ตอนที่แล้วบทที่ 224 : พายุความร้อนทะเลทราย (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 226 : พายุความร้อนทะเลทราย (3)

บทที่ 225 : พายุความร้อนทะเลทราย (3)


บทที่ 225 : พายุความร้อนทะเลทราย (3)

ประเภทภารกิจ : การสำรวจ

จนถึงตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น แต่วัตถุประสงค์หลักนั้นไม่ชัดเจนและยังมีเงื่อนไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการช่วยชีวิตของ NPC ที่แนบมาด้วย มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นภารกิจทั่วๆ ไป แต่มันก็ประหลาดเกินไป

ฉันยกมือขึ้นมาแตะหู

“ฮานจากปาร์ตี้ที่ 1 นะ”

<ได้ยินแล้ว>

“อีดิส ตรวจสอบหน้าต่างภารกิจแล้วหรือยัง? มันน่าจะโผล่ขึ้นมาแล้ว”

<เห็นแล้ว มันเป็นการสำรวจและช่วยชีวิต NPC>

“เราได้ตัวเป้าหมายมา ไม่ต้องตามหาเธอ แจ้งให้ปาร์ตี้อื่นทราบและมาหาเราทันที”

<เข้าใจแล้ว>

คลิก

การสื่อสารถูกตัดไปในทันที

ฉันปัดทรายออกจากไหล่แล้วเดินต่อไป เรากำลังเดินเข้าไปใกล้วิหารและพายุก็บดบังทัศนวิสัยมากขึ้น

'มันเงียบมาก'

ผ่านไป 10 นาทีแล้วตั้งแต่เราถูกส่งเข้ามาในภารกิจนี้

โดยปกติแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้นในตอนนี้ แต่ว่าเมืองกลับเงียบสงัด ไม่มีเงาของศัตรูเลย

“นี่มันเริ่มน่ารำคาญแล้วนะ”

ออลก้าสะบัดแขนเสื้อของเธอด้วยสีหน้าหงุดหงิด

ทรายเล็กๆหล่นจากด้านในเสื้อเธอ

“อดทนหน่อยนะ”

ฉันพึมพำขณะมองไปด้านหลังฉัน

เฟรียซิสกำลังเดินตามเรามาอย่างเงียบ ๆ

“เธอมีตำแหน่งที่แน่นอนของกุญแจไหม? แน่นอนนะว่าอยู่ข้างในนั้น?”

ฉันชี้ไปที่วิหารข้างหน้าซึ่งเต็มไปด้วยฝุ่นทราย

วิหารเริ่มสั่นไหว เฟรียซิสเพ่งสายตาแล้วพูดขึ้น

“ใช่ กุญแจอยู่ข้างในนั้น”

'เรามาถูกทางแล้ว'

ฉันพยักหน้า

ลักษณะเฉพาะของเมืองนี้คือวิหารทรงกลมนั้น ที่มีรูปปั้นเทพธิดาติดอยู่ด้านบน หมายความว่ามันมีบทบาทบางอย่างในฐานะสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ ฉันเริ่มตั้งคำถาม

“เธอมีข้อมูลอย่างอื่นอีกไหม? สัตว์ประหลาดหรือกับดักอะไรพวกนั้น?”

“ขอโทษนะ แต่ฉันไม่มีข้อมูลอะไรอีกแล้ว”

ฉันเงียบไปนั้นที

ดูเหมือนว่าไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมที่จะได้รับจากเฟรียซิส

ที่เหลือก็ต้องค้นพบโดยการหาเอง

เมื่อเส้นทางกว้างขึ้น เราก็เข้าใกล้วิหารนั้นมากขึ้น

วิหารอยู่ตรงหน้าเราแล้ว เดิมทีมันคงจะเป็นวิหารที่งดงามแต่ตอนนี้มันถูกปกคลุมไปด้วยทรายและผุกร่อน ความยิ่งใหญ่ดั้งเดิมของมันยากที่จะประเมินได้ แต่เวลานี้วิหารที่ยิ่งใหญ่กลายเป็นเพียงซากปรักหักพังไปแล้ว

"ฮาน!"

ฉันมองไปด้านข้างของฉัน

อีดิสโบกมือมาจากทางเดินด้านตะวันตกของจัตุรัส

ที่ด้านหลังเธอ ฉันมองเห็นสมาชิกของปาร์ตี้ที่ 2 และไม่มีร่องรอยของการต่อสู้แม้ว่าใบหน้าผู้มาใหม่ทั้งสามคนจะดูตึงเครียดก็ตาม

สมาชิกจากปาร์ตี้อื่นๆ เริ่มเข้าร่วมกับพวกเราทีละคน

ปาร์ตี้ที่ 3 มาจากประตูทิศเหนือของจัตุรัส ปาร์ตี้ที่ 4 และปาร์ตี้ที่ 5 จากประตูทิศตะวันตก

รวมเป็น 25 คน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครบาดเจ็บในภารกิจนี้

ฉันพาเฟรียซิสไปที่หน้าวิหาร

ผู้นำของปาร์ตี้ทั้ง 5 มารวมตัวกัน ดวงตาพวกเขาจับจ้องมาที่เรา

“...นี่คือเป้าที่เราต้องหมายคุ้มกันสำหรับภารกิจนี้”

“สะ สวัสดีค่ะเหล่าทุกท่าน ฉันเฟรียซิส  อัล รักนา”

เฟรียซิสก้าวไปข้างหน้าอย่างลังเล

ไรมานเลิกคิ้วขึ้น

“อัล รักนา ใช่ตระกูลอัลรักนา ของราชวงศ์หรือเปล่า?”

“…”

“เอาเถอะ เราค่อยคุยกันทีหลัง”

ฉันถามสมาชิกของปาร์ตี้อื่นๆว่าพวกเขาสังเกตเห็นและพบอะไรแปลกๆหรือไม่ และคำตอบของพวกเขาก็สอดคล้องกัน เมืองที่ปกคลุมไปด้วยทรายและผุพังซึ่งไม่มีลักษณะพิเศษอื่นใดเป็นที่สะดุดตา

'มีเพียงวิหารแห่งนั้นงั้นเหรอ?'

ฉันมองขึ้นไปที่วิหารด้านหน้า

เสาเรียงรายตามบันไดทั้งสองข้าง ถัดจากพวกเขาไป มีประตูหินอ่อนขนาดใหญ่ปรากฏให้เห็น ความสนใจของทุกคนหันไปที่ประตูทันที

“ดูเหมือนว่าของที่ตามหาจะอยู่ในนั้นนะ”

"ฉันเห็นด้วย"

"ใช่"

ฉันพูดขึ้น

“เอาล่ะปาร์ตี้ที่ 1 จะเข้าไปก่อน ที่เหลือรออยู่ข้างนอก”

"จะไม่เป็นไรแน่เหรอ? เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างใน”

“ฉันจะติดต่อมาทันที อาจมีบางอย่างเกิดขึ้นข้างนอกเช่นกัน”

เรากำหนดหน้าที่แล้วแยกย้ายกันไปทันที

ยกเว้นปาร์ตี้ที่ 1 ที่กำลังจะเข้าไปในวิหาร ปาร์ตี้ที่เหลือรับผิดชอบฝ่ายตะวันออก ตะวันตก ใต้ และเหนือตามลำดับ

เนเรสซ่ากลับมาแล้ว

ฉันและสมาชิกในปาร์ตี้ที่ 1 และเข้าใกล้วิหารมากขึ้น

ปาร์ตี้ของเราจัดรูปแบบเป็นวงกลมโดยมีเฟรียซิสและออลก้าอยู่ตรงกลาง

“ดูเหมือนจะไม่มีกับดักเลย”

เนเรสซ่าซึ่งกำลังตรวจดูประตูอยู่พูดขึ้น

ฉันพยักหน้าแล้วเปิดประตูเข้าไป

ประตูเสียงดังเอี๊ยดแหลมเพราะความเก่าและเราก็ได้เห็นสภาพภายในวิหาร

ทรายไหลลงมาจากรอยแตกเพดานของวิหารเรื่อยๆ

“ตรงนั้น นั้นไง!”

เฟรียซิสชี้ไปที่แท่นบูชา

บนแท่นบูชาสี่เหลี่ยมเล็กๆ มีวัตถุเล็กๆ ลอยอยู่และเปล่งแสงออกมา

“กริชเหรอ?”

มันอยู่ในฝักสีทองซึ่งมีลวดลายอันประณีตสลักอยู่

เฟรียซิสเดินเข้าไปใกล้ราวกับว่าเธอกำลังตกตะลึง และเราก็เดินตามเธอไปติดๆ

“มันแปลกมากจริงๆนะ สัมผัสไม่ได้ถึงร่องรอยของศัตรูเลย”

“ตายไปหมดแล้วล่ะมั้ง”

ฉันหัวเราะเบาๆ

มันไม่ใช่เขาวงกตที่น่ากลัว และไม่มีสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ซ่อนอยู่เลยแม้แต่ตัวเดียว

ทันทีที่เราเข้าไปถึง เป้าหมายของเราอยู่ตรงหน้า

“ถ้าเอากริชนั้นมาได้ภารกิจจะจบ...แค่นั้นเลยใช่ไหม?”

“มันจะง่ายเกินไปหรือเปล่า?”

“นั้นสิ แบบนั้นไม่สนุกเลย”

และเฟรียซิสเอื้อมมือออกไปหยิบกริชบนแท่นบูชา

ฉันวางมือลงบนฝักดาบเตรียมพร้อมที่จะจัดการได้ทุกเมื่อ

และแล้ว…

[บรรลุวัตถุประสงค์แรกแล้ว]

[ได้รับ 'กุญแจแห่งความว่างเปล่า'!]

เฟรียซิสจับกริชไว้แน่น

ขณะเดียวกันแสงบนแท่นบูชาก็หายไป

"อะไร? มันเกิดอะไรขึ้น…?"

ตุ๊บ!

ตอนนี้ทั้งวิหารสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

[คำเตือน!]

“…ดูเหมือนว่ามีบางอย่างกำลังเกิดขึ้นสินะ”

<ฮาน!>

"มีอะไร?"

<น-นั่น…รีบออกมาข้างนอกก่อนเร็ว>

ฉันตัดการเชื่อมต่อและพูดว่า “เฟรียซิสมีอะไรแปลกเกินขึ้นไหม หลังจากเอาเจ้านั้นมา?”

"ฉัน...ฉันยังขยับตัวได้ปกติ”

“ดีเราต้องรีบออกไปจากที่นี่”

ตุ๊บ!

เสียงดังอีกครั้งหนึ่ง

เสียงทรายตกลงมาจากเพดานดังสนั่น

ฉันผลักประตูออกไป เราก็ออกจากวิหารทันที

“…”

ครืน ครืนนนนน!

พื้นดินใต้เท้าของเราสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

“ดูเหมือนจะเกินแผ่นดินไหวนะ!”

"ฉันรู้แล้ว"

ฉันสำรวจรอบๆวิหาร

เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น

'พายุทราย'

เมื่อห้านาทีที่แล้ว เมืองทั้งเมืองถูกพายุทรายปกคลุมแต่ตอนนี้มันหายไปแล้ว

ท่ามกลางแสงแดดที่แผดเผาพร้อมกับความร้อนที่สาดลงมา

แล้วจากนั้น…

ครืน ครืนนนนน ครืนนนนน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด