บทที่ 29 : นายอยากเป็นราชาของโลกใต้ดินหรือเปล่า?
บทที่ 29 : นายอยากเป็นราชาของโลกใต้ดินหรือเปล่า?
ทำให้มันเป็นของแท้…..สำหรับซูไป๋ นี่เป็นทางเลือกที่เขาเลือก
แต่สำหรับจินหมั่นฝู…...คำง่ายๆสี่คำนี้เพียงพอที่จะเปิดเผยข้อมูลมากมาย!
ตัวอย่างเช่น
สิ่งมีชีวิตลึกลับที่เรียกตัวเองว่าอีกาทมิฬผู้นี้จะอยู่ในเมืองหลินเจียงไปอีกนาน
และในอีกแง่หนึ่ง เมื่อชายหนุ่มผู้ลึกลับคนนี้ร้องขอตัวตนของเขา….ฐานะของจินหมั่นฝูก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงทันที
ตั้งแต่อีกาทมิฬบุกโจมตีเมื่อคืน ตัวตนของเขานั้นเป็นเป้าหมายหรือศัตรูของอีกาทมิฬ…..แต่เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง ตัวตนของเขาก็เปลี่ยนจากเป้าหมายกลายเป็นคนอยู่ใต้อาณัติของอีกาทมิฬในทันที
ซึ่งมันก็หมายความว่าเขาได้กลายเป็นหุ้นส่วนของอีกาทมิฬไปในระดับหนึ่งแล้วใช่หรือไม่นะ
ความคิดนับไม่ถ้วนแวบขึ้นมาในหัว….แต่จินหมั่นฝูไม่ได้แสดงอาการใดๆออกมา
"นายท่าน…ท่านต้องการใช้ชื่ออะไรในเอกสารดีครับ, แล้วเอาอายุเท่าไหร่ดี"
“ชื่อจางเหว่ย” ซู่ไป๋เลือกชื่อที่ดูโดดเด่นที่สุด
“อายุ 22, สถานะกำพร้า ส่วนที่เหลือก็เเล้วเเต่นายเลย”
"เข้าใจแล้วครับท่าน" จินหมั่นฝูพยักหน้าและพูดต่อ
"รอสักครู่….แล้วผมจะกลับมาเร็วๆ นี้"
หลังจาดพูดจบ, จินหมั่นฝูก็ขอให้ผู้ใต้บังคับบัญชานำอาหารและเครื่องดื่มมาบริการซูไป๋….ส่วนตัวเขาจากไปเพื่อจัดการเรื่องนี้อย่างเร่งรีบ
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเขาก็กลับมา
จินหมั่นฝูวางบัตรธนาคารและกุญแจหลายดอกไว้บนโต๊ะตรงหน้าซูไป๋และกล่าว
"นายท่าน ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้หมดแล้ว…..ส่วนบัตรประจำตัวใหม่ของท่านจะออกภายในไม่เกินสิบวัน"
“ฉันได้กรอกประวัติบ้านเกิดให้ท่านเรียบร้อยแล้ว และกำลังเตรียมข้อมูลส่วนที่เหลือ…. เมื่อใบรับรองออกมาแล้ว ใครก็ตามที่ไปที่หมู่บ้านนั้นเพื่อตรวจสอบจะพบว่าท่านเกิดและเติบโตในหมู่บ้านนั้นจริงๆ!”
"นอกจากนี้" เขาผลักบัตรธนาคารและคีย์การ์ดไปในทิศทางของซูไป๋เเล้วกล่าวต่อ
"บัตรใบนี้เป็นบัตรสำรองของกระผมเอง วงเงินไม่จำกัด"
“ส่วนกุญแจพวกนี้เป็นกุญแจสำหรับบ้านในที่ต่างๆในชื่อของผมเอง มีทั้งวิลล่าและแฟลตขนาดใหญ่ ตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์และมีเครื่องใช้ไฟฟ้าครบคัน……พร้อมเข้าอยู่ได้ตลอดเวลา”
“ลองดูว่าท่านชอบหลังไหน ถือเป็นของขวัญสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเรา”
สายตาของซูไป๋มองไปที่บัตรธนาคารและกุญแจอยู่ครู่หนึ่ง เเต้ในที่สุดเขาก็หันกลับมาที่ใบหน้ากลมอ้วนของจินหมั่นฝู
เขาถอนหายใจในใจ
ชายอ้วนวัยกลางคนที่ดูเป็นมิตรคนนี้เก่งมากในการทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จได้อย่างรวดเร็ว!
เขาเพิ่งส่งคำขอไป แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม
ถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายมีตัวตนในฐานะบอสใหญ่ เขาคงอยากจะรับอีกฝ่ายพี่ชายจริงๆ
ลองคิดดูสิ
ถ้าวันสิ้นโลกมาถึงในอนาคต
การมีคนรอบรู้ที่สามารถจัดการทุกอย่างได้ตามคำสั่ง….เขาก็น่าจะมีชีวิตที่สะดวกสบายมากเลยใช่ไหมล่ะ?
ซูไป๋มองจินหมั่นฝูอย่างลึกซึ้งอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็พูดออกมาว่า: "นายฆ่าคนไปกี่คนแล้ว?"
