1333 - ข้าคือราชาสวรรค์ของโลกใบนี้
1333 - ข้าคือราชาสวรรค์ของโลกใบนี้
เสี่ยวซ่งกลับมามีสติอีกครั้ง มันยืนตรงสั่นหัวเล็กๆ ของมันด้วยความเขินอาย
“อุ้ย…อิ๊!”
เย่ฟ่านและกว๋อเจินต่างหัวเราะกับเสียงของมัน แม้ตอนนั้นมันจะคำรามอยู่ก็ตาม
กระรอกก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย
เสือโคร่งไม่ได้โจมตีพวกเขา สัตว์ร้ายมีสัญชาตญาณที่ค่อนข้างแม่นยำ ทันทีที่มันสัมผัสได้ถึงกลิ่นนายของเย่ฟ่านและคนอื่นๆ มันก็รู้ดีว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่มันจะรังแกได้
พวกเขาเดินลึกลงไปมีหิมะหนาทึบ และพวกเขาก็เจอกับเสือโคร่งที่มีขนาดใหญ่โตกว่าเมื่อครู่หลายเท่า เสือโคร่งตัวนี้อาจจะมีน้ำหนักถึงสองตันเลยทีเดียว
“นี่มัน…” กว๋อเจินพูดไม่ออกเพราะความตกใจ
“เสือตัวนี้เป็นอสูรวิญญาณ เราเกือบจะไปถึงจุดหมายแล้ว” ดวงตาของเย่ฟ่านเปล่งประกายราวกับโคมไฟ
“หวือ”
ทันใดนั้นได้มีแสงสีม่วงส่องประกายในระยะไกล พวกเขาเข้าใจผิดมาตลอดว่าสิ่งที่เห็นในตอนนั้นคือเงาของต้นสน แต่แท้ที่จริงแล้วมันเป็นต้นไม้สีดำสนิท เห็นได้ชัดว่าเป็นพืชวิญญาณชนิดหนึ่ง
“ใช่ ดูเหมือนว่าเราจะมาถึงบริเวณถ้ำมังกรของภูเขาฉางไป๋แล้วะ สิ่งมีชีวิตที่นี่ล้วนมีพลังของมังกรที่ถือว่าไม่ธรรมดาเลย”
เย่ฟ่านมามาที่นี่เพื่อพบกับทายาทของเทพอสูรโบราณที่เป็นหนึ่งในสี่ผู้ปกครองโลกของยุคปัจจุบัน
หลังจากที่เสือโคร่งถูกทำให้เชื่อง ทั้งสามคนก็นั่งอยู่บนหลังของมันและควบคุมเสือให้วิ่งไปในทิศทางที่มีพลังปราณสวรรค์พิภพเข้มข้นมากที่สุด
“ที่นั่นมีวัดบภูเขา มีอาคารแบบนี้ได้อย่างไร? ที่นี่ไม่ควรเป็นดินแดนของมนุษย์”
เมื่อเข้าไปใกล้มากขึ้นพบว่าดินแดนแห่งนี้คอนข้างเก่า ถูกสร้างขึ้นมาแล้วหลายร้อยปี
ทันใดนั้น ลมอันมืดมนก็พัดเข้ามาปะทะหน้าของพวกเขา เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความโกรธดังออกมาจากวัดโบราณ
ในเวลาต่อมาสิ่งมีชีวิตยาวขนาดสามวาได้พุ่งเข้าหาพวกเขา บนศีรษะของมันมีหงอนขนาดใหญ่
“วิหคอสูร!”
กว๋อเจินตกใจมาก นกตัวนี้มีใบหน้าคล้ายกับมุษย์และแตกต่างจากนกที่เขาเคยรู้จักทุกชนิดในโลก
เย่ฟ่านไม่ได้มีความหวั่นเกรงแต่อย่างใด เขาเพียงชี้นิ้วไปข้างหน้านกตัวนั้นก็ตกลงมาจากท้องฟ้าและกระแทกพื้นอย่างแรง
ข้างหน้าพวกเขาเป็นพื้นที่ต้องห้าม สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายไม่กล้าเข้าใกล้ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นดินแดนทีเงียบสงบของสำนักเทียนหลิน มีปราณมังกรไหลออกจากยอดเขาหิมะหลายลูก
“วิญญาณชั่วร้ายที่ทรงพลัง!”
