บทที่ 213 : ภารกิจย่อย (1-1)
บทที่ 213 : ภารกิจย่อย (1-1)
มันถูกตั้งค่าไว้แล้ว
หลังจากกลับมาถึงลานฝึกซ้อมชั้น 3 ฉันก็คุยกับสมาชิกในปาร์ตี้ที่ 1
“พรุ่งนี้เราจะไปที่ชั้นที่ 25”
“เร็วมากเลยนะครับ”
เวคิสที่นั่งอยู่บนเก้าอี้และยกน้ำหนักพูดขึ้น
น้ำหนักประมาณ 30 กก. เขายกมันขึ้นอย่างง่ายดายราวกับว่ามันมีน้ำหนักแค่ 5 กิโลกรัม
“งั้นตอนนี้เราจะฝึกกันทั้งคืนเลยเหรอ? ผมไม่คิดว่าฝึกแค่ 2-3 ชั่วโมงก็ไม่น่าพอหรอก ยังไม่น่าเข้ารูปเข้ารอยอะไรหรอกนะ”
“เราจะไม่ฝึกกันทั้งคืนหรอกนะ เราจะไม่ใช้ร่างกายของเราหนักขนาดนั้น เราแค่จะฝึกซ้อมให้หนักกว่าปกตินิดหน่อย บอกให้ทุกคนมารวมตัวกันเร็วเข้า”
“เดี๋ยวฉันจะไปเรียกออลก้า”
เนเรสซ่าเข้าไปในประตูห้องโถงเวทย์มนตร์
ไม่นานเจนน่าลงมาจากสนามยิงธนู ออลก้าออกมาพร้อมกับเนเรสซ่า
“เราจะเริ่มกันพรุ่งนี้เลยเหรอ?”
“ทำไม เธอมีปัญหางั้นเหรอ”
“ไม่ใช่ว่าฉันมีปัญหาอะไรหรอก…แค่นายดูแตกต่างออกไป แล้วตอนนี้โล่ของนายหายไปไหนก็ไม่รู้ การปีนหอคอยหลังจากผ่านฝึกไปเพียงวันเดียว จะไม่เร็วไปหน่อยเหรอ?”
"ไม่ต้องกังวลไปหรอก บทบาทของเราจะไม่เปลี่ยนแปลงไปมาก แค่ทำในสิ่งที่ทำอยู่ก็พอ”
ฉันไม่มีโล่ แต่บทบาทของฉันในปาร์ตี้ยังคงเหมือนเดิม
ฉันรับหน้าที่โจมตีแนวหน้ากับเวคิส โดยเราจะสกัดกั้นการโจมตีที่พุ่งเป้าไปทางด้านหลัง เจนน่าจะใช้ธนู เนเรสซ่าเก่งในการต่อสู้ระยะกลาง และออลก้าใช้เวทย์มนตร์ช่วยจากทาวด้งานหลัง มันเป็นรูปแบบที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ
'ไม่สำคัญว่าฉันจะแข็งแกร่งแค่ไหน'
ฉันจะยังคงทำหน้าที่เป็นแนวหน้าของปาร์ตี้ที่หนึ่ง
เราจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กัน มันเป็นกฎพื้นฐานของความอยู่รอด ฉันรู้ดีว่าฮีโร่ที่มั่นใจมากเกินไปจะพบกับจุดจบได้อย่างไร
ตอนนี้ปาร์ตี้ที่ 2 ได้รับการระดมกำลังเพื่อฝึกการต่อสู้เป็นทีม และปรับปรุงความรู้สึกในการต่อสู้
อีดิสตอบรับคำขอทันทีด้วยเมื่อฉันถาม เธอบอกว่าเธอพร้อมที่จะช่วยทุกเวลา และเธอยังบอกอีกว่าเธอตื่นเต้นมากที่จะฝึกกับเรา
“จากซ้าย อันนาน เบนิค ลิลิเนีย”
อีดิสแนะนำสมาชิกของปาร์ตี้ที่สองที่เพิ่งเข้าร่วม