"นี่มัน……"
จินหมั่นฝูไม่คาดคิดว่าซูไป๋จะถามเกี่ยวกับเรื่องที่เป็นความลับในเวลาเช่นนี้
เขาต้องการตอบปฏิเสธ….แต่เมื่อเขาเห็นดวงตาที่สงบของซูไป๋, หัวใจของเขาก็สั่นเล็กน้อย และคำโกหกที่เขาเตรียมประดิษฐ์ประดอยไว้ในใจในที่สุดก็หายไป
สุดท้ายเขาก็บอกความจริงด้วยความยากลำบาก "สะ…สามคน!"
พูดได้ประโยคเดียว, เหงื่อเม็ดใหญ่ก็ร่วงหล่นจากหน้าผากของจินหมั่นฝู
ในขณะนี้, มันดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้กำลังเผชิญหน้ากับชายหนุ่มลึกลับที่มีความสามารถในการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
แต่เป็นเทพปีศาจ ที่มีความรู้สึกของการกดขี่ที่ไม่สามารถอธิบายได้….ซึ่งความรู้สึกนี้กำลังกดทับไปทั่วทั้งร่างกายของเขาอย่างหนักหน่วง!
เขามีลางสังหรณ์ว่า ถ้าหากเขาเผลอไปโกหกชายคนนี้ขึ้นมา...เขาอาจจะต้องเผชิญกับชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตายเสียอีก!
“แค่สามคนเหรอ?”
ซูไป๋รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เเละทำการถอนพลังวิญญาณที่เขาปล่อยใส่จินหมั่นฝูออกช้าๆ
"หรือว่านายไม่ได้นับเรื่องเลวทรามต่างๆที่นายให้ลูกน้องทำเเทน?"
“นับเเล้วครับ….มีแค่สามคนจริงๆ!”
เมื่อรู้สึกว่า, เขาดูเหมือนจะเอาชนะความยากลำบากที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาได้แล้ว จินหมั่นฝูก็รีบอธิบายต่อทันที
"ถ้านายท่านไม่เชื่อ ท่านสามารถถามคนอื่นๆได้ แม้เราจะมีการปล่อยเงินกู้ก็ตาม... แต่วิธีการของบริษัททางด้านการเงินของเรานั้นอ่อนโยนและนุ่มนวลกว่าบริษัทอื่นมาก"
“สามคนนั้นตายได้ยังไง” ซูไป๋ถามต่อ
เขาเชื่อว่าภายใต้แรงกดดันจากพลังวิญญาณของเขา คนธรรมดาอย่างจินหมั่นฝูไม่มีทางที่จะกล้าโกหก
“ครั้งแรกคือตอนที่ผมเข้ามาในวงการนี้ใหม่ๆ ผมตามบอสไปทำงานเเละเพื่อที่จะสามารถมีโอกาสก้าวขึ้นมาอยู่ในจุดนี้ได้….ผมจึงฆ่าคนไปคนหนึ่ง”
“รายที่สองคือเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ยืมเงินเรา แต่หลังจากนั้นก็เอาแต่ซ่อนในหลุมเเละไม่ยอมคืนเงิน…..เขาก็เลยถูกบังคับให้กระโดดลงจากตึก”
“รายที่สาม...ผมได้รับคำสั่งจากคนเบื้องบนให้ขับรถบรรทุกและชนเขาให้ตาย”
จินหมั่นฝูไม่กล้าปกปิดและอธิบายตามจริงทุกประการ
เมื่อได้ยินเช่นนี้, ซูไป๋ก็พยักหน้า
เหตุผลที่เขาถาม….เพราะเขารู้อยู่เเล้วว่าคนในธุรกิจเหล่านี้จะมีใครกันที่เลือดไม่เปื้อนมือ!
ถึงอย่างนั้น….ก็มีเพียงสามคนที่เขาเคยฆ่า
อย่างไรก็ตาม, ก็คงต้องมีสิ่งต่างๆ มากมายที่ไม่ดีนับไม่ถ้วน เช่น ทุบตี ทำให้พิการ หรือแม้แต่สิ่งที่แย่กว่านั้นต่อเหล่าผู้คน!
แต่ว่า….ซูไป๋นั้นไม่ใช่นักบุญหรืออะไรเเบบนั้น
สิ่งที่เขาต้องการก็แค่หาลูกน้องที่จะสามารถใช้งานได้อย่างสบายใจ
หลังจากคำถามเเรก….เขาก็ไม่ได้ถามเกี่ยวกับอดีตของจินหมั่นฝูอีกต่อไป
ซูไป๋นิ้วเคาะไปมาบนแท่นวางมือของโซฟา, ก่อนจะถามขึ้นอีกครั้ง
"นายรู้จักเหล่าบอสใต้ดินทั้งหมดในเมืองหลินเจียงหรือเปล่า?"
“ครับท่าน เราทุกคนรู้จักกัน!” จินหมั่นฝูตอบ
"บางคนมีมิตรภาพที่ดี และก็มีบางคนที่ผมไม่ชอบขี้หน้า"
ซูไป๋ยิ้มเล็กน้อยและกระซิบด้วยน้ำเสียงล่อลวงผู้คน: "เเล้วนายเคยคิดที่จะปราบปรามพวกเขาทั้งหมดและขึ้นเป็นราชาของโลกใต้ดินของเมืองหลินเจียงหรือเปล่า?"
…………….