ตอนที่แล้วบทที่ 30 : นายเชื่อเรื่องการย้อนกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งรึเปล่า?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 32 : พิชิตจินหมั่นฝู!

บทที่ 31 : อนาคตและจุดจบของโลก จินหมั่นฝูผู้ถูกต้มจนเปื่อย


บทที่ 31 : อนาคตและจุดจบของโลก จินหมั่นฝูผู้ถูกต้มจนเปื่อย

การย้อนกลับมาเกิดใหม่!!!

เมื่อได้ยินคำนี้, จินหมั่นฝูก็เงียบไปทันที

เขานั้นไม่ได้รู้สึกแปลกๆกับคำเหล่านี้แต่อย่างใด

เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมบันเทิงของประเทศไท่เซี่ยก็ปรากฏคำเหล่านี้​ให้เห็นขึ้นอยู่บ่อยๆ

ไม่เพียงแต่ผู้แต่งนวนิยายออนไลน์เท่านั้น….เเม้แต่ธีมของการเกิดใหม่และหวนคืนสู่อดีตก็มักปรากฏในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์บางเรื่องอีกด้วย

แต่….

ละครโทรทัศน์​กับเรื่องจริงนั้นเเตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เเละหากเป็นไม่กี่นาทีก่อนหน้า จินหมั่นฝูจะไม่มีวันเชื่อเรื่องเเบบนี้เลย

แต่ตอนนี้……

เมื่อเห็นการแสดงออกที่คาดเดาไม่ได้ของซูไป่ จินหมั่นฝูก็เริ่มจิตใ​จสั่นไหวเล็กน้อย

ใช่…..แม้แต่พลังพิเศษ เช่น พลังเหนือธรรมชาติที่ไม่เคยมีมาก่อนก็ยังปรากฏให้เห็น แล้วมันจะยากอะไรนักหนากะอีแค่มีผู้ย้อนกลับมาเกิดอีกครั้ง?

หลังจากเงียบไปนาน จินหมั่นฝูก็พูดออกมา

"งั้นนายท่านอีกาทมิฬ, ท่านเป็นผู้ที่ย้อนกลับมาเกิดงั้นเหรอ?”

“จากช่วงเวลาข้างหน้า….หวนคืนสู่ปัจจุบัน?”

"ไม่ใช่ฉัน….แต่เป็นพวกเรา"

เมื่อเห็นว่าจินหมั่นฝูเริ่มทำความเข้าใจได้แล้ว ซูไป๋ก็เล่าเรื่องที่เขาแต่งขึ้นมาอย่างใจเย็น

“วันนี้ในอีก 1 ปีข้างหน้า…มันจะมีหมอกดำปกคลุมทั่วทั้งโลก และโลกจะเปลี่ยนไปในทันที”

“70% ของมนุษย์หรือมากกว่า 1 หมื่นล้านคนในดาวเคราะห์สีฟ้านี้จะติดเชื้อจากหมอกดำและกลายเป็นซอมบี้”

“ใช่…..มันเป็นซอมบี้แบบในภาพยนตร์​นั่นแหละ”

“เเละเพียงเเค่วันเดียวเท่านั้น อัตราการเสียชีวิตของมนุษยชาติก็เกิน 80%”

“จากนั้นหนึ่งเดือนต่อมา จำนวนผู้รอดชีวิตก็เหลือเพียงห้าเปอร์เซ็นต์(500​ ล้านคน)​ของประชากรทั้งหมด”

“หนึ่งปีต่อมา จำนวนดังกล่าวก็ลดลงต่อไป…..โดยในที่สุด​มีจำนวนผู้รอดชีวิตต่ำกว่า 100 ล้านคน”

“สองปีต่อมา ซอมบี้ที่วิวัฒนาการ​เเล้ว…..ได้ครอบครองเกือบทุกมุมโลก เเละมีผู้รอดชีวิตเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ที่ซอมบี้​ไม่สามารถเข้าถึงได้”

"สามปีต่อมา, โลกได้กลายเป็นโลกแห่งซอมบี้โดยสมบูรณ์ แม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการจนมีความแข็งแกร่งเหนือกว่ามนุษยชาติซึ่งถูกเรียกว่าสัตว์ร้าย ก็ถูกกำจัดโดยเหล่าซอมบี้"

“หลังจากสามปี, คนเป็นไม่มีอีกต่อไปแล้ว เเละคนตายคือคนที่ถือครองอำนาจสูงสุด”

“อารยธรรมล่มสลายและมนุษยชาติสูญสิ้น”

“นี่คืออนาคตของโลกในอีกสามปีต่อจากนี้”

“ฉันเป็นผู้แข็งแกร่งคนสุดท้ายของมนุษยชาติ…..เเละได้ใช้พลังจากสมบัติล้ำค่าเพื่อกลับมาสู่อดีตในช่วงเวลาก่อนที่โลกถูกทำลาย….ซึ่งขณะนี้อยู่ห่างจากวันสิ้นโลกหนึ่งปี”

“เพราะฉะนั้น ฉันถึงเก่งในการต่อสู้มากขนาดนี้”

“เเละนั่นคือเหตุผลว่าทำไม บนดาวโลกที่ไม่เคยมีผู้มีพลังพิเศษใดๆมาก่อน….จึงมีคนที่มีพลังพิเศษเช่นฉันปรากฏตัวขึ้น!”

จินหมั่นฝูเริ่มเงียบอีกครั้ง

หากแยกข้อเท็จจริงที่ว่าซูไป๋กำลังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา….สิ่งที่เขาเพิ่งได้ยินมัยก็เหมือนกับโครงร่างของนวนิยายออนไลน์คุณภาพต่ำที่ไม่ค่อยมีข้อเท็จจริงสักเท่าไหร่

แต่ด้วยการปรากฏตัวของซูไป๋และพลังพิเศษที่เขาแสดงออกมา... ข้อเท็จจริงเหล่านั้นมันกลับดูสมเหตุสมผลและกลมกลืนอย่างไม่น่าเชื่อ

"วันสิ้นโลก ซอมบี้..."

"การล่มสลายของมนุษยชาติ..."

การใช้คำพูดที่น่าสะพรึงกลัวแบบนี้ไม่ว่ากับใครก็ตาม….มันก็จะทำให้พวกเขารู้สึกกดดันอย่างหนัก ความกลัว และความไร้พลังซึ่งเกี่ยวกับอนาคตและการสูญสิ้นของโลก

“แต่ทำไมต้องเป็นฉันล่ะ”

“เมื่อท่านได้เกิดใหม่แล้วกลับมาแล้ว …หุ้นส่วนที่ดีที่สุดก็ควรเป็นรัฐบาลไม่ใช่หรือ?”

จินหมั่นฝูไม่สามารถทำอะไรได้ เขาทำได้เพียงถามคำถามนี้ด้วยเสียงแหบ

แต่แล้ว….เขาก็เริ่มนึกขึ้น​ได้​

ถ้าหากเป็นเขาที่ย้อนกลับมาล่ะ…

เขาก็คง…..จะระมัดระวัง และอาจจะระมัดระวัง​มากกว่าที่นายท่านอีกาทมิฬ​ด้วยซ้ำ

โลกยังไม่ล่มสลาย วันสิ้นโลกยังไม่มาถึง และประเทศต่างๆ ในโลกแห่งความเป็นจริงยังคงดำรงอยู่อย่างสงบ

หากเป็นเขาที่ได้กลับมาเกิดใหม่,​ จนกว่าเขาจะแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องตัวเองเมื่อเผชิญกับอำนาจของรัฐ….สิ่งแรกที่แวบเข้ามาในหัวก็น่าจะเป็นการซ่อนและปกป้องตัวเอง

เพราะคนส่วนใหญ่​คงไม่เชื่อ….และถึงจะเชื่อ,​ เเต่การมีอยู่ของพลังเหนือธรรมชาติก็จะดึงดูดความสนใจและเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดนโยบายของประเทศ

ในกรณีที่เเย่ที่สุด, อาจจะมีคนต้องขัดขวางการเติบโตของพลังเหนือธรรมชาติอย่างแน่นอน

หรืออาจจะเป็นเพราะบางสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คนอย่างอีกาทมิฬจึงไม่เชื่อใจประเทศชาติ​อีกต่อไป

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนั่น…

หากเขาเกิดใหม่และกลับมาอีกครั้ง…..ตัวเลือกแรกของเขาก็คงไม่ใช่การป่าวประกาศให้รัฐบาลรับรู้​

แต่เป็นการป้องกันตัวเองและเสริมความแข็งแกร่งให้ตัวเองอย่างเงียบๆ

ตอนนี้, เขาเข้าใจแล้ว…..ในความคิดของเขา เขาเชื่อเรื่องราวที่ซูไป่เพิ่งสร้างขึ้นกว่า​ 80%

จากนั้นจินหมั่นฝูก็เงยหน้าขึ้น

"ดังนั้น…..เพื่อรวมเมืองหลินเจียงให้เป็นหนึ่ง, ท่านจึงต้องการให้มีราชาของโลกใต้ดินปรากฏตัวขึ้นในเมืองหลินเจียงอย่างนั้นสินะ?"

"ถูกต้อง" ซูไป๋พยักหน้าและกล่าวต่อ

"ตอนนี้ฉันได้เกิดใหม่และกลับมา….ฉันจึงไม่ต้องการเห็นมนุษยชาติสูญพันธุ์​อีกครั้ง!"

“ดังนั้น…..ก่อนที่ฉันจะสามารถฟื้นฟู​พลังกลับมาได้อย่างเต็มที่ ฉันไม่ต้องการเปิดเผยตัวเอง และไม่ต้องการที่จะถูกแทรกแซงโดยกองกำลังระดับประเทศ…..การดำรงอยู่อย่างนายจึงกลายเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเรา”

“อีกอย่าง​พลังพิเศษนั้นมีมากมายหลายประเภท….วิธีการฝึกฝนและพัฒนาพลังพิเศษแต่ละประเภทก็แตกต่างกันออกไป”

“สิ่งที่ฉันทำเมื่อวานนี้และคำขอที่ฉันขอให้นายทำ….นายสามารถคิดได้ว่ามันเป็นวิธีการเพื่อทำให้พลังของฉันกลับคืนมา”

"เข้าใจ​เเล้วครับ"

ณ​ ขณะนี้…..จินหมั่นฝูสามารถ​แก้ไขความสงสัยในใจของเขาได้เเล้ว

เดิมทีเขาคิดว่าการทุบตีลูกน้องของเขาเป็นงานอดิเรกของอีกาทมิฬ หรือวิธีระบายอารมณ์ของเขา….แต่ความจริง​มันเป็นการฝึกฝนเพื่อฟื้นฟู​ความแข็งแกร่งของเขาต่างหาก​

หลังจากรู้เรื่องราว(เก๊)​ทั้งหมด…..จินหมั่นฝูก็เงียบลงอีกครั้ง

เขารู้ดีว่าเมื่อเขาได้เห็นการมีอยู่ของพลังพิเศษด้วยตาของเขาเอง และได้ยินความลับเหล่านี้ด้วยหูของเขาเอง……สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขาอีกต่อไปที่จะตัดสินใจว่าจะเป็นราชาใต้ดินของเมืองหลินเจียงหรือไม่

เนื่องจากอีกาทมิฬต้องการให้ตัวละครดังกล่าวปรากฏ…..เขาก็จำเป็นต้องกลายเป็นราชาของโลกใต้ดินของเมืองหลินเจียง

นี่เป็นทางเลือก​เดียว​ของเขา!!!!!

………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด