ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 827 ข่าวจากมณฑลชิงโจว (อ่านฟรี)
ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 827 ข่าวจากมณฑลชิงโจว (อ่านฟรี)
แปลโดย iPAT
“เป็นปีศาจที่ยิ่งใหญ่จริงๆ!” หรูซิงยิ้ม
“แล้วเจ้าไม่ใช่ปีศาจงั้นหรือ? เราเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ!”
หลี่ฉิงซานเม้มริมฝีปากและจ้องมองรอยยิ้มของนาง เขาอดไม่ได้ที่จะก้มศีรษะลงและจูบริมฝีปากของนางผ่านหน้ากากทองสัมฤทธิ์ นั่นทำให้ไหล่ของนางสั่นเบาๆ
เมื่อออกจากบ้าน หลี่ฉิงซานก็เข้าใจมากขึ้นถึงเหตุผลที่หรูซิงต้องการมาภาคใต้ แต่เขาไม่รู้สาเหตุที่นางเกลียดชังเผ่ามนุษย์เพลิง และดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่แค่ความเป็นศัตรูตัวฉกาจระหว่างเผ่าพันธุ์ ยิ่งไปกว่านั้นนางยังปฏิเสธที่จะกลับทะเลใต้ นางกระทั่งรวมเผ่ามนุษย์เงือกเข้าไปในแผนการของนาง เห็นได้ชัดว่านางไม่มีความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับพวกเขามากนัก
ความแค้นของนางลึกมาก แต่นางยังโน้มน้าวหลี่ฉิงซานให้เลิกต่อต้านภูเขาเพลิงลาวาในตอนแรก นางเต็มใจเสี่ยงชีวิตเพียงลำพังมากกว่าที่จะลากเขาเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ซึ่งทำให้เขารู้สึกประทับใจและทำตัวไม่ถูก
อย่างไรก็ตามเขายังเลือกที่จะเป็นศัตรูกับภูเขาเพลิงลาวา อาจกล่าวได้ว่าโชคชะตาต้องการให้พวกเขาลงเรือลำเดียวกัน แผนการแก้แค้นของนางยังเพิ่มโอกาสในการโค่นภูเขาเพลิงลาวาได้มาก
เพื่อดำเนินการตามแผน เขาต้องรอจนกว่านางจะก้าวข้ามภัยพิบัตสวรรค์ครั้งที่สองเป็นอย่างน้อย แม้บรรพชนหมื่นพิษจะสนับสนุนอย่างเต็มที่โดยอุทิศทรัพยากรทั้งหมดของนิกายหมื่นพิษให้กับนางเพื่อช่วยนางในการปรับแต่งเชื้อโรคและการบ่มเพาะของนาง แต่มันก็ยังต้องใช้เวลาสองสามปี
สำหรับผู้ฝึกตน ช่วงเวลาสองสามปีถือว่าไม่สั้นไม่ยาว มันคุ้มค่าที่จะรอเพื่อจัดการการดำรงอยู่ที่โดดเด่นเช่นภูเขาเพลิงลาวา
แน่นอนว่าหลี่ฉิงซานจะไม่ปล่อยให้เวลาอันมีค่านี้สูญเปล่า เขาวางแผนที่จะปิดประตูบ่มเพาะอย่างสงบเพื่อย่อยความเข้าใจที่ได้รับเพิ่มเติมจากการเดินทางไปทะเลลวงตา ด้วยเหตุนี้เขาจึงมอบหมายงานเล็กๆน้อยๆให้กับเจ้าถ้ำทั้งสิบและใช้เวลาร่วมกับเย่หลิวซูกับเย่หลิวป๋อก่อนจะเข้าไปในห้องโถงแปดทิศ
เสี่ยวอันส่งต่อคัมภีร์ราชาผีทั้งหมดให้กับบรรพชนหมื่นพิษเรียบร้อยแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าชายชราต้องใช้เวลาพอสมควรในการทำความเข้าใจและกลายเป็นผู้ฝึกตนผี ดังนั้นนางจึงส่งเขากลับนิกายหมื่นพิษ เขาจะกลับมารับคำสั่งหลังจากเขากลายเป็นผู้ฝึกตนผีอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว สิ่งสำคัญคือเขาต้องเก็บเรื่องทั้งหมดไว้เป็นความลับเพื่อให้เขากลายเป็นตัวหมากลับของหลี่ฉิงซาน
สุดท้ายเรื่องที่ถูกเผยแพร่ออกไปก็คือการต่อสู้ระหว่างนิกายหมื่นพิษกับภูเขาอำมหิตปะทุขึ้นอย่างกะทันหันก่อนจะหยุดลงอย่างกะทันหันซึ่งนำไปสู่ข้อสันนิษฐานมากมาย อย่างไรก็ตามบรรพชนหมื่นพิษยังไม่ตาย เรื่องนี้ไม่สามารถซ่อนจากทักษะการทำนายต่างๆ ดังนั้นทุกคนจึงคิดว่าเขาปิดประตูบ่มเพาะอย่างสงบในเวลานี้เพื่อรอโอกาสแก้แค้นในอนาคต แม้แต่ราชาอาณาจักรเยว่ก็ไม่เคยคิดว่าบรรพชนหมื่นพิษจะพ่ายแพ้ในการเผชิญหน้าโดยตรงและถูกทำลายร่างกาย โดยไม่ต้องกล่าวถึงการตกเป็นทาส
ราชาอาณาจักรเยว่เชื่อว่าหลี่ฉิงซานจะพบปัญหามากมายหลังจากนี้โดยที่เขาไม่จำเป็นต้องวางแผนต่อต้านเด็กหนุ่มเป็นการส่วนตัว เขาเพียงต้องดูว่าหลี่ฉิงซานจะขอกำลังเสริมจากวัดแทวนาคาหรือไม่
ไม่กี่เดือนต่อมา ราชาอาณาจักรเยว่ได้รับข่าวว่าหลี่ฉิงซานได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการอินทรีย์ทองและกลับไปยังมณฑลชิงโจวอย่างเงียบๆ
หลี่ฉิงซานบินอยู่บนท้องฟ้าขณะจ้องมองมณฑลชิงโจวที่เขาไม่ได้เห็นมาเป็นเวลานาน แน่นอนว่าเขาไม่ได้กลับมาเพื่อขอกำลังเสริมจากวัดเทวนาคา ทันใดนั้นหยกสื่อสารก็แตกเป็นเสี่ยงๆอยู่ในแหวนมิติของเขา
มีวิธีสื่อสารมากมายอยู่บนโลกใบนี้ แต่ด้วยระยะทางนับหมื่นกิโลเมตร หลายวิธีอาจไร้ประโยชน์ เมื่อเป็นเรื่องสำคัญ สิ่งที่พวกเขาทำได้คืออาศัยวิธีดั้งเดิมในการส่งข้อความ
หยกสื่อสารมาเป็นคู่ เมื่อชิ้นหนึ่งแตก อีกชิ้นก็จะแตกเช่นกัน หลี่ฉิงซานครอบครองหยกสื่อสารสี่ชิ้นซึ่งเป็นตัวแทนของหลายฝ่าย
หนึ่งอยู่กับอันฉงจื่อ นางสามารถติดต่อเขาได้ทุกเมื่อที่นางพบปัญหาเร่งด่วน หนึ่งมาจากราชาจั๊กจั่นทอง เขามีของขวัญบางอย่างจะมอบให้หลี่ฉิงซานเมื่อเขาขึ้นสู่สวรรค์ชั้นสูง อีกหนึ่งถูกมอบให้กับชิวไห่ถัง หากนางเผชิญหน้ากับอันตราย เขาจะไปช่วยเหลือนาง แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะกลายเป็นของที่ระลึกมากกว่า ชิ้นสุดท้ายอยู่กับฉูตานชิง เขาจะติดต่อหลี่ฉิงซานเมื่อการซ่อมแซมภาพอักขระสามความสมบูรณ์แบบเสร็จสมบูรณ์
ชิ้นที่แตกเป็นคู่ของฉูตานชิง
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เขาไม่ได้พบกับฉูตานชิง และฝ่ายตรงข้ามก็ไม่เคยติตด่อเขา ดังนั้นหลี่ฉิงซานจึงเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว เขาสงสัยว่าสหายผู้นี้เป็นอย่างไรบ้าง บางทีเขาอาจไม่สามารถซ่อมแซมสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณในตำนาน แม้หลี่ฉิงซานจะได้รับการติดต่ออย่างกะทันหัน แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าฉูตานชิงจะสามารถซ่อมแซมมันหรือเพียงยอมแพ้
ภาพอักขระสามความสมบูรณ์แบบไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณในตำนานทั่วไป มันไม่เพียงครอบครองทักษะดาบอันทรงพลังเท่านั้นแต่ดูเหมือนมันจะมีความเชื่อมโยงกับสุสานจิตรกรรมอีกด้วย มันอาจมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการสังหารราชามังกรแห่งทะเลหมึก ดังนั้นมันจึงมีความสำคัญมากต่อหลี่ฉิงซาน และมันก็ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลและกระตื่นรือร้น
หลังจากกลับมาถึงกองบัญชาการรุ้ยอี้ เขาเดินทางมายังป่ากลางภูเขาที่มีทิวทัศน์งดงามและมีปราณจิตวิญญาณธรรมชาติหนาแน่นแห่งหนึ่ง เขารู้ว่านี่คือสถานที่ที่ฉูซื่อเต๋าบ่มเพาะอย่างสงบในอดีต
“ตานชิง ข้ามาแล้ว!” หลี่ฉิงซานมาถึงด้านหน้าค่ายกลและตะโกนเรียก
หลังจากไม่นานค่ายกลก็เปิดออกและอนุญาตให้หลี่ฉิงซานเข้าไป สิ่งที่เขาเห็นคือกระท่อมบนหาดทรายสีขาวริมทะเลสาบสีฟ้า มันดูเรียบง่ายแต่กลมกลืนกับความงามของทิวทัศน์ กระท่อมถูกรายล้อมไปด้วยหญ้าที่กลืนกินทางเดิน มันดูทรุดโทรมมาก เห็นได้ชัดว่าไม่มีผู้ใดดูแลกระท่อมนี้มานานแล้ว
ใบหน้าของหลี่ฉิงซานกลายเป็นมือครึ้ม สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญต่อฉูตานชิง แต่เขากลับไม่มีเวลาดูแลมัน
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก!” หลี่ฉิงซานเคาะประตู
“ฉิงซาน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น เข้ามาเถอะ!” เสียงที่อ่อนแรงดังออกมาจากภายใน มันอ่อนแรงมากจนดูเหมือนสามารถขาดหายไปได้ทุกเมื่อ
หลี่ฉิงซานเดินผ่านประตูเข้าไปเพียงเพื่อที่จะเห็นบางคนนั่งอยู่บนเตียงริมหน้าต่าง เมื่อเขาเห็นรูปร่างหน้าตาของฝ่ายตรงข้าม เขาอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง “ตานชิง เหตุใดเจ้าจึงเป็นเช่นนี้?”
ฉูตานชิงไม่ได้หล่อเหลาเหมือนฮัวเฉิงซาน แต่เขาก็มีหน้าตาที่ค่อนข้างโดดเด่น อย่างไรก็ตามตอนนี้ใบหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น ดวงตาของเขามืดมน เส้นผมของเขากลายเป็นสีขาวเทา และผิวของเขาก็ซีดเซียวและเหี่ยวแห้ง เขาดูเหมือนอายุมากขึ้นหลายสิบปี ในชั่วขณะนั้นหลี่ฉิงซานรู้สึกเหมือนเห็นฉูซื่อเต๋า เว้นเพียงฉูซื่อเต๋าก็ยังดูดีกว่าคนผู้นี้
สิ่งสำคัญที่สุดคือเดิมทีเขาก้าวข้ามภัยพิบัติสวรรค์ครั้งแรกและกลายเป็นผู้ฝึกตนก่อกำเนิดแล้วแต่กลิ่นอายของเขาในเวลานี้กลับตกลงมาอยู่ระดับของจอมยุทธ์พลังปราณอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเห็นหลี่ฉิงซาน ฉูตานชิงรีบลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น เขาเดินโซเซจนเกือบล้ม น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเขา เขาเปิดปากแต่เขาไม่สามารถกล่าวสิ่งใด
“อย่ารีบร้อน ข้าขอให้เจ้าซ่อมแซมภาพอักขระสามความสมบูรณ์แบบ แต่ไม่จำเป็นที่เจ้าจะต้องทำร้ายตัวเองถึงเพียงนี้!”
หลี่ฉิงซานรีบวิ่งเข้าไปสนับสนุนฉูตานชิงและส่งพลังวิญญาณเข้าสู่ร่างกายของฝ่ายตรงข้ามโดยตรง เขาสัมผัสได้ว่าการบ่มเพาะของฉูตานชิงถดถอยอย่างรุนแรง แม้แต่จิตวิญญาณของเขาก็ได้รับความเสียหาย โดยพื้นฐานแล้วเขาอยู่ในสภาพที่เลวร้ายยิ่งกว่าตอนที่ปีศาจกิ้งกือระเบิดแก่นปีศาจของมัน
“ฉิงซาน ข้าทำได้แล้ว ข้าทำได้แล้ว!” ฉูตานชิงจับข้อมือของหลี่ฉิงซานเอาไว้อย่างแน่นหนา หลังจากกล่าวจบประโยค เขาก็หมดสติทันที