บทที่ 32 : พิชิตจินหมั่นฝู!
บทที่ 32 : พิชิตจินหมั่นฝู!
เนื่องจากอีกาทมิฬต้องการให้ตัวละครดังกล่าวปรากฏ…..ดังนั้นเขาจึงต้องกลายเป็นราชาเเห่งโลกใต้ดินของเมืองหลินเจียงเท่านั้น
ไม่เช่นนั้นล่ะก็…
ถ้าหากอีกาทมิฬเลือกคนอื่น...โชคชะตาที่ดีที่สุดของเขาคงจะเป็นการหายไปจากโลกนี้อย่างเงียบๆ
เพราะมีเพียงคนตายเท่านั้นที่จะไม่แพร่งพรายความลับ
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อความปลอดภัยหรือรากฐานในอนาคต อีกาทมิฬคงไม่ยอมปล่อยให้ความลับของเขารั่วไหลออกไปได้
การเกาะอยู่ด้านหลังอีกาทมิฬ จนกลายเป็นกองกำลังพิเศษภายใต้คำสั่งของเขา กลายเป็นราชาเเห่งโลกใต้ดินของเมืองหลินเจียงภายใต้คำสั่งของอีกาทมิฬ จากนั้นใช้อำนาจและอิทธิพลของตัวตนนี้เพื่อวางรากฐานของตนให้แข็งแกร่ง
หรือ…...ตาย
ตอนนี้มีเพียงสองทางเลือกเท่านั้นสำหรับจินหมั่นฝู
ตาย?
หรือกลายเป็นราชาเเห่งโลกใต้ดินของเมืองหลินเจียง?
ทางเลือกทั้งสองอย่างชั่งตัดสินใจได้อย่างง่ายดาย (เอ็งจะคิดนานเพื่อ (-__-))
ลองคิดดูสิ
แค่ทำในสิ่งที่พวกเขาขอให้คุณทำ
ด้วยเป้าหมายในการกอบกู้โลก พวกเขาไม่น่าจะทิ้งหมากอย่างเขาใช่ไหมนะ?
“ผมขอถามหน่อยได้รึเปล่า?”
ในที่สุด จินหมั่นฝูเงยหน้าขึ้นมองและถาม
"ว่ามา"
“ท่านแข็งแกร่งแค่ไหน และเมื่อไหร่ที่ท่านจะแข็งแกร่งที่สุด?”
จินหมั่นฝูกังวง, แต่เขาก็มีความหวังเล็กน้อยเช่นกัน
สิ่งมีชีวิตที่เกิดใหม่เหล่านี้ควรจะเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในเหล่าผู้รอดชีวิตในอนาคต
ปกติเเล้วจินหมั่นฝูจะไม่กล้าถามเกี่ยวกับความลับของพวกเขา
แต่ระดับพลังที่พวกเขามี...จินหมั่นฝูอยากรู้เรื่องนี้มาก
เพราะในแง่หนึ่ง ระดับพลังของอีกาทมิฬจะเป็นตัวกำหนดว่าเขาจะสามารถทำให้ผู้ติดตามมีชีวิตรอดอยู่ต่อไปได้หรือไม่…..เมื่อวันสิ้นโลกมาถึง!
"ช่วงเวลาที่แข็งแกร่งที่สุด..."
ความทรงจำ(ปลอม)ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูไป๋
"ทำลายเมืองด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ทำลายประเทศด้วยพวกฉันสิบคน และทำลายโลกด้วยพวกฉันหนึ่งร้อยคน!"
ทำลายเมืองด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวเหรอ?
เมื่อได้ยินเช่นนี้, ใบหน้าของจินหมั่นฝูก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง
นี่เป็นพลังที่เทียบเท่าระเบิดนิวเคลียร์เลยไม่ใช่หรือ?
ถ้าสามารถไปถึงที่ระดับนั้น... มันไม่ได้หมายความว่าคนที่เกิดใหม่เหล่านี้จะมีความแข็งแกร่งเหมือนระเบิดนิวเคลียร์รูปเเบบมนุษย์เลยไม่ใช่หรือไง?
เเต่ด้วยความแข็งแกร่งขนาดนี้….ทุกคนกลับยังคงถูกกลุ่มกำจัดทิ้ง...…วันสิ้นโลกในอนาคต, มันจะเลวร้ายขนาดไหน?
เเต่ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องลังเลอักต่อไปเเล้ว
จินหมั่นฝู ยืนขึ้นจากโซฟาและคุกเข่าต่อหน้าซูไป๋ด้วยความเคารพ
"หากนายท่านอีกาทมิฬต้องการ ฉันยินดีที่จะเป็นราชาเเห่งโลกใต้ดินของเมืองหลินเจียง….จากนี้ไปฉันจะทำให้ดีที่สุดเพื่อนายท่านอีกาทมิฬ และติดตามท่านไปทุกที่!”
"ลุกขึ้น" รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของซูไป๋
"เมื่อนายตกลงรับคำขอของฉัน, ตอนนี้นายก็เป็นหนึ่งในพวกเราเเล้ว…..เเละฉันไม่ใช่คนโบราณ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนี้"
จินหมั่นฝูยืนขึ้นตามที่บอก
เเต่ แม้ว่าจินหมั่นฝูจะนั่งบนโซฟา แต่เขากลับมีก้นอยู่บนโซฟาเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น…..เเละนี่คือท่านั่งที่เขาจะทำเมื่อเผชิญหน้ากับแขกผู้มีเกียรติที่สุดเท่านั้น
แน่นอนว่า….ตอนนี้เขาไม่ได้เผชิญหน้ากับแขกผู้มีเกียรติ
แต่เป็นผู้กลับมาเกิดใหม่, เเละในอีกแง่หนึ่ง...เขาคนนี้ก็เป็นเจ้านายของเขาด้วยเช่นกัน
เมื่อจินหมั่นฝูยอมจำนน ซูไป๋ก็อารมณ์ดีถึงขีดสุด
จนกว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงพอ เขาย่อมให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของตัวเองเป็นอันดับแรก….เเละการจะปลอดภัยเขาจำเป็นต้องมีกองกำลัง
แต่เมื่อเขามีพลังถึงระดับหนึ่ง... เขาจะประกาศข่าวให้ประเทศทราบว่าวันสิ้นโลกกำลังมาถึง
เเละภายใต้สมมติฐานนี้ ผู้กลับมาเกิดใหม่….จะไม่ได้เป็นแค่หัวข้อดาดๆในนิยายออนไลน์ แต่จะกลายเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเขา
เเละทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ล้วนเป็นการฝึกซ้อมของซูไป๋เพื่อการพัฒนาพลังจริงๆ
เพียงแต่……
สิ่งที่เขาเผชิญในช่วงก่อนหน้านี้เป็นเพียงมาเฟียตัวเล็กๆไม่กี่คนเท่านั้น
แต่ในอนาคต…..เขาอาจจะต้องเผชิญหน้ากับประเทศขนาดใหญ่ที่มีประชากรมากกว่าหนึ่งพันล้านคน!
……….
อย่างไรก็ตาม
ตอนนี้เขาผ่านก้าวแรกแล้ว, ดังนั้นซูไป๋จึงมีความสุขเป็นพิเศษ
เมื่อมองไปที่จินหมั่นฝู ซึ่งยังคงตกอยู่ในภวังค์….ซูไป่ก็หัวเราะเบาๆและพูดว่า
"การมาถึงของวันสิ้นโลกเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้…..เเละในช่วงวันสิ้นโลก 70% ของสิ่งมีชีวิตจะกลายเป็นซอมบี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน”
“แต่ตอนนี้พวกเรากลับมาแล้ว, สถานการณ์เลวร้ายที่สุดอย่างการสูญพันธุ์ของมนุษย์….จะไม่เกิดขึ้นอย่างเเน่นอน”
"อย่างน้อยที่สุด…..เมื่อเวลานั้นมาถึง เราจะสามารถรักษาเมล็ดพันธุ์แห่งพลัง เพื่อให้ผู้รอดชีวิตบางคนสามารถอยู่รอดได้แม้จะเป็นในช่วงวันสิ้นโลก”
"ตอนนี้นายไม่ต้องคิดเยอะเกินไป…..เเค่ทำงานของนายให้ดีก็พอ”
"เมื่อความเเข็งเเกร่งของฉันฟื้นคืนกลับมา…..นายและคนของนายจะได้รับพลังพิเศษล่วงหน้า”
“และด้วยพลังพิเศษเหล่านี้, มันก็จะเป็นเรื่องง่ายสำหรับนายและคนของนายที่จะแข็งแกร่งขึ้นก่อนวันสิ้นโลกมาถึง”
หากการเล่าเรื่องครั้งก่อนของซูไป๋เป็นยาขม…..คำพูดที่เขาเอ่ยอยู่ตอนนี้ก็เป็นเหมือนขนมหวาน
วันสิ้นโลกใกล้เข้ามาแล้ว
เเล้วใครจะไม่อยากมีชีวิตรอด?
ใครบ้างที่ไม่อยากได้รับพลังพิเศษ?
ปล่อยให้ตัวเองฝึกฝนพลังพิเศษอันเหลือเชื่อนั้น….และแข็งแกร่งขึ้น!!!
ด้วยเรื่องราวที่เป็นดั่งยาขมและพลังพิเศษอันแสนหอม
ในที่สุด, จินหมั่นฝูก็เริ่มมองเห็นแสงสว่างและความหวัง
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการผูกมัดผลประโยชน์ด้วยความหวาดกลัว...เเต่ตอนนี้เขาจะไม่โลเลอีกต่อไปเเล้ว!
“นายท่านอีกาทมิฬ, ท่านจะให้ผมทำอะไร?”
“ตราบใดที่ท่านเอ่ยคำ, แม้ว่าจะขอให้ฉันบุกน้ำลุยไฟ….ฉันก็ยินดี!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้, ซูไป๋ก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ฉันจะค่อยๆรวบเมืองหลินเจียงเข้าด้วยกัน…เเต่จะทำลับๆจนกว่าความแข็งแกร่งของฉันจะฟื้นตัวมามากกว่านี้”
จนกว่าจะแข็งแกร่งมากพอหรือได้รับรางวัลที่เป็นประโยชน์ การซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังจินหมั่นฝูและพัฒนาอย่างสบายใจคือทางเลือกที่ดีที่สุด
สำหรับคะแนนการเอาชีวิตรอด...
ในฐานะหนึ่งในถุงมือสีขาวที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลินเจียง ตัวตนและสถานะของจินหมั่นฝู ก็น่าจะเพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ?
ซูไป๋เคาะที่วางแขนของโซฟาที่ถูกเคลือบทองแล้วพูดอย่างครุ่นคิด
"นายรู้จักอาคารสีขาวหลังเล็กๆ ตรงศูนย์กลางย่านธุรกิจยี่ต้าหรือเปล่า"
………………