ใบหน้าของกว๋อเจินซีดเซียว หลังจากเดินลึกเข้ามาหลายสิบลี้ แม้แต่เขาเองก็สัมผัสได้ถึงวิญญาณชั่วร้าย ไม่ต้องพูดถึงเย่ฟ่านเลย
ในสันเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ลักษณะของมันคล้ายกับมังกรสีขาวขนาดใหญ่
“มันคือมังกรใช่หรือไม่?”
“ไม่ใช่ นี่เป็นเส้นเลือดมังกรที่มีขนาดใหญ่มาก ไม่คิดว่าในโลกนี้จะยังมีดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ลงเรืออยู่” เย่ฟ่านพูดกับตัวเอง
ตามบันทึกทางระวัติศาสตร์แล้ว เมื่อถึงเวลาสักการะบรรพชนผู้ล่วงลับไปแล้วของฮ่องเต้ราชวงศ์ชิง พวกเขาจะถือเอาดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยกล่าวว่ามันเป็นดินแดนแห่งมังกรในตำนาน
ต่อมาภูเขาฉางไป๋ยังได้รับการเลื่อนสถานะให้สูงกว่าภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าอีกด้วย
“ในยุคของราชวงศ์ชิงเคยมีผู้คนมองเห็นมังกรปรากฏตัวขึ้นที่ภูเขาฉางไป๋ ผู้คนในสมัยนั้นเชื่อว่านี่เป็นเพียงการสร้างความชอบธรรมให้กับฮ่องเต้ของราชวงศ์ชิงที่เป็นคนนอกด่าน แต่เมื่อมาถึงที่นี่ผมกลับคิดว่าน่าจะมีเหตุการณ์แปลกๆ แบบนั้นเกิดขึ้นจริงๆ”
เย่ฟ่านก้าวไปข้างหน้า ด้วยฐานการบ่มเพาะในปัจจุบันของเขา แม้แต่จักรวาลอันมืดมิดยังข้ามไปมาเพียงลำพังแล้ว นับประสาอะไรกับถ้ำเสือวังมังกร
พวกเขามาถึงยอดเขาสูงตระหง่านที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ มีถ้ำอยู่ที่เชิงเขาแผ่พลังของมังกรออกมาอย่างหนาแน่น ต้นสนโบราณหลายต้นทำให้ดินแดนแห่งนี้ดูลึกลับมาก
“พวกเจ้าเป็นใครถึงกล้าบุกรุกดินแดนต้องห้ามของเรา!” มีเสียงตะโกนออกมา
จากนั้นผู้บ่มเพาะหลายสิบคนที่สวมชุดเกราะและอาวุธแวววาวเปล่งประกายด้วยปราณอสูรหลั่งไหลออกมาจากถ้ำโบราณ พวกเขาเข้าปิดล้อมเย่ฟ่านอย่างแน่นหนา
ในปัจจุบันหากเป็นคนธรรมดามองเห็นคนเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้นพวกเขาจะต้องเกิดความหวาดกลัวอย่างแน่นอน
เย่ฟ่านรู้สึกว่าคนเหล่านี้ค่อนข้างมีความแข็งแกร่งเมื่อเปรียบเทียบกับสำนักหลิงเป่าที่เขาเคยไปเยือนเมื่อไม่กี่วันก่อน
“เทพอสูรเทียนหลินคือสิ่งมีชีวิตอะไรกันแน่?”
กว๋อเจินถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เขารู้สึกว่าคนเหล่านี้้แปลกมาก ร่างกายของพวกเขามีเกล็ดอยู่ตามตัวเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่มนุษย์ทั่วไป
“บรรพชนของพวกเขาคืองู งูที่สามารถบรรลุมรรคผลกลายเป็นเซียนได้ แน่นอนว่าผู้ที่แข็งแกร่งจริงๆ ย่อมสามารถดำเนินรอยตามบรรพชนพัฒนาตัวเองกลายเป็นมังกร แต่คนเหล่านี้ไม่ได้มีระดับถึงขนาดนั้น” เย่ฟ่านกล่าว
“พี่เย่พูดแบบนี้ผมเกรงว่าไม่ค่อยดีนัก…”
กว๋อเจินกังวลเล็กน้อยกับสิ่งที่เย่ฟ่านพูด สิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงหน้าเป็นทายาทของเทพงูผู้ดุร้าย อย่างไรก็ตามพวกเขาเชื่อเสมอว่าตัวเองเป็นมังกร การชี้หน้าว่าพวกเขาเป็นงูแบบนี้ย่อมไม่แตกต่างอะไรจากการลากพวกเขาออกไปทุบตีกลางตลาด
“พวกมันมีชีวิตอยู่เพื่อเต๋าเท่านั้น การแสวงหาอย่างเดียวของพวกมันคือการบรรลุเต๋า พวกมันสร้างดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองขึ้นที่นี่เพื่อไม่ให้ผู้คนภายนอกมีส่วนร่วมในปราณมังกรที่ยังแข็งแกร่งภายในภูเขาฉางไป๋” เย่ฟ่านกล่าว
“หากพวกเจ้าต้องการเข้าไปในถ้ำเทียนหลินพวกเจ้าควรบอกที่มาของตัวเอง ในโลกนี้ไม่ใช่ว่าใครคิดจะเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเราก็ได้!”
คนในชุดเกราะหลายสิบคนตะโกน พวกเขาไม่ใช่คนปัญญาอ่อน การที่ใครบางคนสามารถเข้ามาที่นี่ได้จะต้องมีความแข็งแกร่งไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
“เย่ฟ่าน”
“ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน บอกมาสิว่ามาจากไหน อยู่ในสำนักอะไร แล้วข้าจะเป็นคนพิจารณาเองว่าเจ้ามีคุณสมบัติหรือไม่!”
คนเหลานี้ใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำเทียนหลินมาตั้งแต่ยุคโบราณ พวกเขามีสายเลือดที่แข็งแกร่ง เกิดมาพร้อมกับความภาคภูมิใจดังนั้นต่อให้รู้ว่าเย่ฟ่านค่อนข้างแข็งแกร่งพวกเขาก็ยังไม่เกรงกลัว
“ข้าคือราชาสวรรค์ของโลกใบนี้! มีคุณสมบัติพอหรือไม่?”
เย่ฟ่านพูดอย่างสงบ ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับคลื่นพลังที่ปะทุออกมาอย่างรุนแรงและกวาดทุกคนให้กระเด็นออกไปอยากง่ายดาย
“ราชาสวรรค์…”
ทันทีที่คนเหล่านั้นได้ยิน พวกเขาก็รีบคุกเข่าลงด้วยความกลัว
ชายหนุ่มผู้มีเลือดสีทองทั้งตัว คลื่นพลังที่แผ่ออกมาจากร่างของเขานั้นทรงพลังมากกว่าบรรพชนผู้หลับใหลอยู่ในถ้ำเทียนหลินด้วยซ้ำ
ไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงที่จะบอกว่า เย่ฟ่านนั้นทรงพลังจนพวกเขาไม่กล้ามองตรงๆด้วยซ้ำ
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือสวรรค์พิภพโดยรอบดูเหมือนจะตอบรับต่อคำประกาศกร้าวของเย่ฟ่าน
เพราะตอนนี้มีลมพายุโหมกระหน่ำอยู่ในบริเวณใกล้เคียงอย่างรุนแรงคล้ายกับต้องการยืนยันว่าเย่ฟ่านคือราชาสวรรค์ของโลกใบนี้อย่างแท้จริง
“ราชาสวรรค์…”
คนเหล่านั้นตกใจ หากใครบางคนกล้าเรียกตัวเองเช่นนี้ถ้าเขาไม่หวั่นเกรงต่อการลงโทษของสวรรค์พิภพ เขาก็ต้องมีความสามารถในระดับนั้นจริงๆ!
ในตำนานโบราณมีบุคลลสำคัญหลายคนเรียกตัวเองว่าราชาสวรรค์ อย่างไรก็ตามพวกเขากลับมีชีวิตอยู่ได้เพียงไม่กี่ปี เพราะทนต่อการลงโทษของสวรรค์ไม่ได้
เมื่อมีใครบางคนกล้าประกาศตัวเช่นนี้ กลุ่มคนที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นก็แสดงความเคารพอย่างนอบน้อมและมีใครบางคนถอนตัวกลับไปรายงานด้วยความกลัวทันที
“มีแขกผู้มีเกียรติมาที่ดินแดนเรา ขออภัยที่ไม่สามารถต้อนรับท่านด้วยตนเองได้!”
หลังจากนั้นไม่นานชายวัยกลางคนก็เดินออกมาจากสันเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ผมของเขามีสีขาวเต็มไปด้วยสง่าราศี เบื้องหลังของเขามีชายหนุ่มและหญิงสาวหลาย 10 คนยืนอยู่
เย่ฟ่านประหลาดใจเป็นอย่างมาก คนผู้นี้เป็นไปตามที่นักพรตหลิงเป่ากล่าวไว้ เขามีฐานการบ่มเพาะอยู่ในอาณาจักรแปลงมังกรจริงๆ!
……….