ตอนที่ 32 ข้าจะช่วยเจ้าเอง
ตอนที่ 32 ข้าจะช่วยเจ้าเอง
ภายในร้านอาหาร บรรยากาศที่ตึงเครียดระหว่างเชินหลุนและหลงเฟยกำลังแน่นขึ้น
ทันใดนั้น เชินหลุนก็หัวเราะเบาๆ
“หลงเฟย คนอย่างเจ้านี่เหลือเกินจริงๆ”
“แต่ข้าหวังว่าในอีกไม่กี่วัน เมื่อเจ้าได้เห็นภรรยาและลูกสาวของเจ้า เจ้าจะรักษาทีท่าของเจ้าแบบนี้ได้อยู่นะ!!”
"ชิ้งงง"
เชินหลุนเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว
แสงจากดาบเริ่มเปล่งประกายพุ่งเข้าหาหลงเฟยทันที
หลงเฟยเองก็มุ่งมั่นไม่แพ้กัน เขาถือดาบไว้ในมือซ้าย คมดาบที่แพรวพราวนั้นปะทะอย่างรุนแรงกับแสงดาบของเชินหลุน พร้อมกับออร่าอันน่าสะพรึงกลัว
การปะทะกันของแสงดาบและคมดาบนั้นทําให้เกิดพลังฉีและเลือดที่ดังก้อง
ในช่วงเวลาต่อมา การโจมตีทั้งสองได้แยกออกจากกันในทันที
"ตุ้บบ"
ดาบของหลงเฟยนั้นกระแทกลงกับพื้นอย่างแรง ร่างของเขากระเด็นออกไปขณะที่กุมหน้าอกเอาไว้แน่น
"อั่กก"
หลงเฟยกระอักเลือดออกมาเต็มปาก ทำให้ใบหน้าของเขายิ่งซีดลง
เชินหลุนยังคงนิ่งสงบและมีรอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเขา
“เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว ตอนที่เจ้าฆ่าน้องสาวของข้า เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่ามันจะลงเอยแบบนี้น่ะ?”
“ฮึๆๆ ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าหรอก ข้าจะทําให้เจ้าได้ลิ้มรสความเจ็บปวดที่ทรมานที่สุดในโลกก่อน”
“หักแขนขาของมันซะ แล้วทำลายเส้นสมปราณของมัน!!”
สาวใช้หลายคนที่อยู่ด้านหลังเชินหลุนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พวกเธอถือดาบขณะที่เดินตรงไปยังหลงเฟย
ผู้คนในร้านอาหารตัวสั่นและไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง เพราะนักศิลปะการต่อสู้ที่พยายามจะเข้าไปยุ่งก่อนหน้านี้ได้ตายไปแล้ว
หลงเฟยพยายามจะยืนขึ้นแต่สุดท้ายก็นอนยอมรับชะตากรรมที่กำลังจะมาถึง
เมื่อมองดูสาวใช้ที่กำลังเดินเข้ามาด้วยจิตสังหาร หลงเฟยจึงหลับตาลง
"แกร๊ก"
คมดาบของสาวใช้กำลังเล็งไปที่แขนขาของหลงเฟย
ทันใดนั้นเงามืดบางอย่างก็ปรากฎขึ้น
"ชิ้งง"
เสียงเบาๆนั้นทำให้สาวใช้ทั้งสามคนตัวแข็งทื่อและมีเลือดไหลออกมาจากลําคอก่อนที่จะพุ่งออกมา
"พรวดด"
สาวใช้ทั้งสามล้มลงกับพื้นก่อนที่ลมหายใจของพวกเธอจะค่อยๆจางหายไป
"หืม?"
รูม่านตาของเชินหลุนนั้นหดตัวลงเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ สีหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนไปและใช้สายตาที่เฉียบคมมองไปที่ร่างที่ไม่คุ้นเคยที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าหลงเฟย
เมื่อหลงเฟยก็ลืมตาขึ้น เขาจึงรู้สึกสับสนเล็กน้อย
เขาไม่รู้ว่าคนๆนี้เป็นใคร แต่คนแปลกหน้าคนนี้กลัยมาช่วยเขาเอาไว้
น้ำเสียงของเชินหลุนนั้นเย็นชามาก เขาพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “เจ้าคิดดีแล้วงั้นรึ? ถ้าเจ้าช่วยหลงเฟย เจ้าก็จะเป็นศัตรูของข้า!”
เชินหลุนกําดาบของเขาแน่นและออร่าของเขาก็เริ่มลอยขึ้น
"แต่การฆ่าเจ้าได้ ข้าก็จะไม่มีศัตรูอีกต่อไป"
ลู่ชางเฉิงตอบกลับ
วินาทีถัดมา ร่างของเขาจึงเริ่มสั่นไหวเล็กน้อย และในพริบตาเขาก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว
เชินหลุนนั้นระมัดระวังตัวและชักดาบของเขาออกมาทันที
"แก๊ง แก๊ง แก๊ง แก๊ง แก๊ง"
ประกายไฟของดาบที่เกิดจากการปะทะกันในอากาศกระจายออกมาทั่ว
ลู่ชางเฉิงนั้นใช้กริชในขณะที่เชินหลุนนั้นใช้ดาบยาว ซึ่งดาบของเชินหลุนนั้นขึ้นชื่อด้านความเร็ว
ซึ่งนั่นทำให้การปะทะกันของดาบพวกเขานั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และภายในช่วงลมหายใจเดียว มีการแลกเปลี่ยนการโจมตีกันถึงหลายสิบครั้ง
แม้ว่าจะมีการแลกเปลี่ยนมากมาย แต่ก็ใช้เวลาเพียงไม่นาน
ในเวลาเพียงลมหายใจเดียว ร่างกายของเชินหลุนก็เริ่มสั่นและเขาได้ถอยหลังไปสองก้าว จากนั้นจึงแตะคอของเขา
รอยเลือดจางๆปรากฏขึ้นบนคอของเขา แต่ตอนนี้เลือดที่คอนั้นกำลังกลายเป็นแผลที่ค่อยๆถูกเปิดออกอย่างช้าๆ
"เร็วเกินไปแล้ว!"
เชินหลุนพึมพําขณะที่เขาล้มลงกับพื้น
"ตุ้ม"
เชินหลุนยังคงลืมตาอยู่ แต่เขาได้สูญเสียพลังชีวิตของเขาไปจนหมด
เขาตายแล้ว!
นักปราชญ์เชินหลุนตายแล้ว!
ฉากที่เกิดขึ้นนี้ทําให้ทุกคนในร้านอาหารแทบจะไม่อยากเชื่อ
พวกเขาต่อสู้กันตั้งแต่เมื่อไหร่?
แล้วทำไมเชินหลุนถึงได้ตายอย่างง่ายดายขนาดนี้?
ซึ่งนี่เป็นเพราะ เชินหลุนนั้นมีชื่อเสียงอย่างมากในโลกแห่งการต่อสู้
“เชินหลุนตายแล้วงั้นเหรอ? เขาถูกฆ่าตายโดยนักศิลปะการต่อสู้ไร้นามคนนั้นงั้นเหรอ?”
“ยอดไปเลย! เชินหลุนที่ขึ้นชื่อด้านความเร็วกลับแพ้นักศิลปะการต่อสู้ไร้นามคนนั้นจริงๆ”
“เขาเป็นใครกัน? ทำไมข้าถึงไม่เคยเห็นและได้ยินชื่อของเขามาก่อน”
ผู้คนในร้านอาหารยังคงทึ่งกับความเร็วอันน่าทึ่งจากดาบของลู่ชางเฉิงที่มีความแข็งแกร่งอันน่าเกรงขามของเขา
ลู่ชางเฉิงได้เก็บดาบของเขาแล้วและเดินเข้าไปที่ศพของเชินหลุนเพื่อค้นหาของในอยู่ครู่หนึ่ง
ซึ่งนี่ทําให้ทุกคนงงเล็กน้อย แม้แต่ศพของสาวใช้เองก็โดนค้นด้วยเช่นกัน แต่เขากลับได้ไปแค่เงินบางส่วนเท่านั้น
หลังจากที่ค้นหาของในร่างศพ ลู่ชางเฉิงจึงลุกขึ้นยืนอีกครั้งและเดินไปหาหลงเฟย
ปากของหลงเฟยกระตุกเล็กน้อย เขาพบว่าพฤติกรรมของลู่ชางเฉิงในการค้นหาศพค่อนข้างน่าสมเพชมาก แต่ถึงอย่างนั้นมันก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกแห่งการต่อสู้
เขาพยายามดิ้นรนที่จะยืนขึ้นและโค้งคํานับให้ลู่ฉางเฉิงอย่างซาบซึ้งโดยกล่าวว่า “ขอบคุณมากที่ช่วยข้าไว้ ข้าขอถามได้ไหมว่าเจ้ารู้จักข้าด้วยงั้นหรือ?”
หลงเฟยรู้ดีถึงชื่อเสียงของเขาในโลกแห่งการต่อสู้ ดังนั้นคําถามของเขาจึงสมเหตุสมผล
แต่ลู่ชางเฉิงส่ายหัวเล็กน้อยและตอบว่า "ข้าเองก็เพิ่งได้เจอเจ้าวันนี้"
“แต่สิ่งที่เชินหลุนทํานั้นมันไร้ซึ่งความยุติธรรมจริงๆ”
อันที่จริงลู่ชางเฉิงเองก็ไม่ได้คิดจะเข้ามาแทรกแซงเรื่องที่เกิดขึ้น เขาชอบที่จะอยู่ห่างๆจากความขัดแย้งของผู้อื่นและมุ่งเน้นไปที่การฝึกการต่อสู้ของเขามากกว่า
แต่การที่เชินหลุนต้องการฆ่าหลงเฟยและลากภรรยากับลูกสาวของหลงเฟยมาเกี่ยวด้วยนั้น ทำให้ลู่ชางเฉิงไม่พอใจอย่างมาก
แม้ว่าลู่ชางเฉิงจะไม่ใช่คนดี แต่เขาก็ชื่นชมคนแบบหลงเฟยอย่างสุดซึ้ง
การกระทําของเชินหลุนนั้นทําให้เขาไม่พอใจอย่างมาก
หลงเฟยพยักหน้าและยอมรับว่าเชินหลุนใช้วิธีการที่โหดเหี้ยมเพื่อแก้แค้นจริงๆ
“ไม่ว่ายังไงก็ตาม ข้าจะจดจําความช่วยเหลือของเจ้าตลอดไป ถ้าหากมีโอกาสในอนาคต ข้าจะกลับมาตอบแทนเจ้าอย่างแน่นอน!”
เมื่อพูดอย่างนั้นจบ หลงเฟยจึงเตรียมที่จะออกจากร้านอาหารโดยที่เดินกะเผลกเล็กน้อย
ลู่ชางเฉิงก้าวไปด้านหน้าและเข้าไปช่วยหลงเฟย
“เจ้ากำลังได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้าขอแนะนำให้เจ้าอยู่เฉยๆดีกว่า”
“ว่าแต่เจ้ากำลังจะไปไหน? ข้าจะพาเจ้าไปที่นั่นเอง”
หลงเฟยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ในที่สุดก็พยักหน้าและพูดว่า “ข้ามีสถานที่ที่ปลอดภัยในเมืองวู่ชาน ข้าจะขอบคุณมากถ้าเจ้าพาข้าไปที่นั่นได้”
ดังนั้นลู่ชางเฉิงจึงนํารถม้าออกมาและช่วยหลงเฟยออกไปจากร้านอาหาร
ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงลานกว้างอันเงียบสงบ
“ที่นี่แหละ เนื่องจากข้ามีศัตรูมากมาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครรู้ว่าข้ากําลังซ่อนตัวอยู่ที่นี่” หลงเฟยพูดด้วยรอยยิ้ม
ลู่ชางเฉิงผลักประตูให้เปิดออกและช่วยหลงเฟยขณะที่พวกเขาเดินเข้าไป
"วู่มมม..."
ทันใดนั้น ลู่ชางเฉิงรู้สึกได้ถึงลมกระโชกแรงจากด้านหลังเขา
เขาดึงกริชของเขาออกมาอย่างรวดเร็วทันที
"แกร๊ก"
กริชได้ถูกชักออกจากฝัก
ลู่ชางเฉิงไม่ได้หันกลับมาด้วยซ้ำ ราวกับว่าเขามีตาอยู่ที่ด้านหลังของเขา หลังจากนั้นเขาได้เฉือนกริชออกไป
ด้วยการฟันกริชที่รวดเร็วของเขา คมของกริชก็มาอยู่ตรงหน้าของผู้หญิงชุดสีแดงแล้ว
ผู้หญิงคนนั้นถึงกับตกตะลึงและหยุดนิ่งราวกับรูปปั้น
ดูเหมือนว่าคอของผู้หญิงคนนั้นกำลังจะถูกตัดด้วยคมกริชแล้ว
"หยุดก่อน!"
หลงเฟยเบิกตากว้างและตะโกนออกมาเสียงดัง เสียงของเขานั้นแหบเล็กน้อยเนื่องจากแรงที่แทบจะไม่เหลืออยู่ในร่างอีกแล้ว