ตอนที่ 35 เข้าใกล้กระดูกหยก
ตอนที่ 35 เข้าใกล้กระดูกหยก
ภายในเทือกเขาวู่ชานนั้นมีขวากหนามอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง
หลิวฮงหลวนแบกร่างของหลงเฟยเอาไว้บนหลังของเธอด้วยเสื้อผ้า เท้าและมือของเธอถูกหนามทิ่มแทงจนทิ้งคราบเลือดเล็กๆ ไว้บนผิวขาวของเธอ แต่หลิวฮงหลวนนั้นไม่ได้สนใจอาการบาดเจ็บเลย
"แค่ก แค่ก"
หลงเฟยในตอนนี้กำลังอยู่ในอาการปางตายขณะที่เลือดยังคงหยดออกมาจากบาดแผลของเขา
แต่หลิวฮงหลวนนั้นไม่สามารถหยุดเพื่อดูแลอาการบาดเจ็บของเขาได้เพราะเธอไม่มีเวลามากพอ ถ้าเธอหยุด "หน้ากากปีศาจ" จะตามมาทันแน่ๆ
"หลงเฟย อย่าพึ่งหลับเชียวนะ..."
น้ำตาใสๆไหลออกมาจากดวงตาของหลิวฮงหลวน ก่อนที่หลงเฟยจะหมดสติไปนั้น เขายืนกรานให้เธอทิ้งร่างของเขาไว้และอย่าไปขอความช่วยเหลือจากลู่ชางเฉิง
หลงเฟยเองก็เคยได้ต่อสู้กับ "หน้ากากปีศาจ" มาแล้วหลายครั้ง แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บและถูกไล่ตามจนกระทั่งหลิวฮงหลวน ไปถึงเมืองวู่ชาน แต่ถึงอย่างนั้น "หน้ากากปีศาจ" ก็ยังไล่ตามพวกเขาอย่างไม่หยุดยั้งราวกับเงา
หลิวฮงหลวนได้วาดแผนที่ส่วนลึกของเทือกเขาวู่ชานด้วยตัวเอง ดังนั้นเธอจึงจําตําแหน่งของภูเขาน้ำแข็งได้ ตอนนี้เธอทําได้แค่ภาวนาให้ลู่ชางเฉิงยังอยู่ที่นั้นเท่านั้น มิฉะนั้นชะตากรรมของพวกเขาจะต้องถูกปิดตายในครั้งนี้
"หน้ากากปีศาจ" ยังคงติดตามหลิวฮงหลวนมาอย่างติดๆ อันที่จริง เขาสามารถไล่ตามทันเธอได้ แต่เขาเลือกที่รักษาระยะแทน
เป้าหมายของเขาคือการตายหานักศิลปะการต่อสู้ที่ช่วยหลงเฟยฆ่าเชินหลุน
"นักศิลปะการต่อสู้ที่ฆ่าเชินหลุนนั้นซ่อนตัวอยู่ในส่วนลึกของเทือกเขาวู่ชานงั้นรึ?"
“ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนั้น ข้าคงไม่ได้พบกับมันแน่ๆ”
“หนีเข้าไป หนีเข้าไปซะ ไปตามหาคนที่สามารถช่วยพวกเจ้าให้ได้!!”
“เมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้ตายพร้อมกันด้วยมือข้าเอง!”
"หน้ากากปีศาจ" พึมพํากับตัวเองด้วยเสียงต่ำๆ เขาแค่ต้องการจับพวกเขาทั้งหมดให้ได้ ส่วนนักศิลปะการต่อสู้ที่ฆ่าเชินหลุนนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็ไม่ได้สนใจ เพราะแม้แต่หลงเฟยก็ยังไม่สามารถฆ่าเขาได้ และจะมีใครที่แข็งแกร่งไปกว่าหลงเฟยได้อีก?
“หน้ากากปีศาจ” นั้นกำลังอยู่ในความสันโดษเพื่อพยายามทะลวงเข้าไปในขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่เขาไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ก่อนหน้านี้
ภายในส่วนลึกของเทือกเขาวู่ชาน ยิ่งพวกเขาเข้าไปมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งเย็นลงเท่านั้น หลิวฮงหลวนแบกร่างของหลงเฟยไว้บนหลังของเธอ แม้ว่าเธอจะเป็นนักศิลปะการต่อสู้ก็ตาม แต่เธอก็อยู่ในขอบเขตการแบ่งเบากระดูกเท่านั้น
ในที่สุด เมื่อหลิวฮงหลวนกำลังจะหมดแรง จู่ๆเธอก็ตัวสั่นไปทั้งร่าง จากนั้นเธอก็เห็นภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ไม่ไกลตรงหน้า
"ภูเขาน้ำแข็งนั่น ใช่ภูเขาน้ำแข็งจริงๆด้วย..."
หัวใจของหลิวฮงหลวนนั้นเริ่มกลับมามีแรงอีกครั้ง ถ้าหากลู่ชางเฉิงอยู่ในนั้น บางทีพวกเขาอาจจะรอดไปได้!
ดังนั้น ด้วยพลังเฮือกสุดท้าย หลิวฮงหลวนจึงแบกร่างของหลงเฟยที่หมดสติและมุ่งหน้าไปยังภูเขาน้ำแข็ง
...
"เทคนิคการแบ่งเบากระดูกสุริยันระดับสมบูรณ์แบบ ค่าความเข้าใจ +5"
ข้อความเล็กๆปรากฏขึ้นตรงหน้าของลู่ชางเฉิง
"หือ?"
“เทคนิคการแบ่งเบากระดูกนี่เป็นเทคนิคระดับที่ห้างั้นรึ? ก่อนหน้านี้ เทคนิคการแบ่งเบากระดูกทั้งหกแบบนั่นเป็นเทคนิคระดับสี่ทั้งหมดนี่นา”
“แสดงว่าข้าเรียนรู้เทคนิคการแบ่งเบากระดูกทั้งเจ็ดเสร็จได้ภายในเวลาเพียงแค่ครึ่งเดือนสินะ...”
แม้แต่ลู่ชางเฉิงเองก็ประหลาดใจกับความเร็วของการฝึกฝนเทคนิคการแบ่งเบากระดูกของเขาในตอนนี้มาก
แต่เมื่อเขาคิดได้ว่าเขามีค่าความเข้าใจเกิน 300 แต้ม ศิลปะการต่อสู้ส่วนใหญ่จึงไม่ยากสําหรับเขาอีกต่อไป ด้วยการมุ่งสมาธิเพียงเล็กน้อย เขาก็สามารถเข้าใจแก่นแท้ของพวกมันได้ และเมื่อเขาเข้าถึงใจแก่นแท้แล้ว การฝึกนั้นก็ต้องใช้พลังที่จริงจัง ซึ่งทำให้เขาฝึกได้สำเร็จอย่างรวดเร็ว
ยิ่งไปกว่านั้น ลู่ชางเฉิงมีผงบำรุงกระดูก 9 ชนิดอยู่อีกมาก ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลว่าเขาจะขาดแคลนผงบำรุงกระดูก 9 ชนิด
ในเวลาเพียงครึ่งเดือน เขาได้เสร็จสิ้นเทคนิคการแบ่งเบากระดูกถึงเจ็ดอย่าง
แต่ถึงอย่างนั้น กระดูกของลู่ชางเฉิงก็ยังไม่ได้รับการขัดเกลาจนถึงระดับไขกระดูก และยังไม่สามารถเข้าถึง "กระดูกหยก" ได้
“ไม่เป็นไร ถึงแม้จะไม่มีเทคนิคการแบ่งเบากระดูก แต่ข้าก็ยังมีวิชาเก้าสายฟ้ากลั่นกายา”
"ซึ่งการฝึกเก้าสายฟ้ากลั่นกายานั้นถือว่าให้ผลดีมาก"
ลู่ชางเฉิจึงตัดสินใจลองอีกครั้ง โดยการเริ่มฝึกวิชาเก้าสายฟ้ากลั่นกายา
"หลิน!"
ลู่ชางเฉิงเริ่มพูดตัวอักษรทั้งเก้า ซึ่งเสียงของเขาทําให้เกิดการสั่นสะเทือนไปทั่วกระดูกของเขา
พื้นผิวและเนื้อในของกระดูกนั้นสั่นสะท้านเมื่ออักษรของเก้าสายฟ้ากลั่นกายา ดังก้องอยู่ในกระดูกของเขา
หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง...
ลู่ชางเฉิงจมอยู่กับการสั่นสะเทือนของกระดูกในร่างกายอย่างสมบูรณ์ ราวกับว่าเขาสามารถเห็นบางสิ่งที่อยู่ในกระดูกของเขาได้
ซึ่งนั่นก็คือไขกระดูก!
"บู้มมมม"
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ลู่ชางเฉิงรู้สึกว่าการสั่นสะเทือนบางอย่างที่เกิดจากวิชาเก้าสายฟ้ากลั่นกายาได้ทะลวงชั้นกระดูกของเขา และส่งผลกระทบต่อไขกระดูกทันที
ทันใดนั้น ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ซึ่งความเจ็บปวดนี้ดูเหมือนจะไปถึงแผ่ไปถึงจิตวิญญาณของเขา จนแทบทนไม่ไหว
เขารีบออกจาก "ความรู้สึก" ที่แปลกประหลาดนั้นทันที
"นี่มันต้องเป็นเพราะการแบ่งเบาไขกระดูกแน่ๆ!"
ลู่ชางเฉิงเข้าใจทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น
วิชาเก้าสายฟ้ากลั่นกายามาถึงขั้นไขกระดูกแล้ว ซึ่งไขกระดูกนั้นเป็นแกนกลางของกระดูกซึ่งยังทําหน้าที่เป็นอวัยวะที่สร้างเลือดอีกด้วย แม้ว่ามันจะมีความสําคัญแต่มันก็เปราะบางมาก ด้วยแรงเพียงเล็กน้อยก็สามารถทําลายมันได้แล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น ลู่ชางเฉิงกลับมีความสุขมากที่เขาได้มาถึงขั้นไขกระดูกแล้ว! ซึ่งนี่คือระดับสูงสุดของขอบเขตการแบ่งเบากระดูก!
ตอนนี้ร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ และในด้านคุณสมบัติทางกายภาพของเขาก็ดีขึ้นอย่างมากเช่นกัน ทั้งความแข็งแกร่ง ความเร็วในการตอบสนอง และอื่นๆของเขาล้วนได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมาก
แม้แต่วิชาสังหารเร็วของเขา ก็จะเร็วและทรงพลังขึ้นกว่าเดิมมาก
จากนั้นลู่ชางเฉิงจึงเปิดแผงคุณลักษณะของเขาเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกายของเขาทันที
โฮสต์ : ลู่ชางเฉิง
ค่าความเข้าใจ : 367 ((มีศักยภาพมาก)
เทคนิคการแบ่งเบากระดูกสุริยัน ระดับสมบูรณ์แบบ
เก้าสายฟ้ากลั่นกายา : ระดับเชี่ยวชาญ
ลู่ชางเฉิงดูค่าความเข้าใจบนแผงคุณสมบัติของเขาซึ่งตอนนี้มันมากถึง 367 แต้มและอยู่ไม่ไกลเพื่อไปถึง 400 แต้ม ซึ่งนี่เป็นผลจากเทคนิคการแบ่งเบากระดูกทั้งเจ็ดอย่าง
บางที เนื่องจากค่าความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนี้ เขาจึงประสบความสําเร็จในการฝึกเก้าสายฟ้ากลั่นกายาด้วย
“ก่อนหน้านี้ หลังจากที่ผ่านการแลกเปลี่ยนเลือด คุณสมบัติทางกายภาพของข้าได้รับการพัฒนามากอยู่แล้ว”
“และตอนนี้ ด้วยเทคนิคการแบ่งเบากระดูกนั้นทำให้คุณสมบัติทางกายภาพของข้าเพิ่มขึ้นอย่างมากอีกครั้ง”
“ดูเหมือนว่าข้ากำลังจะเข้าใกล้ระดับกระดูกหยกแล้ว และต่อไปก็คือขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะ!”
ลู่ชางเฉิงไม่ได้ให้ความสนใจกับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของเขามากนัก ด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเขา แม้ว่าหลังจากการแลกเปลี่ยนเลือดจะเสร็จสิ้นและเข้าใกล้ระดับกระดูกหยก เขาก็นึกภาพไม่ออกเลยว่าจะมีใครที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังสูสีกับเขาได้
สิ่งที่สำคัญมากที่สุดของเขาในตอนนี้คือการฝึกศิลปะการต่อสู้ของเขาและมุ่งมั่นที่จะไปถึงขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ให้ได้โดยเร็วที่สุด
"ถึงเวลาแล้วที่ข้าควรจะออกจากเทือกเขาวู่ชานไป..."
ลู่ชางเฉิงพอใจมากกับการเดินทางในครั้งนี้ เขาใช้เวลากว่าหนึ่งเดือนอยู่ในส่วนลึกของเทือกเขาวู่ชาน และด้วยเวลาเพียงสองเดือน เขาได้เข้าใกล้ระดับกระดูกหยกจนเกือบสำเร็จแล้ว ทำให้เขาไม่จําเป็นต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เย็นยะเยือกอีกต่อไป
"ตุ้บบ"
ทันใดนั้น ก็มีเสียงอันแผ่วเบาดังมาจากภายนอก
"มีคนเข้ามาที่นี่งั้นรึ?"
"ฟุ่บบ"
ร่างของลู่ชางเฉิงเริ่มสั่นไหวและเขาก็ออกไปจากที่ๆเขาอยู่อย่างเงียบๆ