Chapter 2 : พรสวรรค์ระดับเทวะหนึ่งเดียว
[ทำการวิเคราะห์อาชีพ...]
[ทำการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการออกแบบของผู้เล่น...]
[การออกแบบของผู้เล่นมีความเป็นไปได้ ขอแสดงความยินดีด้วย - ผู้เล่นได้รับอาชีพเสรี]
ลู่หยวนยิ้มกริ่มทันทีเมื่อได้ยินว่าอาชีพถูกสร้างขึ้นได้สำเร็จ
ไอเดียในการสร้างอาชีพเสรีของเขานั้นมาจากนิยายที่เขาเคยอ่านเมื่อหลายปีก่อน
แม้ว่าอาชีพนี้จะไม่มีสกิลเริ่มต้นของอาชีพแต่ก็ทำให้ผู้เล่นสามารถเรียนรู้ความถนัดและสกิลของอาชีพอื่นๆได้ทุกอาชีพ
[ตัวละครอาชีพเสรีของท่านถูกสร้างขึ้นสำเร็จ ผู้เล่นโปรดทำการสุ่มพรสวรรค์ตัวละคร]
[เนื่องจากผู้เล่นมีอาชีพเป็นอาชีพเสรี ผู้เล่นจึงไม่อาจมีพรสวรรค์พื้นฐานประจำอาชีพได้ เพื่อเป็นการชดเชยให้แก่ผู้เล่น...การสุ่มพรสวรรค์ตัวละครของผู้เล่นจะสุ่มได้พรสวรรค์เทวะหนึ่งเดียวอย่างแน่นอน]
“เชี่ย...เรื่องแบบนี้เป็นไปได้ด้วยเหรอ?” ลู่หยวนทั้งประหลาดใจและดีใจในคราวเดียวกัน
พรสวรรค์ในเกมอโพคาลิปนั้นมีอยู่สามประเภท ประเภทแรกคือพรสวรรค์เผ่าพันธุ์ซึ่งมาจากการเลือกเผ่าพันธุ์ ยกตัวอย่างเช่นพรสวรรค์ใจแห่งปัญญาของเผ่ามนุษย์
ประเภทที่สองคือพรสวรรค์อาชีพ เมื่อผู้เล่นทำการเลือกอาชีพพวกเขาจะได้รับพรสวรรค์เริ่มต้น นอกจากพรสวรรค์เริ่มต้นแล้วพวกเขาจะสามารถหาพรสวรรค์ได้จากการออกสำรวจภายในเกมเท่านั้น
ประเภทสุดท้ายคือพรสวรรค์ตัวละคร ผู้เล่นแต่ละคนนั้นจะมีได้เพียงหนึ่งเดียวและจะได้มาก็ตอนที่สร้างตัวละครเท่านั้น นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีหนทางอื่นในการได้รับพรสวรรค์ตัวละครอีก
ไม่ว่าพรสวรรค์นั้นจะเป็นอะไรแต่ยังไงเสียก็จะอยู่ในระดับตั้งแต่CไปจนถึงSSSโดยขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของพวกมัน เหนือกว่าระดับSSSคือพรสวรรค์เทวะหนึ่งเดียวซึ่งส่วนใหญ่จะพบได้เพียงแค่ในNPCsเท่านั้น
สามปีที่ผ่านมาในเกมในชีวิตที่แล้วของเขานั้น นอกจากผู้เล่นที่ได้ครอบครองมรดกสืบทอดของเผ่ามนุษย์แล้วก็ไม่มีผู้เล่นคนใดอีกที่ได้ครอบครองพรสวรรค์เทวะหนึ่งเดียว
แม้ว่าลู่หยวนจะไม่มีพรสวรรค์อาชีพในตอนนี้แต่แลกกับการได้พรสวรรค์ตัวละครระดับเทวะหนึ่งเดียวยังไงซะก็คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
เขาได้กำไรมหาศาลเลยแหละ!
“สุ่มพรสวรรค์ตัวละคร!” ลู่หยวนเอ่ยออกมาหลังจากสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้แล้ว
[ทำการสุ่มพรสวรรค์...]
[ขอแสดงความยินดีด้วย ผู้เล่นได้รับพรสวรรค์เทวะหนึ่งเดียว : สกิลอัพเกรดไร้ขีดจำกัด]
[การสุ่มพรสวรรค์เสร็จสิ้น โปรดตั้งชื่อตัวละครของท่าน]
“ลู่หยวน” ลู่หยวนไม่ลังเลที่จะใช้ชื่อจริงของเขา
ตัวละครทั้งหมดในอโพคาลิปนั้นคือตัวตนจริงๆ ถ้าตั้งชื่อแปลกๆก็อาจจะส่งผลต่อความชอบของNPCsรวมไปถึงโอกาสในการได้เควสด้วย
เช่นนี้แล้วลู่หยวนจึงเลือกใช้ชื่อจริง
ส่วนเรื่องการซ่อนตัวตนนั้น เขาคงไม่ตกเป็นเป้าหมายในชีวิตจริงแค่เพราะเป็นจุดเด่นในเกมหรอกมั้ง?
ลู่หยวนไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นเลยและรู้สึกว่าสมมุติฐานดังกล่าวยังไงก็คงไร้ความหมาย
โลกแห่งอโพคาลิปนั้นใหญ่มากและกว่าเขาจะกลายเป็นที่สนใจ โลกทั้งใบก็คงผสมผสานเข้ากับความเป็นจริงแล้วและความแข็งแกร่งในเกมเองก็จะถูกส่งให้กับร่างของเขาในโลกจริงเช่นกัน
ถึงตอนนั้นเขาก็มีความสามารถมากพอจะปกป้องตัวเองได้แล้ว
หลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตัวละครขั้นพื้นฐาน เกมก็เริ่มทำการนับเวลาถอยหลัง
[3]
[2]
[1]
[ติ๊ง!]
[ท่านได้ถูกสุ่มลงทะเบียนที่หมู่บ้านมืดใหม่1376 ขอให้สนุกไปกับเกม]
เมื่อแสงสว่างเลือนหาย ลู่หยวนเปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองยืนอยู่บนถนนแล้ว
บนถนนในเมืองในเวลานี้เต็มไปด้วยผู้เล่นมากมาย
ผู้เล่นเหล่านี้ต่างมองไปรอบๆด้วยความสงสัยใคร่รู้
“เชี่ย..นี่มันสมจริงสุดๆเลยไม่ใช่หรอ?”
“สมแล้วที่บอกว่าสมจริง100% บริษัทอโพคาลิปนี่ไม่ได้โม้จริงๆ”
“ไม่ว่าจะอะไรก็คู่ควรแก่คำชมทั้งนั้น เกมนี้บดขยี้เกมอื่นบนตลาดเกมได้อย่างสบายๆเลย!”
“พรสวรรค์ของพวกนายคืออะไรกันบ้าง?”
...
ทั่วทั้งถนนนั้นอบอวลไปด้วยเสียงสนทนา
ในฐานะของเกมออนไลน์เสมือนจริงเกมแรกของโลก ทุกสิ่งที่พบเจอจึงกระตุ้นต่อมความสงสัยของผู้เล่นเป็นยิ่งนัก
ไม่เหมือนกับพวกผู้เล่นที่กำลังวุ่นวายไม่รู้ตาสีตาสา ลู่หยวนยืนอย่างสงบอยู่กับที่และเรียกหน้าต่างค่าสถานะขึ้นมาในใจแบบเงียบๆ
—
[ชื่อ : ลู่หยวน]
[เผ่าพันธุ์ : มนุษย์]
[พรสวรรค์เผ่าพันธุ์ : ใจแห่งปัญญา (ไร้ระดับ)]
[พรสวรรค์อาชีพ : ไม่มี]
[พรสวรรค์ตัวละคร : สกิลอัพเกรดไร้ที่สิ้นสุด (พรสวรรค์เทวะหนึ่งเดียว)]
[ค่าสถานะ : ความแข็งแกร่ง10 , ร่างกาย10 , ความเร็ว10 , สติปัญญา10 , การรับรู้10 , เสน่ห์19]
[ฝ่าย : เป็นกลาง]
[อาชีพ : อาชีพเสรี (เลเวล0)]
[พลังชีวิต : 100]
[มานา : 100]
[แต้มสกิล : ไม่มี]
[แต้มค่าสถานะ : ไม่มี]
[สถานะ : ปกติ]
[สกิลอาชีพ : ไม่มี]
[สกิลเฉพาะ : ไม่มี]
[ความถนัด : ไม่มี]
[การประเมิน : ในฐานะของอาชีพเสรีท่านจึงไม่มีสกิลของอาชีพหรือแนวโน้มที่จะโดดเด่นทางด้านใดเป็นพิเศษ ค่าสถานะของท่านอยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ย ความได้เปรียบเดียวคือท่านมีหน้าตาค่อนข้างจะหล่อเหลา ขอแนะนำให้ท่านเดินไปยังเมือง บางทีอาจจะมีหญิงสาวชนชั้นสูงบางคนสนใจในตัวท่าน...]
—
เมื่อมองไปยังหน้าต่างค่าสถานะแล้ว ลู่หยวนก็ลองคลิ๊กไปที่คำอธิบายพรสวรรค์ดูบ้าง
[ใจแห่งปัญญา : ในฐานะมนุษย์ท่านไม่มีข้อได้เปรียบใดในด้านของความแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามสมองและพันธุกรรมของท่านนั้นพัฒนามาเป็นอย่างดีทำให้ท่านมีความสามารถในการเรียนรู้อันกล้าแกร่งและมีสติปัญญาเหลือเฟือ]
[สกิลอัพเกรดไร้ขีดจำกัด : ท่านสามารถอัพเกรดสกิลได้สองครั้งต่อวัน สามารถทำลายขีดจำกัดเลเวลของสกิลได้]
...
ค่าสถานะของเขาอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย
นอกจากเสน่ห์แล้วทุกค่าอยู่ที่10แต้มทั้งสิ้น
นี่คือตัวละครที่มีอาชีพเสรี ในเมื่อไร้อาชีพค่าสถานะจึงไม่โดดเด่นไปทางด้านใดด้านหนึ่ง ทุกค่าจึงดูธรรมดายิ่ง
อย่างไรก็ตามเมื่อลู่หยวนได้เห็นคำอธิบายของพรสวรรค์เทวะหนึ่งเดียวเขาก็แทบจะกลั้นหายใจไว้ไม่อยู่ เขารู้นะว่าพรสวรรค์เทวะหนึ่งเดียวมันทรงพลังมากแต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นนี้
เขาสามารถอัพเลเวลสกิลได้สองครั้งต่อวันและยิ่งไปกว่านั้นเขายังสามารถทลายขีดจำกัดเลเวลสูงสุดของสกิลได้อีกด้วย
ควรจะรู้ด้วยว่าสกิลส่วนใหญ่ในโลกอโพคาลิปนั้นส่วนมากจะตันที่เลเวล10และต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนในการฝึกสกิลทั่วๆไปให้ถึงระดับสูงสุด
ยิ่งไปกว่านั้นกระบวนการนี้ยังจำเป็นต้องใช้ความอดทนในการใช้สกิลตลอดระยะเวลาครึ่งเดือนที่กล่าวมาข้างต้นอีกด้วย
ขณะเดียวกันนั้นลู่หยวนกลับต้องการเวลาเพียง5วันเท่านั้นในการอัพเลเวลสกิลจนตันด้วยพรสวรรค์ของเขา เขาสามารถทำลายขีดจำกัดเลเวลสูงสุดของสกิลได้อย่างไร้ข้อกำหนด
“ตราบใดที่เรามีชีวิตอยู่ได้นานพอ กระทั่งไฟบอลธรรมดาก็คงทรงพลังยิ่งกว่าสกิลระดับร์บางสกิลด้วยซ้ำสินะหากอัพเลเวลจนเกิน100?” ลู่หยวนอดถอนหายใจออกมาด้วยความอัศจรรย์ไม่ได้ เมื่อเขามองไปยังถนนที่เต็มไปด้วยผู้คนอีกครั้งเขาก็รู้แล้วว่าสิ่งแรกที่เขาต้องทำคืออะไร
เรียนสกิล
จากนั้นก็อัพเลเวลพวกมันให้ตัน
ด้วยความทรงจำจากชีวิตที่แล้วลู่หยวนจึงทราบเกี่ยวกับภารกิจภายในหมู่บ้านมือใหม่ดีกว่าใคร
เขาไม่ได้มุ่งหน้าตรงไปหาหัวหน้าหมู่บ้านที่ชอบทำตัวเป็นปลาเค็มเหมือนกับผู้เล่นคนอื่น กลับกันเขาเลือกที่จะหมุนตัวเดินขึ้นไปทางเหนือของเมืองแทน
NPCsทั้งหมดที่ให้ภารกิจทั่วไปนั้นจะรวมตัวกันอยู่ที่ใจกลางของหมู่บ้านมือใหม่ ดังนั้นยิ่งลู่หยวนเดินออกมาไกลมากเท่าไหร่ผู้เล่นที่พบก็ยิ่งเบาบางลงมากเท่านั้น
ไม่นานนักบนถนนอันกว้างใหญ่ก็แทบจะไม่เหลือผู้เล่นอีกเลย
เขามุ่งตรงไปยังบ้านของชาวนาผู้หนึ่ง
“ขออภัยด้วยไม่ทราบว่านี่เป็นบ้านของลุงอันเดรหรือเปล่าขอรับ?” ลู่หยวนยืนอยู่ด้านนอกสวนหน้าบ้านและตะโกนถาม
“มีอะไรรึ? เจ้าเป็นมนุษย์ต่างโลกสินะ?” ไม่นานนักชายวัยกลางคนสวมเสื้อฝางกันฝนกับผ้ากันเปื้อนหนังเสือก็เปิดประตูออกมา
ลุงอันเดรมองมาที่ลู่หยวนด้วยความระมัดระวังและถามเกี่ยวกับที่มาที่ไปของเขา
นี่คือความสามารถของNPCsทุกคนในทวีปอโพคาลิป พวกเขาสามารถบอกความแตกต่างระหว่างมนุษย์ผู้เล่นกับมนุษย์ท้องถิ่นในเกมได้
“ท่านลุงอันเดรข้าได้ทราบมาจากท่านอาจารย์ว่าท่านเป็นจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ ข้าอยากจะเรียนรู้ทักษะของจอมโจรจากท่าน” ลู่หยวนกล่าวด้วยความเคารพ
“อาจารย์ของเจ้าคือผู้ใด?” อันเดรขมวดคิ้ว
“นอร์ม่า นางเป็นผู้ที่บอกให้ข้ามาที่นี่” ลู่หยวนตอบ
อันเดรมีภารกิจลับเพียงหนึ่งเดียวอยู่
มีเพียงผู้เล่นที่มีอาชีพจอมโจรเท่านั้นถึงจะมีโอกาสได้รับภารกิจลับนี้จากเขาเนื่องจากมีเพียงจอมโจรเท่านั้นที่สามารถเรียนรู้สกิลมรดกของเขาได้
แต่ลู่หยวนดันรู้เกี่ยวกับรายละเอียดของภารกิจทั้งหมดรวมไปจนถึงเบื้องหลังของอันเดร...นอร์ม่าที่ลู่หยวนกล่าวถึงคือครึ่งเอลฟ์และเป็นคนรักในวัยเยาว์ของอันเดร