ตอนที่ 34: ค่าความเข้าใจ 300 แต้ม
ตอนที่ 34: ค่าความเข้าใจ 300 แต้ม
ลู่ชางเฉิงยังคงอยู่ที่ขอบเขตการแบ่งเบากระดูกและยังไม่ได้อยู่ในขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะด้วยซ้ำ
แต่เนื่องจากเขา "แลกเปลี่ยนเลือด" เสร็จสิ้นแล้ว มันส่งผลให้ร่างกายของเขาดีกำลังก้าวสู่ขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ครึ่งขั้น!!
หลังจากการแลกเปลี่ยนเลือดสำเร็จ ลู่ชางเฉิงรู้สึกว่าร่างกายของเขาเบาลงมาก เขารู้สึกกระฉับกระเฉงมากกว่าเดิมและคุณสมบัติทางกายภาพของเขาก็ดีขึ้นอย่างมาก
การพัฒนาที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือความมีชีวิตชีวาของเขา
ลู่ชางเฉิงจึงสงบสติอารมณ์ของเขาและตรวจสอบแผงคุณลักษณะของเขา
โฮสต์ : ลู่ชางเฉิง
ค่าความเข้าใจ: 301 (มีศักยภาพมาก)
เทคนิคกระดูกเยือกแข็ง : ระดับที่หก
เก้าสายฟ้ากลั่นกายา : ยังไม่ได้เริ่ม
"ห้ะ? ค่าความเข้าใจของข้าเกิน 300 แต้มแล้วงั้นรึ? แต่ทําไมค่าความเข้าใจของข้าถึงยังอยู่ในระดับมีศักยภาพมากล่ะ?”
แม้ว่าลู่ชางเฉิงจะไม่ได้ให้ความสนใจกับค่าความเข้าใจของเขามากนักในช่วงนี้ แต่เขาก็รู้สึกประหลาดใจที่เห็นว่ามันทะลุ 300 แต้มแล้ว แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย แต่ถึงอย่างนั้นค่าความเข้าใจ 300 แต้มนั้นก็ถือว่าค่อนข้างน่ากลัวมาก
ก่อนหน้านี้ ลู่ชางเฉิงได้คิดเอาไว้แล้วว่าถ้าเขามีค่าความเข้าใจ 300 แต้ม เขาจะสามารถเริ่มฝึกเก้าสายฟ้ากลั่นกายาได้ ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่ามันคุ้มค่าที่จะลองแล้ว
ด้วยเหตุนี้ ลู่ชางเฉิงจึงเริ่มฝึกเก้าสายฟ้ากลั่นกายา
"หลิน!"
ทันใดนั้น เสียงตะโกนดังๆก็ออกมาจากปากของลู่ชางเฉิง ในขณะเดียวกัน เขารู้สึกถึงเสียงสะท้อนออกมาจากภายในกระดูกของเขา ซึ่งคำว่า "หลิน" นั้นทําให้กระดูกของเขาสั่นสะเทือนจริงๆ
ขณะที่ลู่ชางเฉิงกำลังฝึกฝนเก้าสายฟ้ากลั่นกายา คำว่า "ซิง" ก็สะท้อนออกมาจากภายในกระดูกของเขาต่อ ก่อนที่จู่ๆข้อความเล็กๆบรรทัดหนึ่งจะปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
"เทคนิคกระดูกเยือกแข็งสมบูรณ์แบบ ค่าความเข้าใจ +7"
จากข้อความบรรทัดนี้ ลู่ชางเฉิงรู้สึกว่ากระดูกของเขาเริ่มแข็งขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่บนพื้นผิวเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงภายในด้วย ทำให้เขารีบตรวจสอบแผงคุณลักษณะของเขาอีกครั้งทันที
โฮสต์ : ลู่ชางเฉิง
ค่าความเข้าใจ: 308 (มีศักยภาพมาก)
เทคนิคกระดูกเยือกแข็ง : ระดับที่เจ็ด สมบูรณ์แบบ
เก้าสายฟ้ากลั่นกายา : กำลังเริ่มต้น
“แม้ว่าเก้าสายฟ้ากลั่นกายาจะเพิ่งเริ่มต้น แต่มันกลับทำให้เทคนิคกระดูกเยือกแข็งสมบูรณ์แบบได้เลยงั้นรึ? น่าทึ่งจริงๆ!”
แววตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นนั้นปรากฏขึ้นในดวงตาของลู่ชางเฉิง เขารู้ว่าวิชาเก้าสายฟ้ากลั่นกายานั้นทรงพลังมาก แต่เขาไม่คิดเลยว่ามันจะทรงพลังถึงขนาดที่ทำให้เทคนิคกระดูกเยือกแข็งสมบูรณ์แบบได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้
จากศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดที่ลู่ชางเฉิงได้ฝึกฝนมาจนถึงตอนนี้ นอกเหนือจากเก้าสายฟ้ากลั่นกายา แล้วเทคนิคกระดูกเยือกแข็ง เป็นศิลปะการต่อสู้ระดับเจ็ดเพียงอย่างเดียว ก่อนหน้านี้เขาไม่มีความมั่นใจเลยว่าจะเปลี่ยนกระดูกของเขาให้เป็นกระดูกหยกได้ แต่ตอนนี้ เมื่อได้เห็นเอฟเฟกต์อันน่าทึ่งของเก้าสายฟ้ากลั่นกายา ความมั่นใจของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ถ้าหากพลังของเก้าสายฟ้ากลั่นกายาไม่สามารถเปลี่ยนกระดูกของเขาให้เป็นกระดูกหยกได้ แล้วจะมีวิชาไหนบ้างที่ทําได้อีก?
"หนึ่งเดือนแล้วสินะ..."
ลู่ชางเฉิงที่ตอนนี้ฝึกฝนเทคนิคกระดูกเยือกแข็งเสร็จสมบูรณ์แล้ว เขาจึงไม่จําเป็นต้องอยู่ในภูเขาน้ำแข็งแห่งนี้อีกต่อไป แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาเริ่มชื่นชอบความสันโดษและความเงียบสงบที่ทําให้เขาสามารถจดจ่อกับการฝึกฝนได้ซะแล้ว
“ตอนนี้เก้าสายฟ้ากลั่นกายาได้เริ่มขึ้นแล้วและสามารถช่วยในการปรับแต่งกระดูกได้อีก...”
“ข้าเองก็ยังมีศิลปะการต่อสู้การปรับแต่งกระดูกปกติอีกแปดอย่างและสมุนไพรอีกมาก ถ้าข้าอยู่ที่นี่อีกต่อไปสักระยะหนึ่ง ข้าอาจทำให้กระดูกของข้า”กระดูกหยก“ได้เลยก็ได้”
ลู่ชางเฉิงตั้งเป้าหมายใหม่สําหรับตัวเองในการเปลี่ยนกระดูกของเขาให้เป็น "กระดูกหยห" ซึ่งมันเป็นอะไรที่ท้าทายมาก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เชื่อเขาสามารถทําได้ ด้วยศิลปะการต่อสู้การปรับแต่งกระดูกที่แตกต่างกันแปดแบบ รวมกับพลังของเก้าสายฟ้ากลั่นกายา เขาเริ่มรู้สึกมั่นใจว่าเขาสามารถทําได้จริงๆ
ดังนั้นลู่ชางเฉิงจึงกลับไปที่เมืองวู่ชาน
ภายในเมืองวู่ชาน หลงเฟยกำลังจะกินที่หลิวฮงหลวนทำให้
"หลงเฟย ได้เวลาทานยาแล้ว"
หลงเฟยมองไปที่หลิวฮงหลวนและยิ้มให้ ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ความขัดแย้งและความเข้าใจผิดก่อนหน้านี้ได้หายไปหมดแล้วและตอนนี้พวกเขาก็ดูรักกันมาก
หลังจากที่ดื่มยาแล้ว แม้ว่ารสชาติมันจะขมนรกแตก แต่หลงเฟยก็ยังยิ้มออกมาได้ อาการบาดเจ็บของเขาในตอนนี้ดีขึ้นอย่างมากในช่วงเดือนที่ผ่านมา และถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆเขาน่าจะฟื้นตัวได้เต็มที่ในอีกหนึ่งหรือสองเดือน
"หลงเฟย"
“ถ้าอาการบาดเจ็บของเจ้าหายดีแล้ว เจ้าจะไปเยี่ยมบ้านข้าไหม? ท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าคง...”
หลิวฮงหลวนรู้สึกลังเล ในอดีต เธอเคยทุ่มเททุกอย่างให้กับหลงเฟยโดยไม่สนใจความรู้สึกของพ่อแม่ของเธอ ตอนนี้เธอเริ่มตระหนักได้แล้วว่าเธอนั้นผิดพลาดไปมากแค่ไหน
“ได้สิฮงหลวน ถ้าข้าหายดีแล้ว ข้าจะไปหาท่านลุงและป้าของเจ้าเพื่อขอโทษด้วยตัวข้าเอง”
“ไม่ต้องห่วงนะฮงหลวน ข้าสัญญาว่าข้าจะแต่งงานกับเจ้าอย่างถูกต้อง...”
ขณะที่หลิวฮงหลวนได้ฟังคําพูดของหลงเฟย เธอรู้สึกเขินขึ้นมาอย่างมาก ใบหน้าของเธอเริ่มแดงก่ำ แต่จู่ๆหลงเฟยก็โอบเธอเอาไว้และกลิ้งไปด้านข้าง ก่อนที่จะดึงดาบของเขาออกจากฝัก
"ชิ้งง!"
ประกายที่แวววาวของดาบนั้นฟันผ่านอากาศและเบี่ยงวิถีกระสุนที่พุ่งเข้ามาได้อย่างฉิวเฉียด
"แกร๊ก!"
เสียงของดาบที่โดดเด่นนั้นดังขึ้น ใบหน้าของหลงเฟยเปลี่ยนไปอย่างมากขณะที่เขาจ้องไปที่ร่างๆหนึ่งที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันภายในลานบ้านโดยที่คนๆนั้นสวมหน้ากากที่ดูน่ากลัวเอาไว้
“หน้ากากปีศาจ เฉินซานหนี่! เจ้าหาสถานที่นี้เจอได้ยังไงกัน?!”
น้ำเสียงของหลงเฟยเต็มไปด้วยความสงสัย ซึ่งอันที่จริง 'หน้ากากปีศาจ' คนนี้เป็นหนึ่งในนักศิลปะการต่อสู้ชั้นนําที่อยู่ในขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งแม้ว่าหลงเฟยจะอยู่ในจุดที่เขาแข็งแกร่งอย่างเต็มที่บางทีเขาอาจจะไม่สามารถสู้กับ 'หน้ากากปีศาจ' ได้เลยด้วยซ้ำ และนับประสาอะไรกับสภาพในตอนนี้ของเขา
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยได้พบกับ “หน้ากากปีศาจ” เฉินซานหนี่ มาก่อน แล้วเขาจะมาไล่ล่าเขาเพื่ออะไร?
“หลงเฟย ดูจากอาการบาดเจ็บของเจ้าแล้วเจ้าคงจะไม่สามารถฆ่าเชินหลุนได้”
“บอกข้ามาว่าใครเป็นคนฆ่าเชินหลุน? ถ้าเจ้าบอกข้ามา ข้าจะให้เจ้าตายอย่างสบาย”
“หน้ากากปีศาจ” พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาซึ่งทำให้เสียวไปจนถึงสันหลัง
"เชินหลุนรึ?"
ดวงตาของหลงเฟยหรี่ลง “หน้ากากปีศาจ” มาที่นี่เพราะเรื่องของเชินหลุน แต่สิ่งที่เขาไม่รู้คือเชินหลุนนั้นทํางานให้กับ 'หน้ากากปีศาจ' มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งการตายของเชินหลุนนั้นเหมือนกับทำให้‘หน้ากากปีศาจ’ สูญเสียมือขวาของเขาไป แล้ว ‘หน้ากากปีศาจ’ จะไม่โกรธได้อย่างไร?
“เชินหลุนถูกข้าฆ่า”
“เฉินซานหนี่ ถ้าเจ้าต้องการฆ่าข้าก็จงทำซะ อย่าได้พิรี้พิไรอยู่เลย”
คําพูดของหลงเฟยนั้นเด็ดเดี่ยวมาก เขาไม่ต้องการให้ลู่ชางเฉิงมาเกี่ยวข้อง เนื่องจาก ‘หน้ากากปีศาจ’ นั้นแข็งแกร่งเกินไป ใครก็ตามที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์จะไม่สามารถสู้กับเขาได้ และลู่ชางเฉิงก็ได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ทำให้หลงเฟยไม่ต้องการทรยศเขา
“ฮึๆๆ งั้นรึ ถ้าอย่างนั้นข้าก็ทำให้เจ้าบอกเอง!”
เฉินซานหนี่หัวเราะเยาะ และด้วยการสะบัดมือของเขา กระสุนปืนที่ซ่อนอยู่ก็พุ่งมาหาหลงเฟย
"รีบหนีเร็วเข้า!"
หลงเฟยตะโกนเสียงดังขณะที่พลังฉีและเลือดของเขาพุ่งพล่าน ออร่าของเขารวมเข้ากับพลังในร่างกายและก่อตัวเป็นเงาดาบขนาดใหญ่ในพื้นที่ว่างเปล่า
"ชิ้งง!"
เงาดาบขนาดมหึมาฟาดลงมาทันที ซึ่งทำให้แม้แต่ ‘หน้ากากปีศาจ’ ก็ยังต้องถอยห่างออกมา
"บู้มมมม!"
เมื่อฝุ่นควันสลายหายไป หลงเฟยและหลิวฮงหลวนก็หายไปแล้ว
“หน้ากากปีศาจ” เห็นกองเลือดสดๆบนพื้น ทำให้แววตาที่เย็นชาของเขานั้นมุ่งมั่นมากขึ้นในดวงตาของเขา
"เจ้าจะหนีไปได้ไกลสักแค่ไหนเชียว..."
ด้วยเหตุนี้ "หน้ากากปีศาจ" จึงไล่ตามพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว