัดเจน

เต๋อเซียนกลับคืนสู่เต๋าผู้ยิ่งใหญ่แล้ว!?

แม้ว่าพวกเขาจะรู้มานานแล้วว่าสิ่งที่เรียกว่าเซียนอมตะส่วนใหญ่ในโลกนั้นไม่ใช่คนที่เป็นอมตะอย่างแท้จริง

แต่เมื่อพบว่าคนที่เข้าใกล้ขอบเขตนั้นมากที่สุดก็ยังกลับคืนสู่เต๋าผู้ยิ่งใหญ่มันก็ทำให้พวกเขาอดที่จะรู้สึกผิดหวังไม่ได้

“สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?”

ซุนหงอคงรู้สึกผิดหวังอย่างมากและบ่นพึมพำไม่หยุด เขาไม่สามารถยอมรับข้อเท็จจริงนี้ได้

เย่ฟ่านไม่กล่าวอะไรและปิดฝาโลงอย่างเงียบๆ สุดท้ายเขาก็วางต้นไม้อมตะลงบนฝาโลงศพอีกครั้ง

“มีภูเขามังกรทั้งหมดเก้าสิบเก้าลูก นี่เป็นเพียงลูกแรก มันไม่แปลกไปหน่อยหรือที่ผู้อมตะที่แท้จริงจะฝังร่างของตัวเองไว้ในภูเขาลูกแรกเลย?” เหล่าเหอถาม

“ไปดูกันต่อดีกว่า”

เย่ฟ่านรู้สึกสงสัยเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงก้าวไปข้างหน้าและเริ่มสำรวจภูเขามังกรแห่งที่สอง

ในจุดนี้ก็มีหน้าผาที่มีรอยแตกขนาดใหญ่ แม้ว่าโลงศพที่ถูกบรรจุไว้ในรอยแตกนั้นจะมีน้อยกว่ายอดเขาแรก แต่สิ่งที่แปลกก็คือมีโลงศพหยกอีกโลงวางอยู่ในส่วนลึกของรอยแตกนั้น

“โลงหยกอีกโลง ในโลกนี้มีผู้อมตะกี่คนกันแน่...?”

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีกิ่งก้านของต้นไม้อมตะวางอยู่บนฝาโลง กลิ่นหอมของมันฟุ้งกระจายออกมาจากระยะไกล

เย่ฟ่านและคนอื่นๆ เริ่มหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาเข้าไปในรอยแตกด้วยความระมัดระวังก่อนจะพบว่าซากศพที่อยู่ในโลงหยกนั้นกลับคืนสู่เต๋าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซากศพที่อยู่ในโลงศพหยกทั้งสองมีความแข็งแกร่งไม่เป็นรองจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่ออย่างมากที่จะมีซากศพของคนระดับนี้ถูกจับมาบรรจุอยู่ในโลงศพหยกถึงสองคน

สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือใครทำสิ่งนี้เกิดขึ้น เขากล้าแม้กระทั่งเสียสละยาเซียนมาดึงดูดพลังแห่งความตาย ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้ยาเซียนสูญเสียประโยชน์ไปเปล่าๆ

เย่ฟ่านและคนอื่นๆ มองหน้ากันด้วยความตกใจโดยไม่กล่าวอะไรสักคำ จากนั้นเดินลึกเข้าไปในภูเขามังกรแห่งที่สาม แน่นอนว่าสถานการณ์ในภูเขาลูกนี้ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

หลังจากนั้นพวกเขาเดินผ่านภูเขาทั้งห้าลูกและเป็นเช่นนี้เสมอจิตใจของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างไม่สิ้นสุด

“อย่าบอกนะว่ามีซากศพของจักรวรรดิผู้ยิ่งใหญ่ถูกบรรจุอยู่ในโลงนี้ถึงเก้าสิบเก้าคน นี่จะไม่เป็นเรื่องไร้สาระหรือ?”

แม้แต่เหล่าเหอก็ไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้

พวกเขาทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ไปถึงเมฆ และมองไปยังภูเขามังกรที่สูงตระหง่าน ทันใดนั้นสีหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจอีกครั้ง

นั่นก็เพราะในบริเวณสิบยอดเขาแรกภายในเทือกเขานี้ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกเซียนอย่างแน่นหนา ในขณะเดียวกันหมอกเซียนก็ก่อตัวเป็นอักษรขนาดใหญ่มีใจความว่า

“ดินแดนแห่งความเป็นอมตะ!”

อย่างไรก็ตามเริ่มต้นจากภูเขามังกรที่สิบเป็นต้นไป ภูเขาทั้งหมดพังทลายลงโดยสมบูรณ์ เทือกเขาขนาดใหญ่นี้จึงมีภูเขาเพียงสิบลูกเท่านั้น

“เกิดอะไรขึ้น?”

“ข้าเข้าใจแล้ว”

เย่ฟ่านพยักหน้าและกระซิบกับตัวเอง ภูเขามังกรเก้าสิบเก้าลูกคือจุดสูงสุด ไม่มีใครสามารถรวบรวมปราณมังกรเข้าด้วยกันได้มากมายถึงขนาดนี้

แน่นอนว่าไม่มีซากศพของใครถูกทิ้งไว้ที่นี่เช่นกัน เพราะไม่มีใครสามารถลอกเลียนเส้นเลือดมังกรทั้งเก้าสิบเก้าเส้นขึ้นมาได้ สาเหตุก็เพราะปราณมังกรในโลกนี้อยู่อย่างจำกัด

ต่อให้เป็นปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ทำด้วยตัวเองอย่างมากสุดพวกเขาก็ดึงปราณมังกรออกมาได้ไม่กี่เส้นและปล่อยออกไป ก่อนจะดึงเส้นใหม่ออกมาอีกครั้ง!

เต๋อเซียนย่อมตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นกัน แต่เขาก็ยังดึงดันที่จะสร้างภูเขาขึ้นมาเก้าสิบเก้าลูก

สุดท้ายมันก็ถูกปฏิเสธโดยสวรรค์พิภพและทำให้ภูเขามังกรของเขาพังทลายลงเกือบทั้งหมด โดยในปัจจุบันจึงมีเพียงภูเขาสิบลูกเท่านั้นที่เห็นอยู่ตรงหน้า

อย่างไรก็ตามความสามารถนี้ยังคงน่าทึ่งอย่างยิ่ง เพราะแม้แต่รังหมื่นมังกรหรือภูเขาจักรพรรดิก็ยังมีเส้นเลือดมังกรเพียงเก้าเส้นเท่านั้น!

หลังจากร่อนลงบนพื้นแล้ว เย่ฟ่านและคนอื่นๆ ก็ไม่รีบเร่ง พวกเขาสังเกตภูเขามังกรและโลงศพหยกอย่างระมัดระวัง และในที่สุดก็มาถึงภูเขามังกรที่แปด

ที่ภูเขามังกรที่แปด นอกเหนือจากโลงศพหยกและกิ่งไม้ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังมีแผ่นหยกสีขาวที่มีคำจารึกอยู่ด้วย มันเป็นสิ่งที่เต๋อเซียนทิ้งไว้ให้ลูกศิษย์ที่ติดตามเขามาจากโรคอื่น

“เขาเป็นผู้อมตะจริงๆ! ศิษย์ของเขาทั้งหมดตายไปแล้ว แต่เขายังมีชีวิตอยู่ และโลงศพทั้งแปดนั้นล้วนบรรจุไว้ด้วยลูกศิษย์ของเขาที่เป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสิ้น!” ซุนหงอคงอุทาน

เย่ฟ่านก็ตกตะลึงเช่นกัน ศิษย์ของบรรพชนเซียนเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมด อย่างไรก็ตามพวกเขาตายไปแล้ว มีเพียงบรรพชนเซียนเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่

ภูเขาเหล่านี้คือสุสานที่เขาทำให้กับลูกศิษย์ของตัวเอง!?

ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงภูเขามังกรแห่งสุดท้ายที่ยังไม่ได้รับความเสียหายซึ่งมีไอน้ำสีม่วงพลุ่งพล่านจนเกือบจะมองไม่เห็นสิ่งใด ที่นี่ก็มีข้อความที่ถูกบันทึกไว้เช่นกัน

พวกเขาทั้งสามเฝ้าดูอย่างระมัดระวังและเข้าใจความหมายที่บรรพชนเซียนทิ้งไว้ เขามีชีวิตมาอย่างยาวนานจนกระทั่งมาถึงยุคของแคว้นฉู่ เขาเคยพบกับฉือซ่งจื้อครั้งหนึ่ง

นั่นเป็นเหตุผลให้ฉือซ่งจื้อตามหาเขาชั่วชีวิต!

“ผู้อมตะในตำนานมีอยู่จริงๆ?”

เย่ฟ่านคาดเดาได้แล้วว่าคนผู้นี้เป็นใคร อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้รับคำยืนยันจริงๆ เขาก็ยังอดที่จะตกตะลึงไม่ได้

“ข้าถูกฝังไว้ที่นี่พร้อมกับต้นโสมอมตะ(ยิ่มเซียมก๊วยหรือมักกะนารีผล)!”

“นี่... เป็นไปได้อย่างไร? เต๋อเซียนคนนี้คือเจิ้นหยวนจื่อ(ติ๋นหงวนไต้เซียน)จริงๆ หรือ เป็นไปไม่ได้!” เย่ฟ่านตกตะลึงและเต็มไปด้วยความสับสน

ประโยคสุดท้ายที่ถูกบันทึกไว้ดูไม่น่าเชื่อสำหรับเย่ฟ่านจนเขาคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงเรื่องตลก!

เซียนเจิ้นหยวน(หนึ่งในตัวร้ายเรื่องไซอิ๋ว)เป็นเซียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ปลูกต้นโสมศักดิ์สิทธิ์ไว้ ต้นโสมนี้สามารถทำให้ผู้คนมีชีวิตยืนยาวได้ถึงสี่หมื่นปีและมันจะให้ผลผลิตทุกๆ เก้าพันปี

สิ่งนี้ย่อมหมายความว่าหากเขารับประทานต้นโสมเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอเขาย่อมมีชีวิตอยู่อย่างไร้ขีดจำกัด!

“เจิ้นหยวนจื่อมีตัวตนจริงๆ หรือ?” เย่ฟ่านถามเหล่าเหอและซุนหงอคง

“ไม่”

เหล่าเหอไม่เชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง ซุนหงอคงก็หัวเราะออกมาเช่นกัน เขาเคยอ่านตำนานการเดินทางของพระถังซัมจั๋งเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงรู้ว่านี่เป็นเพียงนิยายเท่านั้น

“มันแปลกจริงๆ มันเขียนไว้อย่างชัดเจนว่าเขาถูกฝังไว้พร้อมกับต้นโสมเซียน แล้วเขาจะเป็นใครไปได้?”

เย่ฟ่านกล่าวกับตัวเองและถามทั้งสองว่าพวกเขามีความรู้เกี่ยวกับยาเซียนบ้างหรือไม่

ทั้งสองส่ายหน้าโดยบอกว่าในตอนที่พวกเขาเกิดขึ้นมานั้นยาเซียนได้หายไปจากโลกจนหมดแล้ว ต่อให้พวกเขารู้จักพวกมันก็มีเพียงยามังกร ยากิเลน และยาหงส์ไฟเท่านั้น

สิ่งนี้ผิดปกติมากเกินไป เต๋อเซียนเป็นสิ่งมีชีวิตที่มาจากโลกอื่น เมื่อเขามาถึงโลกมนุษย์เขาควรจะมีวีรกรรมที่โด่งดังเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ปรากฏขึ้นกลับมีเพียงนิทานไร้สาระเท่านั้น

“อย่ากังวลมากนัก ไม่สำคัญหรอกว่าซากศพเหล่านั้นจะเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่หรือไม่ ทุกคนตายหมดแล้ว โชคดีที่ยาเซียนต้นสุดท้ายยังมีชีวิตอยู่ เราเพียงเอามันกลับไปก็ถือเป็นผลลัพธ์อันยิ่งใหญ่แล้ว” ซุนหงอคงมีความกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก

ก่อนหน้านี้พวกเขามองเห็นกิ่งก้านของยาเซียนเก้าต้นที่ติดเชื้อแห่งความตายจนหมดสิ้น แต่เมื่อมาถึงโลงศพสุดท้ายพวกเขาก็ค้นพบว่าต้นแม่ของมันอยู่ที่นี่ และมันยังคงความบริสุทธิ์โดยไม่ได้รับผลกระทบจากพลังแห่งความตายเลย

………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด