ตอนที่ 36 ภารกิจสงคราม
ในขณะที่ซูเฉินและกองทัพของเขากำลังต่อกรกับกองทัพของเมืองฐานทัพ เขาก็ได้ยินเสียงระบบดังขึ้น “ภารกิจสงครามปรากฏขึ้น เป้าหมายภารกิจ : จัดการศัตรูโดยต้องมีอัตราสูญเสียมากกว่าครึ่งนึงของกองทัพ ไม่มีเพดานลิมิต รางวัลภารกิจ : พลังงาน 100,000 หน่วย ภารกิจล้มเหลว : ลดระดับผู้บัญชาการ 1 ขั้น”
ซูเฉินก็กระพริบตาปริบๆแล้วถามว่า “ภารกิจสงครามนี่มันอะไรกัน? ทำไมก่อนหน้านี้ไม่เห็นมีเลย?”
“มีเพียงเมื่อโฮสต์เข้าร่วมสงครามจริงเท่านั้นจึงจะมีภารกิจสงครามโผลขึ้นมาให้ทำ การต่อสู้กับสัตว์กลายพันธุ์ครั้งก่อนไม่นับว่าเป็นสงคราม”ระบบอธิบาย
“หืม ระบบนี่ทำตัวเป็นสาวซึนจริงๆเลยนะ ฉันแค่พูดว่าไม่ค่อยมีพลังงาน เลยส่งของขวัญชิ้นใหญ่มาให้ เอาไงดีนะ ตอบรับดีใหมนะ?”ซูเฉินก็พูดออกมา
“???”ระบบนั้นไม่เคยเห็นโฮสต์ที่หน้าด้านขนาดนี้มาก่อนเลย!!
ซูเฉินนั้นรู้ว่าในสงครามนั้นทุกอย่างนั้นสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นเขาไม่ควรจะสะเพร่า แนวป้องกันแรกนั้นประกอบไปด้วยบังเกอร์ปืนกลหนัก ปืนใหญ่และทหารบางส่วน การต้องเผชิญหน้ากับรถถัง ด้วยร่างกายและการพึ่งพาอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ทหารนั้นไม่สามารถรับมือได้แน่
ตามการคาดการณ์ของเขา ศัตรูพวกนี้น่าจะรู้ว่าพวกมันสามารถเดินหน้าต่อได้ก็เมื่อสามารถทำลายบังเกอร์ปืนกลหนักแล้ว ดังนั้นพวกมันจะต้องใช้ทีมเฮลิคอปเตอร์แน่ๆ
อย่างที่คาดไว้ หวังยี่นั้นก็พบว่าทีมรถถังนั้นไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ ดังนั้นเขาจึงได้สั่งการทีมเฮลิคอปเตอร์จู่โจม เผชิญหน้ากับเฮลิคอปเตอร์ในอากาศ แม้กระทั่งปืนใญ่ป้องกันเมืองก็ไร้ประโยชน์ทันที เพราะพวกมันไม่สามารถปล่อยกระสุนออกไปถึงระดับความสูงของเฮลิคอปเตอร์ได้
หวังยี่ก็ได้สั่งการเฮลิคอปเตอร์ให้หยุดอยู่กลางอากาศแล้วจากนั้นพวกทหารบนเฮลิคอปเตอร์ก็หยิบเอาลูกระเบิดหลายชนิดออกมาดึงสลักแล้วปาลงมา
นี่ก็คือเครื่องบินทิ้งระเบิดชั่วคราวนั่นเอง!!
