ตอนที่แล้ว1330 - ของขวัญตอบแทน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1332 - จุดเริ่มต้นและจุดจบ

1331 - เจ้ากลับมาแล้ว


1331 - เจ้ากลับมาแล้ว

ดินแดนลับของหลิงเป่าตั้งอยู่ในภูเขาเก่อเจา ในสมัยโบราณสถานที่แห่งนี้มีเพียงยอดฝีมือระดับสูงเท่านั้นถึงจะเข้ามาพักผ่อนได้ ผู้บ่มเพาะระดับต่ำจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามา

แต่ทุกวันนี้โลกนั้นแตกต่างไปจากเดิม แทบไม่มีเงื่อนไขสำหรับการฝึกฝนบนโลก ดังนั้นสถานที่หวงห้ามของภูเขาเก่อเจาในปัจจุบันจึงมีเพียงดินแดนลับบางแห่งเท่านั้นที่ถูกกันไม่ให้ลูกศิษย์ภายนอกเข้าไป

ดินแดนลับหลิงเป่านั้นมีเส้นรอบวงไม่กี่ลี้ ถูกแยกออกจากโลกภายนอกด้วยค่ายกลลึกลับ แต่ทุกสิ่งยังคงรักษาบรรยากาศเดิมตั้งแต่โบราณเอาไว้

หลิงซานอุดมสมบูรณ์มาก มีน้ำไหลเชี่ยว ต้นไม้ที่แข็งแรง และกลิ่นแห่งความบริสุทธิ์

เป็นเวลาหลายทศวรรษที่เย่ฟ่านไม่ได้มาเยือนภูเขาแห่งนี้ ในอดีตเขามาที่นี่ในฐานะนักท่องเที่ยว แต่ในปัจจุบันเขาได้รับการยกย่องเป็นผู้วิเศษระดับสูง

ที่นี่ไม่มีผู้คนมากนัก เพราะพลังทางจิตวิญญาณมีจำกัดจึงเป็นไปได้ที่จะให้คนจำนวนมากมาฝึกฝนที่นี่ด้วยกัน แต่ทุกคนที่มีโอกาสเข้าไปข้างในล้วนเป็นคนสำคัญทั้งสิ้น

พวกเขาให้ความเคารพต่อเย่ฟ่านมาก มีความประสงค์ให้เย่ฟ่านมาบรรยายเต๋าที่สูงส่งนั่นก็เพราะเต๋าในโลกนี้ถูกทำลายไปแล้วจึงไม่มีใครสามารถฝึกฝนได้แข็งแกร่งเหมือนเย่ฟ่านอีก

เย่ฟ่านประหลาดใจ ในอดีตสำนักหลิงเป่ามีผู้มีอำนาจเช่นเก่อหง ทำไมตอนนี้ถึงอยู่ในสภาพเช่นนี้?

เขาไม่พบร่องรอยใดๆ ของเก้าญาณวิเศษลึกลับ

คำถามมากมายเกิดขึ้นในใจ เขาอดไม่ได้ที่ถามเรื่องนี้ออกไป

นักพรตหลิงเป่าถอนหายใจเบาๆ และบอกทุกสิ่งที่เขารู้ให้ฟัง

แก่นแท้ของโลกที่เหือดแห้งไม่เหมาะสำหรับการฝึกฝนอีกต่อไป ผู้มีอานาจจากทุกสำนักเลือกที่จะเดินทางไกล พวกเขาไม่รู้ว่าต้องไปที่ไหน

ในตอนนั้น ก็ยังมีผู้มีอำนาจอันยิ่งใหญ่หลงเหลืออยู่บ้าง แต่เมื่อพวกเขาจากไป มรดกจำนวนมากก็ถูกหยิบติดมือของพวกเขาไปด้วย

เย่ฟ่านตกใจเป็นอย่างมากเมื่อรู้เรื่องนี้ สาเหตุที่ความแข็งแกร่งของผู้บ่มเพาะในโลกนี้เสื่อมทรามลงอย่างมากไม่เพียงเพราะปราณสวรรค์พิภพที่เบาบางอย่างยิ่ง แต่ยังเป็นเพราะมรดกที่แท้จริงของพวกเขาสูญหายไปด้วย

“สำนักอื่นเป็นเช่นนี้หรือเปล่า?”

