บทที่ 274 การสิ้นเปลืองทรัพยากร
ลั่วปิงชิงให้คนทั้ง 4 ลงทะเบียน จากนั้นทั้ง 4 ก็เข้าไปในประตูเมืองหลังจากยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว
มองดูทั้ง 4 เดินเข้าไปในเมือง มีประกายแปลกๆ ในดวงตา
เขาลั่วปิงชิงตรวจสอบข้อมูลแล้ว ไม่มีข้อมูลภารกิจที่พวกเขาทำและทำไมถึงได้รับรางวัลสูงเช่นนี้
พวกเขาได้รับรางวัลในเวลาเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าภารกิจเดียวกัน...
ลั่วปิงชิงคิดถึงเรื่องสำคัญๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ จากนั้นเขาก็หรี่ตาลง เขาจำได้เมื่อไม่กี่วันก่อน ทันใดนั้นระบบรุ่งอรุณทั้งหมดก็จมอยู่ในความมืด และมีแสงดาวปรากฏเหนือมหาวิทยาลัยสหพันธ์
ออร่าที่น่ากลัวนั่นเกี่ยวข้องกับ 4 คนนี้รึเปล่า?
ลั่วปิงชิงส่ายหัว ความเป็นไปได้ของสิ่งนี้น้อยมาก
เขาเคยพบปราชญ์จินเหยา ออร่าเมื่อไม่กี่วันก่อนแข็งแกร่งกว่าปราชญ์จินเหยามาก หากมันมีเจตนาไม่ดี พวกเขาก็จะตกอยู่ในอันตราย และมันก็ไม่ได้มาจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ เหตุใดเผ่าพันธ์ุอื่นที่มีอำนาจเช่นนี้จึงเกี่ยวข้องกับพวกเขา?
ลั่วปิงชิงเลิกคิด
หลังจากที่เขาเสร็จสิ้นภารกิจเฝ้ายามนี้ เขาจะได้รับเครดิตการศึกษา แต่ก็เทียบไม่ได้กับหนานกงจิงและชิวเยว่เฮอชา
เหลือเวลาเพียงหนึ่งปีเท่านั้นจะถึงงานมิตรภาพ 4 เผ่าพันธุ์ ดยุคหนุ่มจะได้พบปะกับคนรุ่นใหม่จากอีกสามเผ่าพันธุ์
เวลาไม่พอ
ภายในเมืองจินเหยา หน่วยลาดตระเวนที่สวมเกราะดำลาดตระเวนไปตามถนน
“นักรบพวกนี้ทุกคนเป็นระดับถงเฉียว?”
ไม่มีออร่าใดอ่อนแอกว่าเขา ลู่เจ๋อไม่เชื่อ เขาคิดว่าเขาค่อนข้างแข็งแกร่ง
แต่หน่วยลาดตระเวนสุ่มในเมืองนี้แข็งแกร่งพอๆ กับเขา
ดวงตาของหลินหลิงส่องแสง เธอพูดกับเขาว่า “กัปตันของพวกเขาเป็นระดับวิวัฒนาการของมนุษย์”
ลู่เจ๋อ “…”
สุดท้ายเขาก็ยังเป็นมือใหม่อยู่สินะ
หนานกงจิงและชิวเยว่เหอชาหันมามอง หนานกงจิงเหลือบมองหน่วยลาดตระเวนแล้วยิ้มว่า “สมบัติล้ำค่าของมนุษย์ทั้งหมดถูกเก็บไว้ที่นี่ แน่นอนว่าพวกเขาต้องปกป้องสถานที่นี้อย่างเข้มงวด”
“หน่วยลาดตระเวนธรรมดาๆ ทุกคนที่นี่เป็นระดับถงเฉียว ในขณะที่กัปตันของพวกเขาเป็นระดับวิวัฒนาการของมนุษย์ มีแม้กระทั่งระดับดาวเคราะห์ในเมือง นอกจากนี้ปู่ของฉันก็อยู่ที่นี่ นี่คือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในระบบรุ่งอรุณ”
ลู่เจ๋อกับหลินหลิงยังคงไม่เข้าใจคำอธิบายของเธอ
ชิงเยว่เหอชาจึงพูดว่า “รางวัลสำหรับการปกป้องที่นี่ค่อนข้างดี ผู้สำเร็จการศึกษาหลายคนจะมาทำงานที่นี่หลังจากรับราชการทหาร ไม่อย่างนั้นทำไมลั่วปิงชิงถึงมาเฝ้าประตูอยู่ที่นี่? รางวัลการเฝ้าประตูเมืองต่ำกว่าบุคคลระดับดาวเคราะห์ แต่ก็สูงกว่าหน่วยลาดตระเวณ”
ทุกคนเรียนจบแล้วนี่เอง ลู่เจ๋อคิดว่าพวกเขายังเรียนอยู่
ไม่นานทั้ง 4 ก็มาถึงบริเวณห้องรู้แจ้งเต๋า เมืองทั้งเมืองมีห้องรู้แจ้งเต๋า 6 ห้อง แต่ละห้องแบ่งเป็น 4 ส่วน โดยมีกรงเป็นตัวแบ่ง รวมทั้งหมด 24 ส่วน พื้นที่ 1 ส่วนสามารถใช้ได้ทีละคนเท่านั้น ไม่เช่นนั้นผลที่ได้จะไม่ดี
จากภายนอก ห้องรู้แจ้งเต๋าดูไม่แตกต่างจากที่อื่นๆ มันเป็นเพียงอาคารสูง 2 ชั้นเท่านั้น
ลู่เจ๋อพบว่ามีนักศึกษาชาย 2 คนอยู่ที่นั่น
พวกเขาไม่ได้มาจากมหาวิทยาลัยสหพันธ์ แต่ลู่เจ๋อไม่รู้ว่าพวกเขามาจากมหาลัยไหน
เขายังไม่เคยเห็นเครื่องแบบของสถาบันหลวงด้วยซ้ำ
ทั้งสองพร้อมที่จะเข้าไปข้างในเมื่อเห็นคน 4 คนเดินเข้ามา
เมื่อพวกเขาเห็นว่าเป็นหนานกงจิงและชิวเยว่เหอชา พวกเขาก็แปลกใจ
ผู้คนในระบบรุ่งอรุณคุ้นเคยดยุคหนุ่ม 2 คนนี้มาก
และเมื่อพวกเขาเห็นลู่เจ๋อกับหลินหลิง พวกเขาก็แปลกใจมากยิ่งขึ้น
สองคนนี้ไม่ใช่นักศึกษาใหม่เหรอ? พวกเขามาทำอะไรที่นี่?
ลู่เจ๋อกับหลินหลิงขึ้นอันดับ 1 ในการจัดอันดับการต่อสู้ปี 1 แล้ว เรื่องนี้กำลังเดือดในฟอรั่มของเว็บไซต์รุ่งอรุณ
พวกเขาเป็นเพียงนักศึกษาใหม่ แต่พวกเขามาที่ห้องรู้แจ้งเต๋าได้แล้ว?
พวกเขาทั้งสองไม่ได้มาจากมหาวิทยาลัยสหพันธ์หรือสถาบันหลวง แต่พลังการต่อสู้ของพวกเขาอยู่ที่ถงเฉียวระดับกลาง
อย่างไรก็ตาม พวกเขาใช้ความพยายามอย่างมากและต้องเผชิญกับอันตรายพอสมควรเพื่อให้ได้เวลา 2 ชั่วโมงในห้องรู้แจ้งเต๋า แต่นักศึกษาใหม่สองคนนี้พึ่งเปิดเทอมได้กี่วัน?
เมื่อเห็นว่าทั้ง 2 คนมองดูพวกเขาด้วยความงุนงง หนานกงจิงก็ขมวดคิ้ว “พวกนายจะเข้าไปข้างในไหม? เวลาในห้องรู้แจ้งเต๋ามีค่า พวกนายจะเสียมันไปเหรอ?”
ผู้คนผลัดกันใช้ห้องรู้แจ้งเต๋า การปล่อยให้มันว่างถือเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากร
ทั้งสองได้สติก็รีบเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ลู่เจ๋อและคนอื่นๆ รออยู่ข้างนอก เนื่องจากใกล้ถึงคิวของพวกเขาแล้ว และพวกเขาไม่จำเป็นต้องรอนาน 3 นาทีต่อมา นักศึกษา 2 คนก็เดินออกมาด้วยรอยยิ้ม
ดูเหมือนพวกเขาจะได้รับประโยชน์ค่อนข้างมาก
เมื่อพวกเขาเห็นลู่เจ๋อและคนอื่นๆ พวกเขาก็อึ้ง แต่หนานกงจิงก็พูดขึ้นว่า “เอาล่ะ ลู่เจ๋อกับหลินหลิงเข้าไปก่อน พื้นที่ไม่สามารถปล่อยว่างได้”
ทั้งสองพยักหน้า พวกเขายืนยันตัวตนภายใต้ความประหลาดใจของนักศึกษาทั้งสองที่พึ่งออกมาแล้วเดินเข้าไป
ไม่นานประตูห้องรู้แจ้งเต๋าก็ปิดลง เสียงจากภายนอกถูกตัดขาด ลู่เจ๋อตรวจสอบสภาพแวดล้อมของเขา ผนังและเพดานทั้งหมดทำด้วยวัสดุสีขาวที่ไม่รู้จัก และกำลังเปล่งแสงจาง ๆ ออกมา
พื้นทำจากวัสดุชนิดเดียวกัน แต่มีเบาะรองนั่ง
ลู่เจ๋อนั่งลงบนเบาะ เขามีเวลาเพียงเดือนเดียว ดังนั้นเขาต้องทำงานหนัก
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา ที่นี่ไม่มีสัญญาณ แต่เขาบันทึกข้อมูลศาสตร์เหนือธรรมชาติไว้แล้ว
ปีกแห่งสายลมกับปีกแห่งสายฟ้าของเขาได้มาถึงขีดสุดแล้ว ตอนนี้เขากำลังเริ่มเรียนปีกแห่งลมและสายฟ้า ลู่เจ๋อใช้ลูกแก้วสีม่วงที่ดรอปจากบอส และจิตใจของเขาก็ชัดเจนขึ้นทันที
จากนั้นเขาก็เริ่มอ่านข้อมูลของแห่งปีกแห่งสายลมและสายฟ้า
เพียงไม่นานลู่เจ๋อก็สังเกตเห็นความแตกต่างเมื่อเข้าเรียนรู้ในห้องรู้แจ้งเต๋า
เมื่อเขาเริ่มเรียนรู้ปีกแห่งลมและสายฟ้า และใช้ศาสตร์เทพลมและสายฟ้าโดยไม่รู้ตัว เขาก็สัมผัสได้ถึงความลับของศาสตร์เทพทั้งสอง และเขายังสามารถสัมผัสถึงจังหวะของศาสตร์เหนือธรรมชาติได้
มันคลุมเครือมากและไม่สามารถเปรียบเทียบกับการใช้ลูกแก้วศาสตร์เทพและรูนศาสตร์เหนือธรรมชาติในมิติล่าสัตว์ แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ว่างเปล่า
มันมีประโยชน์มากสำหรับคนอื่นๆ
ไม่แปลกใจเลยที่คนอื่นๆ ต้องการมาที่นี่
ด้วยความช่วยเหลือของห้องรู้แจ้งเต๋า เขาอาจจะเรียนรู้ได้เร็วขึ้น 2 เท่า
ขณะที่ลู่เจ๋อจมอยู่กับการเรียนรู้ศาสตร์เหนือธรรมชาติ เสียงเตือนก็ดังขึ้น ขัดขวางความคิดของลู่เจ๋อจนเขาเกือบจะทุบโทรศัพท์ตัวเอง
โชคดีที่เขาจำได้ว่าเขาตั้งนาฬิกาปลุกไว้
เขากลัวจะหมกมุ่นอยู่กับการเรียนรู้ศาสตร์เหนือธรรมชาติจนลืมเข้าสู่มิติล่าสัตว์
หากไม่มีเหตุการณ์พิเศษใดๆ ลู่เจ๋อยังคงต้องการเข้าสู่มิติล่าสัตว์
เขาหลับตาและเข้าสู่มิติล่าสัตว์
ทันทีที่ลู่เจ๋อปรากฏตัวบนพื้นหญ้า เขาก็สัมผัสได้ถึงออร่าที่ไม่รู้จักข้างหลังเขา
เขาใช้ปีกแห่งสายลมและหายไปทันที เขาปรากฏตัวอีกครั้งห่างออกไปหนึ่งกิโลเมตร
บรึ้ม!!
เสียงระเบิดดังจนหูอื้อ พลังวิญญาณกลายเป็นลมแรงพัดผมของลู่เจ๋อตีกลับ
สายตาของเขาจ้องไปที่อนาคอนด้าสีดำขนาดใหญ่ยาว 50 เมตร
ฟ่อ!! อนาคอนด้าที่โจมตีพลาด เลื้อยเข้าหาลู่เจ๋อ
เมื่อออร่าสีดำกำลังปะทุขึ้นรอบๆ ลู่เจ๋อ สายลมและสายฟ้าก็ปรากฏขึ้น
ศาสตร์เทพไฟของเขาไม่สามารถตามทันศาสตร์เทพอื่นๆ ได้อีกต่อไป ดังนั้นลู่เจ๋อจึงละทิ้งมันอย่างไร้ความปราณี
เขาต้องการลองสิ่งที่เขาพึ่งเรียนรู้ในวันนี้
การผสานปีกแห่งสายลมและปีกแห่งสายฟ้ายากกว่าการผสานศาสตร์เทพมาก
แต่เขาได้รับคำใบ้แล้ว เขาแค่ต้องฝึกฝนเพิ่มเติม
สายลมและสายฟ้าพาลู่เจ๋อหลบเลี่ยงออร่าพลังวิญญาณสีดำหนาเป็นเมตรที่พ่นออกมาในขณะที่เขาควบคุมการผสานศาสตร์เทพลมและสายฟ้า
พลังของอนาคอนด้านั้นเกือบจะพอๆ กับถงเฉียว 130 ช่อง แต่มันตามความเร็วของลู่เจ๋อที่ใช้ปีกแห่งสายลมไม่ทัน
ครู่ต่อมา สายลมและสายฟ้าก็เริ่มไม่เสถียร
ลู่เจ๋อกระพือปีกแห่งสายลม และปรากฏขึ้นเหนือหัวอนาคอนด้า
หมัดของเขาพัดพาสายลมและสายฟ้า สีเขียวและม่วง กระแทกเข้ากับเกล็ดโลหะของอนาคอนด้า
——————