แม้ว่าลูกระเบิดแค่ลูกเดียวอาจจะมีพลังทำลายล้างไม่พอแต่เมื่อเฮลิคอปเตอร์ร้อยลำปล่อยลูกระเบิดออกมาเป็นจำนวนมากเพราะกัน มันก็จะทำให้เกิดพลังทำลายล้างอันมหาศาลได้
นอกจากนี้แล้วระเบิดพวกนี้ก็เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษ และแม้กระทั่งระเบิดที่มีอนุภาพต่ำที่สุดก็ยังสามารถจัดการสัตว์กลายพันธุ์ระดับสองได้เลย นี่ไม่ต้องพูดถึงระดับที่มีอนุภาพมากที่สุดซึ่งสามารถจัดสัตว์กลายพันธุ์ระดับสี่ดาวได้
เสียงระเบิดก็ได้เกิดขึ้นตรงที่บังเกอร์ตั้งอยู่อย่างต่อเนื่อง และเกือบจะทันที บังเกอร์ดแห่งหนึ่งก็ได้ถูกทำลายลง เมื่อบังเกอร์ถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์ แม้กระทั่งซูเฉินเองก็ไม่สามารถซ่อมได้
อย่างไรก็ตาม ไม่มีทหารเร้ดอะเริ้ตคนใหนตายลงสักคนเดียว และคนที่อ่อนแอที่สุดก็เป็นทหารระดับสามดาว แรงระเบิดส่วนใหญ่ถูกบังเกอร์ดูดซับไว้หมด และมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เหล่าทหารโดนซึ่งส่งผลให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บหนัก
“ทหารที่ได้รับบาดเจ็บให้ถอยกลับไปรักษษตัว ส่วนกองทหารปืนใหญ่ให้ล่าถอยซะ”ซูเฉินสั่งการ
คำสั่งแต่ละอันของผู้บัญชาการนั้นไม่สามารถปฏิเสธได้ ทุกคนจึงได้ยกปืนใหญ่ใส่รถเข็นที่สร้างขึ้นแล้วลากออกไป ของพวกนี้ไม่ควรจะทิ้งไว้เพราะพวกมันสร้างขึ้นจากพลังงาน
หลังจากผ่านการต่อสู้จริงมา ซูเฉินนั้นก็พบว่าปืนใหญ่พวกนี้ยังอ่อนมาก พวกมันมีผลกับแค่ศัตรูที่อ่อนแอกว่า แต่เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่มีเกราะป้องกันหน้า ปืนใหญ่พวกนี้ก็ไม่ค่อยมีประโยชน์นัก
“ต่อไป ถึงเวลาชิมอาหารหลักแล้ว”หวังยีก็พูดออกมา ใบหน้าของเขานั้นทะมึนขึ้นเรื่อย นี่แค่เพียงด้านนอกเท่านั้น แต่พวกเขากลับเสียรถถังไปมากกว่าสิบคันแล้ว การสร้างรถถังพวกนี้ใช้ค่าใช้จ่ายสูงมาก แถมยอดรถถังทั้งหมดที่อยู่ในเมืองฐานทัพนั้นก็ไม่ได้เยอะด้วย ตอนนี้พวกเขานั้นเสียไปมากกว่าสิบคันภายในครั้งเดียว เขามั่นใจว่าหากเขากลับไป เขาจะโดนกล่าวโทษแน่
“ช่างมัน ตราบใดที่เรายึดฐานทัพทหารนี้ได้ ทุกอย่างก็จะดีเอง ถ้าจำไม่ผิด ภายในฐานทัพทหารนี้น่าจะมีเทคโนโลยีล้ำมัยอยู่”
ความเป็นไปได้นี่มีอยู่แน่นอน ก่อนจะเกิดโลกาวินาศ ประเทศนี้ได้ก่อตั้งฐานทัพทหารขึ้นไว้ในหลายๆพื้นที่เพื่อทำการวิจัยหลายๆเรื่อง เคยมีเมืองฐานทัพหนึ่งเข้ายึดฐานทัพทหารและได้รับเทคโนโลยีสื่อสารล้ำสมัยมาซึ่งมันใช้ในการเชื่อมต่อเมืองฐานทัพทั่วโลกนั่นเอง
เทคโนโลยีล้ำสมัยพวกนี้สามารถช่วยเปลี่ยนแปลงอนาคตมนุษยชาติได้
“เดินหน้าต่อแล้วยึดที่นี่ให้ได้”หวังยี่ก็พูดออกมาก่อนจะส่งเฮลิคอปเตอร์บินตรงไปอย่างระวัง เขานั้นกลัวว่าฐานทัพทหารนี้จะมีอาวุธต่อต้านอากาศยานอยู่ และเฮลิคอปเตอร์นั้นก็ไม่ได้ติดตั้งอาวุธต่อต้านอากาศยานด้วย
ในขณะที่เฮลิคอปเตอร์ของหวังยี่ค่อยๆเข้าใกล้เหมืองถ่านหิน ในที่สุดเขาก็ได้เห็นมัน – ใต้เหมืองถ่านหินนั้นมีฐานทัพอยู่จริงๆด้วย อย่างไรก็ตาม หน้าตาของฐานทัพนั้นต่างกับที่เขาจินตนาการไว้
สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ที่ก้นหลุมของเหมืองถ่านหิน และสิ่งก่อสร้างบางแห่งก็มีหน้าตาอันพิเศษที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนด้วย
“ไม่ว่าจะยังไง พวกเราก็ต้องยึดฐานทัพแห่งนี้ให้ได้!!”
