ตอนที่ 222 : อีฟ (2-2)
ตอนที่ 222 : อีฟ (2-2)
ตอนนี้นายท่านไรก็ได้ที่ได้ปลดล็อคฟังก์ชั่นการสื่อสาร ก็ได้แจกจ่ายหินเล่นซ้ำให้กับปาร์ตี้ที่ 4 และปาร์ตี้ที่ 5
เขาพยายามชดเชยให้ทั้งสองปาร์ตี้อย่างเต็มที่ ฝั่งโรงงานทำอุปกรณ์ตอนนี้ได้ผลิตอุปกรณ์ที่มีฟังก์ชั่นการกระจายความร้อนและการระบายอากาศที่ปรับให้เหมาะกับสภาพอากาศในทะเลทรายอย่างต่อเนื่อง ไรก็ได้มีการผลิตสิ่งของป้องกันความร้อนและยาต่างๆ มากมาย เขากำลังเตรียมการขึ้นหอคอยอย่างขยันขันแข็ง
'ฉันไม่สามารถเรียกเขาว่าเป็นเกมเมอร์มือใหม่ได้อีกต่อไปแล้วสินะ'
เมื่อฉันเดินเข้าไปที่สนามฝึก ก็รู้สึกได้ถึงความไม่คุ้นเคยเล็กน้อย
ฉันเห็นเวคิสและเนเรสซ่ากำลังฝึกซ้อมกันในสนามฝึกซ้อม เจนน่าเองก็นั่งอยู่บนม้านั่งใกล้ ๆ สนามและแกว่งขาของเธอไปมา
“ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอนายเลย ดูเหมือนว่านายคงจะยุ่งมากเลยใช่ไหม?”
“ฉันมีอะไรให้ทำเยอะมาก”
ฉันนั่งลงข้างเจนน่า
โดยปกติแล้วฉันไม่ได้เข้าไปยุ่งกับคนอื่น แต่ถ้าฉันทำตัวห่างเหิน ประสิทธิภาพในการร่วมมือกันก็จะลดลง การมีปฏิสัมพันธ์ในระดับหนึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับแผนในภารกิจขนาดใหญ่
'ถ้าเราสูญเสียกำลังพลไป มันคงจะลำบากกว่านี้แน่'
ฉันมองไปที่เวคิสแล้วพูดกับเจนน่า
“พวกเขาทำแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว?”
“เอ่อ ตั้งแต่เช้าแล้ว..เห็นบอกว่าใกล้จะค้นพบอะไรบางอย่างแล้ว”
เคล้ง!
เนเรสซ่าจับดาบของเธอพลาด และก้าวถอยหลังไปสามก้าว
ดูเหมือนว่าผลการซ้อมของพวกเขาใกล้เข้ามาแล้ว เวคิสปรับดาบของเขาอย่างมั่นคงแล้วพูดว่า
“ดึงดาบออกมา แล้วเริ่มใหม่อีกครั้ง”
“…”
เนเรสซ่าดึงดาบของเธอที่ติดอยู่ในกรงเหล็กด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า
การซ้อมได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เวคิสระบายความร้อนออกจากร่างกายของเขา และโจมตีเนเรสซ่าอย่างไม่ลดละ
'เราเหลือเวลาไม่มากแล้ว'
วิถีดาบของเวคิสเปลี่ยนไป
นั่นคือเงื่อนไขของทักษะดาบระดับกลางที่รีเจียนได้กล่าวไว้ ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ฉันรู้ได้ถึงกำลังของคนอื่นอย่างละเอียด ฉันมองเวคิสและคิดว่าหากเขาได้รับแรงกระตุ้นเล็กน้อย เขาจะทะลุผ่านระดับของเขาทันที
“ฮาน ดูแล้วเขาก็น่าประทับใจนะ ดูเหมือนว่าเขาจะเลเวลมากกว่าอารอนแล้ว แถมฉันรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังเดิมพันชีวิตของเขาทุกครั้งเลยที่ฝึก มันไม่ใช่แค่การฝึกซ้อมแบบปกติเลยนะ”