“ใช่ เมื่อปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ของเราหายไป มรดกทั้งหมดก็จะสูญหายไปด้วย หลายสำนักจึงถูกทิ้งร้างและต้องบ่มเพาะอย่างไรทิศทาง” นักพรตหลิงเป่าถอนหายใจ

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติซึ่งน่าจะอยู่ในขอบเขตเซียนเทียมขั้นสองของโลกต่างหายตัวไปจนหมดสิ้น เมื่อพวกเขาหยิบคัมภีร์ประจำสำนักติดมือไปด้วยมันก็ยากที่ผู้คนรุ่นหลังจะค้นหาเส้นทางที่ถูกต้องได้

“สำนักหลิงเป่าได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง คัมภีร์ทั่วทั้งสำนักแทบไม่มีเหลืออยู่เลย ส่วนพวกที่ยังตกทอดมาจากยุคโบราณก็ใช้การไม่ได้ มันเป็นเพียงคำภีร์บ่มเพราะระดับต่ำเท่านั้น” นักพรตหลิงเป่าถอนหายใจอีกครั้ง

ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถถือเป็นผู้นำของโลกได้อีกต่อไป นั่นก็เพราะมรดกของพวกเขาสูญหายไปหมดแล้ว สิ่งที่พวกเขาบ่มเพาะไม่เพียงพอที่จะรักษาฐานอำนาจได้

ที่ผู้คนจากสำนักหลิงเป่าทำได้ในตอนนี้มีเพียงการปกป้องดินแดนบรรพชนของตัวเองเพื่อไม่ให้ถูกศัตรูยึดครองเท่านั้น

โชคดีที่ในสำนักหลิงเป่าก็ยังมียอดฝีมืออาอาวุโสที่ไม่ได้จากไปไหน

แม้ว่าสำนักหลิงเป่าจะไม่มีวิชาฝีมือเหลืออยู่แล้ว แต่ผู้อาวุโสเหล่านั้นยังพอจะรวบรวมความทรงจำของตัวเองและถ่ายทอดเป็นเนื้อหาของคัมภีร์ที่ไม่สมบูรณ์แบบออกมาได้

“ทุกวันนี้ยังมีคนแบบนั้นอยู่หรือเปล่า?” เย่ฟ่านถาม

“มีเพียงไม่กี่คน เมื่อยี่สิบปีที่แล้วเก้ามังกรลากโลงศพตกลงมาบนไท่ซานและทำให้ผู้บ่มเพาะทั่วโลกตื่นตระหนก ในตอนนั้นผู้มีอำนาจคนสุดท้ายของภูเขาหลงหู่ได้ออกจากแท่นบูชาเพื่อต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตจากเผ่าพันธุ์อสูร น่าเสียดายที่เขาเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน เขาเป็นผู้สูงสุดคนสุดท้ายของโลก”

“ที่แท้เขาก็คือนักพรตอาวุโสจากภูเขาหลงหู่”

เย่ฟ่านเคยได้ยินหยางเซียวพูดถึงเรื่องนี้ สถาบันวิจัยทางการแพทย์เองก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะช่วยชีวิตของนักพรตผู้เฒ่า แต่ก็ล้มเหลว

นี่คือชายชราที่มีอายุมากกว่าสองพันปี น่าเสียดายที่เขาต้องจากโลกนี้ไปอย่างเจ็บปวด

เย่ฟ่านมาถึงดินแดนลับหลิงเป่า เขาอยากจะถามเกี่ยวกับเรื่องของเก้าญาณวิเศษลึกลับทั้งหมด เขาต้องการรู้มันให้ได้ เนื่องจากเย่ฟ่านได้เลือกเส้นทางที่จะบรรลุเต๋าใหม่แล้ว จุดเริ่มต้นของเขาก็คือการรวบรวมเก้าญาณวิเศษลึกลับให้ครบเสียก่อน

นักพรตหลิงเป่ายิ้มอย่างขมขื่น เขาเคยได้ยินเรื่องนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตามตัวเขาเป็นเพียงลูกศิษย์จากสายที่ไม่ได้รับความสนใจของสำนักหลิงเป่า

ว่ากันว่าทักษะเหล่านี้ถูกถ่ายทอดให้กับลูกศิษย์สายตรงของเก่อหงเท่านั้น

เย่ฟ่านผิดหวังอย่างมาก ในตอนสุดท้ายของยุคสิ้นสุดธรรม ไม่เพียงแต่แก่นแท้ของสวรรค์พิภพที่แห้งเหือด แต่ยังรวมไปถึงมรดกโบราณที่สูญหายไปด้วย

นักพรตหลิงเป่ามีขอบเขตพลังแทบจะทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแปลงมังกรได้แล้วเขาถือเป็นหนึ่งในยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกนี้

หากอยู่ในเป่ยโต้วเย่ฟ่านเชื่อมั่นว่าชายชราที่อยู่ตรงหน้าจะต้องไปถึงขอบเขตเซียนเทียมขั้นสามเป็นอย่างน้อย

ดินแดนลับแห่งนี้มีความบริสุทธิ์ของพลังปราณอย่างมาก แม้ว่ามันจะมีปราณสวรรค์พิภพเพียงเล็กน้อยแต่ก็ยังทำให้เสี่ยวซงเกิดความมึนเมาจนต้องวิ่งไปรอบๆด้วยความกระตือรือร้น

“ข้ายังไม่ใช่ปรมาจารย์ระดับสูงจริงๆ ในโลกนี้ผมเคยเห็นผู้คนไม่น้อยที่เข้าสู่อาณาจักรแปลงมังกรแล้ว บางคนอยู่ในจุดสูงสุดของอาณาจักรแปลงมังกรด้วยซ้ำ”

ในยุคแห่งธรรมสิ้นสุดนี้นักพรตหลิงเป่าถือได้ว่ามีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก อายุของเขามากกว่าสองร้อยปี แม้ว่าเขาจะพยายามถ่อมตัวแต่คนผู้นี้ก็มีสถานะสูงส่งอย่างมากและไม่มีใครกล้าดูถูกเขา

“ผู้ยิ่งใหญ่ที่ออกจากภูเขาหลงหู่เมื่อยี่สิบปีที่แล้วดูเหมือนจะมาจากราชวงศ์ฉิน พลังของเขาไม่มีใครรู้ว่าแข็งแกร่งมากเพียงใด” นักพรตหลิงเป่ากล่าว

มีหลายสิ่งที่เย่ฟ่านสงสัยมาก คนที่มีปีกสีเทามาจากทางตะวันตก แม้แต่นักพรตโบราณในภูเขาหลงหู่ก็ไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้

เย่ฟ่านพูดออกไปว่า “บอกข้าหน่อยว่าทางทิศตะวันตกมีอะไรกันแน่ มันไม่ใช่เรื่องดีนักที่คัมภีร์โบราณและแท่นบูชาที่ถูกทิ้งไว้โดยผู้อาวุโสเผ่าพันธุ์มนุษย์จะถูกอสูรนำออกไป”

นักพรตหลิงเป่าตกใจเป็นอย่างมาก กลุ่มผู้อาวุโสที่เหลือก็มีสีหน้าซีดเซียวอย่างยิ่ง

เย่ฟ่านต้องการไปยังแดนตะวันตกเพียงลำพังหรือ?

พวกเขาไม่รู้เกี่ยวกับอสูรจากแดนตะวันตกมากนัก พวกเขารู้เพียงว่าที่นั่นเต็มไปด้วยอันตรายและแนะนำว่าเย่ฟ่านไม่ควรเดินทางไปที่นั่นอย่างเด็ดขาด

ก่อนที่เย่ฟ่านจะได้รับของขวัญ นักพรตหลิงเป่าได้นำคัมภีร์เล่มหนึ่งออกมาให้เย่ฟ่านศึกษาและพิจารณาดูว่าพอจะมีโอกาสในการสร้างคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์กลับคืนมาได้หรือไม่

เย่ฟ่านใช้เวลาศึกษามันเป็นเดือนๆ จนในที่สุดก็สามารถอนุมานข้อความที่ขาดหายไปในส่วนหลังของคัมภีร์ได้

แน่นอนว่ามันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเก้าญาณวิเศษลึกลับแม้แต่น้อย สุดท้ายเย่ฟ่านจึงมอบคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์ที่เขาอนุมานขึ้นมาคืนให้กับสำนักหลิงเป่า

แม้ว่าคัมภีร์นี้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเก้าญาณวิเศษลึกลับ แต่มันก็สามารถช่วยเหลือเย่ฟ่านทำให้เขามองเห็นเส้นทางการบ่มเพาะของผู้คนในยุคโบราณเพิ่มมากขึ้น

“คัมภีร์เล่มนี้มีพื้นฐานมาจากคัมภีร์สุริยันจันทรา พลังหยางบริสุทธิ์ได้รับจากดวงอาทิตย์ พลังหยินสุดขั้วก่อเกิดจากดวงจันทร์…”

การที่เย่ฟ่านสามารถอนุมานเนื้อหาของคัมภีร์หลิงเป่าส่วนหลังได้สาเหตุหลักก็เพราะเขาได้มีโอกาสเรียนรู้คัมภีร์สุริยันและคัมภีร์จันทรา(ไม่หยางและไท่หยิน)ฉบับสมบูรณ์มาแล้ว

การค้นพบครั้งนี้ทำให้เย่ฟ่านตระหนักได้ว่าแท้ที่จริงแล้วโลกทั้งสองใบมีความใกล้ชิดกันอย่างยิ่ง เซียนโบราณหลายคนจะต้องเคยข้ามทะเลดวงดาวไปมาหาสู่กันมานับครั้งไม่ถ้วนนั่นอาจรวมทุ่งดวงดาวจื่อเว่ยด้วย

แน่นอนว่าคัมภีร์นี้แตกต่างจากคัมภีร์ที่เย่ฟ่านศึกษาค่อนข้างมาก เห็นได้ชัดว่าคัมภีร์หลิงเป่ายังไม่มีเนื้อหาที่ลึกซึ้งเพียงพอ

“น่าเสียดายที่พวกเราเดินบนเส้นทางที่ผิดพลาดตั้งแต่แรกแล้ว ต่อให้คิดย้อนกลับไปแก้ไขก็ทำไม่ได้”

ผู้อาวุโสของสำนักหลิงเป่าเต็มไปด้วยความผิดหวัง แต่พวกเขาก็ยังซาบซึ้งต่อความมีน้ำใจของเย่ฟ่าน เย่ฟ่านใช้เวลานานนับเดือนกว่าที่จะอนุมานเนื้อหาส่วนที่ขาดหายไปออกมาได้

เย่ฟ่านไม่ได้รับสิ่งที่เขาต้องการ อย่างไรก็ตามการมาที่นี่ไม่ได้เสียประโยชน์มากนักอย่างน้อยเขาก็มีโอกาสสอบถามถึงเผ่าพันธุ์ของผังป๋อ

“เจ้ากลับมาแล้ว!”

นักพรตหลิงเป่าตกใจ เขามักจะมีความรู้สึกว่าเย่ฟ่านนั้นดูคุ้นเคยอย่างมาก และในที่สุดเขาก็จำตัวตนของเย่ฟ่านได้

ดวงตาเย่ฟ่านเปล่งประกายเฉียบคมและทำให้ทุกคนสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

“อย่าเข้าใจผิด!”

นักพรตหลิงเป่ารู้อยู่แล้วว่าผู้วิเศษที่อยู่ตรงหน้าอายุน้อยกว่าเขามาก และใช้เวลาในการฝึกเต๋าไม่เกินยี่สิบปี แต่ความสำเร็จของอีกฝ่ายกลับน่าสะพรึงกลัวถึงขนาดนี้

……….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด