ตอนที่ 6 : วิธีฝึกแบบกระสอบทราย
เฉินโม่นั่งแท็กซี่ไปยังโรงพยาบาลเฉิงไห่หมายเลข 1 ส่วนเจ้าจิ้งจอกน้อยเองก็กําลังฝึกซ้อมอย่างหนัก
ภารกิจของ [ราชาแห่งการฝึกฝน] นั้น ต้องรวมชั่วโมงการฝึกฝนให้มากกว่า 80 ชั่วโมงภายในหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งเฉลี่ยแล้วเกือบ 12 ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้นพวกเขาต้องใช้ทุกนาทีและวินาทีต่อจากนี้ให้คุ้มค่าที่สุด
…
สิบนาทีต่อมา เฉินโม่ก็มาถึงที่หน้าวอร์ด
"เสี่ยวโม่ หลานอยู่ที่นี่หรอ?"
เมื่อเห็นเฉินโม่มาถึง หญิงชราที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลก็เปล่งประกายความสุขเต็มดวงตาของเธอ เธอพยายามที่จะลุกขึ้นนั่งอย่างกระตือรือร้น
เฉินโม่จึงรีบวิ่งไปช่วยพยุงหญิงชราแล้วพูดว่า
"คุณยาย ผมมีข่าวดีจะบอก ตอนนี้ หลานของคุณยายกลายเป็นปรมาจารย์วิญญาณแล้วนะครับ! แล้วผมยัวได้ทําสัญญากับสัตว์วิญญาณแล้วด้วย เจ้าตัวน้อยที่คุณยายเห็นตรงนี้คือ เป่าจูครับ!"
เมื่อพูดจบ ก็ปรากฎวงแหวนอัญเชิญสีแดงขึ้นที่ใต้ฝ่าเท้าของเฉินโม่ และจิ้งจอกเพลิงตัวหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ
"หงิง!"
เสี่ยวจูใช้ขาหน้าแตะฝ่ามือที่หยาบกร้านของหญิงชรา เธอไม่ใช่คนแปลกหน้าสําหรับคุณยายของเฉินโม่ ก่อนที่เธอจะป่วยหนักและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หญิงชราเป็นคนที่มักจะคอยนำอาหารอร่อยๆ มาให้มันเสมอ
"อืม!"
หญิงชราพูดคําว่าดีสองคําติดต่อกันและดวงตาของเธอก็คลอไปด้วยหยดน้ําตา
อันที่จริง ด้วยวัยเท่านี้ เธอปล่อยวางเรื่องชีวิต ความชรา ความเจ็บป่วย และความตายไปนานแล้ว แต่สิ่งเดียวที่เธอไม่สามารถปล่อยวางได้คือ เฉินโม่
แต่ตอนนี้ ในเมื่อเขาได้กลายเป็นปรมาจารย์วิญญาณแล้ว เธอจึงไม่มีอะไรให้ต้องห่วงอีกต่อไป
เมื่อนึกย้อนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกสาวและลูกเขย ความกังวลใหม่ก็ปรากฎขึ้นในจิตใจ หญิงชราจึงเอ่ยออกไป
“เสี่ยวโม่ สัญญากับยายได้ไหมว่า ในอนาคต หลานจะไม่เดินทางไปที่โลกวิญญาณ และจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขบนดาวสีน้ำเงินนี้ไปตลอดชีวิต”
"ครับ! แต่คุณยายต้องสัญญากับผมก่อนว่าคุณยายจะกินยาและรับการรักษาอย่างเชื่อฟัง ตอนนี้หลานของยายเป็นปรมาจารย์วิญญาณแล้ว เราจะไม่ขาดแคลนเงินอีกต่อไป! ทุกๆอย่างจะค่อยๆดีขึ้นแน่นอนครับ"
คุณยายของเฉินโม่อยู่ในระยะกลางค่อนไปทางปลายของโรคมะเร็ง และเธอดูจะสิ้นหวังในชีวิต
แต่ในโลกนี้ที่มีสัตว์วิญญาณ ไม่เพียงแต่จะมียาที่สามารถรักษาสภาพปัจจุบันของคุณยายไม่ให้แย่ลงได้เท่านั้น แต่ยังมีสัตว์วิญญาณระดับสูง และยาระดับสูง บางตัวที่สามารถรักษาโรคมะเร็งได้
แต่ปัญหาคือมันแพงเกินไปก็เท่านั้น
นี่เป็นเหตุผลหลักที่ทําให้เจ้าของร่างกระตือรือร้นที่จะเป็นปรมาจารย์วิญญาณให้ได้
หลังจากออกจากโรงพยาบาล เฉินโม่รู้สึกหนักใจเล็กน้อย แต่เขายังคงเก็บอารมณ์และเรียกแท็กซี่เพื่อไปที่กรมควบคุมวิญญาณในเมืองเฉิงไห่
กรมควบคุมวิญญาณเป็นหน่วยงานที่ควบคุมทุกด้านเกี่ยวกับปรมาจารย์วิญญาณและพลังอันยิ่งใหญ่ มีแค่เฉพาะปรมาจารย์วิญญาณที่ลงทะเบียนกับกรมควบคุมวิญญาณเท่านั้นที่จะถือว่าเป็นปรมาจารย์วิญญาณที่ถูกต้องตามกฎหมาย
แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดฤดูร้อน จึงมีผู้คนจํานวนมากที่เดินทางมาที่กรมควบคุมวิญญาณนี้เช่นกัน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนให้เสร็จสิ้น เฉินโม่จึงต้องต่อแถวนานกว่าหนึ่งชั่วโมงเพื่อลงทะเบียนสําหรับตัวเขาเองและเจ้าจิ้งจอกเพลิง
เฉินโม่ได้ลงทะเบียนเป็นปรมาจารย์วิญญาณฝึกหัด หลังจากยืนยันการตื่นขึ้นของหยูหลิงและสัตว์วิญญาณที่ทำสัญญาแล้ว เขาก็ผ่านขั้นตอนอื่นๆอย่างรวดเร็ว
จากนั้น เฉินโม่ก็ใช้เงินอีก 1,000 หยวนเพื่อซื้อสร้อยข้อมือปรมาจารย์วิญญาณ ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สําหรับปรมาจารย์วิญญาณทุกคน
แม้ว่าสร้อยข้อมือนี้จะมีขนาดเล็ก แต่มันก็มีฟังก์ชั่นครบถ้วน มันสามารถสแกนและระบุข้อมูลของสัตว์วิญญาณ ลงทะเบียนการแข่งขัน ค้นหาและอื่น ๆ
1,000 หยวนที่เสียไปจึงกล่าวได้ว่าคุ้มค่ามาก
สิ่งที่เสี่ยวจูยื่นขอคือ "บัตรประจำตัว"
เด็กน้อยมองไปที่ป้ายหยกเล็กๆ ที่ห้อยอยู่รอบคอของมัน ดวงตาของมันเต็มไปด้วยความสุข และหางยาวปุกปุยของมันก็แกว่งไปมาอย่างอารมณ์ดี
ป้ายหยกนี้ มีขนาดเล็กเท่านิ้วโป้งเท่านั้น มันคือ "บัตรประจําตัว" ของสัตว์วิญญาณ ในนั้นจะระบุข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าจิ้งจอกน้อยเอาไว้ และยังเป็นสัญลักษณ์ว่าตอนนี้เจ้าตัวเล็กเป็นสัตว์วิญญาณที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว!
หลังจากออกจากกรมควบคุมวิญญาณ เฉินโม่ก็มุ่งหน้าต่อไปที่อาคารชิงหลวน ในเมืองเฉิงไห่
ชิงหลวนกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้ายักษ์ใหญ่อันดับต้น ๆ ในอาณาจักรเซี่ย พวกเขามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับปรมาจารย์วิญญาณเกือบทุกประเภท โดยห้างสรรพสินค้าที่อยู่ตรงหน้าเขานี้ จะคอยให้บริการแก่ปรมาจารย์วิญญาณเป็นหลัก
อาคารชิงหลวนมีทั้งหมด 24 ชั้น และผลิตภัณฑ์ที่ส่องประกายเหล่านี้นั้นยากที่จะละสายตา
เฉินโม่ไม่ได้ซื้อของไปมากนัก หลังจากที่ซื้อของใช้ในชีวิตประจําวันและแร่ ธาตุไฟสําหรับเจ้าจิ้งจอกเพลิงเสร็จแล้ว เขาก็ตรงไปที่พื้นที่สำหรับยาวิเศษ
จากนั้นเขาก็ยารักษามา 2 ขวดและยาที่ช่วยให้ร่างกายแข็งเหมือนหินมาอีก 2 ขวด รวมค่าเสียหายที่เขาจ่ายไปวันนี้เป็นเงินทั้งหมด 8,000 หยวน
ยารักษาสามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของสัตว์วิญญาณได้อย่างรวดเร็ว และยาที่ทําให้กลายเป็นหินก็สามารถปรับปรุงความสามารถในการป้องกันของสัตว์วิญญาณได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
หลังจากตัดสินใจทําภารกิจ [ราชาแห่งสายฟ้า] แล้ว เฉินโม่ก็ยังรับภารกิจ [ผิวหยาบและหนังหนา] มาด้วย ที่เขาซื้อยาทั้งสองชนิดนี้มา ก็เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการทำภารกิจ
ค่าใช้จ่ายมหาศาลนี้ทําให้เฉินโม่ค่อนข้างทุกข์ใจ ปัจจุบันยอดเงินในบัญชีของเขาเหลืออยู่แค่ 34,000 หยวนเท่านั้น
"การลงทุนนี้จําเป็น การลงทุนนี้จําเป็น" เฉินโม่พยายามปลอบใจตัวเอง
หลังจากกลับถึงบ้าน เขาก็เรียกเสี่ยวจูออกมา
เจ้าจิ้งจอกน้อยมองไปที่เฉินโม่ด้วยความสับสน ตาของมันเหมือนจะมีเปลวไฟเต้นอยู่ข้างในตลอดเวลา ซึ่งนั่นทำให้ตาของมันดูสวยมาก
ส่วนเจ้าเด็กน้อยที่ถูกเฉินโม่ขัดจังหวะนั้น
ในหยูหลิง มันจะสามารถดูดซับพลังวิญญาณได้เร็วกว่าปกติมาก
แม้ว่าหยูหลิงของเฉินโม่จะเป็นเพียงระดับ 1 แต่มันก็ยังสามารถเพิ่มอัตราการดูดซับพลังงานของเสี่ยวจูได้ถึง 50%
“การเตรียมการเสร็จสมบูรณ์แล้ว เรามาเริ่มฝึกกันเถอะ! แผนการฝึกอบรมแรกที่ฉันคิดให้เธอ เรียกว่าวิธีการฝึกอบรมแบบกระสอบทราย วิธีการก็ง่ายมาก ต่อไปนี้ ฉันจะโจมตีเธอโดยที่เธอห้ามหลบ”
"หงิง?" (แผนการฝึกอบรมที่นายพูดถึงคือการทุบตีฉัน?)
ดวงตาของเสี่ยวจูเบิกกว้าง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
“อะแฮ่ม เธอจะเรียกมันว่าการทุบตีได้ยังไง? นี่คือการปรับปรุงความสามารถในการต้านทานการโจมตีและปรับปรุงพลังในการต่อสู้ของเธอต่างหาก หากเธอต้องการพัฒนาตัวเอง ก่อนอื่น เธอต้องเรียนรู้ที่จะถูกตีและลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองให้น้อยที่สุด!” เฉินโม่จริงจัง
"หงิง!" (งั้นก็มาเลย!)
แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจ แต่เธอก็มุ่งมั่นมาก
สิ่งที่เฉินโม่พูดนั้นดูเหมือนจะสมเหตุสมผล แต่เธอก็ยังมีความรู้สึกคลุมเครือว่าตัวเองกำลังถูกหลอก
อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวเล็กยังคงมีความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวเฉินโม่อย่างเต็มเปี่ยม
หากเป็นสัตว์วิญญาณตัวอื่นที่เพิ่งทําสัญญา มาโดนเจ้านายของพวกมันทําแบบนี้ พวกมันคงจะยกเลิกสัญญาและหนีไปนานแล้ว