บทที่ 30 : นายเชื่อเรื่องการย้อนกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งรึเปล่า?
บทที่ 30 : นายเชื่อเรื่องการย้อนกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งรึเปล่า?
"อา…..นี่มัน" จินหมั่นฝูสับสนเล็กน้อย
เขาไม่มั่นใจว่านายท่านของเขากำลังคิดอะไรอยู่
ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นมาเฟียที่ยิ่งใหญ่เเค่ใหนในโลกเบื้องหลัง…แต่ในท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็คือกลุ่มคนที่ไม่สามารถยืนบนเวทีของโลกเบื้องหน้าได้
จินหมั่นฝูเองตระหนักเเละรู้จุดยืนของเขาดี ว่าต้องอยู่ตรงไหน
แม้ว่าในสายตาของคนทั่วไป เขานั้นจะเป็นเจ้าของกิจการและมหาเศรษฐีที่มีชื่อเสียง….ส่วนในสายตาของของลูกน้องและอันธพาลในสังกัด, เขาเป็นบอสใหญ่และเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลในโลกมืดของเมืองหลินเจียง
แต่ในความเป็นจริงแล้ว... เขาเป็นเพียงถุงมือสีขาวและเป็นเครื่องมือหาเงินสำหรับใครบางคน!
บาร์, KTV, โรงอาบน้ำภายใต้ชื่อของเขา... ทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับจะต้องถูกส่งมอบออกไปไปส่วนหนึ่ง!
เนื่องจากเขารู้จุดยืนของตัวเองดี จินหมั่นฝูจึงเชื่อว่าความมั่นคงนำมาซึ่งความมั่งคั่งมาโดยตลอดชีวิต
ตราบใดที่เขาสามารถหาเงินหรือปล่อยให้เหล่าลูกน้องของเขาหาเงินมาได้….. สถานะของเขาก็จะมั่นคงเสมอมา
ในทางกลับกัน ในพื้นที่อื่นๆ….พวกที่ชอบทะเลาเบาะแว้งหรือเข่นฆ่า ไม่ว่าจะคนเท่าเทียมกับหรือสูงกว่าด้วยซ้ำ….ตอนนี้หญ้าบนหลุมศพของพวกเขานับวันยิ่งโตวันโตคืน!
แล้วเขาล่ะ?.....เพียงแค่ต้องการทำงานหาเงิน
ด้วยเหตุนี้ จินหมั่นฝู่จึงหวังให้เมืองหลินเจียงมีความมั่นคงมากกว่า!
ดังนั้น
เมื่อซูไป๋ถามคำถามนี้ จินหมั่นฝูจึงเริ่มรู้สึกหวาดกลัวอย่างสุดซึ้ง!
ให้เขาเป็นราชาของโลกใต้ดินงั้นเหรอ!
นี่คือประเทศไท่เซี่ยนะ….ไม่ใช่ประเทศอื่น!
ผนวกพื้นที่และกลายเป็นราชาของโลกใต้ดินของเมืองหลินเจียง...นี่คุณกำลังพยายามท้าทายอำนาจของรัฐไท่เซี่ยงั้นเหรอ?
ตอนนี้เขาเริ่มเสียใจอย่าสุดซึ้งที่เริ่มความสัมพันธุ์กับซูไป๋
…….
ทางด้านซูไป๋
เมื่อเขาสังเกตเห็นความตื่นตระหนกและการความตรึงเครียดที่แสดงออกของจินหมั่นฝู, ซูไป๋ก็ไม่โกรธหรือผิดหวังแต่อย่างใด
น้องชายที่ทะเยอทะยานจะถูกใช้ในทางที่ทะเยอทะยาน และน้องชายที่ไม่ทะเยอทะยานก็ถูกใช้ในทางที่ไม่ทะเยอทะยานเช่นกัน
เขาเคาะบนโซฟาแล้วหัวเราะเบาๆ: "ไม่ต้องกังวล ฉันเป็นประชากรไท่เซี่ยที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ฉันไม่คิดจะท้าทายพวกผู้มีอิทธิพลของรัฐบาล"
"เพียงแต่……"
“มันมีบางสิ่งบางอย่างที่จะเกิดขึ้นในอนาคต…..เเละนั่นทำให้ฉันต้องการครอบครงทรัพยากรของโลกเบื้องหลังในเมืองหลินเจียงให้ได้มากที่สุด”
"อนาคต?" จินหมั่นฝูเอ่ยถามโดยไม่รู้ตัว
ซูไป๋ไม่ตอบ เพียงเคาะโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าเขา
ซึ่งนั่นส่งผลให้จินหมั่นฝูมุ่งความสนใจไปที่โต๊ะเบื้องหน้า
เเละภายใต้การจ้องมองของจินหมั่นฝู ซูไป๋ก็ได้ทำการซื้ออิฐทองคำจากห้างสรรพสินค้า เเล้วค่อยๆหยิบมันออกมาจากอากาศ
และตอนนี้เอง…..ดวงตาของจินหมั่นฝูก็เบิกกว้างทันที!
เพราะภายใต้การจ้องมองของเขา ความสนใจทั้งหมดของเขาได้ถูกดึงดูดไปที่มือขวาของอีกาทมิฬที่กำลังเคาะโต๊ะอยู่
แต่อย่างไรก็ตาม, จู่ๆอิฐทองคำก็ปรากฏออกมาจากอากาศและอยู่บนมือของซูไป๋ได้อย่างน่าอัศจรรย์!
"นี่มัน……"
“นายท่านอีกาทมิฬ…..นี่คือเวทย์มนตร์งั้นหรือ?”
“นี่ไม่ใช่ภาพลวงตาหรือเวทมนตร์” ซูไป๋โยนอิฐทองคำเข้าไปในอ้อมแขนของจินหมั่นฝูและพูดเบาๆ
"นี่คือพลังพิเศษ….พลังมิติยังไงล่ะ"
"เเต่นั่นมัน…..เป็นไปไม่ได้"
คำที่แต่เดิมมีเฉพาะในนิยายออนไลน์…เเต่จู่ๆก็ปรากฏขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริง
ดังนั้น, สิ่งนี้จึงเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวอย่างจินหมั่นฝู
อีกอย่าง….แม้ว่าจินหมั่นฝูจะรู้ว่าเขาเป็นเพียงเครื่องมือทำเงินของคนอื่น, แต่ความมั่งคั่ง และสถานะที่เขาครอบครองอยู่นั้นเป็นของจริง
ดังนั้น, เขาจึงรู้ความลับบางอย่างมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป
เเละเขายังรู้ดีว่า พลังเหนือธรรมชาติ, เวทย์มนต์...สิ่งเหล่านี้ที่ทุกคนใฝ่ฝันไม่มีอยู่จริง - เพราะเขาใช้ความพยายามและเงินมากมายเพื่อค้นหาสิ่งเหล่านั้นมาเเล้ว!
แต่ในตอนนี้
อีกาทมิฬกลับมาบอกเขาว่าวิธีที่เขาใช้ในการเสกอิฐทองคำจากอากาศ นั้นไม่ใช่เวทมนตร์…..แต่เป็นพลังมิติ
จินหมั่นฝูจึงตะโกนออกมาอย่างไม่รู้ตัวว่านี่มันเป็นไปไม่ได้
แต่อย่างไรก็ตาม….ช่วงเวลาต่อมาเสียงของเขาก็ต้องหยุดอย่างกะทันหัน
เพราะตอนนี้ ร่างของเขากำลังลอยได้!
ด้วยร่างกายที่อ้วนและหนักเกือบ 200 กิโลกรัม…..มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จินหมั่นฝูจะวิ่งได้อย่างรวดเร็วแม้ว่าเขาจะต้องการก็ตาม
แต่ตอนนี้…..ร่างของเขากลับลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาลอยขึ้นไปบนห้องโถง!
เเละเมื่อเขามองลงไป….เขาก็พบเถาวัลย์สีเขียวที่พันอยู่รอบๆตัวเขา
เถาวัลย์นี้ไม่ควรมีอยู่ที่นี่ได้เลย... และมันยื่นออกมาจากนิ้วชี้มือขวาของอีกาทมิฬอย่างน่าอัศจรรย์!
……
หลังจากวางจินหมั่นฝูกลับมาบนโซฟาแล้ว…. ซูไป๋ก็เก็บพลังเถาวัลย์ออกไป
เขาเพียงรออย่างเงียบๆ
การปรับเปลี่ยนรูปแบบทัศนคติที่มีต่อโลกจำเป็นต้องใช้เวลา
แต่ซูไป๋เชื่อว่าจินหมั่นฝูจะสามารถเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นและยอมรับมันได้
เพียงไม่กี่นาทีต่อมา, จินหมั่นฝูก็ตื่นขึ้นมาจากสภาวะมึนงง
แม้ว่าความตกใจของเขาจะยังคงอยู่ แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่อยู่ในสภาพที่เฉื่อยชาอีกต่อไป หรือทำได้เพียงตะโกนว่า "นี่มันเป็นไปไม่ได้" อีก
"ตื่นเเล้วเหรอ?" ซูไป๋ถาม
จินหมั่นฝู่พยักหน้า
"เชื่อหรือยัง?"
"เชื่อแล้วครับ" จินหมั่นฝูตอบอย่างขมขื่น
อิฐทองคำจู่ๆก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา และนอกจากนี้เขายังได้สัมผัสกับเถาวัลย์สีเขียวที่แข็งแกร่งและทรงพลังซึ่งยื่นออกมาจากนิ้วชี้ของอีกาทมิฬ
ได้สัมผัสด้วยตัวเองแบบนี้เเล้ว…เขาจึงทำได้เพียงเชื่อเท่านั้น
“ปรากฎว่าพลังพิเศษมีอยู่จริง... ไม่น่าแปลกใจเลยที่นายท่านอีกาทมิฬจะเก่งกาจขนาดนี้”
เเต่แม้ว่าเขาจะเชื่อ แต่จินหมั่นฝูก็ยังสับสนเล็กน้อย
"แต่ทำไมคนอื่นๆถึงไม่เคยรับรู้ถึงมันมาก่อนเลยล่ะ"
“เพราะก่อนหน้านี้, โลกเราไม่มีพลังพิเศษไงล่ะ” ซูไป๋อธิบายอย่างใจเย็น
"ไม่เพียงแต่พลังเหนือธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเวทมนตร์ ศิลปะการต่อสู้ กำลังภายใน ลัทธิเต๋า…... ปัจจัยพิเศษทั้งหมดนี้เป็นเพียงจินตนาการของมนุษย์และไม่มีอยู่ในช่วงก่อนหน้านี้"
"ก่อนหน้านี้?" จินหมั่นฝูจับประเด็นสำคัญอย่างเฉียบคม
“ใช่ ก่อนหน้านี้”
“ถ้าให้พูดตรงๆ….ก็คือก่อนที่ฉันจะกลับมา่”
ด้วยรอยยิ้มอันน่าพิศวง ซูไป๋ก็เริ่มเล่าเรื่องราวที่เขาเพิ่งสร้างขึ้น ให้จินหมั่นฝูฟัง
"นายเชื่อเรื่องการย้อนกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งหรือเปล่า"
……………..