ตอนที่แล้วบทที่ 229 : พายุความร้อนทะเลทราย  (6)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 231 : พายุความร้อนทะเลทราย (8)

บทที่ 230 : พายุความร้อนทะเลทราย (7)


บทที่ 230 : พายุความร้อนทะเลทราย (7)

“'อันนาน (★★★)' มีเลือดออก เลือดของเขาจะลดลงเป็นระยะ”

“'กิลเบิร์ต (★★★)' กลับสู่อ้อมกอดของเทพธิดาแล้ว! ความกล้าหาญของเขาจะถูกจดจำตลอดไป”

'พวกเขาถึงขีดจำกัดแล้วสินะ'

คนหนึ่งเสียชีวิต

อีกคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ

กิลเบิร์ต...เขาเหมือนจะยื้อไว้นานกว่าที่คาดไว้อีกนะ

ฟู้ว!

เปลวไฟลุกลามอย่างรวดเร็วขณะที่พวกกิ้งก่ามันจู่โจมเข้ามา

เปลวไฟทอดยาวไปหลายสิบเมตร เปลวไฟและควันไฟลอยพุ่งออกมา

'พวกกิ้งก่าพวกนี้มันทำให้ภารกิจเริ่มยากขึ้น'

ชึ้ก! ชึ้ก! ชึ้ก!

ลูกศรสามดอกแทงทะลุลำตัวของมนุษย์กิ้งก่าพร้อมกัน

ฉันเหวี่ยงดาบของฉันออกไปที่ร่างของมนุษย์กิ้งก่า เลือดและอวัยวะต่าง ๆ  ของมันลอยขึ้นไปในอากาศ ฉันวิ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้รูปปั้นเทพธิดาที่ถูกฝังอยู่ในทรายครึ่งหนึ่ง ตอนนี้ได้เปล่งแสงจาง ๆ  ออกมา

“เฟรียซิสตามฉันมา ที่เหลือไปช่วยปาร์ตี้อื่น”

“ไม่เป็นไรแน่นะครับ?”

"อืม"

เวคิสและออลก้าวิ่งออกไป

ไม่ไกลนักปาร์ตี้ที่ 4 และ 5 ก็กำลังใกล้เข้ามา ตามมาด้วยมนุษย์กิ้งก่าหลายร้อยตัว เจนน่าและเนเรสซ่ามุ่งหน้าไปช่วยปาร์ตี้ที่ 2

“คุณคิดจะทำอะไรเหรอคะ?”

“ไอ้ยักษ์ใหญ่นั้นเป็นของเล่นของฉันเอง”

ฉันเคยเผชิญหน้ากับอะไรแบบนี้ในเนลม์ไฮมฟ์มากกว่าหนึ่งครั้ง

ชึ้บ!

เวลาเดียวกันมนุษย์กิ้งก่าที่หัวเบะก็ล้มลงทันที

ฉันเก็บดาบแล้วหยุดวิ่ง ตอนนี้รูปปั้นเทพธิดาอยู่ตรงหน้าฉัน

เฟรียซิสที่อยู่ข้าง ๆ  ฉันกำลังหอบหายใจอย่างหนัก

กึ้ก กึ้ก กึ้ก กึ้ก กึ้ก กึ้ก

เสียงกลไกที่ชัดเจนดังออกมา

มันเป็นเสียงของรูปปั้นหินที่กำลังยกแขนขึ้น

'มุมนั้น...ต้องเป็นมุมนั้นแน่นอน ตำแหน่งถูกกำหนดไว้แล้ว'

ฉันรู้สึกถึงแรงกดดันที่กดทับร่างกายของฉัน

เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นหมัดของรูปปั้นก็กำลังจะตกลงมาทำให้ท้องฟ้าบางส่วนถูกบดบัง

ฉันหายใจเข้าลึก ๆ  แล้วอุ้มเฟรียซิสขึ้นมา

"นี่!!"

“เธอต้องฝึกวิ่งมากกว่านี้อีกนะ”

โชตดีที่เธอตัวเบา

ฉันจะต้องใช้แรงมากขึ้น

ฉันใส่พลังไว้ที่เท้าแล้ววิ่งไปข้างหน้า

[คลื่นสัตว์ประหลาด!]

[รอบที่ 13]

[มนุษย์กิ้งก่า Lv.23 X 93]

[มนุษย์กิ้งก่าไรเดอร์ Lv. 25 X 25]

[จอมเวทย์มนุษย์กิ้งก่า Lv. 26 X 3]

'พวกมันมีกันกี่ตัว?'

ฉันมองไปด้านข้างเล็กน้อย

เราจัดการกพวกมันมาหลายร้อยตัวแล้ว

แต่พวกมันก็ยังเข้ามารุมเราเหมือนกับมด

'มันเริ่มมากันเยอะขึ้นแล้ว'

ดูเหมือนไม่ใช่ภารกิจที่ออกแบบมาให้มีวิธีการเพียงวิธีเดียว แต่มันก็ยากที่จะคิดออกในทันที เพราะมันเป็นลักษณะของภารกิจที่มีความยากสูง

ฉันพุ่งทะยานออกไปอีกครั้ง

หมัดอันดังสนั่นทุบลงมาที่พื้นอีกครั้ง

บูม!

ฉันกลิ้งไปบนพื้นพร้อมกับดึงเฟรียซิสที่กำลังกรีดร้องเข้ามาใกล้

[เปิดใช้งานเอฟเฟกต์วัตถุเป้าหมาย!]

[พลังของเทพธิดาพันธนาการรูปปั้นโบราณ!]

แสงวาววับพุ่งออกมาจากบริเวณที่รูปปั้นเทพธิดาถูกฝังอยู่

แสงแผ่ขยายไปในอากาศราวกับใยแมงมุม และเริ่มไต่ขึ้นไปบนแขนของรูปปั้น

รูปปั้นนั้นแข็งทื่อราวกับถูกแช่เย็น

แขนมันฝังอยู่ในพื้นเป็นมุม 35 ถึง 40 องศา

แม้มันจะไม่สมบูรณ์แบบแต่ก็เพียงพอแล้ว

ฉันเปิดช่องทางได้แล้ว

“เจอทางแล้ว”

<…>

“อย่าชักช้า ตอนนี้เราไม่มีเวลาเเล้ว”

ฉันตัดการเชื่อมต่อและเรียกรวมปาร์ตี้ที่ 1 ทันที

“นี่มัน…ไม่ธรรมดาเลย”

“หัวหน้าทำอะไรง่าย ๆ  ไม่ได้เหรอ?”

“แล้วจะไม่เอาด้วยใช่ไหม?”

เวคิสยิ้มและลดดาบที่เปื้อนเลือดของเขาลง

“ใครจะไม่อยากเล่นล่ะครับ”

เปลวไฟได้ปกคลุมไปครึ่งหนึ่งของสนามแล้ว

มนุษย์กิ้งก่าที่อยู่ด้านหลังถูกไฟลุกท่วมจนกลายเป็นขี้เถ้า เหล่าฮีโร่ตั้งแนวล้อมรอบรูปปั้นหินเพื่อสกัดกั้นพวกกิ้งก่า

“ใครจะไปก่อน?”

“แน่นอน พวกข้าเอง!”

คิชาช่าที่ทุบหัวของมนุษย์กิ้งก่าสามตัวติดต่อกัน เธอกระโดดและหมุนตัวไปกลางอากาศอย่างว่องไวและร่อนลงบนฝ่ามือขนาดยักษ์อย่างสง่างาม สมาชิกคนอื่น ๆ  ในปาร์ตี้ของคิชาช่าก็โผล่ออกมาและปีนขึ้นไปเช่นกัน

ต่อไปเป็นปาร์ตี้ที่ 1

ฉันย่อลงแล้วกระโดดขึ้นไปสุดแรง หลังจากคว้าหินที่ยื่นออกมาด้วยมือซ้ายแล้ว ฉันก็กระโดดขึ้นไปอีกครั้ง ความรู้สึกของหินแข็ง ๆ  สัมผัสโดนเท้าของฉัน เมื่อฉันหันกลับไปมองสมาชิกคนอื่น ๆ  ก็กำลังปีนขึ้นมาเช่นกัน

"กร๊าก! กร๊าก! กร๊ากกกกกกกกกกกก!”

มนุษย์กิ้งก่าหลายร้อยตัวล้อมรอบเราและวิ่งเข้ามา

[อิคไนท์! ลาจ!]

ออลก้าที่ยืนอยู่บนรูปปั้นยกมือขึ้น

เปลวไฟวาดเป็นวงกลมปิดกั้นเส้นทางของมนุษย์กิ้งก่า และมนุษย์กิ้งก่าจำนวนมากได้กลายเป็นขี้เถ้าทันที

“เร็วเข้า!”

ลูกธนูหลายสิบดอกของเจนน่าตกลงมาใส่มนุษย์กิ้งก่าราวกับสายฝน ตอนนี้เปลวไฟในสนามเคลื่อนตัวไปเข้ามาเรื่อย ๆ  และทุกคนก็กำลังปีนขึ้นไปบนรูปปั้นอย่างเมามัน

สมาชิกทั้ง 23 คนขึ้นมาข้างบนแล้ว

ด้านล่าง มนุษย์กิ้งก่าที่ถูกกลืนหายไปในเปลวเพลิงกำลังส่งเสียงคำราม

อ๊ากกกกกกกกกก กร๊ากกกกกก

เสียงครวญครางดังขึ้นเรื่อย ๆ

ครืน! แขนรูปปั้นกำลังสั่นสะเทือน

“ตอนนี้เราจะทำยังไงต่อ?”

อีดิสหันมาหาฉัน

หน้าผากของเธอชุ่มไปด้วยเลือดและเหงื่อ

"ฉันบอกเธอแล้ว เรากำลังจะปีนขึ้นไป”

ฉันชี้ไปที่หัวของสัตว์ประหลาดที่อยู่อีกข้างของแขน

แม้ว่าใบหน้าที่มีรูปร่างหน้าตาของมันจะดูใหญ่โตและกำลังมองมาทางเรา มุมของแขนที่ฝังไว้ในดินคือ 35 องศา ปลายแขนของมันมีความกว้างมากกว่า 30 เมตรและยาวมากกว่า 150 เมตร ขาของมันก็ไม่ต่างจากตึกยักษ์ใหญ่

"ขึ้นไป…? !"

“เราต้องทำลายมัน”

ครืน!

พื้นดินสั่นสะเทือนอีกครั้ง

แสงที่อยู่รอบแขนเริ่มมืดมัว

[คำเตือน!]

[ 'ระบบป้องกันตนเอง' ของรูปปั้นถูกเปิดใช้งานแล้ว]

กริก-กริก

ทันใดนั้น...บัลลิสต้าก็โผล่ออกมาจากด้านข้างของแขน

“สังหารผู้บุกรุก!”

หินที่มีรูปร่างเหมือนฝาถูกเปิดออกเผยให้เห็นมนุษย์กิ้งก่าโผล่ออกมาจากรูนั้น

กิ้งก่าที่สวมเกราะหมดออกมาเป็นแถวยาว

ตุ๊ด!

พวกกิ้งก่าที่ถือหน้าไม้ก็ยิงธนูออกไปด้วยเสียงอันหนักหน่วง

ฉันวางเท้าลงกับพื้นและรวบรวมกำลังไว้ที่ไหล่ ตุ๊บ! แรงกระแทกที่แขนของฉันรุนแรงมาก

"กร๊าก!"

มนุษย์กิ้งก่าที่อยู่แถวหน้าคำรามเสียงดัง

ฉันปรับดาบของฉันแล้วพูดว่า

“ทุกคนเห็นไหม?  ข้างในของมันว่างเปล่า เราทุบมันจากข้างในกันเถอะ”

“ไม่ แล้วบัลลิสต้าล่ะ…”

“นั่นสำคัญเหรอ?  รีบจัดการให้เสร็จก่อนที่มันจะดึงแขนออกมาสิ”

ฝาที่ตรงหน้าเราถูกเปิดออก

“เข้ามาเลย ฉันจะจัดการพวกแกเอง!”

ฉันหักหัวของมนุษย์กิ้งก่าที่กำลังจะโผล่ออกมาอย่างรวดเร็ว

แกร๊ก!

เสียงกระดูกแตกดังขึ้น ตอนนี้คอของมนุษย์กิ้งก่าหักไปในทิศทางตรงกันข้าม

ทันใดนั้นร่างที่อ่อนแอของมันก็ถูกดูดเข้าไปในหลุม ขณะที่ฝาแผ่นสี่เหลี่ยมกำลังจะปิดลง ฉันก็แทงดาบของฉันไว้ระหว่างช่องว่างอย่างรวดเร็ว

“กร๊าาาาา!”

และเมื่อฉันโยนกริชเข้าไปในรู ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องเล็กน้อยดังออกมา

ฉันเตะฝาขึ้นด้วยส้นเท้าของฉัน และหลุมสีดำก็ถูกเปิดเผยออกมา...

0 0 โหวต
Article Rating
3 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด