บทที่ 225 : พายุความร้อนทะเลทราย (3)
บทที่ 225 : พายุความร้อนทะเลทราย (3)
ประเภทภารกิจ : การสำรวจ
จนถึงตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น แต่วัตถุประสงค์หลักนั้นไม่ชัดเจนและยังมีเงื่อนไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการช่วยชีวิตของ NPC ที่แนบมาด้วย มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นภารกิจทั่วๆ ไป แต่มันก็ประหลาดเกินไป
ฉันยกมือขึ้นมาแตะหู
“ฮานจากปาร์ตี้ที่ 1 นะ”
<ได้ยินแล้ว>
“อีดิส ตรวจสอบหน้าต่างภารกิจแล้วหรือยัง? มันน่าจะโผล่ขึ้นมาแล้ว”
<เห็นแล้ว มันเป็นการสำรวจและช่วยชีวิต NPC>
“เราได้ตัวเป้าหมายมา ไม่ต้องตามหาเธอ แจ้งให้ปาร์ตี้อื่นทราบและมาหาเราทันที”
<เข้าใจแล้ว>
คลิก
การสื่อสารถูกตัดไปในทันที
ฉันปัดทรายออกจากไหล่แล้วเดินต่อไป เรากำลังเดินเข้าไปใกล้วิหารและพายุก็บดบังทัศนวิสัยมากขึ้น
'มันเงียบมาก'
ผ่านไป 10 นาทีแล้วตั้งแต่เราถูกส่งเข้ามาในภารกิจนี้
โดยปกติแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้นในตอนนี้ แต่ว่าเมืองกลับเงียบสงัด ไม่มีเงาของศัตรูเลย
“นี่มันเริ่มน่ารำคาญแล้วนะ”
ออลก้าสะบัดแขนเสื้อของเธอด้วยสีหน้าหงุดหงิด
ทรายเล็กๆหล่นจากด้านในเสื้อเธอ
“อดทนหน่อยนะ”
ฉันพึมพำขณะมองไปด้านหลังฉัน
เฟรียซิสกำลังเดินตามเรามาอย่างเงียบ ๆ
“เธอมีตำแหน่งที่แน่นอนของกุญแจไหม? แน่นอนนะว่าอยู่ข้างในนั้น?”
ฉันชี้ไปที่วิหารข้างหน้าซึ่งเต็มไปด้วยฝุ่นทราย
วิหารเริ่มสั่นไหว เฟรียซิสเพ่งสายตาแล้วพูดขึ้น
“ใช่ กุญแจอยู่ข้างในนั้น”
'เรามาถูกทางแล้ว'
ฉันพยักหน้า
ลักษณะเฉพาะของเมืองนี้คือวิหารทรงกลมนั้น ที่มีรูปปั้นเทพธิดาติดอยู่ด้านบน หมายความว่ามันมีบทบาทบางอย่างในฐานะสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ ฉันเริ่มตั้งคำถาม
“เธอมีข้อมูลอย่างอื่นอีกไหม? สัตว์ประหลาดหรือกับดักอะไรพวกนั้น?”
“ขอโทษนะ แต่ฉันไม่มีข้อมูลอะไรอีกแล้ว”
ฉันเงียบไปนั้นที
ดูเหมือนว่าไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมที่จะได้รับจากเฟรียซิส
ที่เหลือก็ต้องค้นพบโดยการหาเอง
เมื่อเส้นทางกว้างขึ้น เราก็เข้าใกล้วิหารนั้นมากขึ้น
วิหารอยู่ตรงหน้าเราแล้ว เดิมทีมันคงจะเป็นวิหารที่งดงามแต่ตอนนี้มันถูกปกคลุมไปด้วยทรายและผุกร่อน ความยิ่งใหญ่ดั้งเดิมของมันยากที่จะประเมินได้ แต่เวลานี้วิหารที่ยิ่งใหญ่กลายเป็นเพียงซากปรักหักพังไปแล้ว
"ฮาน!"
ฉันมองไปด้านข้างของฉัน
อีดิสโบกมือมาจากทางเดินด้านตะวันตกของจัตุรัส
ที่ด้านหลังเธอ ฉันมองเห็นสมาชิกของปาร์ตี้ที่ 2 และไม่มีร่องรอยของการต่อสู้แม้ว่าใบหน้าผู้มาใหม่ทั้งสามคนจะดูตึงเครียดก็ตาม
สมาชิกจากปาร์ตี้อื่นๆ เริ่มเข้าร่วมกับพวกเราทีละคน
ปาร์ตี้ที่ 3 มาจากประตูทิศเหนือของจัตุรัส ปาร์ตี้ที่ 4 และปาร์ตี้ที่ 5 จากประตูทิศตะวันตก
รวมเป็น 25 คน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครบาดเจ็บในภารกิจนี้
ฉันพาเฟรียซิสไปที่หน้าวิหาร
ผู้นำของปาร์ตี้ทั้ง 5 มารวมตัวกัน ดวงตาพวกเขาจับจ้องมาที่เรา
“...นี่คือเป้าที่เราต้องหมายคุ้มกันสำหรับภารกิจนี้”
“สะ สวัสดีค่ะเหล่าทุกท่าน ฉันเฟรียซิส อัล รักนา”
เฟรียซิสก้าวไปข้างหน้าอย่างลังเล
ไรมานเลิกคิ้วขึ้น
“อัล รักนา ใช่ตระกูลอัลรักนา ของราชวงศ์หรือเปล่า?”
“…”
“เอาเถอะ เราค่อยคุยกันทีหลัง”
ฉันถามสมาชิกของปาร์ตี้อื่นๆว่าพวกเขาสังเกตเห็นและพบอะไรแปลกๆหรือไม่ และคำตอบของพวกเขาก็สอดคล้องกัน เมืองที่ปกคลุมไปด้วยทรายและผุพังซึ่งไม่มีลักษณะพิเศษอื่นใดเป็นที่สะดุดตา
'มีเพียงวิหารแห่งนั้นงั้นเหรอ?'
ฉันมองขึ้นไปที่วิหารด้านหน้า
เสาเรียงรายตามบันไดทั้งสองข้าง ถัดจากพวกเขาไป มีประตูหินอ่อนขนาดใหญ่ปรากฏให้เห็น ความสนใจของทุกคนหันไปที่ประตูทันที
“ดูเหมือนว่าของที่ตามหาจะอยู่ในนั้นนะ”
"ฉันเห็นด้วย"
"ใช่"
ฉันพูดขึ้น
“เอาล่ะปาร์ตี้ที่ 1 จะเข้าไปก่อน ที่เหลือรออยู่ข้างนอก”
"จะไม่เป็นไรแน่เหรอ? เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างใน”
“ฉันจะติดต่อมาทันที อาจมีบางอย่างเกิดขึ้นข้างนอกเช่นกัน”
เรากำหนดหน้าที่แล้วแยกย้ายกันไปทันที
ยกเว้นปาร์ตี้ที่ 1 ที่กำลังจะเข้าไปในวิหาร ปาร์ตี้ที่เหลือรับผิดชอบฝ่ายตะวันออก ตะวันตก ใต้ และเหนือตามลำดับ
เนเรสซ่ากลับมาแล้ว
ฉันและสมาชิกในปาร์ตี้ที่ 1 และเข้าใกล้วิหารมากขึ้น
ปาร์ตี้ของเราจัดรูปแบบเป็นวงกลมโดยมีเฟรียซิสและออลก้าอยู่ตรงกลาง
“ดูเหมือนจะไม่มีกับดักเลย”
เนเรสซ่าซึ่งกำลังตรวจดูประตูอยู่พูดขึ้น
ฉันพยักหน้าแล้วเปิดประตูเข้าไป
ประตูเสียงดังเอี๊ยดแหลมเพราะความเก่าและเราก็ได้เห็นสภาพภายในวิหาร
ทรายไหลลงมาจากรอยแตกเพดานของวิหารเรื่อยๆ
“ตรงนั้น นั้นไง!”
เฟรียซิสชี้ไปที่แท่นบูชา
บนแท่นบูชาสี่เหลี่ยมเล็กๆ มีวัตถุเล็กๆ ลอยอยู่และเปล่งแสงออกมา
“กริชเหรอ?”
มันอยู่ในฝักสีทองซึ่งมีลวดลายอันประณีตสลักอยู่
เฟรียซิสเดินเข้าไปใกล้ราวกับว่าเธอกำลังตกตะลึง และเราก็เดินตามเธอไปติดๆ
“มันแปลกมากจริงๆนะ สัมผัสไม่ได้ถึงร่องรอยของศัตรูเลย”
“ตายไปหมดแล้วล่ะมั้ง”
ฉันหัวเราะเบาๆ
มันไม่ใช่เขาวงกตที่น่ากลัว และไม่มีสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ซ่อนอยู่เลยแม้แต่ตัวเดียว
ทันทีที่เราเข้าไปถึง เป้าหมายของเราอยู่ตรงหน้า
“ถ้าเอากริชนั้นมาได้ภารกิจจะจบ...แค่นั้นเลยใช่ไหม?”
“มันจะง่ายเกินไปหรือเปล่า?”
“นั้นสิ แบบนั้นไม่สนุกเลย”
และเฟรียซิสเอื้อมมือออกไปหยิบกริชบนแท่นบูชา
ฉันวางมือลงบนฝักดาบเตรียมพร้อมที่จะจัดการได้ทุกเมื่อ
และแล้ว…
[บรรลุวัตถุประสงค์แรกแล้ว]
[ได้รับ 'กุญแจแห่งความว่างเปล่า'!]
เฟรียซิสจับกริชไว้แน่น
ขณะเดียวกันแสงบนแท่นบูชาก็หายไป
"อะไร? มันเกิดอะไรขึ้น…?"
ตุ๊บ!
ตอนนี้ทั้งวิหารสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
[คำเตือน!]
“…ดูเหมือนว่ามีบางอย่างกำลังเกิดขึ้นสินะ”
<ฮาน!>
"มีอะไร?"
<น-นั่น…รีบออกมาข้างนอกก่อนเร็ว>
ฉันตัดการเชื่อมต่อและพูดว่า “เฟรียซิสมีอะไรแปลกเกินขึ้นไหม หลังจากเอาเจ้านั้นมา?”
"ฉัน...ฉันยังขยับตัวได้ปกติ”
“ดีเราต้องรีบออกไปจากที่นี่”
ตุ๊บ!
เสียงดังอีกครั้งหนึ่ง
เสียงทรายตกลงมาจากเพดานดังสนั่น
ฉันผลักประตูออกไป เราก็ออกจากวิหารทันที
“…”
ครืน ครืนนนนน!
พื้นดินใต้เท้าของเราสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
“ดูเหมือนจะเกินแผ่นดินไหวนะ!”
"ฉันรู้แล้ว"
ฉันสำรวจรอบๆวิหาร
เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น
'พายุทราย'
เมื่อห้านาทีที่แล้ว เมืองทั้งเมืองถูกพายุทรายปกคลุมแต่ตอนนี้มันหายไปแล้ว
ท่ามกลางแสงแดดที่แผดเผาพร้อมกับความร้อนที่สาดลงมา
แล้วจากนั้น…
ครืน ครืนนนนน ครืนนนนน!