ตอนที่แล้วบทที่ 216 : ภารกิจย่อย (2-2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 218 : ภารกิจย่อย (3-2)

บทที่ 217 : ภารกิจย่อย (3-1)


บทที่ 217 : ภารกิจย่อย (3-1)

ถนนที่ถูกไฟไหม้เต็มไปด้วยศพของมนุษย์กิ้งก่า

“คร๊าก ….”

มนุษย์กิ้งก่าที่มีลูกธนูติดอยู่ในร่างกายบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด

เวคิสจัดการฆ่ามันทันทีด้วยสีหน้าว่างเปล่า

“คุณแข็งแกร่งขึ้นมาก...ไม่น่าเชื่อเลย” เฟรียซิสพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา

มีรอยไหม้เล็กน้อยแก้มของเธอ

“มันแตกต่างมากเมื่อเทียบกับตอนนั้น เกิดอะไรขึ้นกันคะ?”

“เรื่องมันยาวน่ะ”

ฉันนั่งอยู่ท่ามกลางเศษซากของอาคารที่พังทลาย

ควันผสมกับกลิ่นไหม้ลอยขึ้นมาจากที่ต่างๆ

“แต่...หน้าตาคุณไม่เปลี่ยนไปจากสามปีก่อนเลย”

“แต่เธอเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ”

แม้ว่าเธอจะยังดูเป็นเด็กในสายตาฉัน แต่ก็ยากที่จะเรียกเธอว่าเด็กได้เต็มปาก

“ผ่านมาสามปีเหรอ?”

แต่เวลาที่ผ่านมาของเรายังไม่ถึงครึ่งปีเลยตั้งแต่ที่เคลียร์ชั้นที่ 15 ได้

อย่างมากก็สองเดือน แต่สำหรับเฟรียซิสมันดูแตกต่างออกไปมาก

"มันจบหรือยังครับ?" เวคิสบ่น

ฉันส่ายหัว ฝั่งตรงข้ามถนนก็ได้ยินเสียงฝีเท้า ฉันยกมือขึ้นจับฝักและเตรียมชักดาบออกมาได้ทุกเมื่อ

“กิ กร๊าาก กร๊ากกกก!”

[มนุษย์กิ้งก่า Lv.22 X 31]

กลุ่มกิ้งก่าปรากฏตัวที่ด้านนอกทางแยก

“ก๊ากร์! มีมนุษย์ มีมนุษย์อยู่ที่นี่!”

“มนุษย์ การ์! มนุษย์…?”

ดวงตาของพวกมันเปล่งประกาย และกวาดสายตาไปรอบๆ

ถนนเป็นเหมือนภูเขาซากศพของมนุษย์กิ้งก่า อาจมีประมาณ 120 ศพ เลือดของพวกมันกลายเป็นแอ่งน้ำบนพื้น สภาพตอนนี้ร่างกายของเวคิสเต็มไปด้วยเลือดตั้งแต่หัวจรดเท้ากำลังหัวเราะเบา ๆ

“พวกมันมาแล้ว”

“…”

พวกมนุษย์กิ้งก่าเปลี่ยนทิศทางไปราวกับว่ามันมองไม่เห็นเรา แล้วพวกมันก็วิ่งหายไปทันที

เวคิสขมวดคิ้ว

“มันวิ่งไปไหน?”

“พวกมันรู้จักกลัวไง” เนเรสซ่าพูดขณะที่เธอเก็บดาบเข้าที่

เสียงฝีเท้าเคลื่อนตัวออกห่างจากเรามากขึ้น

'นี่มัน...'

ฉันอาจจะใช้แรงมากเกินไป

ฉันไม่ได้คิดว่าพวกมันจะอ่อนแอขนาดนี้

[00:03:21]

ยังไม่มีวี่แววของกองกำลังเสริมของพวกมัน

ฉันปล่อยมือจากดาบของฉัน

เจนน่าเกาแก้มของเธองงๆ

“ครบร้อยตัวแล้วเหรอ? มันไม่รู้สึกยากเหมือนตอนเลย....นี่เราแข็งแกร่งขึ้นแล้วเหรอ?”

“ดูเหมือนว่าจะเป็นแบบนั้นนะ”

เนื่องจากเราทำภารกิจที่มีความยากสูงบ่อยๆ เราจึงไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลง

ปาร์ตี้ของเรารวมทั้งฉันแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มนุษย์กิ้งก่าเลเวล 21 ไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่อ่อนแอแต่อย่างใด พวกมันเหนือก็อบลินอย่างน้อยสองสามก้าวเท่านั้น

'เพราะมันมีหลายสาเหตุ'

เราไม่สามารถมองข้ามความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ได้

อีกอย่าง เราจัดการพวกมันด้วยไฟ

แต่เหตุผลที่เป็นที่สุดนั้นก็คือ...

'เพราะเราไม่มีทางเลือกอื่น จึงมีแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้นงั้นเหรอ?'

ก็คงถูกต้องแล้ว เพราะถ้าเราอ่อนแอ เราคงตายไปในภารกิจอื่นไปนานแล้ว

เพราะว่าเราประสบกับภารกิจที่ยากลำบาก เราจึงทุ่มเทตนเองอย่างสิ้นหวังในการฝึกฝนเพื่อความอยู่รอด หากทักษะของเราไม่พัฒนา มันคงเป็นเรื่องตลกแล้ว

“เนเรสซ่า ฉันอยากให้เธอไปสอดแนมสักหน่อย อาจจะมีอะไรซ่อนอยู่ก็ได้”

“เข้าใจแล้วค่ะ”

เนเรสซ่าเหยียบถังไม้แล้วกระโดดขึ้นไปบนหลังคา

ในที่สุดร่างของเธอก็หายไป หากมีอะไรเกิดขึ้นเธอจะกลับมารายงานเราทันที

“ดูเหมือนว่าภารกิจจะจบลงแล้ว และสถานการณ์ตอนนี้คลี่คลายแล้วด้วย ไปพักก่อนเถอะ”

“น่าเบื่อจะตาย”

สมาชิกในปาร์ตี้ก็เริ่มผ่อนคลายลง

ออลก้าถอนหายใจและนั่งลง โดยมีเหงื่อเม็ดเล็กฝุดออกมากบนหน้าผากของเธอ

“ถึงเราจะกินยาของฮานไป แต่อากาศก็ยังร้อนอยู่ดี โอ้ย ! ร้อนจะบ้าตาย”

“พี่ไปพักทางนั่นกันเถอะ”

"ทำไมล่ะ? ตรงนี้กำลังสบายเลย…"

“เอาน่าๆๆ ไปกันเถอะ! พี่เวคิสก็ด้วย”

“อย่ามาเรียกฉันแบบนั้น มันน่ารำคาญ”

"อย่าไปใส่ใจเลย ไปกันเถอะ!"

“ปล่อยฉันนะ..อะไรเนี่ย?”

เจนน่าลากออลก้าและเวคิสเข้าไปในตรอก

มีเพียงเราสองคนเท่านั้นที่ยังคงอยู่ที่นี่ แค่ฉันและเฟรียซิส

ไม่ใช่ว่าฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเธอ

ฉันมองไปที่เฟรียซิส เธอนั่งงอเขาอยู่บนเสาหักๆของอาคาร และเธอเริ่มพูดขึ้นมาก่อนว่า

“สบายดีไหมคะ?”

“ก็ดี”

ฉันตอบอย่างคลุมเครือ

ชีวิตในห้องรอเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างยากจะเล่า

“ก่อนหน้านี้...ฉันคิดว่าฉันจะตายไปแล้วซะอีก สัตว์ประหลาดพวกนั้น…”

“พวกเขาเพิ่งเข้าร่วมปาร์ตี้กับเราไม่นาน และฉันก็กลับมาได้ไม่นาน ฉันก็เลยยังไม่รู้จักพวกเขาดีพอ เธออาจจะได้เจอพวกเขาบ่อยๆในอนาคต”

"ฉันเจอพวกเขาแล้วค่ะ พวกเขาคือสหายใหม่ของคุณใช่ไหมคะ?”

เฟรียซิสพึมพำราวกับว่าเธอกำลังคิดอะไรบางอย่าง

จากนั้นเธอก็เริ่มเล่าด้วยน้ำเสียงสงบว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เธอแยกกับฉันในตอนนั้น

มันเป็นไปตามที่คาดไว้

หลังจากหลบหนีออกจากเมือง เฟรียซิสก็กลายเป็นนักโทษหลบหนีที่จักรวรรดิต้องการตัว เธอถูกล่าโดยนักล่าค่าหัวมากมาย ทหารที่คริสตจักรส่งมาและคนอื่น ๆ ที่มุ่งเป้าไปที่เงินรางวัล ว่ากันว่าเงินรางวัลนี้มากมายเกินกว่าจะนับได้

“เธอก็เก่งนะ ทำยังไงไม่ให้โดนจับได้?”

“ฉันโชคดีมากกว่าค่ะ”

เฟรียซิสยิ้มอย่างขมขื่น

“ที่ฉันรอดมาได้เพราะคุณเคยช่วยฉันในตอนนั้น”

“หมายถึงครั้งก่อนที่อยู่ในเมืองน่ะเหรอ?”

"เปล่าค่ะ"

เฟรียซิสส่ายหัวของเธอ

“หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลฮาลเจียน พวกเขาคือคนที่ไล่ล่าฉันอย่างไม่ลดละ ถ้าคุณไม่ช่วยฉันตอนนั้น ฉันก็คงจะอยู่ได้ไม่นาน”

“…”

“ตอนนั้นคาดไม่ถึงเลยว่าพื้นที่ทั้งหมดจะพังทลายลงแบบนี้…”

นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น

ตามคำอธิบาย ตระกูลฮาลเจียนมีความเชื่อมโยงกับนิกายที่เป็นศัตรูของเฟรียซิส ดูเหมือนชั้นที่ 20 จะเป็นหนึ่งในจุดเชื่อมโยง แม้ว่าตัวเขาเองจะยังไม่เข้าใจบรรยากาศที่แปลกประหลาดและเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์นั้นได้ แต่...

“แล้วทำไมเธอถึงมาที่นี่? มันเป็นทะเลทรายนะ”

"ใช่ค่ะ สถานที่แห่งนี้เป็นทะเลทรายอันกว้างใหญ่ที่เรียกว่าซิลเกีย”

"..."

“ฉันมาที่นี่เพื่อหาอะไรบางอย่าง”

"หาอะไรบางอย่าง?"

"สิ่งที่ฉันเห็นในความฝัน…มันคือกุญแจ”

“แล้วเธอจะใช้สิ่งนั้นไปทำอะไร?”

“ยังไม่ชัดเจนเหรอคะ? เพื่อปกป้องทวีปแห่งนี้”

สีหน้าของเฟรียซิสจริงจังมากขึ้น

ฉันกลืนเสียงหัวเราะอันขมขื่นลงไป ฉันคิดว่าการพูดเกี่ยวกับการกอบกู้ทวีปหรืออะไรก็ตามที่เป็นเพียงแค่ความตั้งใจแบบเด็ก ๆ แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ ความมุ่งมั่นของเธอดูแข็งแกร่งกว่าเดิม

“แล้ว 'กุญแจ' ที่ว่านี้คืออะไรกันแน่?”

“ฉันไม่รู้แน่ชัดเท่าไหร่ค่ะ ฉันแค่มีความรู้สึกบางอย่าง...ฉันคิดว่าฉันจะสามารถรวบรวมสิ่งต่าง ๆ เข้าด้วยกันได้”

“เธอยังคงพูดเป็นปริศนาเหมือนเดิมเลยนะ”

มันเป็นแบบนี้เมื่อเราพบกันครั้งแรก เธอก็พูดถึงความฝันและจุดจบของโลก

น้ำเสียงของเธอดูน่ากังวลมาก และตอนนี้ฉันก็ไม่มีทางเข้าใจมันเหมือนเดิม

‘ผู้หญิงคนนี้…’

เธอปรากฏตัวมาแล้วสองครั้งในภารกิจหลัก

และเธอเองก็มีความเชื่อมโยงที่คลุมเครือในภารกิจอื่น ๆ เช่นกัน

ฉันคิดถึงแผนผังของหมู่บ้านที่เคยเห็นตอนดูวิดิโอ

มีทางออกสามทาง ประตูทิศตะวันตก ประตูทิศเหนือ และประตูทิศตะวันออก

ผู้ลี้ภัยกำลังหนีไปทางประตูทิศตะวันออก มันอยู่ในทิศทางตรงกันข้ามกับทะเลทราย แต่เส้นทางหลบหนีของเฟรียซิสคือประตูทิศเหนือ

'เธอจะพบสิ่งที่เป็น 'กุญแจ' ไหมนะ?'

ฉันหัวเราะเบาๆ

'เดาว่าฉันน่าจะได้เจอเธอบ่อย ๆ ในอนาคตสินะ'

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด