1344 - ภูเขาต้องห้ามโบราณ
1344 - ภูเขาต้องห้ามโบราณ
เมื่อนกกระเรียนศักดิ์สิทธิ์ได้ยินข่าวเขาก็ออกจากสถานที่บ่มเพาะโดยไม่ลังเล นี่เป็นชายชราสวมชุดสีขาวมีลักษณะสง่างามอย่างยิ่ง
ฐานการบ่มเพาะของคนผู้นี้มีความแปลกประหลาดอย่างมาก แม้แต่เย่ฟ่านยังไม่สามารถมองเห็นพลังที่แท้จริงของเขาได้
หลังจากที่ทั้งสองทักทายกันเล็กน้อยนกกระเรียนศักดิ์สิทธิ์ เจ้าหุบเขาหมื่นอสูรตัวจริงก็กล่าวว่าเย่ฟ่านสามารถเรียกเขาว่าเหล่าเหอก็ได้
ในขณะนี้ใบหน้าของเหล่าเหอแดงก่ำจากความตื่นเต้น ร่างกายมีพลังอันแข็งแกร่งแผ่ออกมาด้านนอก ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังเส้นเลือดมังกรขนาดใหญ่ด้วยความตกตะลึงอย่างถึงที่สุด
หรือนี่คือสถานที่ที่ฉือซ่งจื้อไล่ตามมาชั่วชีวิต หากมีใครบางคนสามารถครอบครองเส้นชีพจรมังกรขนาดใหญ่เช่นนี้ได้มันก็มีโอกาสที่พวกเขาจะเป็นผู้อมตะเช่นกัน?
เหล่าเหอกล่าวว่าแม้ภูมิประเทศในสมัยโบราณจะเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อเทียบกับปัจจุบัน แต่ก็มีความคล้ายคลึงกับสถานที่บางแห่งในโลก และเขาเชื่อมั่นว่าจะสามารถค้นหาสถานที่แห่งนี้เจออย่างแน่นอน
เขาเคยได้ยินความลับโบราณมาบ้าง มันเป็นดินแดนที่มีภูเขาโบราณเก้าสิบเก้าลูกที่มีรูปร่างคล้ายกับมังกรเป็นอย่างมาก แม้จะแตกต่างจากภาพที่เห็นนี้เล็กน้อย แต่เชื่อว่ามันอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกัน
“ดูนี่สิ หนึ่งในมังกรเหล่านั้นค่อนข้างคล้ายกับแม่น้ำที่กำลังไหลลงทะเล ในประเทศนี้มีแม่น้ำเพียงไม่กี่สายเท่านั้นที่เชื่อมต่อกับทะเล มันจะต้องเป็นแม่น้ำฮวงโหแห่งภูเขาหลงซานอย่างแน่นอน!”
ตลอดทั้งชีวิตของเหล่าเหอเขาก็มีความหมกมุ่นอยู่ในเรื่องนี้เช่นกัน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีทางมาเป็นเจ้าหุบเขาหมื่นอสูรตั้งแต่แรก
เย่ฟ่านและซุนหงอคงตกใจอย่างมากเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ภูเขาหลงซานโบราณเชื่อมโยงกับฮวงโหอย่างไร
นกกระเรียนศักดิ์สิทธิ์ได้นำแผนที่ของภูเขาหลงซานในยุคโบราณออกมาและชี้ไปยังแม่น้ำแห่งหนึ่ง แน่นอนว่ามันมีลักษณะคล้ายคลึงกับสิ่งที่เห็นในแผนที่อย่างมาก
“ตามตำนานโบราณแม่น้ำฮวงโหไม่ได้อยู่บนโลกมนุษย์ เซียนโบราณจึงใช้พลังของพวกเขาเชื่อมต่อมันขึ้นมาบนพื้นและย้ายภูเขาออกไปเพื่อเปิดเส้นทางให้ฮวงโหไหลได้อย่างสะดวก”
เย่ฟ่านยังคงตกตะลึงไม่หาย พลังชนิดใดจึงสามารถย้ายภูเขาที่มีขนาดใหญ่โตหลายพันลี้ออกจากตำแหน่งเดิมได้?
นี่มันอัศจรรย์มาก!
เขาโน้มตัวลงและเปรียบเทียบฮวงโหโบราณกับเส้นเลือดมังกรอย่างระมัดระวัง มันมีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง หากจะบอกว่ามันเป็นสถานที่เดียวกันก็มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง
“มีเพียงต้องไปเยือนสถานที่แห่งนั้นเพียงอย่างเดียวข้าจึงจะตรวจสอบได้ว่ามันเป็นเส้นเลือดมังกรจริงๆ หรือไม่” เย่ฟ่านกล่าว
ตามปกติแล้วเส้นเลือดมังกรจะมีชีพจรมังกรอยู่เพียงตัวเดียวเท่านั้น แม้กระทั่งรังหมื่นมังกรในตงหวงของเป่ยโต้วก็ยังมีชีพจรมังกรอยู่เพียงเก้าตัว
แต่สถานที่แห่งนี้กลับมีชีพจรมังกรอยู่มากมายมหาศาล หากมันเป็นความจริงสถานที่แห่งนี้เพียงพอที่จะผลักดันผู้คนให้กลายเป็นผู้อมตะได้อย่างแน่นอน!
ยิ่งไปกว่านั้นโลกใบนี้กำลังเข้าสู่ยุคสิ้นสุดธรรมแล้ว นั่นหมายความว่าปราณสวรรค์พิภพทั้งหมดจะถูกดึงดูดเข้าสู่เส้นเลือดมังกรที่ใหญ่ที่สุดในโลก
หากเป็นจริง ภูเขาหลงซานซึ่งเป็นที่ตั้งของฮวงโหโบราณนั้นอาจมีเส้นเลือดมังกรยาวไกลกินรัศมีหนึ่งแสนลี้ซ่อนอยู่ด้านล่างเลยก็ได้
“เส้นเลือดมังกรที่ใหญ่โตขนาดนี้ต่อให้เป็นทั่วทั้งระบบสุริยะจักรวาลก็ไม่มีทางมีได้” เหล่าเหอล่าว
เย่ฟ่านรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่สมจริงแม้แต่น้อย โลกที่เขาอยู่นี้มีขนาดเล็กกว่าโลกอำพรางสวรรค์ในทุ่งดวงดาวเป่ยโต้วมากกว่าสิบเท่า แม้กระทั่งเส้นเลือดมังกรในศาลบรรพชนแห่งแห่งจงโจวยังมีขนาดเล็กกว่านี้มาก
การที่โลกของเขาจะมีเส้นเลือดมังกรขนาดนี้ได้ มันก็ไม่ควรที่โลกจะเข้าสู่ยุคสิ้นสุดธรรมเร็วถึงขนาดนี้!
“ไปกันเถอะ ไม่ว่ามันจะเป็นความจริงหรือไม่เราก็ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง?”
ตอนนี้เย่ฟ่านอยู่ห่างจากการเป็นปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์เพียงก้าวเดียว ทั้งในด้านความแข็งแกร่งและประสบการณ์ไม่มีผู้ใดเทียบกับเขาได้
แต่ยิ่งรู้มากขึ้นเขาก็ยิ่งตกใจอย่างถึงที่สุด หากมีเส้นเลือดมังกรผู้ใหญ่โตขนาดนั้นจริง เขาเชื่อมั่นว่ามันเพียงพอที่จะผลักดันใครบางคนให้มีความแข็งแกร่งมากกว่าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
เหล่าเหอยืนยันว่าฮวงโหโบราณถูกสร้างขึ้นมาแทนภูเขาลูกหนึ่งในเทือกเขาหลงซาน เพราะมีรูปร่างคล้ายกันดังนั้นมันไม่มีสถานที่อื่นพอจะเป็นไปได้
“ที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือหากสถานที่แห่งนั้นมีอยู่จริง จะมีอะไรรอเราอยู่ข้างใน?” เย่ฟ่านกล่าวกับตัวเอง
เหล่าเหอกล่าวว่าต่อให้พวกเขาไปถึงภูเขาหลงซานจริงๆ มันก็ไม่มีทางค้นพบอะไรได้ สิ่งที่พวกเขาต้องทำมีเพียงการเดินไปตามเส้นทางฮวงโหโบราณเท่านั้น
“ท่านหมายความว่าสถานที่แห่งนั้นไม่ได้อยู่ในโลกมนุษย์แต่ถูกซ่อนอยู่ในมิติอื่นเหมือนเช่นภูเขาหลิงซานใช่หรือไม่?” เย่ฟ่านถาม
เหล่าเหอพยักหน้า เขาไม่ได้ออกจากสถานที่บ่มเพาะมานานหลายร้อยปี แต่เมื่อปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเขากลับต้องเดินทางไปที่ฮวงโหซึ่งได้รับสมญานามว่าแม่น้ำวิปโยค สิ่งนี้ทำให้เขาเกิดความหวาดกลัวเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามด้วยความมุ่งมั่นพวกเขาก็เริ่มค้นหาไปรอบๆ เส้นทางของแม่น้ำฮวงโหที่มีความยาวมากกว่าหนึ่งหมื่นหนึ่งพันลี้โดยใช้เวลานานนับเดือน
แต่สุดท้ายพวกเขากลับประสบเพียงความล้มเหลว ไม่มีทางเข้าสู่มิติอื่น ไม่มีแม้กระทั่งปราณสวรรค์พิภพแผ่ออกมาด้านนอกแม้เพียงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามในขณะที่ทุกคนท้อแท้หมดกำลังใจเย่ฟ่านกลับมองเห็นชายชราคนหนึ่งกำลังนั่งตกปลาอยู่ในฮวงโห
แต่ก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้สำรวจชายชราคนนั้นอย่างจริงจังร่างของอีกฝ่ายก็หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
ดวงตาที่สามของเย่ฟ่านจ้องมองไปด้วยความตกตะลึง เขามีพลังแทบจะทัดเทียมกับสิ่งมีชีวิตระดับเซียนแล้ว มันไม่มีทางที่เขาจะมองเห็นภาพลวงตาเด็ดขาด สิ่งที่เกิดขึ้นมันจะต้องมีที่มาที่ไปอย่างแน่นอน
เหล่าเหออธิบายว่าชฮวงโหโบราณเดิมเป็นที่ตั้งของภูเขาหลงซานโบราณและมีปราณมังกรปกคลุมหนาแน่นไม่รู้จบ
ดังนั้นแม้ว่าสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งในอดีตจะตายไปแล้วแต่เศษเสี้ยววิญญาณของพวกเขาจะยังคงวนเวียนอยู่ที่นี่เพื่อรอการเกิดใหม่อีกครั้ง
บางทีสิ่งที่เย่ฟ่านมองเห็นอาจเป็นเศษเสี้ยววิญญาณของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น ซึ่งหมายความว่าพวกเขามาถึงที่หมายแล้ว
ในเวลาต่อมาพวกเขาจึงเลือกที่จะเปลี่ยนวิธีการอื่น ทั้งสามคนเรียกเทพารักษ์ที่ทำหน้าที่ดูแลสถานที่แห่งนี้ออกมาสอบถาม
ซุนหงอคงทำหน้าที่สอบปากคำอย่างระมัดระวังและเทพารักษ์นั้นเป็นเพียงสัตว์อสูรระดับต่ำเขาจะทนการบีบบังคับของจอมอสูรอย่างซุนหงอคงได้อย่างไร
สุดท้ายพวกเขาก็เดินไปตามคำแนะนำของเทพารักษ์จนมาถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่ชื่อว่าด่านหนิงเซี่ย
เย่ฟ่านใช้ดวงตาที่สามของเขามองไปรอบๆในที่สุดก็มองเห็นม่านพลังวิญญาณแห่งหนึ่ง ม่านพลังนี้ถูกทิ้งไว้นานหลายแสนปีเย่ฟ่านไม่ได้ใช้ความพยายามมากนักในการฝ่าเข้าไปข้างใน
โลกหลังม่านพลังวิญญาณคือแม่น้ำฮวงโหจากใต้พิภพอย่างแท้จริง ปราณสวรรค์พิภพที่แผ่ออกมาจากบริเวณนี้ทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ
ทั้งสามคนเดินทางต่อไปข้างหน้าด้วยความตื่นเต้น ระหว่างทาง พวกเขามองเห็นสิ่งมีชีวิตมากมายที่ซ่อนตัวอยู่ในมิติลึกลับนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงจับสิ่งมีชีวิตหลายตัวมาสอบถามเส้นทางอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตามแม้ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นจะอาศัยอยู่ที่นี่มาเป็นเวลานานแต่พวกมันก็ไม่รู้ว่าสถานที่ที่เย่ฟ่านและคนอื่นๆตามหาอยู่ที่ไหน
เย่ฟ่านต้องส่ายหน้า มันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ที่จะมีภูมิประเทศเช่นนั้นอยู่ในโลก หากมีอยู่จริงๆเกรงว่าโลกใบนี้คงเป็นจุดศูนย์รวมของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่มากมายนับไม่ถ้วนแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาลังเลเหล่าเหอก็ค้นพบร่องรอยของสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งซ่อนตัวอยู่ในแม่น้ำฮวงโห พลังวิญญาณของมันค่อนข้างเข้มข้นเห็นได้ชัดว่ามีอายุยาวนานหลายร้อยปีแล้ว
ซุนหงอคงอาสาลงไปในน้ำเพื่อจับอสูรตัวนั้นขึ้นมา อย่างไรก็ตามอสูรร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในแม่น้ำแข็งแกร่งมาก และทำให้ซุนหงอคงได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที
เหล่าเหอไม่มีทางเลือกนอกจากลงมือด้วยตัวเอง เขาแปลงกายเป็นนกกระเรียนตัวใหญ่ที่มีความยาวร่างกายมากกว่าสิบวา จากนั้นเขาก็เริ่มโจมตีสัตว์อสูรที่อยู่ในแม่น้ำทันที
“บูม”
คลื่นทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ภายใต้การต่อสู้อย่างดุเดือดในที่สุดมังกรวารีตัวหนึ่งก็ผุดขึ้นมาจากน้ำและคำรามด้วยความโกรธ มันไม่เข้าใจว่าเหตุใดเหล่าเหอจึงโจมตีมันเช่นนี้
นี่คือมังกรชราจากแม่น้ำฮวงโหซึ่งฝึกฝนเต๋ามานานกว่า 700 ปีแล้ว บรรพชนของมันก็อาศัยอยู่ในดินแดนลึกลับแห่งนี้มาตั้งแต่เมื่อหลายแสนปีก่อน
……..