ตอนที่แล้วChapter 160: Xue Qiyang, the Lord of the Reward and Punishment Hall, and the Hidden Currents within the Sect
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 162: Perfect Foundation Building, Six Hundred Years of Lifespan

Chapter 161: Passing Three Trials, Advancing to Foundation Building Realm


***ขอเปลี่ยน คำว่า เส้นเลือดวิญญาณ เป็น ชีพจรปราณปฐพี  ขอบคุณ Po ที่แนะนำครับ*****

หลายวันผ่านไป

คืนหนึ่ง ณ ยอดเขาเซียนหลิง ในห้องโถงเงียบสงบแห่งหนึ่ง

ห้องโถงแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่โจวสุ่ยใช้บ่มเพาะแบบปิดอยู่

หลังจากได้ใช้เวลาอยู่กับเล่งอวี้ซีเป็นเวลาหลายวัน เขาก็บรรเทาความโหยหาไปได้บ้าง

คืนนั้น เขาได้รับแรงบันดาลใจ สัมผัสได้ถึงการประสานกันของสัมผัสวิญญาณ พลังปราณ และเลือดลมในร่างกาย ราวกับได้เข้าสู่ความสมดุลที่สมบูรณ์แบบ

ดังนั้น เขาก็รู้ทันทีว่าโอกาสในการสร้างรากฐานของเขามาถึงแล้ว

เขาจึงไม่ลังเล รีบไปที่ห้องโถง และเริ่มสร้างรากฐาน

บูม บูม บูม~~

โจวสุ่ยนั่งขัดสมาธิลงบนพื้น เริ่มบ่มเพาะวิชากู่ศักดิ์สิทธิ์ พลังปราณของเขาเริ่มหมุนวนเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นพายุปราณขนาดใหญ่ห้อมล้อมร่างของเขา

พลังปราณอันไร้ขอบเขตของโลกหลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของเขา

ต้องบอกว่าที่นี่สมควรเป็นชีพจรปราณปฐพีระดับสาม

ในแง่ของความเข้มข้นของพลังปราณ เหนือกว่าชีพจรปราณปฐพีระดับสอง มากกว่าสิบเท่า

นี่คือสถานที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพลังปราณมากที่สุดที่เขาเคยพบเห็น มิแปลกใจเลยที่แม้กระทั่งเหล่าผู้อาวุโสระดับแกนทอง ต่างพากันแสวงหาชีพจรปราณปฐพีระดับสาม เพื่อบ่มเพาะ

สถานที่แห่งนี้อุดมไปด้วยพลังปราณ ทำให้การบ่มเพาะของเขาเป็นไปอย่างราบรื่น

มีประสิทธิภาพสูงมาก

"ครั้งนี้ฉันจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน"

บททดสอบแรกของการสร้างรากฐาน คือ บททดสอบร่างกาย

เมื่อผู้บ่มเพาะรวมลมปราณขั้นปลายทดสอบสร้างรากฐาน พลังปราณอันยิ่งใหญ่จากทั่วทั้งโลกหลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของพวกเขา เหมือนกับน้ำตก ค่อยๆ ไหลเข้าสู่ร่างกายของพวกเขา และชำระล้างเลือดในร่างกายของพวกเขา

หากอายุมากหรือร่างกายมีจุดบกพร่อง ร่างกายก็ไม่สามารถทนต่อพลังปราณที่ไหลบ่าเข้ามาได้ เลือดและปราณทั้งหมดจะไหลย้อนกลับ และร่างกายจะระเบิดและตาย

ทว่า โจวสุย มิใช่เช่นนั้น

หลังจากบ่มเพาะร่วมกับ "กู่มังกรคชสาร" ร่างกายของเขาก็ได้สำเร็จสร้างรากฐานแล้ว เทียบได้กับผู้บ่มเพาะกายาสร้างรากฐาน

หากร่างกายของเขาไม่สามารถผ่านบททดสอบเลือดและปราณได้ ก็ไม่มีใครสามารถผ่านได้

"พรึ่ม!"

ทันใดนั้น พลังปราณอันยิ่งใหญ่ของสวรรค์และโลกก็ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา  ไม่ว่าพลังจะโถมซัดอย่างไร ใบหน้าเขายังมั่นคงราวหินผา

ร่างกายของเขาดูเหมือนจะหุ้มห่อด้วยมังกรโบราณและช้างศักดิ์สิทธิ์ กลืนกินพลังปราณของสวรรค์และโลกอย่างตะกละตะกลาม

ร่างกายของเขาเหมือนหลุมดำที่สามารถกลืนกินพลังปราณเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายและเปลี่ยนเป็นพลังงานที่บริสุทธิ์แล้วส่งตรงไปยังทะเลปราณในตันเทียนของเขา

"ต่อมา คือบททดสอบแห่งปราณ"

ดวงตาของโจวสุ่ยเปล่งประกาย เขารู้สึกได้ว่าพลังปราณในตันเทียนของเขาได้บรรลุถึงจุดสมบูรณ์

สำหรับด่านนี้ เขามีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง

เพราะเขาบ่มเพาะวิชาไร้เทียมทาน วิชากู่ศักดิ์สิทธิ์ นี่คือวิชายิ่งใหญ่ ระดับเทพเซียน

ตอนนี้เขาสร้างกู่หนอนไปแล้วแปดตัว

แต่ละตัวเทียบเท่ากับตันเทียนของเขา

กล่าวอีกนัยหนึ่ง พลังปราณในร่างกายของเขาอย่างน้อยก็เท่ากับพลังปราณของผู้บ่มเพาะรวมลมปราณ 9 เท่า

มิอาจคาดเดาได้ ว่าพลังมหาศาลเพียงใด

"โครม คราม คราม!"

ในขณะนี้ เมื่อ โจวสุ่ย กำลังหมุนเวียน วิชากู่ศักดิ์สิทธิ์ พลังปราณอันยิ่งใหญ่ของสวรรค์และโลกก็ไหลเข้าสู่ตันเทียนของเขา ภายใต้แรงกดดันของพลังปราณภายนอก พลังปราณในร่างกายของเขาเริ่มเปลี่ยนแปลง

จากพลังปราณกลายเป็นหยดเหลว

ในตันเทียน ทันใดนั้นก็มีหมอกสีทองเข้มลอยขึ้น

เมื่อเวลาผ่านไป หมอกสีทองเข้มในส่วนลึกของตันเทียนก็เต็มไปด้วยหมอกสีทองเข้มราวกับว่าตันเทียนกลายเป็นโลกแห่งหมอก ก่อตัวเป็นเมฆสีทองเข้ม

“ใช่แล้ว นี่คือ ด่านที่สาม ด่านพลังจิตวิญญาณ”

โจวซู่ยเคลื่อนความคิดของเขาทันทีและกระตุ้นพลังจิตของเขา

พูดตามตรง ด่านนี้สำหรับเขาง่ายที่สุด

เหล่าผู้บ่มเพาะรวมลมปราณคนอื่น ๆ ต้องการเปลี่ยนสภาพพลังจิตให้กลายเป็นสัมผัสวิญญาณ แต่พลังจิตของเขาได้กลายเป็นสัมผัสวิญญาณระดับสร้างรากฐานมานานแล้ว อีกทั้งยังเทียบเคียงกับพลังของการสร้างรากฐานขั้นปลายได้เลย

นั่นจึงทำให้เขาผ่านด่านนี้ได้ง่ายดายตั้งแต่เนิ่นนาน

วูบ~

ในพริบตา ภายใต้การควบคุมของสัมผัสวิญญาณของโจวสุ่ย พลังสัมผัสวิญญาณที่ไร้รูปร่างแทรกซึมลงไปในทะเลปราณมอบแรงกดดันที่มองไม่เห็นให้กับหมอกสีทองเข้มเหล่านี้

ภายใต้การกระตุ้น หมอกสีทองเข้มเหล่านี้เริ่มบีบอัด บีบอัด และบีบอัดอย่างต่อเนื่อง

ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด เสียงคล้ายน้ำไหลดูเหมือนจะมาจากก้นบึ้งของทะเลปราณ

โจวสุ่ยรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของพลังปราณภายในทะเลปราณของเขา พลังปราณได้กลายเป็นสีทองเข้มและก่อตัวเป็นหยดน้ำทีละหยด หยดน้ำเหล่านี้ตกลงมาจากเมฆ

หนึ่งหยด สองหยด สามหยด...

หยดน้ำพลังปราณก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งกลายเป็นหยดน้ำสีทองเข้มยี่สิบหยด พลังปราณจากภายนอกโลกไม่สามารถดูดซับได้อีก จึงหยุดลงในที่สุด

หยดน้ำพลังปราณสีทองเข้มยี่สิบหยดลอยนิ่งอย่างสงบอยู่ในทะเลปราณ ในเวลานี้ทะเลปราณของเขากลับกลายเป็นมหาสมุทรสีทองเข้มที่กว้างใหญ่ไพศาล เต็มไปด้วยพลังปราณอันไร้ขอบเขต

ความจริงแล้ว ร่างกายของเขามีกู่หนอนทุกตัวที่บรรจุหยดน้ำพลังปราณยี่สิบหยดเช่นกัน

รวมกันแล้ว นั่นคือหยดน้ำพลังปราณหนึ่งร้อยแปดสิบหยด

ตั้งแต่แรกเริ่ม พลังปราณของเขาก็มากกว่าพลังปราณของผู้บ่มเพาะสร้างรากฐานเก้าเท่า

แต่นี่ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ยังไม่ถึงจุดสิ้นสุด

"ชำระไขกระดูก!"

เมื่อโจวสุ่ยเคลื่อนไหวตามวิชากู่ศักดิ์สิทธิ์ หยดน้ำพลังปราณที่อยู่ลึกในทะเลปราณก็เริ่มหมุนเวียน ไหลเวียนผ่านเส้นเลือดและเส้นเลือดไปทั่วร่างกายทุกมุม ก่อเกิดเป็นวงจร

แน่นอน นี่คือการล้างไขกระดูกของผู้บ่มเพาะระดับสร้างฐาน

นี่เป็นประโยชน์อันยิ่งใหญ่ที่สุดที่ผู้บ่มเพาะระดับรวมลมปราณ ได้รับเมื่อก้าวเข้าสู่ระดับสร้างฐาน และนับเป็นแก่นแท้ของการสร้างฐาน

เมื่อก่อตัวเป็นหยดน้ำพลังปราณ เหล่าผู้บ่มเพาะสามารถดึงพลังปราณมาปรับแต่งร่างกายของตนได้

ด้วยวิธีนี้ ร่างกายของพวกเขาค่อยๆ หลุดพ้นจากพันธนาการแห่งความเป็นมนุษย์ ก้าวสู่ความเป็นอมตะ

การล้างไขกระดูกเพียงครั้งเดียว สามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมหาศาลในร่างกายและเพิ่มอายุขัยได้สองร้อยห้าสิบปี

เรียกได้ว่า เฉพาะในกรณีนี้เท่านั้น จึงนับว่าก้าวเข้าสู่ประตูของผู้บ่มเพาะอย่างแท้จริง มีอายุขัยที่ยาวนานกว่าคนธรรมดามาก

และยังควบคุมพลังที่เหนือจินตนาการได้อีกด้วย

"เยี่ยมยอด"

โจวสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

มิต้องสงสัยเลย เขาได้รับประโยชน์มากกว่าผู้บ่มเพาะบรวมลมปราณทั่วไป

เมื่อผู้บ่มเพาะธรรมดา ๆ เลื่อนขั้นเป็นผู้บ่มสร้างรากฐาน จะได้รับเพียงหยดน้ำพลังปราณยี่สิบหยดเท่านั้น

แต่เขาตั้งแต่แรกก็ได้รับของหยดน้ำพลังปราณหนึ่งร้อยแปดสิบหยด

ลองนึกภาพดูว่า ร่างกายของเขาจะได้รับประโยชน์มากเพียงใด

วูช~

เมื่อปราณภายในร่างกายของเขาหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง เขารับรู้ได้ว่ากระดูก เนื้อหนัง เลือดเนื้อ เส้นเลือด อวัยวะภายใน แม้แต่เซลล์แต่ละเซลล์ก็ได้รับการเสริมพลังแบบทวีคูณ

พลังปราณอันยิ่งใหญ่ที่ไหลลงมา ทำให้ร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

หนึ่งรอบ สิบปรอบ ยี่สิบรอบ ห้าสิบรอบ…………

รอบนี้หมุนเวียนหนึ่งร้อยแปดสิบรอบ จึงถือเป็นการสิ้นสุดการล้างไขล้างกระดูกในครั้งนี้

(บทจบ)

5 2 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด