บทที่ 220 เก็กโค โมเรีย
บทที่ 220 เก็กโค โมเรีย
เดิมทีแล้ว ยามาโตะมีความสุขมากเพราะไคโดไม่เคยเล่นกับเธอมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่หลังจากเกมเริ่มขึ้น เธอก็ตระหนักว่าเกมนี้แตกต่างจากที่เธอคิดไว้อย่างสิ้นเชิง
ไม่ว่าพวกเขาจะสามารถหลบได้หรือไม่นั้นไม่เกี่ยวข้องกัน กลุ่มเด็กอายุสี่หรือห้าขวบไม่มีความเป็นไปได้ที่จะหลีกเลี่ยงการโจมตีของไคโด แม้ว่าจะเป็นเพียงก้อนหิมะ แต่มันก็เป็นอาวุธที่ร้ายแรงในมือของไคโด
ก้อนหิมะที่ทำลายต้นไม้เล็กๆก่อนหน้านี้เป็นตัวอย่างที่ดี หากไคโดต้องการโจมตีพวกเขา พวกเขาก็ไม่สามารถหลบได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ตาม เขาควบคุมแรงที่เขาใช้
ลูกบอลหิมะที่กระแทกพวกเขาจะทิ้งรอยฟกช้ำและความเจ็บปวดไว้ แต่พวกเขาจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต มันเป็นเพียงการทำให้พวกเขารู้สึกถึงภัยคุกคามแห่งความตายและทำให้พวกเขากลัวเล็กน้อย
ลูกบอลหิมะที่พุ่งเข้าใส่ร่างกายของพวกเขามีไว้เพื่อให้พวกเขาเข้าใจว่านี่ไม่ใช่เรื่องตลกและพวกเขาต้องออกแรงทั้งหมดตลอดเวลา
ก้อนหิมะก้อนหนึ่งกระแทกก้นของยามาโตะอย่างแม่นยำ และเนื่องจากสภาพอากาศในริงโกะมักจะเต็มไปด้วยหิมะ มันจึงทำให้พื้นลื่น เธอลื่นไถลและล้มลงเนื่องจากผลกระทบของก้อนหิมะ
บอลหิมะลูกต่อไปพลาดแก้มของเธอไปอย่างเฉียดฉิวและกระแทกเข้ากับหิมะ
“ลุกขึ้นและหลบต่อไป! ศัตรูจะไม่หยุดโจมตีเพียงเพราะลูกนอนลงหรอกนะ พวกเขาจะแทงลูกที่ท้องเพื่อให้แน่ใจว่าลูกตายจริงๆ! การโยนต่อไปจะไม่พลาด ยามาโตะ ลุกขึ้น!”
หลังจากนั้นเธอก็สามารถหลบก้อนหิมะลูกที่สองได้ แต่การเคลื่อนไหวของเธอนั้นน่าอับอายมาก เธอกลิ้งและคลานเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของไคโด แต่สิ่งนี้ทำให้ไคโดยิ้มได้
“ดีมาก นั่นคือจิตวิญญาณที่ดี! ในสนามรบ ลูกต้องทำทุกอย่างเพื่ออยู่รอด มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่มีสิทธิ์พูดคุยเกี่ยวกับหลักการในการต่อสู้ ตอนนี้ ลูกยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำอย่างนั้น!”
ในขณะที่บรรยายแก่ยามาโตะ ไคโดก็ไม่หยุดขว้างลูกบอลหิมะ คนแรกที่พ่ายแพ้ไปคือมาเรีย แม้ว่าไวท์และไคโดจะมาจากประเทศเดียวกัน แต่มันก็มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างพวกเขา ร่างกายของมาเรียมีพลังน้อยกว่ายามาโตะมาก
คนต่อไปคือแจ็ค ในฐานะมนุษย์เงือกความแข็งแกร่งของเขามีมากมาย และความแข็งแกร่งของเขาก็เป็นสิบเท่าของมนุษย์ธรรมดา อย่างไรก็ตาม เขาไม่คล่องแคล่วพอ และแม้ว่าไคโดจะรั้งพลังของเขาไว้ แต่เขาก็ยังเป็นเป้าหมายที่ง่ายและในที่สุดก็ล้มลง
หลังจากที่เพื่อนของเธอล้มลง พลังการยิงทั้งหมดของไคโดก็มุ่งไปที่ยามาโตะ
“อ้า!! พ่อ หมดเวลาแล้ว! มันหมดเวลาแล้ว!” เพื่อระบุเวลา ไคโดจงใจแขวนนาฬิกาไว้บนต้นไม้ข้างหลังพวกเขา ทันทีที่เข็มนาทีเสร็จสิ้นรอบสุดท้าย ยามาโตะก็ตะโกนอย่างตื่นเต้น
"โอ้? จริงด้วย"
ขณะที่ยามาโตะถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไคโดก็ขว้างก้อนหิมะใส่เธออีกครั้ง
“พ่อ?!”
