Chapter 163: Gu Worms Promote One After Another, Rank Three Infatuation Gu
"ไม่เลวเลย"
สำหรับอายุขัยที่เพิ่มขึ้นเป็น 600 ปี โจวสุ่ย รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ยังต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากกู่มังกรคชสารอีกด้วย
ด้วยพลังของกู่มังกรคชสาร ทำให้เขาทะลุขีดจำกัดของอายุขัย
และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
เมื่อกู่มังกรคชสารถูกกลั่นกรองครั้งแล้วครั้งเล่า อายุขัยของเขาก็อาจเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ นี่ไม่ใช่ขีดจำกัด
ท้ายที่สุดแล้ว อายุขัยของมังกรในตำนานนั้นยาวนานกว่ามนุษย์มาก มนุษย์อย่างเราไม่สามารถเทียบได้
"พลังของเหล่า กู่หนอน ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน พวกมันทั้งหมดได้เลื่อนขั้นเป็นระดับสองแล้ว"
โจวสุ่ยลูบคาง
จริงๆ แล้ว การก้าวหน้าของกู่หนอนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
พลังของแต่ละตัว เปรียบดั่งไพ่ตายในมือ
ย่อมชัดเจน ว่าการก้าวหน้าของเขาย่อมส่งผลต่อพลังกู่หนอนเช่นกัน
ทั้งสองอย่างส่งเสริมซึ่งกันและกัน
"หลังจากกู่หนอนแต่ละตัวเลื่อนขั้นเป็นระดับสอง ความสามารถก็ได้รับการปรับปรุงในระดับที่แตกต่างกัน"
โจวสุ่ยสัมผัสคลื่นข้อมูลมหาศาล แทรกซึมเข้าสู่สัมผัสวิญญาณ ข้อมูลเหล่านี้มาจากกู่หนอนแต่ละตัวที่เลื่อนขั้นเป็นระดับสอง
ในขณะเดียวกัน มันก็ทำให้เขาเข้าใจสถานการณ์ของกู่หนอนแต่ละตัวในปัจจุบัน
ก่อนอื่น กู่ร่างแยกได้ กู่ร่างแยกเลื่อนขั้นเป็นระดับสองขั้นต่ำ มันสามารถแบ่งตัวได้มากขึ้น
เดิม ในระดับขั้นเก้าแห่งการกลั่นลมปราณ สร้างได้เพียงเก้าร่าง แต่ตอนนี้ระดับสองขั้นต่ำ
สร้างได้ถึงสิบแปดร่าง
กู่ร่างแยกนี้ พิเศษตรงที่จำนวนร่างแยกจะเพิ่มขึ้นตามระดับ ยิ่งระดับสูง ร่างแยกก็ยิ่งมาก เสริมกำลังรบได้มหาศาล
ระดับสองขั้นกลาง สร้างร่างแยกได้สามสิบหกตัว ระดับสองขั้นสูง สร้างได้ถึงเจ็ดสิบสองตัว ถือว่าทวีคูณแบบก้าวกระโดด
แต่ที่เหนือกว่านั้นคือ แต่ละร่างแยกสามารถฝึกซ้อมทักษะ วิชาต่างๆ และการบ่มเพาะได้เอง
ความรู้และประสบการณ์ของร่างแยกจะส่งผ่านมายังร่างหลักได้ แม้ประสิทธิภาพจะไม่ดีเท่าร่างหลัก แต่สะสมนานๆ ไปก็สะสมความรู้มหาศาล ร่างหลักจึงโฟกัสแค่บ่มเพาะ ได้ สารพัดวิชาปล่อยให้ร่างแยกจัดการ
"ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันก็เหมือนกับมีสมองอีกสิบแปดสมอง สามารถช่วยฉันเรียนรู้ความรู้ต่างๆ ได้พร้อมกัน" โจวสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นมาก
เห็นได้ชัดว่า ประโยชน์ของร่างแยกนั้นไม่ได้จำกัดเพียงแค่ช่วยเขาสืบข่าวและผจญภัยเท่านั้น
"ประกอบกับกู่หนังสือเลื่อนขั้นเป็นระดับสองเช่นกันดเมื่อจับคู่กับกู่ร่างแยกระดับสองเปรียบเสมือนพยัคฆ์ติดปีก!"
โจวสุ่ยกำมือแน่น
กู่หนังสือเลื่อนขั้นเป็นระดับสอง
นอกจากความจุภายในที่หนอนหนังสือใหญ่ขึ้นแล้ว เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ขยายใหญ่ขึ้นเป็นร้อยเท่า และสามารถเก็บข้อมูลจำนวนมากได้แล้ว มันก็ยังมีความสามารถที่สำคัญยิ่งขึ้นอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือการถ่ายทอดความรู้
โดยใช้พลังของกู่หนังสือ สามารถถ่ายทอดข้อมูลความรู้ของตัวเองให้กับผู้อื่นได้ ช่วยให้ผู้อื่นจำความรู้ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ
เดิมทีเขาสามารถใช้พลังของหนอนหนังสือได้ด้วยตัวเองเท่านั้น
แต่ตอนนี้ล่ะ ความรู้ใด ๆ ที่หนอนหนังสือบันทึกไว้ สามารถถ่ายทอดให้กับผู้อื่นได้
น่าจะช่วยให้ภรรยาของเขาพัฒนาการเพาะปลูกได้อย่างรวดเร็วและเข้าใจเส้นทางการเพาะปลูกมากขึ้น
"กู่สุรา, กู่มังกรคชสาร, กู่หนอนพิษแสงทองทองคำ, กู่หนอนทองคำกลืนกิน, กู่วิญญาณแห่งความฝัน และอื่นๆ ล้วนก้าวสู่ระดับสอง"
โจวจุยกวาดคาง
เห็นได้ชัดว่าความสามารถของกุทั้งห้าตัวนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
กู่สุรา หลังจากก้าวสู่ระดับสอง สามารถผลิตเหล้าวิญญาณระดับสองได้แล้ว
ต้องรู้ไว้ว่าเหล้าวิญญาณระดับสองหนึ่งขวด ราคาอย่างน้อยห้าก้อนหินวิญญาณระดับกลาง ซึ่งเป็นสิบเท่าของเหล้าวิญญาณระดับหนึ่ง
หากสามารถผลิตเหล้าวิญญาณระดับสองจำนวนมากได้ ความเร็วในการหาเงินก็เหมือนกับเครื่องพิมพ์เงิน
กล่าวได้ว่า กู่สุราชั้นสองคือเครื่องจักรทำเงินของเขา
ส่วนกู่มังกรคชสารที่ก้าวสู่ระดับสอง ก็ยังปล่อยเลือดศักดิ์สิทธิ์ออกมาเดือนละหนึ่งครั้ง แต่เลือดศักดิ์สิทธิ์เส้นนี้ ส่งผลต่อร่างกายของเขาก็เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าสิบเท่า
การบ่มเพาะร่างกายของเขาจึงมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ต่อมาคือ กู่หนอนพิษแสงทอง หลังจากก้าวสู่ระดับสอง สามารถผลิตสารพิษร้ายแรงระดับสองได้ แม้เพียงแค่ปล่อยพิษเล็กน้อยก็สามารถฆ่าผู้บ่มเพาะระดับสร้างรากฐานได้
มันอาจเป็นภัยคุกคามต่อผู้บ่มเพาะระดับแกนทองคำด้วยซ้ำ
ถึงแม้จะไม่ฆ่าผู้บ่มเพาะระดับแกนทอง แต่ก็สามารถสร้างปัญหาให้กับพวกเขาได้ในระดับหนึ่ง
ส่วนกู่หนอนทองคำกลืนกิน หลังจากก้าวสู่ระดับสอง ความสามารถก็แข็งแกร่งขึ้นตามธรรมชาติ ทั้งพลังป้องกันและโจมตีได้รับการปรับปรุงอย่างมาก
กู่หนอนทองคำกลืนกินตัวปัจจุบันยังคงอยู่ในเหมืองแร่ทองแดงเดิม และเลี้ยงไว้ได้ประมาณพันตัว
พูดได้ว่าได้ก่อตัวเป็นกลุ่มหนอนกินทองแล้ว
หากพวกมันร่วมมือกัน พวกมันจะสามารถฆ่าผู้บ่มเพาะระดับสร้างรากฐานได้มากมาย ก่อให้เกิดภัยพิบัติแมลงครั้งใหญ่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ โจวสุ่ย มีเพียงหนึ่งร้อยตัวเท่านั้น ส่วนที่เหลือเก้าร้อยตัวยังคงถูกเลี้ยงในเหมืองทองแดง
ท้ายที่สุดแล้ว ความอยากอาหารของกู่หนอนทองคำกลืนกินกว่าพันตัวนั้นใหญ่มากเกินไป
ถ้าเลี้ยงไว้ข้างกายจริงๆ เขาเกรงว่าจะเลี้ยงไม่ไหว
ส่วนกู่วิญญาณแห่งความฝัน อันที่จริงมันก้าวสู่ระดับสองไปแล้วก่อนหน้านี้ ดังนั้นระดับการพัฒนาครั้งนี้จึงไม่โดดเด่นนัก
แต่การพัฒนาที่น่าทึ่งที่สุดคือ กู่หลงเสน่ห์
เพราะพลังของกู่หลงเสน่ห์ได้ก้าวข้ามสู่ระดับเบื้องสามแล้ว
"กู่หลงเสน่ห์ระดับสาม"
โจวสุ่ยรับรู้กู่หลงเสน่ห์ที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจ บัดนี้มันปรากฏรอยกขระสีชมพูหนาแน่นปรากฏบนร่างกายของมัน ราวกับว่าร่างกายทั้งหมดถูกห่อหุ้มด้วยความรักและความเสน่หาอันไม่มีที่สิ้นสุด
มีออร่าสีชมพูลอยออกมาจากตัวมันตลอดเวลา
ออร่าสีชมพูเหล่านี้ไหลเวียนเข้าไปในแขนขาและร่างกายของเขาทุกส่วน
ส่งผลให้ร่างกายและรูปลักษณ์ของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
และนี่คือความสามารถที่กู่หลงเสน่ห์ระดับสามมี - "ร่างสวรรค์เสน่หา"
กู่หลงเสน่ห์สามารถปลดปล่อยพลังลึกลับอย่างต่อเนื่อง ปรับเปลี่ยนโครงสร้างร่างกายของโจวสุ่ยไปเรื่อยๆ
ส่งผลให้ร่างกายของเขาปล่อยกลิ่นหอมที่ไม่เหมือนใครออกมา
กลิ่นหอมนี้ก็คือฮอร์โมนเพศชาย
กลิ่นหอมนี้ไม่มีกลิ่นใด ๆ ไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสใด ๆ
แต่สามารถรับรู้ได้
เมื่อผู้บ่มเพาะหญิงยืนอยู่ข้างเขา เธอจะไม่สามารถต้านทานกลิ่นหอมอันน่าหลงใหลที่สะกดจิตและทำให้จิตใจสั่นสะเทือนจนแทบจะหยุดหายใจ
เมื่อได้กลิ่นหอมนี้ ผู้บ่มเพาะหญิงจะรู้สึกดีกับเขามากขึ้น
ราวกับว่าพวกเขาตกหลุมรัก
แน่นอนว่าพลังนี้ไม่ได้เพิ่มพลังการต่อสู้ของเขาแต่อย่างใด เป็นเพียงการเพิ่มเสน่ห์ให้กับเขาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เสน่ห์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นในทันที แต่ค่อย ๆ ซึมซับเข้าไป
ยิ่งอยู่ใกล้เขานานเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของเขามากขึ้น
แม้แต่ผู้ชายที่เป็นเพศเดียวกันก็เช่นกัน ต่างก็รู้สึกดีกับเขาอย่างไม่รู้ตัว
แม้แต่การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งของเขา ก็เปล่งประกายด้วยแรงดึงดูดอันยิ่งใหญ่
(จบบทนี้)
*** ช่วงนี้ผมมาอบรม กทม 20 กว่าลันเลยได้ลงค่อนข้างน้อยครับ