ใจของหวังยี่ก็เต้นตูมตามด้วยความตื่นเต้นในขณะที่เขาร่งให้รถถังเดินหน้าเต็มกำลัง เขานั้นก็เริ่มจินตนาการถึงรางวัลมากมายที่เขาจะได้รับหลังจากเขายึดฐานทัพแห่งนี้ได้
อย่างไรก็ตามเสียงหนวกหูบางอย่างก็ได้ปลุกเขาตื่นจากความฝัน
“เกิดอะไรขึ้น?”หวังยี่ก็รู้สึกหงุดหงิดมาก นี่ศัตรูเอาปืนใหญ่ป้องกันเมืองออกมาอีกแล้วหรอ? ไอ้กระสุนปืนใหญ่พวกนี้แทบจะทำความเสียหายกับเกราะของรถถังแบล็คไลอ้อนไม่ได้เลยด้วย
ก่อนหน้านี้ รถถังส่วนใหญ่นั้นพังทลายลงเพราะเครื่องพ่นไฟ ส่วนาปืนใหญ่ป้องกันเมืองนั้นมากสุดก็ทำลายรถถังได้เพียงไม่กี่คันเอง
แต่เมื่อหวังยี่ก้มลงมอง เขาก็มองเห็นรถถังปล่อยควันดำออกมาจากรูขนาดใหญ่บนตัวรถ คนขับกับผู้ช่วยนั้นก็ได้ตายไปแล้วด้วย เรื่องนี้ทำให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที
เมื่อครู่เขาพึ่งจะได้ยินเสียงมันไปเอง ซึ่งนี่หมายความว่ากระสุนปืนใหญ่มันทำให้รถถังแบล็คไลอ้อนระเบิดสินะ?
“ไม่ นี่จะต้องไม่ใช่พลังของปืนใหญ่ป้องกันเมืองแน่นอน หรือว่ามันจะมีอาวุธประเภทอื่นอยู่ที่นี่ด้วย?”
ทันทีที่ความคิดนนี้ผุดขึ้นในใจของหวังยี่ กระสุนปืนใหญ่นับร้อยก็หล่นลงมาราวกับหาฝนใส่ลงยังกองพลรถถังของเขา และในทันที พื้นที่แห่งนี้ก็ดูราวกับพื้นดินโดนไถพรวนดินโดยที่มีรถถังแบล็คไลอ้อนพังๆกระจัดกระจายเต็มไปหมด ฉากนี้มันน่ากลัวมาก
ด้วยการระดมยิงหนึ่งครั้ง รถถังประมาณสี่สิบกว่าคันก็กลายเป็นเศษขยะไปแล้ว ส่วนรถถังอีกประมาณห้าสิบคันก็สภาพไม่สู้ดีนัก
“รถถัง!! ฝ่ายศัตรูมีรถถังหรอเนี่ย!! แถมยังมีประมาณร้อยคันโดยแต่ละคันมีพลังทำลายล้างไม่ต่างไปกว่ารถถังแบล็คไลอ้อน นี่มันเป็นไปได้ไงกัน!!”หวังยี่ก็กัดฟันพูด
ตอนที่เขาออกมา เขาคิดว่าศัตรูนั้นน่าจะมีรถถัแต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะเยอะขนาดนี้ เขาคิดว่ามากสุดไม่น่าจะกี่สิบคัน
จากที่เขารู้ ฐานทัพทหารส่วนใหญ่มีรถถังมากสุดแค่ประมาณห้าสิบคันเท่านั้น สำหรับของพวกเขา พวกเขานั้นก็ได้มาประมาณนั้นแต่มาสร้างเพิ่มทีหลัง
กองทัพรถถังที่ไม่ทันระวังตัวนั้นก็รีบโจมตีสวนด้วย ซึ่งทั้งสองฝั่งนั้นต่างก็ยิงสร้างความเสียหายต่อกันอย่างต่อเนื่อง
ใบหน้าของหวังยี่ก็ทะมึนมากๆ “ส่งหน่วยเฮลิคอปเตอร์ออกไปเก็บกวาดรถถังของศัตรูซะ”
พอมาถึงจุดนี้ เฮลิคอปเตอร์จึงถูกปล่อยออกมาใช้ แม้ว่าศัตรูจะมีอาวุธต่อต้านอากาศยาน เขาก็ไม่เชื่อว่าอาวุธต่อต้านอากาศยานของฐานทัพทหารที่ถูกทิ้งมันจะทรงพลังขนาดนั้น
แต่เมื่อเขาได้เห็นอาวุธต่อต้านอากาศยานของที่นี่ หวังยี่ก็รู้สึกเสียใจมาก
ซูเฉินก็ยิ้มออกมา เขานั้นรู้นานแล้วว่าเมื่อเขาปล่อยรถถังกริซซี่(Grizzly Tank) ศัตรูจะต้องนำหน่วยเฮลิคอปเตอร์ออกมาแน่ - นี่เป็นทางเดียวของอีกฝ่าย แต่เขานั้นก็ได้เตรียมแผนการตอบโต้ไว้แล้ว