“รอบที่สองเริ่มขึ้นแล้ว! ที่นี่คือสนามรบ ยามาโตะ ลูกต้องเข้าใจว่าลูกไม่สามารถไว้วางใจสิ่งที่ศัตรูพูด และตอนนี้ พ่อเป็นศัตรูของลูกอยู่!”
คราวนี้ ไคโดเริ่มขว้างลูกบอลหิมะด้วยมือทั้งสองข้าง เพิ่มพลังการยิงอย่างมีนัยสำคัญ
"ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยฉันที!”
“เอาเลยร้องออกมาเลย ครั้งนี้จะไม่มีใครช่วยลูกได้ แม้ว่าลูกจะเรียกอาร์เซอุสไป แต่มันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี”
คราวนี้ เขาเล็งไปที่ขาของเธอ หลังจากที่ยามาโตะล้มลงอีกครั้ง เขาก็รอให้เธอลุกขึ้นมา แต่คราวนี้ เธอไม่ได้หลบ แต่กลับกัน เธอกลับปั้นบอลหิมะและโยนมันกลับไปแม้ว่าความแข็งแกร่งของบอลลูกนั้นจะอ่อนแอมากก็ตาม ไคโดไม่หลบและปล่อยให้ลูกบอลหิมะพุ่งเข้าใส่หน้าเขาอย่างจัง
“พ่อ อย่างที่พ่อพูด นี่คือการเล่นโยนบอลหิมะ และหนูจะสู้กลับ!”
“โวะโรโรโระ ทำได้ดีมาก ยามาโตะ! แบบนี้สิถึงเรียกว่าใจสู้!!
“คุณไคโด ขอโทษนะคะ แต่มันมีปัญหาที่หน้าประตูของเราค่ะ”
ไคโดกำลังจะพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อสงครามกับยามาโตะ โดยคิดว่าการต่อสู้ด้วยก้อนหิมะก็เป็นรูปแบบหนึ่งของการต่อสู้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ เชย์น่าลงจอดด้านข้างและหยุดเขาไว้
"มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?" ไคโดไม่พอใจเพราะเขาเพิ่งจะเครื่องติด
“กลุ่มโจรสลัดได้ลงจอดที่ท่าเรือและปล้นสินค้าชุดล่าสุดของโคจิโร่และเงินบางส่วนไป”
ประเทศวาโนะใช้ทองคำและเงินเป็นหลักในการทำธุรกรรม และไม่ว่าสิ่งเหล่านี้จะไปที่ไหน พวกมันก็ถือว่าเป็นสกุลเงินที่แข็ง มันแตกต่างจากสกุลเงินในสกายเปียร์ ไม่มีใครต้องการสกุลเงินของพวกเขา เอ็กซ์โทล
มันเป็นฝีมือของกลุ่มโจรสลัดเก็กโค คนของกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรที่ประจำการอยู่ไม่มีใครสามารถสู้กับพวกเขาได้ โมเรียไม่ได้ตะลุยเอนิเอส ล็อบบี้หรือโจมตีมังกรฟ้า แต่ค่าหัวของเขาเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งและภัยคุกคามของเขา
ในฐานะที่เป็นลูกเรือระดับสูงเพียงคนเดียวของกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรที่เหลืออยู่ในประเทศวาโนะ เรื่องนี้ก็ตกอยู่ในมือของเชย์น่าโดยธรรมชาติ
ตอนแรกเธอตั้งใจจะตรวจสอบสถานการณ์ แต่เธอก็บังเอิญเห็นไคโด เนื่องจากเขาอยู่ใกล้ท่าเรือ เธอจึงมาแจ้งไคโด
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ขัดขวางความกระตือรือร้นของไคโด ในตอนแรกเขาค่อนข้างพอใจที่เห็นลูกสาวเติบโตขึ้นทีละน้อยและวางแผนที่จะให้ยามาโตะได้สัมผัสกับความโหดร้ายของโลก
“เชย์น่า เธอจับตาดูยามาโตะและคนอื่นๆไว้ เธอไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่นั่น”
“คุณไคโด คุณกำลังจะบอกว่า..”
“อืมมม ฉันจะไปที่นั่นด้วยตัวเอง มีคนของเราอยู่ใกล้ๆบ้างไหม?”
“มีค่ะ แม้ว่าจะไม่มีลูกเรือระดับสูง แต่บุคคลชั้นยอดมากกว่า 200 คนได้รวมตัวกันแล้ว บางคนได้รับความสามารถจากท่านอาร์เซอุสด้วย”
"แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว” เมื่อพูดเช่นนั้น ไคโดก็มุ่งตรงไปยังทิศทางของท่าเรือ ซึ่งทำให้ยามาโตะรู้สึกโล่งใจ
“พวกแกจะต้องเสียใจกับเรื่องนี้! พวกแกไม่รู้หรอกว่าทำอะไรลงไป! ที่นี่คืออาณาเขตของกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร บอสไคโดและลอร์ดอาร์เซอุสจะไม่ปล่อยพวกแกไปแน่!”
ที่สถานีเสบียงในริงโกะ โจรสลัดได้ล้มลงบนพื้น คนที่สูงตระหง่านต่อหน้าพวกเขานั้นแข็งแกร่งเกินไป พวกเขาไม่สามารถสู้กับโมเรียได้
“ไคโด? อาร์เซอุส? พวกมันเป็นใคร? ข้าไม่เคยได้ยินชื่อพวกมันมาก่อน”
"ใช่แล้ว! กัปตันโมเรียเป็นคนที่ถูกกำหนดให้เป็นราชาโจรสลัดนะโว้ย คนที่มีรูปร่างสูงส่งเช่นนี้มีค่าหัว 320 ล้าน จะกลัวโจรสลัดคนอื่นได้ไงวะ?”
“320 ล้านเหรอ? แค่พวกคนงี่เง่าจากพาราไดซ์ ในไม่ช้าแกจะได้รู้ว่าแกนั้นโง่เขลาถึงเพียงใด!” ถ้าโมเรียเป็นโจรสลัดที่มีชื่อเสียง เขาจะไม่ไร้ความรู้ถึงขนาดนี้ ในกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร จำนวนแค่นั้นจะทำให้คนๆหนึ่งเป็นแค่ลูกเรือระดับสูง
แต่เขาไม่เคยได้ยินชื่อของโมเรีย ซึ่งอาจหมายความได้ว่าเขาเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่นิวเวิลด์เพราะมีเพียงคนเหล่านี้เท่านั้นที่กล้าพูดจาที่กล้าหาญเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม โมเรียไม่กลัวคำขู่ของเขา แต่เขากลับเหวี่ยงดาบไปที่เท้าของชายคนนั้น และการเชื่อมต่อระหว่างเงาและร่างกายของเขาก็ถูกตัดขาด เงาที่ดิ้นรนถูกจับโดยโมเรีย ในขณะที่ชายคนนั้นหมดสติไปแล้ว
ข่าวดีก็คือริงโกะกำลังประสบกับสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยหิมะตกหนัก และเมฆก็ปิดกั้นแสงแดด ทำให้เขาไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเถ้าถ่านได้ทันที
นั่นคือความสามารถของโมเรีย ผลเงา ผลปีศาจสายพารามีเซีย ซึ่งเป็นความสามารถอันทรงพลังที่ทำให้เขาสามารถจัดการกับเงาของผู้คนได้
ตอนนี้ เขาไม่จำเป็นต้องใช้กรรไกรด้วยซ้ำ เพียงแค่ใช้มีดเล่มเดียว เขาก็สามารถตัดการเชื่อมต่อของเงาได้โดยตรง จากนั้น เขาก็ใส่เงาลงในขวดเล็กๆและแขวนไว้ในเสื้อโค้ทของเขา มันเป็นส่วนหนึ่งของพลังของเขาด้วย
“คิชิชิ ฉันจะไปไหนต่อดีนะ?”
“กัปตัน มีคนกำลังมาครับ! ชายที่มีเขาอยู่บนหัวของเขา”