ทั้งสามคนน่าจะอายุไม่มากนัก น่าจะอยู่ในช่วงวัยรุ่นตอนปลายถึงวัยยี่สิบต้นๆ ดวงตาของพวกเขาเป็นประกายด้วยความชื่นชมขณะที่มองมาที่ฉัน
“ผมได้ยินเรื่องของคุณมาเยอะมาก! ผมดูคุณตอนที่เอาชนะมังกรดำตัวนั้น มันเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจมากจริงๆ ผมเห็นทุกอย่างที่คุณทำหมดแล้ว”
อันนานเดินเข้ามาหาฉัน
อันนานเป็นชายหนุ่มผมสีบลอนด์ เขาสวมชุดเกราะหนังเรียบง่าย มีดาบยาวๆเหน็บอยู่ที่เอว และมีโล่ทรงกลมอยู่ที่หลัง
"ผู้ชายคนนี้…"
เขาทำให้ฉันนึกถึงบางอย่างในอดีต
เขาเรียกฉันว่า "พี่" และเดินตามฉันไปรอบๆ พวกเขายังใช้ดาบแบบเดียวกันด้วย และสุดท้าย...พวกเขาเสียชีวิตที่ชั้น 5
'ซิทและแฮนสัน'
ฉันยิ้มอย่างขมขื่น
แต่ฉันไม่เสียใจเลย และถ้าย้อนกลับไปได้ฉันก็คงจะเลือกทางแบบเดิมอีกครั้งถ้าจำเป็น แต่ก็มีความรู้สึกที่ขมขื่นติดในใจอยู่ลึกๆ
"ผมชื่อเบนิค ผมได้ยินเรื่องเกี่ยวกับคุณมามากเช่นกัน ยินดีที่ได้รู้จักครับ"
“เขาอาจจะดูเป็นคนเย็นชา แต่เมื่อนายได้รู้จักเขาแล้วไม่ใช่แบบนี้หรอก”
เมื่ออีดิสพูดจบและคนอื่นๆ ก็หัวเราะคิกคัก
“อย่าพูดอะไรแบบนั้นสิครับ”
เบนิกชายหนุ่มที่ดูนิ่งๆตัวกระตุก
เขามีมีดสั้นและธนูอยู่บนเข็มขัด ซึ่งเป็นอาวุธแบบเดียวกับอีดิส
“ฉัน ฉันชื่อลิลิเนียค่ะ”
คนสุดท้าย...เด็กสาวที่เป็นคนที่ดูค่อนข้างเงียบ เธอโค้งให้ฉันด้วยท่าทีเขินอาย
สีหน้าของเธอดูค่อนข้างนิ่ง หอกขนาดใหญ่ที่อยู่บนหลังของเธอนั้นสูงกว่าเธอมาก หลังจากทั้งสามคนพูดจบอีดิสก็พูดต่อ
“พวกเขาเข้าร่วมกับปาร์ตี้ที่ 2 เมื่อสองสัปดาห์ก่อน พวกเขามีความกระตือรือร้นมาก และประสิทธิภาพการต่อสู้ก็ไม่เลวเลย พวกเขาจะช่วยได้มากในการทำภารกิจในอนาคต”
“เราจะพยายามอย่างเต็มที่ครับ!”
“นี่ นายเสียงดังเกินไปแล้วนะ”
อีดิสหัวเราะเบาๆ
มันเป็นรอยยิ้มที่ฉันไม่ได้เห็นมาสักพักแล้ว ฉันกระซิบเบาๆ กับอีดิสโดยที่พวกเขาทั้งสามไม่ได้ยินที่ฉันพูด
“อย่ายึดติดกับอะไรมากเกินไป มันจะทำให้เธอลำบากในอนาคต”
"อื้อ"
อีดิสมั่นใจ
“ฉันจะไม่ปล่อยให้พวกเขาตาย ไม่ว่ายังไงก็ตาม”
"งั้นก็ตามนั้น"
'ผู้หญิงคนนี้คาดเดาไม่ได้จริงๆ'
อีดิส คัลเลน
เธอดูเย็นชาแต่ก็ห่วงใยทุกคน เมื่ออาเชอร์และดีรันเสียชีวิต แม้ว่าภายนอกเธอดูนิ่ง แต่ฉันบอกได้เลยว่าภายในใจเธอกำลังแตกสลาย
'ทำไมฉันถึงกังวลงั้นเหรอ?'
