ตอนที่ 36 ลู่ชางเฉิงปรากฏตัว
ตอนที่ 36 ลู่ชางเฉิงปรากฏตัว
บนพื้นผิวที่เป็นน้ำแข็ง การก้าวแต่ละครั้งของหลิวฮงหลวนเริ่มหนักหน่วงขึ้นขณะที่เธอแบกร่างของหลงเฟยมาเป็นระยะไกล ซึ่งทําให้เธอเริ่มหมดแรง
ทันใดนั้น หลิวฮงหลวนได้ล้มลงทำให้หลงเฟยทับร่างของเธอและกระแทกเข้ากับน้ำแข็ง
หลิวฮงหลวนนั้นตื่นตระหนกทันทีและกอดหัวของหลงเฟยเอาไว้ “หลงเฟย เจ้าเป็นยังไงบ้าง? ตอนนี้พวกเราเข้ามาในส่วนลึกของเทือกเขาวู่ชานแล้ว ลู่ชางเฉิงน่าจะอยู่ที่นี่แน่ๆ รีบตื่นขึ้นมาเร็วเข้า...”
แต่ไม่ว่าหลิวฮงหลวนจะเรียกดังแค่ไหน ก็ไม่มีวี่แววเลยว่าหลงเฟยจะฟื้นขึ้นมา
นอกจากนี้ ร่างของหลงเฟยก็เริ่มเย็นและผิวของเขาก็เริ่มซีดจนขาวราวกับกระดาษ
แม้ว่าเขาจะยังไม่ตาย แต่ถ้าหากยังเป็นแบบนี้ เขาก็จะตายเพราะความหนาวแทน
บนพื้นผิวที่เย็นยะเยือก ร่างของ "หน้ากากปีศาจ" ได้ปรากฏขึ้น
เขาดูไม่รีบร้อนและค่อยๆเดินเข้าหาหลิวฮงหลวนอย่างช้าๆ
เขามองไปรอบๆที่มีเกล็ดหิมะยังคงตกลงมาจากท้องฟ้า เขาเอื้อมมือไปคว้าเกล็ดหิมะเย็นๆนั้นมาไว้ในฝ่ามือของเขา
“หน้ากากปีศาจ” ถอนหายใจเบาๆ “เจ้าคิดว่าการที่เจ้าหนีเข้ามาที่นี่จะมีคนที่ช่วยเจ้าได้จริงๆงั้นรึ?”
"เจ้านั่นอยู่ที่ไหนล่ะ?"
หลิวฮงหลวนกัดฟันโดยที่กอดหัวของหลงเฟยไว้แน่นเพื่อทําให้เขาอบอุ่น
แต่เธอไม่ได้พูดอะไรสักคํา เธอทำเพียงแค่จ้องไปที่ "หน้ากากปีศาจ" ด้วยความโกรธแค้น
"เจ้าไม่คิดจะพูดสินะ"
“ช่างมัน ในเมื่อเจ้ามาถึงที่นี่ เจ้าก็คงไม่สามารถวิ่งหนีได้อีกต่อไป ถ้าคนที่คุณกําลังตามหาไม่อยู่ที่นี่ ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปอีกแล้ว”
“หน้ากากปีศาจ” ค่อยก้าวมาข้างหน้าทีละก้าว
อาวุธของเขาค่อยๆปรากฏขึ้นซึ่งเขาคิดที่จะฆ่าหลิวฮงหลวนและหลงเฟยไปพร้อมๆกัน
สิบก้าว เก้าก้าว แปดก้าว เจ็ดก้าว หกก้าว ห้าก้าว...
ในขณะนี้ "หน้ากากปีศาจ" อยู่ห่างจากหลิวฮงหลวนและหลงเฟยเพียงห้าก้าวเท่านั้น
ทันใดนั้น “หน้ากากปีศาจ” ก็หยุดลง ราวกับว่ากําลังรออะไรบางอย่าง
สายลมยังคงพัดพาและมีเกล็ดหิมะที่ลอยตกลงมาจากบนท้องฟ้า
หลิวฮงหลวนเริ่มรู้สึกเย็นและตัวสั่นไปทั้งร่าง
หลังจากที่รออยู่นาน "หน้ากากปีศาจ" จึงถอนหายใจเบาๆ "ดูเหมือนว่าไม่มีใครอยู่ที่นี่จริงๆ"
“เจ้าเองก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อมาที่นี่ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครมาช่วยเจ้าเลย”
"ถ้าเป็นอย่างนั้น ข้าจะทำให้เจ้าไม่ต้องทรมานอีกต่อไป"
วินาทีถัดมา "หน้ากากปีศาจ" ได้ยกอาวุธในมือของเขาขึ้น
หลิวฮงหลวนกอดร่างของหลงเฟยไว้แน่นขณะที่กำลังรอความตายคืบคลานเข้ามา
วิ้ววว...
สายลมยังคงพัดอย่างรุนแรง
แต่ถงึอย่างนั้น ความตายก็ยังไม่มาหาเธอ
หลิวฮงหลวนลืมตาขึ้นและมองไปที่ "หน้ากากปีศาจ"
“หน้ากากปีศาจ” ยังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยมีอาวุธอยู่ในมือ แต่ทิศทางอาวุธของเขานั้นได้เปลี่ยนไปที่อื่น
สายตาของ "หน้ากากปีศาจ" นั้นมองผ่านหลิวฮงหลวนและหลงเฟยไปยังด้านหลังของพวกเขา
จู่ๆหลิวฮงหลวนก็หันหน้าไป
ทันใดนั้น เธอก็เริ่มตัวสั่น แต่มันไม่ได้เกิดจากความหนาวเย็น แต่เกิดจากความตื่นเต้น
เธอเห็นร่างที่คุ้นเคยค่อยๆเดินเข้ามาทีละก้าว
"ลู่ชางเฉิง..."
การจ้องมองของลู่ชางเฉิงนั้นจ้องไปที่ "หน้ากากปีศาจ" ทันที
"นี่เจ้าทําร้ายหลงเฟยงั้นรึ?"
"ใช่ ข้านี่แหละที่ทําให้มันบาดเจ็บสาหัสแบบนี้"
“เจ้าทําร้ายหลงเฟยแต่ไม่ได้ฆ่าเขาแบบนี้ แสดงว่าเจ้าจะใช้เขาเพื่อล่อให้ข้าออกมาสินะ?”
“หน้ากากปีศาจ” พยักหน้า “ถ้าเจ้าฆ่าเชินหลุน ก็แสดงว่าข้าก็กําลังตามหาเจ้าอยู่”
ลู่ชางเฉิงเงียบลงเพราะเรื่องที่เขาฆ่าเชินหลุนนั้นคือเรื่องจริง
ในขณะเดียวกัน หลิวฮงหลวนได้เตือนเขาว่า “น้องลู่ คนๆนี้คือ”หน้ากากปีศาจ“ที่เป็นเจ้านายของเชินหลุน ที่หลงเฟยเคยพูดเอาไว้ เขาคือ”หน้ากากปีศาจ เฉินซานหนี่“ซึ่งเป็นหนึ่งในนักศิลปะการต่อสู้ชั้นนํา เจ้าจะต้องระวังตัวให้ดีเพราะคนๆแข็งแกร่งกว่าเชินหลุนมากนัก”
ลู่ชางเฉิงพยักหน้า แต่ใบหน้าของเขายังคงนิ่งสงบก่อนที่เขาจะพูดอย่างใจเย็น "ดูเหมือนว่าหลงเฟยจะเคยพูดแบบนั้นจริงๆ"
“แต่การที่เชินหลุนคนนั้นไม่สามารถฆ่าหลงเฟยที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ แสดงว่าความแข็งแกร่งของเจ้าก็คงจะไม่ต่างจากไอ้โง่นั่นสักเท่าไหร่สินะ?”
“หน้ากากปีศาจ” โดนลู่ชางเฉิงดูถูกทันที
หลังจากนั้น ลู่ชางเฉิงค่อยๆคว้ากริชในมือของเขาด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง เขาพูดว่า "ครั้งนึง ข้าเองก็เคยฆ่าคนที่เกือบจะเข้าไปอยู่ในขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ได้อยู่คนหนึ่ง"
"ข้าอยากรู้จริงๆว่าจะแข็งแกร่งกว่าเขารึเปล่า?"
“หน้ากากปีศาจ” เลิกคิ้วและเยาะเย้ย “เฮอะ แสดงว่าไอ้โง่นั่นมันไม่ได้เกือบจะเข้าไปอยู่ในขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์จริงน่ะสิ”
"อย่างนั้นเหรอ"
จู่ๆลู่ชางเฉิงก็ยิ้ม “จริงสิ ถ้าจำไม่ผิด ดูเหมือนว่าเจ้านั้นจะมีฉายาว่า”ราชาดาบใหญ่“ด้วยนะ เจ้ารู้จักเจ้านั่นรึเปล่าล่ะ?”
"อย่าบอกนะว่าเจ้ากำลังพูดถึง 'ราชาดาบใหญ่' หลี่จีน่ะ?!"
ท่าทีของ "หน้ากากปีศาจ" เปลี่ยนไปทันที
เขาคิดว่าสิ่งที่ลู่ชางเฉิงพูดนั้นบ้าบอสิ้นดี
“ราชาดาบใหญ่” หลี่จีซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจะถูกฆ่าโดยนักศิลปะการต่อสู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาได้ยังไงกัน?
แต่เมื่อสีหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนไป ลู่ชางเฉิงจึงชิงความได้เปรียบทันที
เขากำลังรอจังหวะนี้อยู่!
แม้แต่นักศิลปะการต่อสู้อย่าง "หน้ากากปีศาจ" ก็ยังต้องสั่นคลอนเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของลู่ชางเฉิง
แกร๊ก!
กริชในมือของลู่ชางเฉิงถูกดึงออกมาอย่างรวดเร็ว
วิชาสังหารเร็วของเขากำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!
ในขณะที่กริชถูกชักออกมาจากฝัก ลู่ชางเฉิงได้พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วและปรากฏตัวต่อหน้า "หน้ากากปีศาจ"
ในขณะนี้ "หน้ากากปีศาจ" มีความรู้สึกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แย่แล้ว!
นี่มันเร็วเกินไปแล้ว!
ความเร็วของลู่ชางเฉิงนั้นเร็วมากจนเขาเองก็แทบจะมองตามไม่ทัน
ทันใดนั้น “หน้ากากปีศาจ” ได้ยกมือขึ้นอย่างรวดเร็วและปล่อยอาวุธมืดออกมาเป็นจํานวนมาก
“หน้ากากปีศาจ” นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธมืด
และความแม่นยําของเขานั้นแทบจะไม่มีใครเทียบได้และเขาเองก็ไม่เคยโจมตีเป้าหมายพลาด
เมื่อ "หน้ากากปีศาจ" ปลดปล่อยอาวุธมืดออกมาปกคลุมทั่วท้องฟ้า เมื่อเป็นราวกับตาข่ายขนาดใหญ่ที่ห่อหุ้มร่างของลู่ชางเฉิงเอาไว้
อาวุธมืดที่อัดแน่นเหล่านี้เป็นการโจมตีแบบไร้การควบคุม ซึ่งทําให้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ลู่ชางเฉิงจะหลบเลี่ยงพวกมันได้
แต่ถึงอย่างนั้นลู่ชางเฉิงก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขารีบยกกริชในมือขึ้น
แก๊ง แก๊ง แก๊ง!
อาวุธมืดที่พุ่งเข้ามานั้นไม่สามารถทำลายการโจมตีจากกริชของลู่ชางเฉิงได้แม้แต่น้อย
อาวุธมืดนั้นค่อยๆตกลงมาจากพื้นทีละชิ้น
แต่หลังจากนั้น "หน้ากากปีศาจ" ก็ได้เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว
ในช่วงเวลาที่เขาปลดปล่อยอาวุธมืดออกมา "หน้ากากปีศาจ" ไม่ได้ล่าถอย แต่เขาก้าวไปข้างหน้าโดยที่กวัดแกว่งดาบในมือของเขาด้วยเช่นกัน
และทันใดนั้น เขาก็ไปปรากฏตัวต่อหน้าลู่ชางเฉิงในพริบตา
แก๊งงง!!
ดาบของเขาถูกทำให้กระเด็นออกไป
เร็วมาก!!
ดาบของ "หน้ากากปีศาจ" นั้นมีความเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งมันเร็วกว่าดาบของเชินหลุนด้วยซ้ำ
ผู้คนในโลกแห่งการต่อสู้รู้ว่า "หน้ากากปีศาจ" นั้นมีทักษะที่แข็งแกร่งด้านอาวุธมืด และเขาก็โจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าทักษะดาบของ "หน้ากากปีศาจ" นั้นน่ากลัวยิ่งกว่า
ดาบของเขาจะไม่ออกจากฝักนอกจากจะจวนตัวหรือว่าอยู่ในสถานการณ์ระหว่างความเป็นและความตายเท่านั้น
ใครก็ตามที่ได้เห็นเขาชักดาบมักจะต้องตาย!
ดาบของตอนนี้อยู่ห่างจากลู่ชางเฉิงเพียงนิ้วเดียวเท่านั้น
ในสถานการณ์แบบนี้ มีเฉพาะนักศิลปะการต่อสู้ที่อยู่เหนือขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่สามารถป้องกันมันได้
แม้แต่ลู่ชางเฉิงเองก็ยังไม่สามารถป้องกันได้ แม้ว่าเขาจะผ่านการเปลี่ยนเลือดและได้ฝึกฝนเทคนิคกระดูกหยกมาแล้วก็ตาม
ในขณะนี้ หลิวฮงหลวนถึงกับอ้าปากค้างด้วยใบหน้าของเธอที่แสดงความกลัวออกมา
ส่วน "หน้ากากปีศาจ" นั้นกำลังยิ่มร่าราวกับว่าเขากำลังจะตัดสินผลการต่อสู้ในอีกไม่ช้าได้
มันจบแล้ว!
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เมื่อดาบของเขาถูกชักออกมา ศัตรูคนนั้นจะต้องตายอย่างแน่นอน
แต่ถึงอย่างนั้น การแสดงออกของลู่ชางเฉิงก็ยังคงไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย
แม้แต่ "หน้ากากปีศาจ" เองก็รู้สึกเหมือนจะเห็นการเยาะเย้ยในแววตาของลู่ชางเฉิง
ในเมื่อเขากำลังจะตาย แล้วทําไมเขาถึงได้กล้าเยาะเย้ยเขาแบบนี้?
คนๆนี้มีสิทธิ์อะไรที่จะมาเยาะเย้ยเขาต่อหน้าแบบนี้ได้?
แต่หลังจากนั้น "หน้ากากปีศาจ" ก็เข้าใจทันที
ชิ้งง!
แสงสีขาววูบวาบสั้นๆปรากฎขึ้นและหายวับไป
ลู่ชางเฉิงยืนสงบนิ่งราวหลังจากที่เปลี่ยนท่าทางของเขาไปเล็กน้อย
แต่ดาบของ "หน้ากากปีศาจ" นั้นหยุดห่างจากลู่ชางเฉิงเพียงนิ้วเดียว
แม้จะเป็นระยะทางสั้นๆ แต่มันเป็นเหมือนกับหุบเหวที่เขาไม่สามารถผ่านไปได้
"นี่ไม่ใช่วิชาดาบงั้นรึ?..."
"หน้ากากปีศาจ" เริ่มพูดด้วยเสียงของเขาที่ค่อนข้างแหบ
“แค่ฆ่าเจ้าได้มันก็เพียงพอแล้ว ข้าน่ะไม่จำเป็นต้องใช้ดาบด้วยซ้ำ”
มือซ้ายของลู่ชางเฉิงนั้นถือกริชอยู่ แม้ว่าเขาจะจําไม่ได้ว่าเขาคว้ามันไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ตาม
แสงสีขาวที่ปรากฎขึ้นสั้นๆนั้นคือภาพสะท้อนของคมกริช
ในตอนนี้ บนคมกริชนั้นมีเลือดที่กำลังหยดลงบนพื้น
"ฉูดดดด"
"หน้ากากปีศาจ" ล้มลงกับพื้นทันทีที่เลือดกระฉูดออกมาจากคอ
แม้แต่ "หน้ากากปีศาจ" เองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขานั้นถูกโจมตีตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่สิ่งเดียวที่เขารู้ก่อนที่เขาจะหลับไปตลอดกาลก็คือ “เขาพ่ายแพ้ต่อนักศิลปะการต่อสู้ที่ไม่ได้ใช้ดาบ”