บทที่ 219 : อีฟ (1-1)
บทที่ 219 : อีฟ (1-1)
วันต่อมา การปีนหอคอยก็เริ่มขึ้น
เราได้พิสูจน์ว่าความแข็งแกร่งของปาร์ตี้หลักกลับมาแล้วด้วยภารกิจชั้นที่ 25 ไรก็ได้ไม่มีเหตุผลที่ต้องลังเล เขาส่งเราเข้าสู่รอยแยกของมิติและเวลาทันที
[ชั้นที่ 26]
[ประเภทภารกิจ – คุ้มกัน]
[วัตถุประสงค์ – ปกป้องบุคคลที่ถูกกำหนด]
สภาพแวดล้อมนั้นเป็นทะเลทรายเช่นเคย
เนื้อหาของภารกิจเป็นไปตามที่คาดไว้
ภายใต้ดวงอาทิตย์ที่แผดเผา ฉันกลับมาพบกับเฟรียซิสในทะเลทรายอีกครั้ง เธอเดินผ่านทะเลทรายไปอย่างไร้จุดหมาย ร่างของเธอมีเพียงผ้าบาง ๆ คลุมร่างไว้เท่านั้น
“ยังไม่ตายสินะ?”
ฉันพูดพร้อมกับยิ้มออกมา
สำหรับฉันมันผ่านมาเพียง 1 วันเท่านั้น แต่มันมันคงจะผ่านไปนานพอสมควรสำหรับเธอ สายตาของเฟรียซิสหันมองมาทางเรา
“อย่างที่เห็นค่ะ …ฉันยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าฉันจะคิดว่าตัวเองเตรียมตัวมาพร้อมแล้วก็ตาม แต่มันก็ลำบากเอาเรื่อง...”
เฟรียซิสพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า
กระเป๋าสีขาวที่อัดแน่นของเธอตอนนี้แทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว ฉันโยนกระเป๋าที่ฉันนำมาจากห้องรอยื่นให้เฟรียซิส เธอรับมันอย่างลังเล
“ในนั้นมียาต้านความร้อน น้ำ และอาหาร ใช้มันดี ๆ ล่ะ”
“ฉันเป็นหนี้บุญคุณคุณอีกแล้ว…”
เฟรียซิสเปิดฝายาต้านความร้อนขึ้นด้วยมือที่เปียกเหงื่อ
ฉันสร้างมันขึ้นมาโดยที่ให้ไรก็ได้รู้ ดังนั้นถ้าเขาอยากสร้างมันขึ้นมาเอง เขาต้องศึกษาพื้นฐานของการเอาชีวิตรอดในทะเลทราย แล้วจึงสั่งนักเล่นแร่แปรธาตุจากชั้น 2 สร้างมันขึ้นมา
"ผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว ภารกิจครั้งนี้คืออะไร?”
“ง่ายมาก แค่ติดตามเฟรียซิสและปกป้องเธอ เธอรู้จุดหมายปลายทางแล้วใช่ไหม?”
“ฉันเคยเห็นมันในความฝันของฉันหลายครั้ง แค่ตามเครื่องหมายนั้นไปก็พอ”
เฟรียซิสชี้ไปที่เส้นขอบฟ้าอันไม่มีที่สิ้นสุดใต้เนินทรายสูง
"เครื่องหมายอะไร? ไม่เห็นจะมีอะไรเลย”
แต่มันไม่สำคัญตราบใดที่เธอรู้ทิศทาง
“ดื่มสิ่งนี้ก่อนเถอะ”
ฉันดื่มยาต้านความร้อนทันที
[คำแนะนำ : ยาพิเศษ 'ยาต้านความร้อน' ป้องกันภาวะขาดน้ำและป้องกันการเป็นลมแดดได้ อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของมันอาจลดลงในระหว่างทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังมาก]
ความรู้สึกสดชื่นไหลผ่านร่างกายของฉัน
แม้ว่าแสงแดดจะแผดจ้า แต่ฉันก็รู้สึกดีขึ้นมาก ฉันโยนขวดเปล่าออกไปแล้วเอื้อมมือไปจับด้ามดาบไว้แน่น เลยไปที่เนินเขาข้าง ๆ ฉันก็ได้ยินเสียงร้องที่ชัดเจน
“คาร์ก กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!”
“พวกมันจะมาทักทายเราแล้ว”
[มนุษย์กิ้งก่า Lv 25 x 15]
ศัตรูปรากฏขึ้นพร้อมกับข้อความแจ้งเตือน
เนเรสซ่าเดินตรงขึ้นไปบนเนินเขาแล้วพูดว่า “พวกมันดูแข็งแรงกว่าครั้งที่แล้ว ดูเหมือนจะเป็นทหารชั้นยอด”
“แจ๋ว! เหมาะสำหรับออกกำลังกายหลังอาหารเช้า”
“เตรียมตัวให้พร้อม”
ชริ้ง
ฉันดึงดาบออกมา
"กร๊ากกกก!"
ร่างกายส่วนบนที่ฉีกขาดของมนุษย์กิ้งก่าลอยออกไปพร้อมกับเสียงร้องอันโหยหวน
เราใช้เวลาไม่เกินสามนาทีในการจัดการกับพวกมัน เราพบกับพวกมันอีกสองสามกลุ่มระหว่างเดินทาง แต่เราเอาชนะพวกมันได้อย่างง่ายดายและเดินทางต่อไปในทะเลทราย
“แม้แต่องครักษ์ของจักรวรรดิก็ยังไม่แข็งแกร่งขนาดนี้”
เฟรียซิสที่กำลังเฝ้าดูอยู่ก็เงยหน้าขึ้น
เมื่อผ่านไปครึ่งวันหลังจากข้ามเนินเขาสามลูกแล้ว
[เคลียร์ด่าน!]
['เวคิส (★★★)', 'เนเรสซ่า (★★★)' เลเวลอัพ!]
[รางวัล – 50,000 ทองคำ น้ำบริสุทธิ์จากทะเลทราย]
[ฮีโร่ยอดเยี่ยม – 'ฮาน (★★★)']
ข้อความแจ้งเตือนการผ่านด่านก็ปรากฏขึ้น
ฉันเก็บดาบของฉันเข้าที่เดิม ทะเลทรายกำลังถูกความมืดเข้าปกคลุม แสงสว่างสีเหลืองจาง ๆ ปกคลุมร่างของเราไว้ ฉันหันไปพูดกับเฟรียซิสที่กำลังมองมาที่ฉัน
“เจอกันที่ชั้นถัดไปนะ”
“เข้าใจแล้ว เจอกันชั้นถัดไปนะคะฮาน”
เฟรียซิสยิ้มเบา ๆ และโบกมือของเธอ
พื้นหลังค่อย ๆ เบลอ และเราก็กลับมายังห้องรอผ่านรอยแยกของมิติและเวลา
“ผมไม่เข้าใจจุดประสงค์ของภารกิจนี้เลยจริง ๆ แค่ตามยัยเด็กนั้นไปเรื่อย ๆ งั้นเหรอ เราเป็นพี่เลี้ยงเด็กรึไงครับ?”
"ยัยเด็กนั้น? ระวังคำพูดของนายด้วยเวคิส”
เนเรสซ่าดุเขาทันที และเวคิสก็มีสีหน้าบูดบึ้ง
“เธอเป็นใคร ฉันถึงต้องระวังด้วย? ยัยนั้นเป็นเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิงั้นเหรอ?”
"ใช่ เธอเป็นเจ้าหญิง"
“แน่นอนว่า ต้องไม่อยู่แล้ว…หา? หัวหน้าพูดอะไรนะครับ?”
ใบหน้าของเวคิสเริ่มสับสน
ฉันหัวเราะเบา ๆ และเดินออกจากรอยแยกแห่งมิติและเวลา ทิ้งให้เวคิสอึ้งอยู่แบบนั้น
เช้าวันรุ่งขึ้น การปีนหอคอยยังคงดำเนินต่อไป
สนามรบคราวนี้ก็เป็นทะเลทรายเช่นเดิม ความแตกต่างก็คือเป็นเวลากลางคืนแทนที่จะเป็นกลางวัน
ดังนั้นในครั้งนี้ เราต้องการยาต้านความเย็นเพื่อป้องกันอุณหภูมิที่เย็นจัด แม้ว่าเราจะอยู่ในทะเลทรายก็ตาม
มันก็เหมือนกับการเผชิญหน้าครั้งก่อน
มนุษย์กิ้งก่าปรากฏตัวขึ้น และเราก็ต่อสู้กับพวกมันอย่างดุเดือด
เมื่อเราเข้าไปในทะเลทรายลึกขึ้น จำนวนพวกมันก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
“กร๊ากกกก! ใครที่กล้าต่อต้าน ใครที่ขัดขวาง ฆ่ามัน ฆ่ามัน มันจะต้องจตาย!”
“การ่า-กาลากร๊าก!”
['มนุษย์กิ้งก่า' เข้าสู่สภาวะบ้าคลั่ง!]
พวกนั้นไม่ใช่แค่กิ้งก่าธรรมดา ๆ
มันรีบวิ่งมาหาเราด้วยความอาฆาต
สัตว์ประหลาดพวกนั้นอาละวาดไปทั่วทั้งทวีป สิ่งที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านทะเลทรายเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของทั้งหมดของพื้นที่ในทวีปแห่งนี้ เฟรียซิสมองไปที่ซากศพของมนุษย์กิ้งก่าที่กระจัดกระจายแล้วพูดว่า
“เราไม่มีเวลามาก ต้องรีบแล้ว”
เฟรียซิสพูด
ผมสีเงินของเธอส่องแสงระยิบระยับท่ามกลางแสงจันทร์
“หากความฝันของฉันถูกต้อง เรามีเวลาอีกไม่ถึงสิบปีจักรวรรดิจะถูกทำลาย”
“เธอเคยบอกว่าเธอไม่รู้ว่ากุญแจมีไว้เพื่ออะไร แล้วทำไมต้องรวบรวมพวกมันด้วย?”
“มันเป็นข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งไงค่ะ กุญแจเป็นวัตถุที่สืบทอดกันมาในตำนานการก่อตั้งจักรวรรดิ หากฉันรวบรวมได้ครบ ฉันจะสามารถยืมพลังมาได้”
“พวกเขา?”
“ตระกูลอะซินิสค่ะ”
เฟรียซิสพูดด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
“พวกเขาคือหนึ่งในสี่ตระกูลที่ยิ่งใหญ่และมีกองกำลังทหารที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิ ฉันได้ทำสัญญากับพวกเขาแล้วว่าหากฉันพิสูจน์คุณค่าของฉันได้ ฉันจะสามารถยืมพลังของพวกเขาได้ ดังนั้นฉันจึงต้องทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้”
“นั่นก็คือการรวบรวมกุญแจงั้นเหรอ?”
"ถูกต้องค่ะ"
เธอตอบมาโดยไม่ลังเล...