นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 584 - ยังไม่จบง่าย ๆ!
เดวิดในตอนนี้เรียกได้ว่าหมดสภาพแล้วจริง ๆ เขาหยิบขวดเซรั่มฟื้นฟูฉุกเฉินเกือบทั้งหมดที่มีมากรอกใส่ปากอย่างไม่มีทางเลือกอื่น ก่อนจะนั่งขัดสมาธิเพื่อสำรวจร่างกายของตัวเองอย่างละเอียด สีหน้ากลายเป็นมืดครึ้มขึ้นมาทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังแปลกปลอมที่ยังปะปนแทรกซึมอยู่ในแทบเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย มันเจือจางจนแทบจะสังเกตไม่ได้ แต่มันมีอยู่จริง ๆ
มันเป็นเหมือนกับยาพิษที่ไม่ใช่ยาพิษ! มันไม่ได้ส่งผลร้ายกับร่างกายทางด้านอื่นเลย ยกเว้นป้องกันไม่ให้เดวิดฟื้นฟูอวัยวะใหม่ได้เท่านั้น เขายังสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของอวัยวะภายใน หรือบาดแผลเล็ก ๆ น้อยได้อย่างไม่มีปัญหา แต่การสร้างแขนขึ้นมาใหม่ข้างหนึ่ง มันต้องกระตุ้นความทรงจำออกมาจากแผนที่ทางพันธุกรรมที่อยู่ในร่างกาย และดูเหมือนว่าเดวิดจะทำอย่างนั้นไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
สิ่งที่แอลลิสันกล่าวออกมาไม่ใช่เป็นเพียงแค่คำขู่ลอย ๆ ถ้ายังจัดการกับคลื่นพลังแปลกปลอมในร่างกายไม่หมด เขาจะกลายเป็นคนแขนด้วนไปตลอดชีวิต ถ้ากระตุ้นแผนที่พันธุกรรมให้แสดงผลออกมาไม่ได้ ไม่ใช่แค่การยกระดับขึ้นไปเป็นอาตมันเท่านั้น แค่จะผสานตัวเองเข้ากับร่างสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็จะกลายเป็นยากเย็นมากขึ้นกว่าเดิม 100 เท่า การปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ใช่เรื่องดี เดวิดไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคลื่นพลังของครึ่งเทพจะทำอะไรได้มากกว่าที่ตัวเองสัมผัสได้ในตอนนี้หรือไม่?
เขาใช้พลังงานที่ได้มาจากเซรั่มฟื้นฟูฉุกเฉินสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาปิดปากแผลที่ไหล่ขวาจนสามารถหยุดเลือดได้อย่างสมบูรณ์ คลื่นทำลายล้างถูกกระตุ้นออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อพยายามขจัดคลื่นพลังที่อยู่ในร่างกายออกไปให้ได้มากที่สุด และบีบพวกมันให้อยู่ที่ก้อนเนื้อใหม่ที่สร้างขึ้นมาเพียงจุดเดียวเท่านั้น นี่ช่วยระงับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นให้น้อยลงจนอยู่ในสภาพที่ทนรับเอาไว้ได้ไหว แต่ในตอนนี้ เดวิดแทบจะไม่เหลือพลังงานอยู่ในร่างกายอีกเลย
ยังขยับตัวได้! คลื่นสมองยังคงเพียงพอสำหรับการกระตุ้นใช้ทักษะต่าง ๆ เดวิดยังไม่คิดที่จะยอมแพ้ง่าย ๆ สมองเริ่มทำงานอย่างเคร่งเครียดอีกครั้งเพื่อหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เขาไม่คิดจะพาตัวเองในสภาพแบบนี้ไปให้ครึ่งเทพของตระกูลฮันเตอร์ช่วยขจัดคลื่นพลังแปลกปลอมให้แน่ มันไม่ต่างกับการพาตัวเองเข้าไปในถ้ำเสือบ่อจระเข้โดยไม่มีการเตรียมตัวก่อน ไม่เพียงแค่จะช่วยอาจารย์ไม่ได้เท่านั้น เขาก็จะกลายเป็นนักโทษไปด้วยอีกคนอย่างแน่นอน
จังหวะความคิดถูกขัดลง เดวิดเงยมองไปยังทิศทางหนึ่งด้วยสีหน้าที่แช่มชื่นขึ้นเล็กน้อย ทางรอดมาถึงแล้ว อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะพอให้พื้นฟูพลังงานในร่างกายจนเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น เขาหวังว่านี่คงจะไม่ใช่เหยื่อที่ล่าได้ยากลำบากเกินไปนัก พลังที่เหลืออยู่คงจะพอสังหารได้ทั้ง 4 คน ถ้าไม่ใช่ระดับร่างสมบูรณ์ที่ก้าวเท้าแตะเข้าไปถึงระดับอาตมันอย่างทายาทของตระกูลใหญ่ทั้ง 3 คนที่เพิ่งเจอมา
สีหน้าของเดวิดเปลี่ยนเป็นมืดดำลงทันตาเมื่อสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ระบุได้ว่าคลื่นพลัง 4 จุดที่กำลังพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วเป็นใคร พวกนั้นไม่ใช่เหยื่อ แต่เป็นนักล่าที่ตามล่าเขาอยู่ต่างหาก นายน้อยอลัน อฮาลี การ์ดอฟ และแม้แต่ธีล่า ทั้งหมดอยู่กันพร้อมหน้า นายน้อยของตระกูลเคียร์รินไม่ใช่ปัญหาใหญ่นัก แต่แม่สาวธีล่านั่น เดวิดไม่แน่ใจจริง ๆ ว่าจะเอาชนะได้ ไม่ใช่ด้วยสภาพแบบนี้เลย
เขานั่งรออยู่ที่ก้นหลุมรัศมี 1 กิโลเมตรอยู่อย่างเงียบ ๆ ใช้สมาธิทั้งหมดกับการวางแผนและหมุนเวียนคลื่นสมองให้ปกคลุมไปทั่วร่างกาย ทักษะท่องสายลมถูกกระตุ้นใช้ขึ้นมาเป็นอย่างแรก ด้วยร่างกายที่เบาขึ้นจนแทบจะไร้น้ำหนัก แม้ว่าจะเหลือแรงอยู่ไม่มากนัก เดวิดคิดว่าตัวเองยังจะเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วพอสมควร
ตูม!!
เสียงระเบิดดังขึ้น ฝุ่นควันคละคลุ้งออกมาจากจุดที่คนทั้ง 4 ร่อนตัวลงบนพื้นห่างจากเดวิดประมาณ 500 เมตรอย่างไม่บันยะบันยัง สีหน้าของนายน้อยอลันบิดเบี้ยวมืดครึ้ม แววตานั่นเต็มไปด้วยโทสะที่เผาผลาญ นายน้อยของตระกูลเคียร์รินรู้ดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับสนามรบโบราณแห่งนี้ รอยแยกรอยแตกของมิติที่ปรากฏขึ้นอย่างมากมายในบริเวณนี้เป็นสัญญาณว่าโลกใบเล็กแห่งนี้กำลังจะพังทลายลง ภารกิจที่ตัวเองได้รับมอบหมายมาล้มเหลวลงอย่างไม่เป็นท่า และทั้งหมดนี่คือความผิดของเจ้าสาระเลวเดวิด ถ้าเขาได้รับกุญแจมาตั้งแต่ต้น ป่านนี้คงได้ครอบครองแก่นโลกและขับไล่ทุกคนออกไปจากสนามรบโบราณเรียบร้อยแล้ว สถานการณ์แบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด มันเป็นความผิดของเจ้าสาระเลวนั่นคนเดียว!