เจนน่าพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“เราเองก็เดิมพันชีวิตของเรากับเรื่องนี้ด้วยไม่ใช่เหรอ? หากมีใครได้ยินเธอพูดแบบนี้ พวกเขาอาจคิดว่าเราทำเป็นเล่นก็ได้นะ”
ฉันวางมือบนหัวของเจนน่าแล้วยืนขึ้น
เนเรสซ่ากำลังถอยกลับโดยมีเหงื่อไหลออกมา แต่ทักษะของเธอมุ่งเน้นไปที่การสำรวจ รวบรวมข้อมูลและการใช้กับดักมากกว่าทักษะการต่อสู้ล้วนๆ ซึ่งด้วยการผ่านการฝึกฝนมายาวนานแล้ว ทำให้ตอนนี้จึงมีความแตกต่างระหว่างเธอกับเวคิสเป็นอย่างมาก
ปัง
เวคิสหลบเลี่ยงดาบของเนเรสซ่าได้อย่างรวดเร็ว
แรงผลักดันที่รวดเร็วและกำลังขาที่ทรงพลังของเวคิส ทำให้ดาบนั้นแทงเข้าที่หน้าอกของเนเรสซ่า ฉันรีบวิ่งออกไปเปิดประตูสนามฝึกซ้อมทันที จากนั้นจึงขยับมือขวา ดาบที่พุ่งออกมาราวกับแสงแฟลชเบี่ยงเบนทิศทางดาบของเวคิสทันที
“เนเรสซ่า ถอยไปก่อน ฉันจะจัดการเขาเอง”
"…ฉันขอโทษค่ะ"
เนเรสซ่าโค้งให้ฉันและออกจากสนามฝึกไปทัยที
“หายไปไหนมาตั้งแต่เช้าเนี่ยหัวหน้า? ผมรออยู่ตลอดเลย”
“โทษทีที่มาช้า”
ฉันชักดาบออกมา
“มันคุ้มค่าจริง ๆ ที่เข้ามาจะมาอยู่ปาร์ตี้ที่ 1 ถ้าผมอยู่ในปาร์ตี้ 2 คงไม่วันได้ลิ้มรสประสบการณ์แบบนี้”
“นายพูดมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”
เวคิสระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
ในเวลาเดียวกัน เขาก็เหวี่ยงดาบของเขาอย่างรวดเร็ว
'หมอนี้…'
พรสวรรค์โดยธรรมชาติของเขานั้นด้อยกว่าเจนน่า แต่จิตวิญญาณการต่อสู้ของเขานั้นยิ่งใหญ่มาก ไม่ว่าฉันจะเอาชนะเขากี่ครั้ง เขาก็จะลุกขึ้นและกลับมาได้เสมอ หมอนี่ไม่เคยยอมแพ้และไม่เคยถอย หากไม่ใช่เพราะความมุ่งมั่นในระดับนี้ของเวคิส...
'ฉันคงจะเก็บอารอนไว้แล้ว'
ฉันหัวเราะและรีบพุ่งออกไป
เวคิสมีวิชาดาบระดับกลาง
ในระหว่างการปะทะ ฉันสามารถยกระดับทักษะดาบของฉันเองเป็นระดับ 3 ได้
เวลาผ่านไปมากขึ้น
'หน้าต่างสถานะ'
[ฮาน อิสรัต (★★★) Lv. 29 (ประสบการณ์ 13/160)]
[อาชีพ: นักรบ]
[ความแข็งแกร่ง: 62/62]
[สติปัญญา: 10/10]
[ความยืดหยุ่น: 58/58]
[ความว่องไว: 57/57]
[ทักษะ: ทักษะดาบระดับกลาง (Lv.3) วิญญาณดาบแห่งสวรรค์ (Lv.1) พลังการโจมตี (Lv.2) การหยั่งรู้ (Lv.6) การต้านทานไฟ (Lv.3) การต้านทานความเจ็บปวด (Lv.6) ความสงบ (Lv.6) ความบ้าคลั่ง (Lv.8) การอยู่ยงคงกระพัน (Lv.3) นักล่ามังกร (Lv.1) การขี่ม้า (Lv.1)]
ตอนนี้ฉันมาถึงขีดจำกัดของฉันแล้ว