ฉันมองไปที่ทั้งสามคน
อันนานเป็นเด็กที่ดูมีชีวิตชีวา เบนิคที่ดูร่าเริง และลิลิเนียที่ค่อนข้างเงียบ แม้จะดูเผินๆ พวกเขาก็ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดี มันเริ่มจะทำให้ฉันนึกถึงวันเก่าๆ
'ความคิดของฉันล่องลอยไปนานเกินไปแล้ว...'
ฉันลบความรู้สึกของฉันออกไปทันที
ไม่มีเวลาที่จะจมอยู่กับความคิดเก่าๆ ถ้าฉันอยากพักผ่อนให้เพียงพอฉันต้องเน้นไปที่การฝึกซ้อมตอนนี้ให้จบ ฉันชักดาบออกมาทันที
“เอาล่ะอย่าเสียเวลาเลย จัดกลุ่มๆละห้าคน โจมตีเข้ามาเลยทำเหมือนกำลังพยายามจะฆ่าและจัดการศัตรู”
“เราจะทำเรื่องนี้จริงๆ เหรอคะ?”
ลิลิเนียที่กำลังหยิบหอกไม้ขึ้นมาถามทันที
“ใครจะว่างมาล้อเล่นล่ะ? ทิ้งอาวุธสำหรับฝึกซะแล้วใช้ของจริงที่อยู่ข้างหลัง ต่อให้ได้รับบาดเจ็บ มันก็ไม่เป็นอะไรหรอก”
“ทำตามที่ฮานแนะนำเถอะ ไม่จำเป็นต้องรู้สึกกดดัน”
เมื่ออีดิสพูดแบบนั้น ลิลิเนียพยักหน้าและดึงหอกยาวออกมา
อีดิสหยิบกริชของเธอขึ้นมาเช่นกัน โรเดอริก เบนิก และอันนานเองก็ชักอาวุธออกมาด้วย
“อย่าเอาแต่ยืนดูเฉยๆ การเคลื่อนไหวที่ไม่ได้เรื่องจะทำให้เสียเวลา”
'พวกเขาอาจจะไม่มีทักษะเพียงพอ'
อีดิสและโรเดอริกมีพลังค่อนข้างมาก
แต่ทั้งสามคนด้านหลังยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ ฉันสามารถบอกได้เพียงแค่ดูว่าพวกเขาหยิบอาวุธออกมาอย่างไร
“ผู้หญิงขี้อายคนนั้นอยู่ในปาร์ตี้เดียวกับผมตอนแรก”
เวคิสชักดาบออกมาและหัวเราะอย่างเย็นชา
“นายรู้จักเธอไหม?”
"รู้จักครับ เธออยู่ข้างๆผมตอนที่เราถูกอัญเชิญมาที่นี้ครั้งแรก เธอกลัวมากจนขวางทางผม ผมคิดว่าเธอคงจะติดอยู่ที่ชั้น 1 ไปตลอดชีวิต แต่ดูท่าเธอก็รอดมาได้”
“เธอมีพรสวรรค์ แต่ตัวตนที่อ่อนไหวของเธอคือสิ่งที่ขัดขวางความแข็งแกร่งของเธอ”
เนเรสซ่ากล่าวเพิ่มเติม
ปาร์ตี้ที่ 2 รวมตัวกันเป็นวงกลมและหารือเกี่ยวกับแผนการของพวกเขา
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ออลก้าก็เริ่มบ่นขึ้นมา
“บรรยากาศแตกต่างกันมากเลยวนะ พวกเขาดูเข้ากันได้ดี แต่สมาชิกในปาร์ตี้ของเรานิ่งเป็นน้ำแข็งแทบทุกคน ไม่มีความสนุกสนาน ไม่มีความโรแมนติก และไม่มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อยู่เลย”
“แล้วความสนุกสนานมันช่วยอะไรได้หรือเปล่าล่ะ?”
“ก็อาจจะช่วยแหละมั้ง”
"ฮึ"
ออลก้าส่ายหัวแล้วเดินจากไปช้าๆ
ตอนนี้พวกเขากำลังสร้างรูปแบบการโจมตีของพวกเขากัน
ไม่นานนักปาร์ตี้ที่หนึ่งและปาร์ตี้ที่สองก็เปิดฉากปะทะกัน
เป้าหมายหลักคือการปรับรูปแบบในการต่อสู้ของเราในการต่อสู้แบบกลุ่ม
ฉันอาจจะจัดการแทบทุกคนได้คนเดียวถ้าฉันตั้งใจทำมันจริงๆ แต่คราวนี้ฉันจะไม่ทำแบบนั้น กุญแจสำคัญคือการรักษารูปแบบการโจมตี ในขณะเดียวกันก็ฟื้นฟูประสาทสัมผัสของเรา ดังนั้นเราจึงเริ่มฝึกระหว่างรูปแบบที่มีการเคลื่อนไหวน้อยที่สุด
วัตถุประสงค์ของการทำแบบนี้ก็เพื่อรักษาประสิทธิภาพการต่อสู้ ในขณะที่ลดการใช้ความแข็งแกร่งของสมาชิก ปกปิดจุดอ่อนและเพิ่มจุดแข็งของพวกเขา
ไม่ว่าฉันจะแข็งแกร่งแค่ไหน พลังฉันก็ไม่สามารถทัดเทียมอำนาจเวทย์มนตร์ของออลก้าได้ การยิงเพียงครั้งเดียวของเธอนั้นทรงพลังจนปฏิเสธไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น การได้รับการสนับสนุนการโจมตีระยะไกลจากสมาชิกที่อยู่ข้างหลัง มันย่อมดีกว่าการต่อสู้เพียงลำพังหลายเท่า
ปาร์ตี้ที่ 2 ทำหน้าที่เป็นคู่ต่อสู้ได้เป็นอย่างดี
กลยุทธทางยุทธวิธีของปาร์ตี้ที่สองเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา พวกเขามุ่งความสนใจไปที่การโจมตีออลก้าในบางครั้ง จากนั้นก็มุ่งความสนใจไปที่ฉันและเวคิส และบางครั้งก็โจมตีเจนน่าและเนเรสซ่า การปะทะกันเช่นนี้ทำให้เราสามารถฟื้นฟูประสาทสัมผัส การต่อสู้แบบเป็นทีมเหมือนช่วงเก่าๆของเราได้เป็นอย่างดี
“ดาบไม้นี้มันน่าเบื่อจริงๆ ด้วยของแบบนี้ฆ่าใครไม่ได้หรอก!”
เวคิสพูดเหมือนไม่มีอะไร แต่ก็ไม่มีทางอื่นแล้ว
เราไม่สามารถบังคับรูปแบบการฝึกของปาร์ตี้ที่หนึ่งที่ไม่ได้ใช้อาวุธฝึกซ้อมเต็มรูปแบบมาเป็นเวลานานได้ และปาร์ตี้ที่สองเองก็มีลักษณะเฉพาะของตัวเองเช่นกัน
เมื่อฟ้าเริ่มมืดลง
ระหว่างพักเบรก อีดิสเดินมาคุยกับฉัน
“ฮาน อย่าใจดีนักสิ”
“ฉันไม่ได้ใจดี”
“พวกเขาก็ต้องได้รับบาดเจ็บนิดหน่อยเหมือนกัน พวกเขาจะต้องได้เรียนรู้อะไรด้วย”
“ให้ฉันฆ่าพวกเขาเลยไหมล่ะ?”
“นายจะบ้าเหรอ!”
"ล้อเล่น"
ฉันหัวเราะและมองไปทางสมาชิกทั้ง 4 ของปาร์ตี้ที่ 1
ทั้ง 4 คนกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้พักผ่อน
“พวกนายได้ยินแล้วใช่ไหม? ทำตามใจชอบได้เลย แต่อย่าเอาถึงตายก็พอ”
“…เอาขนาดนี้เลยเหรอ? ดูท่าฉันจะเผลอพูดผิดไปแล้วสิ”
ในการปะทะครั้งถัดไป สมาชิกทั้งสามคนของปาร์ตี้ที่ 2 ถูกจัดการได้ในเวลาไม่ถึงนาที
ฉันลดความแข็งแกร่งลงบ้าง แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาจะได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนั่นแหละคือสิ่งที่อีดิสต้องการ....