“นายน้อย! ใช่มันจริง ๆ เจ้าชั่วเดวิดอยู่ตรงนั้น!” เสียงอฮาลีดังขึ้นอย่างตื่นเต้น ในที่สุดความพยายามของพวกเขาก็ประสบผลสำเร็จ การฝืนพุ่งเข้ามาสู่จุดศูนย์กลางของการระเบิดออกของคลื่นพลังที่รุนแรงคราวนี้ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องจริง ๆ
“ดูเหมือนว่าเจ้านั่นจะได้รับบาดเจ็บหนักไม่เบา นายน้อย! คุณยังต้องการกุญแจอะไรนั่นอยู่อีกหรือไม่? สนามรบโบราณแห่งนี้ไม่มั่นคงอีกต่อไปแล้ว มันน่าจะสลายตัวได้ทุกเวลา พวกเราจะลงมืออะไรคงต้องระวังตัวกันไม่น้อยเลยทีเดียว!” การ์ดอฟกล่าวออกมาด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น เขาไม่รู้ว่ากุญแจนั่นเอาไว้ทำอะไร แต่ถ้ามันมีไว้สำหรับประตูที่อยู่ในสนามรบโบราณแห่งนี้ ดูเหมือนว่าต่อให้ได้มาก็คงไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก เวลาที่เหลืออยู่ไม่น่าจะพอสำหรับทำอะไรได้เลย รอยแยกมิติขยายขนาดอยู่อย่างช้า ๆ ก็จริง แต่เมื่อถึงจุดวิกฤต ความรวดเร็วในการขยายตัวจะเพิ่มขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อเลยทีเดียว
“ไม่เกี่ยวกับกุญแจแล้ว! ฉันต้องการจะจับมันกลับไปรับโทษที่ตระกูล จับมันไปให้ท่านพ่อลงโทษฐานที่มันขัดคำสั่งและอวดดีกับตระกูลเคียร์ริน แน่นอน! ถ้ามันขัดขืน ฉันจะสำเร็จโทษมันด้วยตัวเองตรงนี้เลย!!” เสียงตวาดออกมาของนายน้อยอลันแข็งกร้าวและเหี้ยมเกรียม คลื่นพลังอันรุนแรงก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาไม่พูดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ลงมือโดยไม่ปล่อยให้เสียงพูดของตัวเองจางหายไปเลยด้วยซ้ำ
ตึง!!!!!!!!
ระยะ 500 เมตรไม่มีความหมายอะไรทั้งสิ้น ประกายสีรุ้งพุ่งข้ามระยะห่างมาโดยใช้เวลาไม่เกินเสี้ยววินาที หมัดอันดุดันถูกปล่อยเข้ากระทบกับแขนซ้ายของเดวิดที่ยกขึ้นป้องกันเอาไว้อย่างเต็มที่ และนั่นส่งผลร่างของเขาลอยถอยหลังไปอย่างรุนแรง
พรวด!! แค๊ก! แค๊ก!
แม้จะพลิกตัวลงมายืนที่พื้นได้อย่างมั่นคง แต่เดวิดก็กระอักเลือดคำโตออกมา พร้อมกับเสียงไอที่แสดงถึงอาการบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรง เข่าทั้ง 2 ข้างสั่นเล็กน้อยเหมือนกับว่าแม้แค่การจะยืนนิ่งอยู่กับที่ก็แทบจะไม่ไหวแล้ว
“โอ้! นายน้อยผู้สูงศักดิ์ กล้าลงมือแล้วอย่างนั้นสินะ ไม่แปลก! ก็สภาพของฉันเป็นแบบนี้แล้ว นายน้อยคงไม่ได้ขี้ขลาดขนาดกลัวคนใกล้ตายแน่!” เขาเงยหน้าจ้องออกไปที่นายน้อยอลัน พร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยันเต็มอัตรา
“จะตายอยู่แล้ว ยังทำเป็นปากดีได้อีกนะ! ต่อให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบที่สุด แกก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันหรอก” นายน้อยหนุ่มคำรามสวนออกมา ก่อนที่ร่างจะกระพริบหายไปอีกครั้ง มันมาปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหลังของเดวิด พร้อมกับฝ่ามือที่ฟาดออกโดยมีท้ายทอยเป็นเป้าหมาย
ปัง!!! ตูม!!!!!
