บทที่19 โฮชิงาคิ คิซาเมะ
“หนูไปก่อนนะคะ พ่อ แม่!” เทรูมิ เมย์โค้งคำนับพ่อแม่ของเธอแล้วรีบวิ่งออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากเห็นกิเลนเมื่อวานนี้ เธอก็มั่นใจอย่างสมบูรณ์ว่าริวอุน มีคุณสมบัติเป็นครูประจำทีมของเธอ และไม่ต้องการสร้างปัญหาให้เขาเหมือนเมื่อวานอีกต่อไป
เมย์มุ่งหน้ามาสนามฝึกซ้อมที่ 1 อย่างเร็วที่สุด
พอเธอมาถึงกลับไม่มีวี่แววของริวอุนเลย
‘ฉันควรรอก่อน บางทีเขาอาจติดธุระหรือกินมื้อเช้าก่อนมาก็ได้’ เมย์คิด
เวลาผ่านไปทีละนิด ตาของเมย์กระตุกถี่ยิบตลอดเวลา หากเธอจำไม่ผิด ก่อนเธอจากไปเมื่อวาน ริวอุนนัดเธอเอาไว้ที่สนามฝึกเวลาเจ็ดโมงเช้า แต่ตอนนี้แปดโมงแล้ว ริวอุนก็ยังไม่มา
“แย่มาก!”
“ฉันไปหลงเชื่อคำพูดของเขาได้ยังไงนะ!”
ใบหน้าเล็ก ๆของเมย์ดูโกรธเกรี้ยวและที่สำคัญกว่านั้น นอกจากตัวเธอแล้ว เพื่อนร่วมทีมอีกสองคนก็ยังไม่มาด้วย มันยิ่งทำให้เธอโกรธยิ่งขึ้นไปอีก
ตึก ๆ ๆ!
ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น ร่างหนึ่งค่อย ๆปรากฏตัวในสายหมอกของหมู่บ้าน
หลังจากเมย์เห็นว่ามีคนมาแล้ว ดวงตาของเธอก็เปล่งประกายด้วยความดีใจ เพราะคิดว่าริวอุนมาสักที
แต่เมื่อร่างนั้นปรากฏเต็มตัว คนคนนั้นกลับไม่ใช่ริวอุน ทว่าเป็นเด็กหน้าฉลาม อายุพอ ๆกับเธอ
“โฮชิงาคิ คิซาเมะ?” เมย์เรียกพร้อมกับทำสีหน้าสับสน “ทำไมมาที่นี่ได้ล่ะ?”
คิซาเมะที่เพิ่งจะมาถึงสนามซ้อมก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อเขา เขาจึงมองไปรอบ ๆ พอได้เห็นว่าเป็นใครก็ตกใจ
“เทรูมิ เมย์?”
พวกเขาเรียกชื่อกัน จากนั้นก็เงียบ หากให้พูดจะบอกว่าพวกเขารู้จักกันก็ได้หรือว่าไม่รู้จักกันก็ดี แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้ลงทะเบียนเรียนในโรงเรียนนินจาปีเดียวกัน แต่พวกเขาก็ทดสอบจบออกมาพร้อมกัน ดังนั้นจึงเคยเจอกันหลายครั้ง
เพียงแต่คิซาเมะแสดงออกไม่เก่ง แม้ว่าจะเคยพบกันหลายครั้ง คิซาเมะก็ไม่ได้พูดกับใครมากนัก พวกเขาแค่รู้จักชื่อกันและกันเท่านั้น
“นายเป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมทีมอีกสองคนของฉันใช่ไหม?” เทรูมิ เมย์ราวกับนึกบางอย่างออกก็เลยถามคิซาเมะ
“น่าจะใช่นะ เมื่อวานฉันเจอกับครูริวอุน เขาบอกว่าให้มาที่สนามฝึกที่ 1 ตอนแปดโมงเช้า” คิซาเมะพูดแล้วก็เงียบอีกครั้ง
“แปด... แปดโมงเช้า?” สีหน้าเมย์แดงก่ำ จากนั้นก็กลายเป็นรอยยิ้มอันน่าสะพรึงกลัว
เมื่อวานเธอได้ยินอย่างชัดเจนว่าริวอุนขอให้เธอมาที่สนามซ้อมที่ 1 นี้ในเวลาเจ็ดโมงเช้า แต่กลับบอกคิซาเมะว่าแปดโมง หมายความว่าริวอุนตั้งใจให้เธอมารอที่นี่
“ไอ้ครูโจนินเวรเอ๊ย!!” เมย์ตะโกนด่าริวอุนลั่นสนามซ้อม หน้าอกแบน ๆของเธอกระเพื่อมขึ้นลง
“….” คิซาเมะดูปฏิกิริยาของเมย์ด้วยความประหลาดใจ ในใจสงสัยว่าทำไมถึงต้องด่าครูริวอุนด้วย
ดีที่ตัวเขาไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องคนอื่นนัก
คิซาเมะเดินมานั่งใต้ต้นไม้เงียบ ๆ
คนหนึ่งเงียบ อีกคนหนึ่งโกรธ!
บรรยากาศแปลก ๆนี้ค่อย ๆผ่านไปทีละนิด ริวอุนก็ยังไม่มาจนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงสิบเอ็ดโมง
“คิซาเมะ ไอ้ครูงี่เง่านั่นบอกให้นายมาตอนแปดโมงจริง ๆเหรอ?” ในที่สุดเมย์ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอมาเจ็ดโมงเช้าและยังไม่ได้กินข้าว กินน้ำเลยสักนิดเดียว รอมาสี่ชั่วโมง ริวอุนก็ยังไม่มา
ในฐานะลูกสาวตระกูลเทรูมิ เธอเคยต้องโมโหใครแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
“อืม” คิซาเมะพยักหน้าเงียบ ๆ จากนั้นก็นั่งต่อไปดูเหมือนจะไม่รีบร้อน
“นายไม่โกรธบ้างหรือไง ห๊ะ!?” เมย์ตกใจกับความใจเย็นของคิซาเมะมาก
เธอคิดว่าคิซาเมะจะด่าทอการกระทำของริวอุนเหมือนกันกับเธอ ที่ไหนได้ ดูแล้วเขาไม่ได้โกรธเลยด้วยซ้ำไป
“พวกเราคือเกะนิน ครูริวอุนเป็นวีรบุรุษที่สามารถสังหารเขี้ยวสีขาวได้ ในเมื่อครูบอกให้รอ เราก็ควรรอ เพราะนั่นเป็นคำสั่ง” คิซาเมะพูดนิ่ง ๆ
เขาเกิดมาเป็นเด็กกำพร้า แม้จะอายุยังน้อยแต่เขาก็ต้องเผชิญความยากลำบากต่าง ๆนานามากมาย ดังนั้นเขาจึงเข้าใจว่าการเชื่อฟังคำสั่งผู้ใหญ่อย่างริวอุนจะเป็นการดีที่สุด
หากริวอุนรู้สึกไม่พอใจกับความไม่ซื่อสัตย์ของเขา ครูคงมีเป็นร้อยวิธีที่จะฆ่าเขาด้วยการทำเป็นอุบัติเหตุ
เมื่อเติบโตขึ้นมาในคิริงาคุเระเพียงคนเดียว เขาเลยรู้ดีว่าต้องทำยังไงถึงจะอยู่รอดได้
“โย่!” ริวอุนเดินอมยิ้มมาแต่ไกลพร้อมกับยกมือขึ้นทักทาย “อย่างที่คิดไว้เลย ความคิดของนินจาอัจฉริยะที่มาจากสามัญชนย่อมฉลาดกว่าไข่ในหินอย่างผู้หญิงบางคนมาก”
เทรูมิ เมย์และคิซาเมะเงยหน้ามองตามเสียง พวกเขาก็เห็นครูโจนินคุมทีมพวกเขาเดินเข้ามาด้วยความไม่รีบร้อน
แถมยังทักทายพวกเขาก่อนจะเห็นตัวด้วยซ้ำ
“ขอโทษทีนะ พอดีมีแมวดำขวางทางฉันบนถนนน่ะ ขอโทษจริง ๆ”
“แมวดำ?” เมย์รู้สึกห่อเหี่ยวหลังจากได้ยินข้อแก้ตัว ความโกรธของเธอหายไปอย่างสมบูรณ์ เพราะเธอพบว่าริวอุนไม่ได้สนใจข้อแก้ตัวที่มาสายด้วยซ้ำ
“ครูริวอุน” คิซาเมะลุกขึ้นยืนแล้วโค้งตัวให้กับเขาเพื่อทำความเคารพ
“โฮชิงาคิ คิซาเมะ” ริวอุนมองไปที่คิซาเมะและก็พบว่าชายคนนี้มีใบหน้าคล้ายฉลาดตั้งแต่เด็ก ริวอุนยิ้มให้เขา “เป็๋นการคิดที่ดีนะ ฉลาดกว่าคนอื่น ๆมาก”
คิริงาคุเระต่างจากหมู่บ้านอื่น ๆนับตั้งแต่ก่อตั้งหมู่บ้าน พวกเขาก็ได้สนับสนุนวิชานินจาระดับสูงให้กับเด็กนักเรียน
แม้ว่านินจาหมอกในปัจจุบันจะไม่ได้กลายเป็นหมู่บ้านหมอกโลหิต แต่ก็ถือว่าโหดร้ายกว่าหมู่บ้านอื่นมากพอตัว
โจนินอาวุโสที่อยู่มานานและดูใจดีอย่างคุโรกิ เรียวซาว่านั้นมีน้อยเหลือเกิน นินจาส่วนใหญ่โหดเหี้ยมและเย็นชา
เด็กหญิงที่เติบโตมาในตระกูลอันเต็มไปด้วยความรัก อาจไม่รู้เรื่องนี้ แต่คิซาเมะรู้ดี เขารู้ความมืดมิดในหมู่บ้านทุกอย่าง
เขาเข้าใจว่าหากไม่มีกำลัง ไม่มีใครหนุนหลังคงอยู่ได้ยากขึ้นมา และคนอย่างริวอุน หากเขาโกรธขึ้นมา จุดจบจะไม่มีทางหนีพ้นความตายแน่ เพราะในหมู่บ้านคิริงาคุเระ มีอัตราการเสียชีวิตของนินจาสูงที่สุด โดนเฉพาะเกะนิน ไม่มีใครสนใจความตายของเกะนิน
“อ้าว? นี่มีคนอื่นอีกไหมเนี่ย?” ริวอุนมองไปรอบ ๆหลังชมคิซาเมะเสร็จแล้ว แล้วก็พบว่ามีเพียงสองคนอยู่ในสนามซ้อม
ยูกิ คุโมะ ดูเหมือนจะไม่ได้มา…
*********************