ทักษะดาบระดับกลางตอนนี้อยู่ที่ระดับ 3 พลังการโจมตีถึงระดับ 2 แล้ว และฉันยังสามารถความคุมความสงบ ความบ้าคลั่ง และแม้แต่การอยู่ยงคงกระพันได้ อย่างไรก็ตาม มันยังมีเรื่องหนึ่งที่ฉันยังคงเสียดาย
'พวกมันใช้ร่วมกันไม่ได้'
แม้ความสงบและความบ้าคลั่งควรจะทำงานร่วมกันได้ แต่มันยังเข้ากันได้ไม่สมบูรณ์แบบเท่าไหร่ ฉันตัดสินใจว่าจะไม่ทำอะไรรีบร้อน ด้วยประสบการณ์และการฝึกที่มากขึ้น มันก็คงจะได้รับการแก้ไขเองตามธรรมชาติ
สถานะของสมาชิกคนอื่นๆ ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
เลเวลของพวกเขาอยู่ประมาณ 20 ปลายๆ และพวกเขาก็พยายามยกระดับทักษะของพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดูท่าฉันคงต้องจัดการเรื่องเล็กๆ น้อยๆ สักสองสามอย่างก่อนที่พวกเขาจะเข้าร่วมการฝึกในวันพรุ่งนี้
“…”
ฉันกระชับแหวนที่มือซ้ายของฉันให้แน่น
ความรู้สึกหนาวเย็นแล่นขึ้นมาบนนิ้วของฉัน ฉันจดรูปแบบและกลยุทธ์ของภารกิจที่ฉันสังเกตเห็นในตอนที่ฉันเป็นนายท่าน ฉันไม่สามารถคาดเดาได้แน่ชัดว่าภารกิจประเภทใดจะเกิดขึ้น แต่ว่านั่นไม่ได้หมายความว่า ฉันจะลดความระมัดระวังลง
ชั้นที่ 30 จะท้าทายกว่าชั้นที่ 20 แน่นอน
ฉันมั่นใจมาก แม้ว่าพิกมีอัพอาจดูเหมือนเป็นเกมแห่งโชคชะตาเมื่อเล่นมันในตอนแรก แต่มันก็มีกฎในตัวของมันเอง ความจริงที่ว่าภารกิจง่ายๆปรากฏขึ้นมาก่อน มันหมายความว่าภารกิจที่มีความยากมากกว่าจะโผล่ตามมาต่อ
ความยากโดยรวมของเกมไม่เคยลดลงเลย
มันยากขึ้นเมื่อคุณขุดลึกลงไป แต่เมื่อสามารถไปถึงความแข็งแกร่งระดับสูงได้แล้ว สิ่งที่คุณต้องทำคือแข็งแกร่งขึ้นและเตรียมตัวให้พร้อมยิ่งขึ้น
'แต่ยังไง ฉันก็จะไม่หันหลังกลับ'
ฉันปฎิเสธที่จะอยู่ในเนลม์ไฮมฟ์
เพื่อยกระดับความสามารถของตัวเอง นี่เป็นการทดสอบชนิดหนึ่งว่าฉันจะสามารถอยู่รอดในโลกนี้ด้วยความแข็งแกร่งของตัวเองได้หรือไม่ มันไม่ได้แตกต่างจากตอนที่ฉันต้องหาทางเอาชีวิตรอดในโลกจริงมากเท่าไหร่นักหรอก หากจะมีข้อแตกต่างก็เพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือ...
ฉันมองดูโต๊ะ
เค้กยู่ยี่ถูกวางบนจานสีขาว
เจนน่าพิ่งทำมันเสร็จ เธอมักจะเข้ามาขอบคุณฉันเรื่องที่ลำบากกับเรื่องหลายอย่างมามาก ฉันจิ้มมันขึ้นมาด้วยส้อมแล้วกินมันเข้าไป
“…ไม่อร่อย”
มันหวานเกินไป
ฉันฝืนกลืนเค้กเข้าไป
'ถ้าเป็นไปได้...'
ฉันไม่ต้องการที่จะลิ้มรสความรู้สึกขมขื่นนั้น
ความรู็สึกที่เหมือนอยู่ชั้นที่ 5
ที่ตื่นมาอีกคืนหนึ่ง แล้วทุกอย่างก็เลือนหายไปหมดสิ้น