เดวิดยังเหลือแรงมากพอที่จะหลบเลี่ยง ก้มตัวเอามือซ้ายลงยันกับพื้นและพลิกตัวใช้ขาเตะฝ่ามือที่พุ่งเข้ามาให้ฟาดลงไปที่พื้นอย่างแรง เขาไม่กล้าใช้แขนซ้ายของตัวเองเข้าปะทะกับการโจมตีอีก มันเองก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีนักเลย หลังจากป้องกันได้สำเร็จ สิ่งที่ทำต่อมาคือส่งตัวเองยืดระยะออกห่างจากนายน้อยอลันให้ได้ไกลที่สุด แต่ทิศทางที่เขาเลือกคือเข้าใกล้กลุ่มของ 3 คนที่ยืนอยู่มากขึ้นเรื่อย ๆ
“ถึงแม้ว่าร่างกายของแกจะยังแข็งแกร่งอยู่เหมือนเดิม แต่จากความผันผวนของคลื่นพลังที่สัมผัสได้ แกในตอนนี้กระตุ้นแผนที่ยีนเพื่อเปลี่ยนร่างไม่ได้แล้ว น่าเสียดายจริง ๆ ฉันไม่มีโอกาสได้ทดสอบความแข็งแกร่งของมนุษย์หมาป่าเสียแล้ว” นายน้อยอลันที่ขยับตัวขึ้นมายืนอย่างมั่นคงอีกครั้งส่งเสียงเย้ยหยันออกมา
เดวิดไม่ตอบโต้! สมองและสมาธิของเขากำลังถูกใช้อยู่กับอย่างอื่น ไม่มีเวลาที่จะมาเจรจาไร้สาระแบบนี้ แขนซ้ายถูกยกขึ้นป้องกันลูกเตะที่ส่งเข้ามาตามสัญชาตญาณ
ปัง!!!!
และอาศัยจังหวะนั้นส่งตัวเองให้ถอยหลังออกไปเรื่อย ๆ
ปัง!!!! ปัง!!!! ปัง!!!!!
สีหน้าของนายน้อยอลันกลายเป็นบิดเบี้ยวจนดูไม่ได้ เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายที่จะอยู่ในสภาพใกล้ตายจะยังปัดป้องการโจมตีอย่างต่อเนื่องของตนได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะระดมจู่โจมเข้าใส่อย่างบ้าคลั่งรวดเร็ว มันก็ไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมได้อีก นี่เป็นเรื่องที่รับไม่ได้เลยจริง ๆ
และนั่นทำให้นายน้อยแห่งตระกูลเคียร์รินไม่คิดจะยั้งมืออีกต่อไป ความเร็วของเขาเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมอีกเท่าตัว
ตึง!!!!!!!! พรวด!!!
หมัดขวาของนายน้อยอลันพุ่งทะลุผ่านการป้องกันเข้าไปกระแทกหน้าอกของเดวิดได้อย่างเต็มที่ ร่างที่ลอยละลิ่วราวกับว่าวสายป่านขาดกระอักเลือดออกมาคำโต ก่อนจะตกลงกระแทกพื้นอย่างแรง แต่เขาก็ยังยันตัวให้ลุกขึ้นมายืนได้?
ตึง!!!!!!!
ร่างที่ยังโซเซอยู่ของเดวิดถูกถีบเข้าอย่างเต็มที่กลางแผ่นหลัง มันเป็นเท้าของอฮาลีที่ส่งเขากลิ้งไปด้านหน้าอย่างหมดสภาพ พร้อมกับสียงหัวเราะที่ก้องดังออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ปากดีอีกสิเดวิด! ปากดีออกมาอีก!”....